NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1239 ห้วงอากาศที่แตกต่าง
ไม่คิดเลยว่าปราณสีดำในร่างเขาจะเป็นพลังแห่งการกลืนของเทพอ้าน ดีที่เมื่อสักครู่หลี่ฝางได้ฟื้นพลังของตัวเอง หยุดยั้งการฟื้นคืนของเทพอ้านได้ทันท่วงที
“ปราณในร่างของผมกลายเป็นสีดำทั้งหมดเมื่อไหร่ ผมก็จะกลายเป็นเทพอ้านใช่ไหม? ถ้าผมจะทำลายเจ้าสิ่งนี้ จะต้องทำยังไง?”
พลังสีดำมะเมื่อมนี่ทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกไม่ดี เทพอ้านนั่นคงจะไม่ได้เหมือนกับชาวอูข่า ที่เนื้อหนังดำไปทั่วร่างหรอกนะ?
“เทพอ้านรวบรวมพลังแห่งการกลืนทั้งหมดเอาไว้ที่หัวใจ ภายนอกไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ส่วนวิธีการกำจัดฉันยังนึกไม่ออก ออกไปได้เมื่อไหร่ฉันไปสืบหาข้อมูลของชนเผ่าให้ ดูว่าในนั้นจะมีข้อมูลของการกำจัดพลังแห่งการกลืนไหม”
เมื่อแคทเธอรินเห็นในหัวของหลี่ฝางวาดภาพในหัวของเทพอ้านรู้สึกไร้คำพูด ในประวัติของชนเผ่า เทพอ้านไม่เพียงแต่ความสามารถมาก รูปลักษณ์หน้าตาเองก็ดีจนหาเทียบได้ยากยิ่ง
หากแม่มดรู้ว่าหลี่ฝางจินตนาการชายอันเป็นที่รักของเขาเป็นขี้เถ้าสีดำก้อนหนึ่งละก็ คงจะโมโหจนกระอักเลือดแน่
“เอ่อ……ไม่น่าล่ะกลุ่มพลังงานสีดำพวกนั้นถึงได้โถมเข้าใส่หน้าอกของผม ในเมื่อไม่มีหนทางอื่น งั้นเราเลิกพูดเรื่องนี้ก่อน หาคนก่อนแล้วกัน” หลี่ฝางเองก็คาดเดาได้ว่าแคทเธอรินใช้ความสามารถพิเศษกับตน เขาส่ายหน้าเปลี่ยนหัวข้ออย่างเกรงใจ
รู้ว่าเขาเกรงใจ แคทเธอรินก็ไม่ได้พูดอะไรมาก พลันหัวเราะก่อนสืบหาที่ตั้งของหลี่ต๋าคาง
สุสานเทพอ้านเกิดหมุนเปลี่ยนครั้งใหม่ หลี่ต๋าคางที่อยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็ไปอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ดีที่ไม่ห่างจากหลี่ฝางมากนัก เมื่อได้รับข่าวคราวของหลี่ต๋าคาง หลี่ฝางจึงลากแคทเธอรินไปหาเขาอย่างทนรอไม่ไหว
อาคาอูและปันปูที่เฝ้าอยู่ที่หน้าห้องลับตอนนี้กลับหายลับไปอย่างไร้ร่องรอย อาจเป็นเพราะเมื่อสักครู่สุสานเทพอ้านหมุนเปลี่ยนพวกเขาไปอยู่ที่อื่น
หลี่ฝางในตอนนี้ไม่มีเวลาให้คิดมาก เขามีเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง เขาต้องหาตัวหลี่ต๋าคางให้เจอภายในครึ่งชั่วโมง ได้แต่อวยพรให้กับอาคาอูและปันปูในใจ หวังว่าพวกเขาจะยังไม่พบกับคนของอาซาโทส
ทางด้านหลี่ต๋าคาง เขาเสือขาวและหงส์แดงสามคนถูกแม่มดทิ้งเอาไว้ในห้องลับห้องหนึ่ง
จะเรียกให้ถูกละก็ ที่นี่ถือว่าเป็นอีกห้วงเวลาหนึ่ง หลังประตูของห้องลับนี้เชื่อมกับทะเลทรายขนาดใหญ่ พวกเขาถึงกับสงสัยว่าพริบตาจากซากปรักหักพังมาถึงใจกลางซาฮารา
“คุณลุงหลี่! ผมเห็นแล้ว! ด้านหน้าของเรามีประตูอยู่หนึ่งบาน!”
เสือขาวที่ถูกบีบบังคับให้ไปเสาะหาหนทางชี้ไปที่ไกลๆ ตะโกนอย่างดีใจ
เขาลอยอยู่ท่ามกลางดวงอาทิตย์อยู่ครึ่งชั่วโมงแล้ว เขาเกือบจะถูกแผดเผาเป็นเนื้อคนตากแห้งแล้ว ทีแรกเมื่อมองไปรอบด้านมีแต่ทะเลทราย กระทั่งสายตาของเขาจ้องจนแทบลายตา ก็ได้เห็นรูสีดำจากที่ไกลออกไป
เพื่อความแน่ใจว่ารูสีดำนั่นคืออะไร เสือดำถึงขั้นลอยไปข้างหน้าไกลๆ เมื่อพบว่าเป็นประตูจึงรีบกลับมาบอกหลี่ต๋าคาง และหงส์แดง
“ไอ้หนูแกทำดีมาก ออกไปได้เมื่อไหร่ฉันจะบอกให้เสี่ยวกู่ตกรางวัลแกอย่างงาม”
หลี่ต๋าคางแหงนหน้าขึ้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หากเป็นเวลาอื่น เสือขาวต้องดีใจมากที่ได้ยินประโยคนั้น แต่เมื่อมองหลี่ต๋าคางและหงส์แดงทั้งคู่ใช้ทรายก่อเป็นล่มบังแดดนอนอย่างสบายใจ เขาไม่สามารถดีใจได้เลย
ทั้งสองคนนี้จะมากเกินไปแล้ว เพื่อให้เสือขาวไปเสาะหาทาง หลี่ต๋าคางแสร้งทำตัวน่าสงสาร บอกว่าตนเองอายุมากแล้ว แก่แล้วทำอะไรมากไม่ได้ หงส์แดงบอกว่าเธอเป็นผู้หญิง ผิวหนังอ่อนแอกว่าผู้ชาย จะตากแดดมากไม่ได้ ทำให้เสือขาวต้องออกไปหาทางออกท่ามกลางแสงแดดเจิดจ้าอยู่ครึ่งชั่วโมง
ตามกฎธรรมชาติแล้ว พวกทราย หากไม่เจอน้ำก็ไม่มีทางที่จะเป็นรูปทรงได้ หลี่ต๋าคางเป็นใครกัน สำหรับเขาแล้วกฎธรรมชาติพวกนี้ใช้ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย เขาใช้พลังปรานของตนเองทำให้ทรายพวกนี้ก่อตัวขึ้น ไม่เพียงแค่สร้างเป็นร่มกันแดดขนาดใหญ่ แถมยังทำเก้าอี้เอนให้กับตนเองและหงส์แดงอีกต่างหาก
ช่วงที่เสือขาวหาทางด้วยความยากลำบากนี้ พวกเขากลับเพลิดเพลินกับการอาบแดด
“เสี่ยวหงส์แดง ไปกันเถอะ ออกไปจากที่บ้านี่ค่อยว่ากัน” เมื่อได้ยินประโยคของเสือขาว หลี่ต๋าคางลุกขึ้นจากเก้าอี้ทราย จ้องมองไปที่หงส์แดงพร้อมกล่าว
เมื่อทั้งสามลอยขึ้นกลางอากาศ ร่มกันแดดและเก้าอี้เอนก็กลับไปเป็นสภาพเดิม ความสามารถของการควบคุมอย่างอิสระนี้ ความนับถือและเคารพที่เสือขาวและหงส์แดงมีต่อหลี่ต๋าคางมากขึ้นไปอีก
หรือแม้แต่รู้สึกโชคดี ดีที่หลี่ต๋าคางเลี้ยงหลี่ฝางแบบล้มลุกคลุกคลาน หากเขาปกป้องลูกชายสักนิดละก็ พวกเขาทั้งสองก็คงจะถูกหลี่ต๋าคางเก็บไปแล้ว
นึกถึงก่อนหน้านี้ที่ตนทะเลาะกับหลี่ฝาง เสือขาวและหงส์แดงพลันลอบกลืนน้ำลาย
ในขณะที่ทั้งสามลอยอยู่กลางอากาศไม่นาน ในทะเลทรายก็ผุดตะขาบยักษ์ใหญ่ออกมา
ดูจากรูปร่างตะขาบตัวนี้ยาวราวร้อยเมตรได้ บนร่างเต็มไปด้วยขามากมาย พร้อมกับส่งเสียงข่มขู่
ฟันที่ใหญ่ยักษ์คู่นั้นกัดไปที่เสือขาว เมื่อตะขาบยักษ์อ้าปาก ไอพิษได้กระจายออกจากปากของเขาด้วย
ไอพิษสีเขียวเทาเปื้อนเสื้อผ้าของเสือขาว เสื้อผ้าบริเวณนั้นกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ว
คิดไม่ถึงเลยว่าพิษจะร้ายแรงถึงขนาดนี้ ทั้งสามรีบลอยไปยังที่สูง
ทางด้านนี้เพิ่งหลบพิษของตะขาบยักษ์ได้ เหนือหัวก็แล่นผ่านมาด้วยเสียงนกร้อง
เมื่อสักครู่ยังเป็นท้องฟ้าที่แดดจ้าอยู่เลย พริบตากลับมีร่างใหญ่ยักษ์บังเอาไว้ หรือแม้แต่แสงสว่างเองก็มืดลงมาก
“ให้ตาย นี่มันบ้าอะไร!” หลังจากที่เสือขาวมองเห็นสิ่งที่อยู่เหนือหัวชัดเจน ตะโกนร้องอย่างตกใจ
บอกว่านี่เป็นนกเหยี่ยว แต่มันมีหกปีก แถมยังร่างใหญ่ยักษ์มาก มีความน่าเกรงขามของนกครุฑ