NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1234 เผชิญหน้า
“พอได้แล้ว เลิกจ้องฉันได้แล้ว ฉันจะระวัง” เพียงแค่เหลือบมองกู่ยี่เทียนก็เข้าใจความหมายที่แอบแฝง รับประกันด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ
หลี่ฝางเห็นทีท่าที่น่าสงสารของเขานึกขำ ไม่คิดเลยว่าหัวหน้ากู่ผู้สง่าจะมีช่วงเวลาที่เขาพ่ายแพ้
ขณะที่ทั้งสี่คิดที่จะเข้าสู่ป่าทึบ หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
“แคทเธอริน แน่ใจหรือว่าทางนี้? นี่ม่านหมอกสีขาวขุ่นไม่มีอะไรเลย คงไม่เดินผิดทางหรอกนะ?” ส้าวส้วยจ้องมองสาวงามไร้ที่ติตรงหน้าอย่างลังเล
เพราะครั้งก่อนที่หลี่ฝางกับมังกรฟ้าติดต่อกันผ่านความสามารถพิเศษของแคทเธอริน เพราะงั้นเขาจึงรู้ว่าพวกมังกรฟ้าต้องมา หลี่ต๋าคางและคนอื่นๆ เมื่อเข้ามาก็ได้พบกับแคทเธอรินทันที แถมพวกเขายังเข้ามาที่โลกใต้พิภพภายใต้การนำทางของแคทเธอริน
“ฉันว่านะพ่อหนุ่มน้อย ถ้าคุณไม่เชื่อจะเดินทางไปเองก็ได้ ผู้หญิงที่สวยอย่างแคทเธอริน จะเดินผิดทางได้ยังไง”
เมื่อได้ยินประโยคของส้าวส้วย ท่านชายป๋ายยู่ไม่พอใจขึ้นมา เหลือบตาขาวใส่ส้าวส้วย
หลี่ต๋าคางเข้ามาที่ซากปรักหักพังไม่นาน เหล่านักพรตเต้าฝ่าและท่านชายป๋ายยู่ก็ตามเข้ามาติดๆ เพราะประตูของโลกใต้พิภพต้องใช้เลือดของแคทเธอรินในการเปิด ทุกคนจึงหารือกัน ตัดสินใจที่จะเดินทางร่วมกัน
ท่านชายป๋ายยู่ที่ชอบหญิงงามมาตลอดก็พลีกายเป็นผู้พิทักษ์แคทเธอริน ตลอดทางหยอกเย้าหยอดคำหวาน หากไม่ใช่เพราะแคทเธอรินมีความมั่นคง เขาเกรงว่าแคทเธอรินคงได้ถูกอุ้มไปที่โลกใต้พิภพเสียแล้ว
“ป๋ายเจินเจิน แกเลิกเห็นหญิงงามแล้วขาอ่อนเดินไม่ไหวจะได้ไหม ดูท่าอ่อนแอต้องลมไม่ได้แล้วน่าจะอายุไม่ยืน ระวังแต่งไปแล้วจะเป็นม่ายนะ”
นักพรตเต้าฝ่าที่เป็นศัตรูของท่านชายป๋ายยู่ แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะถอนหงอกเขาไปอยู่แล้ว แถมเขาที่ยังเป็นผู้ชายแข็งกระด้าง รสนิยมของเขาเองก็ต่างจากคนอื่น ภรรยาของเขาเป็นพวกรูปร่างใหญ่เอวหนา เป็นผู้หญิงที่พูดจาคำรามห้าวหาญเอาแต่ใจ
ความคิดของเขาเอง เพราะผู้หญิงแบบนี้เลี้ยงง่าย
“ไสหัวไปไกลๆ เลย!ไอ้หมาจางฉันขอเตือนเอาไว้ก่อน แกว่าฉันไม่เป็นไร ถ้ากล้าว่านางฟ้าของฉัน กูจะฆ่ามึง”
สีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจของท่านชายป๋ายยู่ นักพรตเต้าฝ่านิ่งไป ก่อนที่จะหาได้ยากที่เขาจะปากไม่โต้ตอบ
นักพรตเต้าฝ่าและท่านชายป๋ายยู่รู้จักกันมานาน ครั้งแรกที่ทั้งสองได้เจอกันน่าขันนัก ในคืนเดียวกับที่ท่านชายป๋ายยู่ถูกคนเฝ้าประตูของตระกูลหลี่เล่นงาน เพราะท่านชายป๋ายยู่ยอมรับความจริงไม่ได้ จึงดื่มเหล้าเข้าไปเล็กน้อย
หลังจากนั้นเมื่อข้ามสะพาน หัวเขาเกิดความคิดบางอย่างจึงไปยืนอยู่ที่หัวสะพาน อันที่จริงเขาก็ไม่ได้คิดสั้นอะไร เขาเพียงแค่จะชมวิวเท่านั้น พอดีกับที่นักพรตเต้าฝ่าเดินผ่านมาเห็นพอดี เมื่อสมัยยังหนุ่มนักพรตเต้าฝ่าเป็นคนกันเอง หากใครที่คิดสั้นให้เขาพบเข้าละก็ เขาต้องยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว
เพราะงั้นทั้งคู่ฉุดกระชากไปมาจึงตกน้ำพร้อมกัน หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเรื่องนี้ถูกใครแพร่ออกไป เล่ากันไปมาก็กลายเป็นว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน แต่เพราะคนบนโลกไม่สามารถรับความสัมพันธ์ของเพศเดียวกันได้ ทั้งคู่จึงกระโดดน้ำพร้อมกัน
เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อท่านชายป๋ายยู่อย่างมาก หลังจากนั้นเป็นเวลานานเขาไม่สามารถนัดเดทกับผู้หญิงได้เลย ส่วนนักพรตเต้าฝ่าเองก็เกือบจะหย่ากับภรรยาของเขาเพราะเรื่องนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อทั้งคู่เจอกันจำต้องกัดกันทุกที นานวันเข้า ศัตรูในทีแรกก็กลับกลายเป็นสหายเสียอย่างงั้น
หลายปีมานี้นี่เป็นครั้งแรกที่นักพรตเต้าฝ่าเห็นท่านชายป๋ายยู่ใส่ใจกับหญิงสาวคนไหนขนาดนี้ ทั้งหัวใจเต็มไปด้วยเธอ
นักพรตเต้าฝ่าเองก็ไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกันแน่ ในฐานะเพื่อน เขายินดีที่จะเห็นท่านชายป๋ายยู่ได้พบกับความรักของเขาอยู่แล้ว ได้สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่แคทเธอรินคนนี้ไม่เหมาะสมกับเขาอย่างชัดเจน ไม่กี่ปีก็จะตายอยู่แล้ว แต่งงานไปจะมีประโยชน์อะไร
“เดี๋ยว ข้างหน้ามีการเคลื่อนไหว!” ในเวลานี้เอง ท่านกัวที่เดินอยู่ข้างหน้าหยุดชะงักทุกคนเอาไว้ เขาจ้องมองเงาร่างเลือนรางของหลายคน
“ส้าวส้วย แคทเธอริน ใช่พวกเธอไหม?” ในขณะที่ท่านกัวคิดจะลงมือ เงาร่างสีดำหนึ่งในนั้นขยับ ส้าวส้วยได้ยินเสียงของหลี่ฝาง คิดที่จะตอบโต้ หงส์แดงที่อยู่ด้านหลังก็ปริปากอย่างอดทนรอไม่ไหว
“หลี่ฝาง! พี่ใหญ่ของเขาอยู่กับนายไหม? พวกนายเป็นยังไงบ้าง ได้รับบาดเจ็บรึเปล่า?”
ร่องรอยการต่อสู้ของหน้าปากทางเข้าโลกใต้พิภพยังอยู่ แม้ทุกคนจะเชี่ยวชาญการต่อสู้มามาก แต่ความย่ำแย่แบบนั้น ทุกคนต่างก็ต้องสูดลมหายใจเข้าอย่างหวาดหวั่น ดูจากร่องรอยพวกนั้น ก็เดาได้ไม่ยากว่าต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด
เหล่าส้าวส้วยต่างก็เป็นกังวลมาตลอดทาง กลัวว่าพวกหลี่ฝางจะเกิดเรื่องขึ้น ตอนนี้อุตส่าห์ได้เจอกันแล้ว หงส์แดงที่คิดถึงกู่ยี่เทียนมาโดยตลอดตอนนี้ก็ไม่สนสถานะความสัมพันธ์อะไรแล้ว อยากรู้เพียงอย่างเดียวว่ากู่ยี่เทียนปลอดภัยดีไหม
“แค่ก ฉันไม่เป็นอะไร พวกแกเข้ามาพร้อมกันหมดเลยหรือ?” เมื่อกู่ยี่เทียนได้ยินเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยของหงส์แดงในใจของเขาพลันเกิดความรู้สึกที่ประหลาดขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อปกปิดความผิดปกติของตนเอง เขากล่าวตอบก่อนที่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
หลังมั่นใจว่าไม่ใช่ศัตรู ส้าวส้วยและคนอื่นๆ รีบเร่งฝีเท้า เมื่อทั้งคู่มีระยะห่างเพียงห้าเมตร ถึงได้มองเห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายชัดเจน
อาจเพราะเข้าใกล้บริเวณสุสานเทพอ้าน ป่าทึบแห่งนี้จึงราวกับม่านธรรมชาติ ที่กั้นหมอกหนาข้างนอกเอาไว้ ในที่สุดทุกคนก็สามารถเดินเหินได้ตามปกติในป่า ไม่ต้องคลำทางราวกับคนตาบอดเหมือนอย่างก่อนหน้านี้
“พ่อ ท่านมาได้ยังไง? อาการของแม่ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?” เมื่อหลี่ฝางเห็นพ่อตัวเองเขานึกประหลาดใจมากกว่าดีใจ
คนที่รักภรรยามากอย่างพ่อเขาตัวเขาเข้าใจดีที่สุด แทบจะอยากแบบติดกับเมี๋ยวชุ่ยตลอดเวลา หากเมี๋ยวชุ่ยไม่สนใจเขาครึ่งชั่วโมง เขาก็จะเริ่มหาตัวเธอทันที
“ใกล้หายแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเมียฉันสั่งให้ฉันมาช่วยแก ฉันไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกนะ แม้แต่คนญี่ปุ่นคนเดียวยังสู้ไม่ได้ละก็ ถ้างั้นแกก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกชายของฉันหลี่ต๋าคาง”
หลี่ต๋าคางทำตาขวางใส่หลี่ฝาง น้ำเสียงแฝงไปด้วยความรังเกียจเล็กน้อย