NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1231 กลับมาอย่างปลอดภัย
“ท่านกัว ผู้อาวุโสซา พวกท่านอายุมากขนาดนี้ คนที่พบเจอมากกว่าเกลือที่ผมทานเข้าไปอีก จะจำทุกคนได้ยังไง เราอย่ามัวหารืออยู่เลยว่าเขาเป็นใคร ผมว่านะ คนพวกนี้ก็คงจะไปที่โลกใต้พิภพหมดนั่นแหละ ถ้าเราไม่เร่งกว่านี้ แม้แต่เงาของหินคริสทัลก็คงจะไม่ได้พบเห็น”
ท่านชายป๋ายยู่ไม่สนใจเงาร่างของหลี่ต๋าคางมากนัก การที่เขาออกจากฌานครั้งนี้เพื่อหินคริสทัล สิ่งที่ทำให้คนเราก้าวผ่านครึ่งเทพ ของวิเศษที่ทำให้กลายเป็นเทพได้ เขาไม่อยากจะถูกคนอื่นแย่งชิงไป
“เหล่าป๋าย แกชักช้าอยู่ตรงนั้นต่อไป ฉันไปก่อน แกคอยดู คนที่เป็นเทพต้องเป็นฉัน” นักพรตเต้าฝ่าไม่ได้ฟังประโยคของคนอื่นแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าพวกหลี่ต๋าคางไปแล้ว จึงไล่ตามไป กระทั่งลอยออกไปไกล ถึงได้โอ้อวดกับท่านชายป๋ายยู่
“บัดซบ ไอ้หมาจางแกมันขี้โกง!” เมื่อได้ยินเสียงของนักพรตเต้าฝ่า ท่านชายป๋ายยู่ถึงได้พบว่าเขาได้ไปลับขอบฟ้าแล้ว คำรามอย่างโกรธเคือง ก่อนที่จะใช้พลังไล่ตามไป
คนอื่นๆ เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้า ต่างคนต่างแสดงความสามารถมุ่งไปที่ซากปรักหักพังลึกลับ
“คุณลุงหลี่ นี่เป็นเอกสารที่ผู้อาวุโสมอบให้กับผม ในนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัยการเปลี่ยนยีนของประเทศญี่ปุ่นอยู่ มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ประหลาดตัวนั้น ท่านดูก่อนเถอะ”
ระหว่างการเดินทางส้าวส้วยไม่ลืมที่จะยื่นเอกสารที่ผู้อาวุโสให้ไว้กับเขากับหลี่ต๋าคาง เอกสารนี้เขายังไม่ได้ดู ก่อนหน้านี้ยุ่งอยู่กับการเดินทาง แม้แต่ซองเอกสารเองก็ยังไม่ถูกแกะออก
หลี่ต๋าคางรับซองเอกสารมาไว้ ยิ่งดูสีหน้าของเขายิ่งดูไม่ได้ ท้ายที่สุดเอกสารนั้นถูกเขากำจนยับ
ในเอกสารฉบับนี้มีการรายงานการค้นพบเซลล์งูยักษ์กลืนฟ้าของประเทศญี่ปุ่น และกระบวนการเพาะพันธุ์ทั้งหมด แถมข้างในยังบอกอีกด้วยว่า งูยักษ์กลืนฟ้านี้หากถูกเพาะพันธุ์ผ่านร่างกายของมนุษย์ที่ยังมีชีวิต ขณะที่งูยักษ์กลืนฟ้ายังเป็นเพียงตัวอ่อน เหล่านักวิจัยจะฝังเซลล์ของมันเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์
ตัวอ่อนแบบนี้ต้องอาศัยการเลี้ยงดูในร่างกายมนุษย์กว่ายี่สิบปีถึงจะโตเต็มวัย นั่นเท่ากับว่า คิดว่าเพาะงูยักษ์กลืนฟ้าหนึ่งตัว ต้องฝังตัวอ่อนตั้งแต่ผู้ทดลองยังเป็นทารก
ในเวลายี่สิบปีมานี้ งูยักษ์กลืนฟ้าจะค่อยๆ กลืนกินเจ้าของร่าง กระทั่งวันที่มันโตเต็มวัย เจ้าของร่างก็จะเหลือเพียงผิวหนังเท่านั้น
วิธีการเพาะพันธุ์แบบนี้ช่างโหดร้ายนัก!
ไม่คิดเลยว่าคนญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาความสามารถของตนเอง ถึงกับขั้นใช้วิธีที่โหดร้ายเพียงนี้
เมื่องูยักษ์กลืนฟ้าโตเต็มวัย ขอเพียงแค่ทานเนื้อของมันเข้าไป ก็จะเกิดใหม่ได้ คนธรรมดาได้เป็นนักรบ นักรบสามารถพัฒนาไปอีกขั้นได้
และชาวต่างชาติสามคนเมื่อสักครู่ คงทานเนื้อของงูยักษ์กลืนฟ้าเข้าไปถึงได้เป็นมนุษย์กลายพันธุ์
นี่มันไม่ใช่เพียงการกินเนื้อของปีศาจประหลาดแล้ว แต่มันเป็นการกินเนื้อของทางอ้อมต่างหาก!
เมื่อหลี่ต๋าคางนึกถึงเด็กมากมายที่ต้องจบชีวิตลงเพราะเรื่องนี้ ในใจของเขาก็เกิดไฟแค้นขึ้นมา คราวนี้หลังจัดการอาซาโทสได้ ดูเหมือนว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก
“คุณลุงหลี่ เราจะถึงค่ายอยู่แล้ว ฉินวี่เฟยจะทำยังไงดี? จะพาเธอเข้าไปด้วยหรือจะสั่งให้คนไปส่งเธอที่ตงไห่?”
เมื่อจ้องมองฉินวี่เฟยที่นอนฟุบอยู่บนร่างของราฟาเอล ส้าวส้วยจึงกล่าวถาม
“ให้ราฟาเอลกับไท่ซางพาเธอกลับไปที่ตงไห่เถอะ พอดีกับที่เขาสองคนกลับไปดูแลความปลอดภัยที่ตงไห่ด้วย กำลังของพวกเขาอ่อนกว่า หากเข้าไปด้วยกัน ถ้าสู้กันขึ้นมาจริงๆ คงดูแลไม่ทั่วถึง”
ส้าวส้วยพยักหน้าเมื่อได้ยินประโยคของหลี่ต๋าคาง อันที่จริงเขาเองก็คิดแบบเดียวกัน เมื่อสักครู่คนที่ห้องล้อมอยู่ตรงนั้นเขาพอได้สังเกตการณ์บ้าง
ส่วนใหญ่แล้วไปถึงแดนครึ่งเทพแล้ว ด้อยที่สุดก็ไปถึงแดนสุด เมื่อคนเหล่านี้เข้าไปที่ซากปรักหักพังทั้งหมด เมื่อถึงเวลาหากแย่งชิงหินคริสทัลขึ้นมา อาจจะดูแลราฟาเอลและไท่ซางทั้งสองไม่ได้
ราฟาเอลไม่มีข้อขัดข้องอะไรอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งเสมอ เมื่อสักครู่ไท่ซางถูกท่านชายป๋ายยู่อัดจนน่วมก็ว่านอนสอนง่ายขึ้นมาเช่นเดียวกัน แม้ในใจจะไม่พอใจอยู่บ้าง แค่ก็ไม่กล้าแสดงออกมา
พวกเขาพักที่ค่ายอยู่สักพัก ราฟาเอล ไท่ซางและฉินวี่เฟยจึงแยกจากเหล่าหลี่ต๋าคาง กลุ่มหนึ่งกลับไปที่ตงไห่ อีกหนึ่งหนึ่งมุ่งไปที่ซากปรักหักพัง
สถานการณ์ทางด้านเมี๋ยวชุ่ยเองก็ดีขึ้นมาก ผ่านการดูแลอย่างใกล้ชิดมาทั้งคืน อาการของโหจื่อเริ่มคงที่ แม้ว่าจะยังไม่ได้สติ แต่หมอได้รับประกันแล้วว่าจะฟื้นภายในสามวัน
ส่วนหยางฉงเมื่อผ่านการยื้อชีวิตตอนนี้ได้พ้นขีดอันตรายแล้วเช่นเดียวกัน แม้จะตกเลือดมาก แต่ก็ได้รักษาเด็กเอาไว้ แต่หลังจากนี้อีกนานเธอต้องอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องฉีดยารักษาครรภ์ทุกวัน
“น้าเมี๋ยว พวกไท่ซางได้ข่าวคราวแล้วหรือยัง? ช่วยพี่วี่เฟยกลับมาได้ไหม?” เมี๋ยวชุ่ยออกจากห้องไปรับสายของหลี่ต๋าคาง เมื่อเข้ามาที่ห้องผู้ป่วย หยางฉงก็ถามขึ้นอย่างอดใจไม่ไหว
หลังจากที่เธอฟื้น ได้ถามคำถามนี้ไม่น้อยกว่าสิบหน ทุกครั้งเมี๋ยวชุ่ยจะบอกให้เธอไม่ต้องเป็นกังวล รออีกสักเดี๋ยว ครั้งนี้ในที่สุดก็มีคำตอบให้กับเธอเสียที
“วางใจเถอะ วี่เฟยไม่เป็นอะไรแล้ว ราฟาเอลกับไท่ซางกำลังพาเธอกลับมา”
“ดีจังเลย!” เมื่อหยางฉงได้ยินว่าฉินวี่เฟยไม่เป็นอะไรเธอดีใจจนน้ำตาไหล สวรรค์รู้ดีว่าเธอเป็นห่วงและรู้สึกผิดมากแค่ไหน
หยางฉงโทษเรื่องที่ฉินวี่เฟยถูกลักพาตัวเป็นความผิดของเธอมาตลอด หากวันนั้นเธอไม่พูดคำที่ยั่วยุเธอ พวกเขาสองคนก็จะไม่วิ่งออกไป หากไม่วิ่งออกไป ทั้งสองก็จะไม่ถูกลักพาตัว ยิ่งไม่เกิดเรื่องหลังจากนั้นขึ้น
หรือแม้แต่หลังผ่านเรื่องราวเหล่านี้ หยางฉงตัดสินใจที่จะกลับไปที่จิงซานไม่รอหลี่ฝางอีกต่อไปแล้ว ความสัมพันธ์นี้เธอเลือกที่จะปล่อยมือเอง