NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1269 จับได้สองคน
ส้าวส้วยและโหจื่อตอบรับ ก่อนที่จะเข้าไปในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว ทิเบตันมาสทิฟฟ์ขนาดใหญ่สองตัวเมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวรีบเด้งขึ้นจากพื้น มุ่งไปที่ทั้งคู่
เมื่อเห็นทิเบตันมาสทิฟฟ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าพวกเขา โหจื่อฉีกรอยยิ้มที่กระหายเลือด หลายเดือนมานี้เขาฟื้นฟูพลังของตนเองตลอด ไม่ได้ยืดเส้นยืดสายมานาน ไม่รู้ว่าความสามารถของเขาจะถดถอยบ้างหรือไม่
เขานับในใจสามวินาที ร่างของโหจื่อขยับเล็กน้อย ทิเบตันมาสทิฟฟ์สองตัวที่เกรี้ยวกราดในทีแรกพลันล้มลงกับพื้น สายตาฉายแววความตาย
โหจื่อจ้องมองทิเบตันมาสทิฟฟ์สองตัวที่นอนตายแน่นิ่ง กำลังคิดที่จะพูดว่าความสามารถของเขาไม่ได้ถดถอย คำพูดของส้าวส้วยที่อยู่อีกด้านพลันทำลายความเชื่อมั่นของเขาสิ้น
“ฆ่าหมาสองตัวใช้ตั้งห้าท่า โหจื่อแบบนี้ไม่ได้เลยนะ”
สิ่งที่ชายหนุ่มไม่อยากได้ยินมากที่สุดก็คือคนอื่นบอกว่าเขาใช้ไม่ได้ โหจื่อโมโห แทบจะกระโดดลุกขึ้นจากพื้น “เพราะฉันยังบาดเจ็บอยู่ต่างหาก หลายเดือนมานี้ไม่ได้ฝึกฝนขั้นสูง”
“หรือว่าตัวแกเองที่ใช้ไม่ได้” ส้าวส้วยทิ้งท้ายประโยคก่อนที่จะสาวเท้าก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ ทีท่าสบายใจของเขาราวกับว่าอยู่ในบ้านของตนเอง
โหจื่อที่อยู่ด้านหลังของเขาโกรธจัด หากเป็นคนอื่นที่บอกว่าเขาใช้ไม่ได้ โหจื่อลงมือตั้งนานแล้ว แต่ใครใช้ให้คนๆ นั้นเป็นส้าวส้วยล่ะ ต่อให้ส้าวส้วยถอยให้เขาใช้มือแค่ข้างเดียว โหจื่อก็สู้เขาไม่ได้อยู่ดี
“พวกแกเป็นใคร!” ส้าวส้วยเพิ่งเข้ามาในคฤหาสน์ ชายหนุ่มผิวค่อนข้างดำร่างสูงใหญ่สองคนก็เดินออกมาจากด้านใน จ้องมองเขากล่าวถามอย่างสงสัย
“เดินผ่านมาจะขอน้ำดื่มสักหน่อย” ส้าวส้วยหาข้ออ้างก่อนที่จะเดินอ้อมชายทั้งสองเข้าไปด้านใน
ชายทั้งสองคนนั้นไม่มีทางปล่อยให้เขาผ่านไปอยู่แล้ว พลันตะโกนเสียงดังก่อนคิดจู่โจม แต่สิ่งที่พวกเขาต้องนิ่งอึ้ง พวกเขาไม่ทันมองเห็นความเคลื่อนไหวของส้าวส้วยก็ล้มลงกองกับพื้นเสียแล้ว
หนึ่งท่า เพียงแค่หนึ่งท่าเท่านั้น! ก็จัดการนักรบกำลังภายในชั้นกลางได้!
โหจื่อที่มองเหตุการณ์อยู่ด้านหลังกลืนน้ำลายลงคอ ความสามารถของส้าวส้วยเหมือนว่าจะเหนือกว่าเมื่อหลายเดือนก่อนมาก
“ทำไมถึงเป็นพวกแก!” ไอ้เด็กซนและผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางได้ยินความเคลื่อนไหว คิดที่จะออกมาตรวจสอบความเรียบร้อย ใครจะไปรู้ว่าเพิ่งออกมาจากชั้นบนก็ได้ประจันหน้ากับส้าวส้วยและโหจื่อสองคน
ไอ้เด็กซนและผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางเกือบจะกลิ้งลงมาจากชั้นบน พยายามเก็บภาพลักษณ์เอาไว้อย่างอนาถ
เมื่อโหจื่อได้เห็นคนคุ้นเคยสองคนนี้ดีใจมาก ดูเหมือนว่าตงฟางเย่นจะพูดความจริง แม้ว่าท่านจวนไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เขากลับจับตัวลูกกระจ๊อกสองคนได้
“หนี!” เมื่อเห็นโหจื่อก้าวเข้าไปที่ทั้งคู่ทีละก้าว ไอ้เด็กซนตะโกนเสียงดัง วิ่งขึ้นไปชั้นบน แต่ทั้งคฤหาสน์มีทางออกแค่ทางเดียว อยากจะออกไปนอกเสียจากพวกเขาจะกระโดดออกไปทางหน้าต่าง
เมื่อเห็นความสูงสิบกว่าเมตร ไอ้เด็กซนกลืนน้ำตาลงคอ หันหน้ากลับไปมองส้าวส้วยที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับความลนลานที่เกิดขึ้นในใจของเขา
“แกหนีสิ ไม่มีทางหนีแล้วล่ะสิ ครั้งก่อนพวกแกสองคนหนีไปได้ ครั้งนี้โดนฉันจับได้อีก ฉันจะคอยดูว่าพวกแกจะหนีไปไหนได้อีก”
นิ้วของโหจื่อตบมือเสียงดัง มุมปากยิ้มจนแทบฉีกไปถึงใบหู ไอ้เด็กซนและผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางตอนนี้ทั้งคู่แทบอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด พวกเขาคิดว่าที่นี่จะลับตามากพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าพวกโหจื่อจะหาเจอได้
เมื่อจ้องมองโหจื่อที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ ไอ้เด็กซนทำใจกล้า กระโดดลงไปจากหน้าต่างจริงๆ หลังจากนั้นเสียงร้องคร่ำครวญก็ดังขึ้นจากชั้นล่าง
“แกจะนิ่งอยู่ทำไม! รีบหนีสิ!” ไอ้เด็กซนที่กระโดดลงไปไม่สนใจแขนซ้ายที่หักไปแล้ว พลันกล่าวกลับผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางที่อยู่บนชั้นด้วยสีหน้ารีบร้อน
แต่อีกฝ่ายกลับจ้องมองเขาอย่างตกอกตกใจ สีหน้าขาวซีดจนน่ากลัว นิ้วชี้ไปที่ไอ้เด็กซนกล่าวอย่างสั่นเครือ “หลอๆ ……”
“แกหลออะไรอยู่! ลงมาเร็วเข้า!” ไอ้เด็กซนในตอนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าหลี่ต๋าคางอยู่ด้านหลังของเขา กระทั่งเหนือหัวของเขาเกิดดำมืด เขาถึงได้หันหน้ากลับไป
เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองได้พบกับใบหน้าของหลี่ต๋าคาง ไอ้เด็กซนแทบลืมหายใจ ของเหลวสีเหลืองเหม็นหึ่งไหลออกมาจากกางเกงของเขา สีหน้าดูไม่ได้
“หลอซ่า!” หลังอุทานออกมาสองคำอย่างตื่นตระหนก ก็สลบไปทันที
หลี่ต๋าคางก้าวถอยหลังอย่างรังเกียจ หลบหลีกของเหลวกองนั้น แหงนหน้ามองโหจื่อที่อยู่ด้านบนพร้อมกล่าว “ลองตรวจสอบดูว่าในคฤหาสน์มีอะไรที่ใช้ได้บ้างไหม แล้วก็พาไอ้ไร้ประโยชน์สองตัวนี่กลับไปที่บ้านพักตากอากาศด้วย”
ในสายตาของหลี่ต๋าคาง ไอ้เด็กซนและผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางก็ไม่ต่างอะไรกับมด หากไม่ได้คำนึงถึงหาข้อความที่เกี่ยวข้องกับท่านจวนละก็ เขาคงได้ปลิดชีพพวกเขาทิ้งไปแล้ว
คนรุ่นหลังที่มีพรสวรรค์ของตระกูลตงฟางพลัดพราก เป็นเจ้าบ้านตระกูลตงฟางอย่างท่านจวนไม่มีทางอยู่เฉยแน่ หละงจากที่เขาจับตัวตงฟางเย่นมาก็ผ่านไปครึ่งค่อนวันแล้ว ท่านจวนก็คงมีความเคลื่อนไหวแล้ว
ตอนนี้ที่บ้านพักตากอากาศมีเพียงแค่ไท่ซาง ราฟาเอลและอีกไม่กี่คนที่คอยเฝ้าเอาไว้ พวกเขาจะไปนานไม่ได้
ผ่านไปสักพัก โหจื่อลากผู้ชายที่สวมเสื้อลายพรางที่ตกใจจนตัวสั่นเทาออกมาจากคฤหาสน์ ในมือของส้าวส้วยถือกระดาษเอสี่หลายใบยื่นให้กับหลี่ต๋าคาง
“เฮีย เราค้นหาจนทั่ว ได้ข้อมูลมาแค่นี้”
หลี่ต๋าคางเหลือบสายตามอง ก็ได้พบกับหลักฐานที่ท่านจวนไปหามาสู่กับทาเคชิตะ มัตสึซากะ อุทานอย่างไม่พอใจก่อนเก็บข้อมูล พาโหจื่อและคนอื่นๆ กลับมายังบ้านพักตากอากาศ
“คุณท่านโก ท่านไปไหนมา? ก่อนที่ลุงหลี่จะไปเขากำชับให้เราดูแลท่านให้ดีๆ แต่ผมหาท่านอยู่นานก็ไม่เจอท่านเลย” ไท่ซางจ้องมองคุณท่านโกที่เดินเข้ามาจากด้านนอก กล่าวถามอย่างเป็นกันเอง
เมื่อได้ยินประโยคของไท่ซาง ปฏิกิริยาของคุณท่านโกนิ่งไป แต่เขาก็ปกปิดความอึดอัดของตนเองได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฉันเห็นว่าวิวในบ้านพักตากอากาศไม่เลวเลย ก็เลยออกไปเดินเล่น บ้านพักตากอากาศไม่เพียงแค่โลเคชั่นดี บรรยากาศก็ดีมาก ราคาคงจะไม่ธรรมดาเลยสินะ?”