NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1214 ผลักเธอจนล้ม
คิดไม่ถึงว่าฉินวี่เฟยและหยางฉงจะเจอกันในสภาพเช่นนี้
“พี่ พี่ พี่สะใภ้วี่เฟย? ทำ ทำไมคุณก็อยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?” หนึ่งหมัดของไท่ซางต่อยจนนักรบชาวญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้เขาที่สุดลอยออกไป ดวงตาเบิกกว้าง
นี่มันอะไรกันเนี่ย? ราฟาเอลล่ะ? ทำไมถึงไม่ได้อยู่กับฉินวี่เฟย? ผู้หญิงสองคนนี้อยู่ด้วยกัน จะเกิดเรื่องขึ้นหรือเปล่าเนี่ย?
ไท่ซางรู้สึกว่าชาติที่แล้วตัวเองจะต้องทำบาปมาแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นจะมาพบพี่ใหญ่อย่างหลี่ฝางในชาตินี้ได้ยังไง ตัวเองไปสร้างหนี้รักไปไม่พอ แล้วยังทิ้งความยุ่งเหยิงนี้ไว้ให้เขาจัดการ
“แค่มาทานข้าวเอง เรื่องนี้ขอบคุณพวกคุณมาก ฉันไปก่อนล่ะ” ฉินวี่เฟยกล่าวอย่างแข็งกระด้าง ตอนนี้หัวใจของเธอสับสนวุ่นวายไปหมด สูญเสียความสามารถในไตร่ตรองไปโดยสิ้นเชิง
ที่พวกโหจื่อปกป้องผู้หญิงคนนี้ ก็หมายความว่าพวกเขารู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของแฟนอีกคนของหลี่ฝางแล้ว หลี่ฝางที่สมควรตาย ทางนั้นยังบอกกับเหลียงเชี่ยนว่าเมื่อเสร็จภารกิจจะกลับมาตามจีบตัวเองใหม่ ทางนี้ก็ได้พาแม่สาวคนสายกลับมาที่เมืองตงไห่แล้ว
เขาหมายความว่ายังไงกันแน่? เห็นตัวเองเป็นคนโง่หรือยังไง? แถมยังบอกว่าต้องการให้บ้านยืนหยัดอย่างมั่นคง ธงแดงโบกสะบัดอยู่ด้านนอก?
ฉินวี่เฟยยิ่งคิดยิ่งโมโห เธอแทบอยากจะวิ่งเข้าไปอยู่ที่ด้านหน้าของหลี่ฝางในตอนนี้ และสั่งสอนเขาหนัก ๆ เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองได้รับบาดเจ็บหนักอีกครั้ง และยิ่งผิดหวังกับความรักในครั้งนี้ขึ้นไปกว่าเดิม
“เอ่อ……คุณหนูฉินรอเดี๋ยวก่อน……” หลังจากที่รู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นมากแล้ว ทันใดนั้นหยางฉงก็ได้ร้องเรียกหยุดฉินวี่เฟยเอาไว้
ความจริงแล้วสถานการณ์ในวันนี้ก็อยู่นอกเหนือความคาดหมายของหยางฉง หลายวันมานี้เธอและหวางซีเหยาได้อยู่ที่สถานตากอากาศตลอดเวลา น้อยมากที่จะออกมาข้างนอก วันนี้ที่ได้มาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ ก็เพราะโรคสมาธิสั้นของหวางซีเหยาอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ อยากจะออกมาเดินเล่นบ้าง หยางฉงถึงได้พาพวกโหจื่อและไท่ซางมาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้
แต่พวกเขาพึ่งจะนั่งได้ไม่นาน จู่ ๆ พวกนักรบถือดาบซามูไรก็บุกเข้ามา เหมือนจะเป็นคู่อริที่หลี่ฝางสร้างขึ้นเมื่อตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น เมื่อรู้ว่าหลี่ฝางได้ไปที่ซากปรักหักพังลึกลับ ก็เลยส่งคนมาแก้แค้น
โหจื่อและไท่ซางพลางคุ้มครองหยางฉงและหวางซีเหยาถอยออกไปด้านนอกพลางสู้กับนักรบพวกนั้น พึ่งจะมาถึงห้องโถงที่ชั้นหนึ่งก็พบเข้ากับฉินวี่เฟย
“คุณหนูท่านนี้ เหมือนว่าฉันจะไม่รู้จักคุณนะ ไม่รู้ว่าคุณเรียกฉันมีเรื่องอะไรเหรอ?” เดิมทีฉินวี่เฟยไม่คิดจะสนใจหยางฉง แต่ไม่รู้ว่าทำไมในใจกลับไม่ยอมอ่อนข้อขึ้นมา ก็เลยหยุดฝีเท้าลง และหันไปมองฉินวี่เฟยอย่างเย็นชา
ทั้งสองคนสูงพอ ๆ กัน เพียงแต่ว่าหยางฉงกำลังท้องอยู่จึงได้สวมรองเท้าส้นแบน ส่วนฉินวี่เฟยสวมรองเท้าส้นสูง ดังนั้นในตอนที่พวกเธอยืนอยู่ด้วยกัน จึงรู้สึกว่าฉินวี่เฟยสูงกว่าหยางฉงเล็กน้อย
หยางฉงพิจารณาฉินวี่เฟยที่ยืนอยู่ด้านหน้าของตัวเองอย่างละเอียด พลันพบว่าโครงหน้าของฉินวี่เฟยนั้นเหมือนกับตัวเองมาก เพียงแค่หน้าตาของฉินวี่เฟยสวยกว่าเล็กน้อย ให้ความรู้สึกเหมือนดอกกุหลาบสีแดงที่ร้อนแรงงดงาม แต่อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าของหยางฉงค่อนข้างกระจุ๋มกระจิ๋ม ราวกับดอกลิลลี่ที่ถูกน้ำค้างในยามเช้า
ก่อนที่จะพบกับฉินวี่เฟยนั้น หยางฉงอยากรู้มาโดยตลอดว่าผู้หญิงแบบไหนกันแน่ ถึงได้ทำให้หลี่ฝางรักมานานหลายปี ตอนนี้ได้เจอ เธอเองก็เข้าใจแล้ว
ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ส่องประกายแพรวพราวไปทั่วร่างกายของฉินวี่เฟย ถ้าหากเธอเป็นผู้ชาย ก็คงจะต้องตกหลุมรักฉินวี่เฟยเหมือนกันสินะ
นอกจากนี้ในที่สุดหยางฉงก็รู้แล้วว่าทำไมหลี่ฝางถึงได้ตกหลุมรักตัวเอง เพราะเธอมีหน้าตาคล้ายกับฉินวี่เฟย ที่แท้ถึงแม้หลี่ฝางจะสูญเสียความทรงจำไป แต่คนที่หลี่ฝางรักจากจิตใต้สํานึกก็ยังคงเป็นฉินวี่เฟย
นึกถึงเรื่องราวเหล่านี้ หยางฉงก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในหัวใจ ถึงขนาดทำให้คนที่มีฐานะทางครอบครัวดีมาตั้งแต่เด็กอย่างเธอเกิดความรู้สึกต่ำต้อยขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้น เธอถึงขั้นอิจฉาริษยาฉินวี่เฟยขึ้นมาเล็กน้อย
ทำไมคนที่รู้จักกับหลี่ฝางก่อนไม่ใช่ตัวเอง?
ในขณะที่หยางฉงพิจารณาฉินวี่เฟยอยู่นั้น ฉินวี่เฟยเองก็ได้จับตาดูเธอเช่นกัน นอกจากนี้สิ่งที่หยางฉงไม่ทราบก็คือ ในขณะที่เธออิจฉาริษยาฉินวี่เฟยอยู่นั้น ในใจของฉินวี่เฟยเองก็อิจฉาเหมือนกัน
ฉินวี่เฟยจ้องมองหยางฉงที่แต่งหน้าบาง ๆ แววตาซับซ้อน มิน่าหลี่ฝางถึงได้หลงรักเธอ ทั่วทั้งร่างของผู้หญิงคนนี้แผ่ซ่านไปด้วยความอ่อนโยน ทำให้คนเห็นแล้วอยากจะปกป้องเธอ
บางทีในสายตาของผู้ชาย ผู้หญิงแบบนี้ถึงนับว่าเป็นผู้หญิงจริง ๆ
ฉินวี่เฟยยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ถึงขนาดเกิดความรู้สึกเกลียดชังหยางฉงขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่อยากจะทะเลาะกับหยางฉงหรอกนะ รีบจากไปจะดีกว่า
“คุณหนูท่านนี้ ถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัวก่อนนะ” หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ ฉินวี่เฟยก็หันหลังเดินจากไปทันที
ถึงแม้ฉินวี่เฟยจะจากไปเพราะหลีกเลี่ยงการเกิดข้อพิพาทกับหยางฉง แต่น้ำเสียงที่เย็นชาและท่าทางไร้ความรู้สึกของเธอทำให้หยางฉงเกิดเข้าใจผิดขึ้นมา
หยางฉงคิดว่าเธอจากไปเพราะรังเกียจตัวเอง จึงอดไม่ได้ที่จะเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเพื่อจับมือของฉินวี่เฟยเอาไว้ ส่วนฉินวี่เฟยเองก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะเข้ามาจับตัวเอง จึงได้ออกแรงเหวี่ยงออกไปโดยสัญชาตญาณ
เดิมทีสถานการณ์การต่อสู้ก็วุ่นวายอยู่แล้ว บวกกับที่หยางฉงอาเจียนออกมาจนหมดแรง ถูกฉินวี่เฟยออกแรงเหวี่ยงออกไปแบบนี้ ร่างของเธอก็ได้ล้มลงไปบนพื้น
“โอ๊ย……เหยาเหยา ฉันเจ็บท้องจังเลย!” หลังจากที่ล้มลงไปบนพื้น หยางฉงก็รู้สึกเจ็บที่ท้องน้อยอย่างแรง เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาบนหน้าผากของเธอ
“พระเจ้า! เสี่ยวฉงเธอมีเลือดไหลออกมา!” หวางซีเหยามองเห็นสีแดงสะดุดตาที่อยู่บนชุดกระโปรงสีขาวของหยางฉง ก็ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันที
ฉินวี่เฟยเองก็ตกใจเหมือนกัน ต่อให้เธอไม่เข้าใจยังไง ก็สามารถคาดเดาสถานการณ์ของหยางฉงได้ ภายในใจทั้งร้อนรนทั้งเสียใจ ที่ร้อนรนเพราะตัวเองได้ทำให้หยางฉงล้มลงโดยไม่ได้ตั้งใจ ที่เสียใจเพราะคิดไม่ถึงว่าหยางฉงจะท้องลูกของหลี่ฝาง
“พี่สะใภ้! พี่สะใภ้คุณเป็นอะไร?” จัดการกับนักรบชาวญี่ปุ่นคนสุดท้ายเสร็จ เมื่อไท่ซางเห็นท่าทางของหยางฉงก็ร้อนรนขึ้นมาเหมือนกัน จึงได้รีบอุ้มหยางฉงขึ้นมาจากพื้น และวิ่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว
“นี่! ฉินวี่เฟย! เธออย่าคิดหนีนะ! เป็นเธอที่ผลักเสี่ยวฉงล้มลงไป ถ้าเสี่ยวฉงและลูกบุญธรรมของฉันเป็นอะไรไปล่ะก็ ฉันจะไม่จบง่าย ๆ แน่!”
หวางซีเหยาจ้องมองฉินวี่เฟยที่ยืนตะลึงงันอยู่กับที่พลางกล่าวข่มขู่ด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“ฉัน……ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษ……” ในเวลานี้ฉินวี่เฟยไม่รู้ว่าควรพูดอะไรแล้ว ในหัวของเธอเต็มไปด้วยเรื่องที่หยางฉงท้องลูกของหลี่ฝาง
ในตอนที่เธอได้สติกลับคืนมา พบว่าตัวเองไม่รู้ว่าตัวเองได้มาอยู่ที่โรงพยาบาลสุขภาพแม่และเด็กแห่งเมืองตงไห่กับพวกโหจื่อตั้งแต่เมื่อไหร่
มองดูไฟฉุกเฉินที่ส่องแสงสว่างจ้าอยู่หน้าประตูห้องผ่าตัด หัวใจของฉินวี่เฟยก็กระดอนขึ้นมาถึงลำคอ เธอสวดอ้อนวอนให้กับหยางฉงอยู่ภายในใจอย่างเงียบ ๆ หวังว่าหยางฉงจะไม่เป็นอะไร
ไม่ว่าจะยังไง เด็กก็เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าเธอกับหลี่ฝางและผู้หญิงคนนี้จะมีบุญคุณและความแค้นอะไรกัน ก็จะทำร้ายเด็กไม่ได้