NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1217 ถูกลักพาตัว
เสียงของหยางฉงกระแทกลงไปบนหัวใจของฉินวี่เฟยอย่างหนัก น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ได้หลั่งไหลออกมา ทำไมเธอจะไม่รักหลี่ฝาง แต่รักแล้วยังไงล่ะ? ตอนนี้เรื่องได้มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอนอกจากจะปล่อยมือและส่งเสริมหลี่ฝางแล้วเธอยังจะทำอะไรได้อีก?
“เธอหยุดพูดได้แล้ว! ฉันไม่อยากเป็นผู้หญิงไม่ดีในปากของคนอื่น ขอให้เธอและหลี่ฝางมีความสุข และได้โปรดอย่ามารบกวนชีวิตฉันอีกต่อไป!”
ฉินวี่เฟยไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่แย่งคนรักของตัวเองไปคนนี้ยังไง กัดฟันพูดคำเหล่านี้จบก็รีบวิ่งออกจากประตูไปทันที
หยางฉงมองดูแผ่นหลังของฉินวี่เฟยที่วิ่งหนีออกไป ก็ไม่ได้สนใจร่างกายที่เกือบจะแท้งของตัวเอง แล้ววิ่งตามออกไปทันที
“พี่วี่เฟย! พี่อย่างพึ่งไป! พี่ฟังฉันพูดให้จบก่อนได้ไหม?” หยางฉงวิ่งตามฉินวี่เฟยมาจนถึงถนนหน้าทางเข้าโรงพยาบาล ถึงหยุดฉินวี่เฟยที่ร้องไห้น้ำตาท่วมหน้าเอาไว้ได้
ถึงแม้หยางฉงเองก็อยากจะอยู่กับหลี่ฝาง แต่เธอไม่ยอมรับความรักที่พรากมาจากคนอื่น ถึงแม้คนที่หลี่ฝางรักมากนั้นจะเป็นฉินวี่เฟย แต่หยางฉงก็เชื่อว่าภายในใจของหลี่ฝางนั้นมีตัวเองอยู่
ดังนั้นเธอจึงต้องการแข่งขันอย่างยุติธรรมกับฉินวี่เฟย มีเพียงแบบนี้ ไม่ว่าสุดท้ายหลี่ฝางจะเลือกใคร ก็จะไม่ทิ้งความเสียใจเอาไว้
“ยังมีอะไรต้องพูดอีกล่ะ? ฉันเตรียมที่จะส่งเสริมเธอและหลี่ฝางแล้ว ยังจะให้ฉันทำอะไรอีกล่ะ? ขอร้องเธอปล่อยฉันไปเถอะนะ แค่นี้ฉันก็ตกต่ำมากพอแล้ว อย่าให้ฉันต้องขายหน้าอีกเลยได้ไหม?”
ในเวลานี้ฉินวี่เฟยได้เสียใจมากแล้ว เธอไม่สามารถไปคิดอย่างอื่นได้เลย เพียงต้องการไปจากที่นี่โดยเร็วเท่านั้น ในตอนที่ทั้งสองคนกำลังดึงกันไปมาอยู่นั่นเอง ทันใดนั้นรถตู้สีดำคันหนึ่งก็ได้จอดลงที่ข้างกายของพวกเธอ ชายปิดหน้าสี่คนลงมาจากรถ จับแขนของฉินวี่เฟยและคิดจะลากขึ้นรถ
“ปล่อยฉันนะ! พวกแกเป็นใคร? ทำไมต้องจับฉันด้วย?” สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ผู้หญิงทั้งสองคนตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ฉินวี่เฟยออกแรงขัดขืนด้วยกำลังอันเล็กน้อยของเธอ ส่วนหยางฉงก็ได้กอดฉินวี่เฟยเอาไว้แน่นพลางร้องขอความช่วยเหลือจากผู้คนบนถนน
“ช่วยด้วย! ขอร้องล่ะ ช่วยพวกเราด้วย!”
“ไอ้ตัวไหนกล้าเข้ามายุ่ง ฉันจะยิงมันให้ตายซะ!” ชายที่เป็นหัวหน้าเห็นคนผ่านทางคิดจะเข้ามาช่วย ก็หยิบปืนที่เหน็บอยู่ตรงเอวขึ้นมา และยิงไปที่หัวเข่าของคนผ่านทางหนึ่งนัด
เลือดสีแดงสดไหลออกมาเต็มพื้น ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ผู้คนที่คิดจะเข้ามาช่วยฉินวี่เฟยพวกนั้นก็ได้หนีกระเจิดกระเจิงไป ทันใดนั้นผู้คนบนท้องถนนก็หายวับไปไม่เห็นแม้แต่เงา
หยางฉงและฉินวี่เฟยเองก็ตกใจเหมือนกัน พวกเธอคิดไม่ถึงว่าพวกชายปิดหน้าจะโหดเหี้ยมเช่นนี้ ฉินวี่เฟยค้นเอาโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างร้อนรนคิดจะโทรหาเมี๋ยวชุ่ย แต่ทว่าพึ่งจะค้นหาโทรศัพท์ออกมาได้ โทรศัพท์ก็ได้ถูกชายปิดหน้าคนนั้นแย่งไปทันที
“นังสารเลว ยังกล้าโทรเรียกคนอีก เชื่อไหมว่าฉันจะตีเธอให้ตาย!”
โทรศัพท์ถูกแย่ง ก็เท่ากับว่าได้สูญเสียโอกาสในการขอความช่วยเหลือไป ฉินวี่เฟยกัดฟันแน่น คิดอีกครั้งก็ได้เอ่ยขึ้นมา: “พวก พวกแกเป็นใคร? ทำไมต้องจับฉันด้วย ฉันจ่ายเงินพวกแกได้ พวกแกจะเอาเท่าไหร่ก็ได้! ได้โปรดอย่าทำอะไรฉันเลย!”
ดูจากความโหดเหี้ยมของคนพวกนี้แล้ว ฉินวี่เฟยก็เดาได้ว่าน่าจะเป็นพวกที่มาแก้แค้น ไม่ใช่พวกที่ต้องการทรัพย์สิน
ส่วนเรื่องที่ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ ก็เพื่อยืดเวลาแค่นั้นเอง
เธอและหยางฉงวิ่งออกมาจากโรงพยาบาล ไม่นานพวกไท่ซางและโหจื่อจะต้องตามออกมาแน่ ขอเพียงรอให้พวกไท่ซางตามมาทันเช่นนั้นตัวเองกับหยางฉงก็รอดแล้ว
“นังผู้หญิงสารเลว ยังคิดจะยืดเวลา ตีให้สลบแล้วเอาตัวไปซะ!” ใครจะไปรู้ล่ะว่าชายปิดหน้าที่เป็นหัวหน้าคนนั้นจะมองความคิดของฉินวี่เฟยออกได้ในพริบตาเดียว และหัวไปสั่งกับชายปิดหน้าคนที่เหลือ
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ชายที่จับหยางฉงคนนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างตะกุกตะกัก: “ลูก ลูกพี่ ผู้ ผู้ ผู้หญิงคนนี้ทำ ทำยังไงดี? เธอ เธอ ……”
“ไอ้ติดอ่างแกเลิกพูดได้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็เอาไปด้วย! เร็วหน่อย อย่าให้พี่ใหญ่ต้องรอนาน!” เห็นเขาพูดอย่างอยากลำบากแบบนี้ หัวหน้ากลุ่มชายปิดหน้าก็พูดตัดบทขึ้นมาอย่างลำคาน สั่งให้เขาเอาตัวหยางฉงขึ้นรถไปด้วย
ถึงแม้ลูกพี่ของพวกเขาจะสั่งให้จับแค่ฉินวี่เฟยเพียงคนเดียว แต่ผู้หญิงคนนี้ดันเอาตัวเข้ามาส่ง งั้นก็จับไปให้หมดเลยแล้วกัน เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา
พวกฉินวี่เฟยยังไม่ทันจะได้ขอความช่วยเหลือ ก็ได้ถูกโปะยาทำให้สลบไปแล้ว
โหจื่อถูกไท่ซางลากไปดูดบุหรี่ กลับมาเห็นประตูห้องผู้ป่วยเปิดอยู่ หยางฉงที่เดิมทีควรจะนอนอยู่บนเตียงได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย จึงได้ลนลานขึ้นมาทันที แล้วลากคนไข้อีกคนที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาตวาดถาม
“แม่งเอ๊ย นายเห็นไหมว่าผู้หญิงที่อยู่ในห้องไปไหนแล้ว? ฉันแค่ออกไปดูดบุหรี่มวนเดียว ทำไมคนถึงหายไปแล้วล่ะ?”
คนไข้ที่ถูกโหจื่อจับอยู่ตกใจจนเหงื่อไหลทะลักออกมา ขาสองข้างสั่นสะท้าน ตัวสั่นตอบคำถามของโหจื่อ
“ผมผมผมไม่รู้ เมื่อกี้เหมือนว่าจะมีผู้หญิงสองคนวิ่งออกไป ส่วนไปที่ไหนนั้นผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เมื่อได้ฟังคำพูดของคนคนนั้น โหจื่อและไท่ซางก็รีบวิ่งออกไปข้างนอกทันที
จนกระทั่งพวกเขาได้หายไปจากสายตาของตัวเอง คนไข้คนนี้ถึงฟุบลงไปนั่งอยู่บนพื้น และแอบด่าแม่อยู่ในใจ แม่งเอ๊ยเขาแค่ออกมาเข้าห้องน้ำเอง ทำไมถึงได้เจอเข้ากับเรื่องแบบนี้ได้?
คนเมื่อกี้นั้นน่ากลัวมากจริง ๆ สายตานั่นเหมือนกับจะกินตัวเองลงไปอย่างไรอย่างนั้น ไม่ได้ จะอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องรีบย้ายโรงพยาบาลถึงจะได้
ในตอนที่โหจื่อและไท่ซางวิ่งมาถึงหน้าโรงพยาบาล ก็ได้เห็นพวกชายฉกรรจ์ปิดหน้ากำลังแบกฉินวี่เฟยและหยางฉงขึ้นไปบนรถตู้พอดี
เห็นรถตู้กำลังจะขับออกไป ไท่ซางก็โมโหขึ้นมา แวบเดียวก็ได้พุ่งมาถึงข้างรถตู้แล้ว และเตรียมที่จะลงมือ
กลางวันแสก ๆ ไอ้สารเลวพวกนี้ยังกล้าลักพาตัวฉินวี่เฟยและหยางฉงภายใต้จมูกเขาอีก ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยใช่ไหม!
ในตอนที่มือของเขากำลังจะโดนประตูรถนั่นเอง เงาดำร่างหนึ่งก็ได้โจมตีมาจากด้านหลังของไท่ซาง ประสบการณ์ในการต่อสู้มานานหลายปีทำให้ร่างกายของไท่ซางตอบสนองตามสัญชาตญาณ หัวของเขาได้เอียงไปที่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว ลมหมัดอันแข็งแกร่งเฉียดผ่านหูของไท่ซางไป
ไม่รอให้ไท่ซางยืนได้ย่างมั่นคง กระบวนท่าที่สองก็ได้โจมตีเข้ามาหาเขาอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าปรมาจารย์อย่างเขาจะถูกชายร่างผอมบีบให้ถอนหลีงไปติดต่อกัน
“ลูกพี่!” เมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ชายปิดหน้าที่เดิมทีคิดว่าตัวเองจะต้องตายแน่แล้วเกิดดีใจขึ้นมาทันที
“พวกแกไปก่อน” ชายคนนั้นพูดออกไปโดยไม่หันหลังกลับเลยสักนิด จากนั้นก็ได้โจมตีไท่ซางเข้ามาอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง
“อย่าหนีนะ!” เมื่อได้ยินเสียงสตาร์ทรถ ไท่ซางก็กระวนกระวายใจ อยากจะข้ามผ่านชายคนนั้นไปช่วยพวกฉินวี่เฟย แต่กลับถูกชายคนนั้นขวางเอาไว้ได้ทุกครั้ง
“แม่งเอ๊ย! แกมันรนหาที่ตาย!” คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกชายคนนั้นจะเหนือกว่าตัวเอง ไท่ซางหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ความอาฆาตปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเขา กระบวนท่าก็โหดเหี้ยมขึ้นมา
“เหอะ ฆ่าฉันเหรอ? ต้องดูว่าแกมีความสามารถนั่นไหม” เหมือนว่าชายคนนั้นจะไม่เห็นไท่ซางอยู่ในสายตา หลังจากที่หัวเราะอย่างเย็นชาออกมาหนึ่งครั้งพลังในมือก็เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า