NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1279 เกิดเรื่องกับเสี่ยวผิงอัน
ตอนนี้เสี่ยวผิงอันตื่นแล้ว ดวงตากลมโตกลอกไปมา พิจารณาเมี๋ยวชุ่ยและคนอื่นๆ
เมื่อเห็นหลี่ฝาง อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ทางด้านสายเลือด เสี่ยวผิงอันยื่นมือทั้งสองข้างไปยังเขา พร้อมกับอ้าปากขมุบขมิบพูดคุย
“เอ๋ เสี่ยวผิงอันของเรารู้ว่าใครเป็นพ่อด้วย ฉลาดจริงๆ”
เมี๋ยวชุ่ยดีใจอย่างมากเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเสี่ยวผิงอัน หากไม่ใช่เพราะตอนนี้เสี่ยวผิงอันยังเล็กมาก เธอเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสละก็ เธอจะต้องอุ้มเด็กขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดแน่
“เดี๋ยว ในมือของเสี่ยวผิงอันคืออะไร?” หลี่ฝางที่กำลังดีอกดีใจ แต่หลังจากที่เห็นมือข้างซ้ายของเสี่ยวผิงอันโดยบังเอิญเข้า สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
หลังจากที่หลี่ต๋าคางและเมี๋ยวชุ่ยได้ยินคำของเขา ก็เพ่งพินิจมือข้างซ้ายของเสี่ยวผิงอันเช่นเดียวกัน ก็ได้พบว่าที่มืออันขาวนวลของเขามีรอยรูเข็มขนาดเล็กอยู่
“ใครก็ได้! มาดูเร็วเข้าว่ารูเข็มที่มือของเสี่ยวผิงอันมันคืออะไร!” หลี่ต๋าคางสีหน้าคร่ำเครียด ตะโกนเรียกพยาบาลที่อยู่ด้านนอก
ทีมพยาบาลรอคำสั่งอยู่ที่ด้านนอกตลอด เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ต๋าคางจึงรีบวิ่งเข้ามา อุ้มเสี่ยวผิงอันขึ้นมาตู้ทารกอย่างระแวดระวัง ถอดเสื้อของเขาออก ตรวจสอบอย่างละเอียด
“เฮีย เราพบว่า ตามแขนและขาของคุณชายน้อยมีรูเข็มอยู่ ผมสงสัยว่าอาจจะมีคนฉีดยาบางอย่างเข้าร่างกายของคุณชายน้อย”
หมอที่มีหน้าที่รักษาเมี๋ยวชุ่ยจ้องมองหลี่ต๋าคางกล่าวด้วยใบหน้าผวา
เขากล่าวอย่างหวาดกลัว ไม่มีใครคาดคิดว่าทาเคชิตะ มัตสึซากะจะลงมือกับเด็กน้อยแรกเกิด
หลี่ต๋าคางและคนอื่นๆ เมื่อได้ยินประโยคของหมอ บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไปทันที โดยเฉพาะหลี่ฝาง หลังจากที่กลับมาจากซากปรักหักพังความสามารถของเขาแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย เขาคว้าคอเสื้อของหมอเอาไว้ กล่าวถามอย่างดุดัน
“แกว่าอะไรนะ? ! ไอ้ที่ฉีดเข้าไปในตัวของลูกชายฉันมันคืออะไร!”
แม้หมอคนนี้จะเป็นนักรบเหมือนกัน แต่ความสามารถของเขาเพียงแค่สูงสุดกำลังภายนอกเท่านั้น เผชิญกับคนที่มีความสามารถที่น่ากลัวอย่างหลี่ฝาง เขาตกใจจนพูดไม่ออก
อ้ำอึ้งอยู่ครึ่งค่อนวัน ถึงได้พูดออกมา “กระผม กระผมเองก็ไม่แน่ใจ ถ้าอยากจะรู้ว่าคนพวกนั้นฉีดยาอะไรให้กับคุณชายน้อย ต้องเจาะเลือดของคุณชายน้อยไปวิจัยถึงจะรู้”
เมื่อหลี่ฝางได้ยินอย่างงั้น กำลังในมือของเขาออกแรงมากขึ้น จนหมอคนนั้นแทบหายใจไม่ออก แต่กลับไม่กล้าพูดอะไรสักคำ!
คุณชายน้อยเป็นคนที่สำคัญที่สุดของตระกูลหลี่ ตอนนี้มีคนกล้าก่อเรื่องที่นี่ ช่างไม่รักชีวิตเอาเสียเลย
“ส้าวส้วย แกพาคนไปที่ทาเคชิตะ มัตสึซากะอีกรอบ ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าพวกมันทำอะไรกับลูกชายของฉัน!”
ก่อนหน้านี้เขายังคิดอยู่ว่าเทพอ้านฆ่าทาเคชิตะ มัตสึซากะแบบนั้นโหดร้ายไปหน่อย แต่หลังจากที่รู้ว่าเขาทำมิดีมิร้ายต่อลูกชายของตน เขาอยากจะขุดร่างของทาเคชิตะ มัตสึซากะขึ้นมาหั่นเป็นพันชิ้น
ส้าวส้วยที่ยืนอยู่หน้าห้องก็โกรธมากเช่นเดียวกัน พลันพาลูกน้องสิบกว่าคนมุ่งไปที่ทาเคชิตะ มัตสึซากะอีกรอบ
แต่สิ่งที่ทำให้เขาสงสัย ทางด้านทาเคชิตะ มัตสึซากะไม่มีใครอยู่ตั้งนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนเป็นหรือคนตายก็ไม่มีแม้แต่คนเดียว เขาค้นหาไปทั่วบ้าน ไม่พบสิ่งที่เป็นประโยชน์แม้แต่น้อย
ทีแรกส้าวส้วยคิดว่าท่านผู้อาวุโสเป็นคนจัดการ แต่หลังจากที่โทรหาเขา เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด
คนของผู้อาวุโสเพียงแค่นำร่างของทาเคชิตะ มัตสึซากะ ท่านจวน และเปียวจื่อไปเท่านั้น ส่วนคนอื่นไม่ได้จับกุมไปด้วย และของที่อยู่ในห้องทำงานของทาเคชิตะ มัตสึซากะได้ถูกโยกย้ายแล้ว ทางด้านต้าเซี่ยหลงเช่วเองก็ไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์แม้แต่น้อย
“ดูเหมือนว่าเราจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะ” หลังได้ยินข้อความจากส้าวส้วย หลี่ฝางกล่าวอย่างคร่ำเครียด
“ทางด้านผิงอันเราจะลองวิจัยกันเองก่อน ฉันว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือกำจัดเทพอ้านที่อยู่ในร่างของแกซะ ไม่อย่างงั้นเขาจะเป็นศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของเรา”
เมื่อเกิดเรื่องของอาซาโทสและทาเคชิตะ มัตสึซากะ หลี่ต๋าคางรู้อยู่แล้วว่าเขาจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่นแล้ว พวกเขาต้องไปที่เผ่ากู่ก่อน
“ไม่ได้! ผิงอันยังเล็กขนาดนี้ ผมจะปล่อยให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขาไม่ได้แม้แต่น้อย”
ระหว่างตนเองและลูก หลี่ฝางเลือกลูกอย่างไม่ลังเล เพื่อผิงอัน เขาสามารถทิ้งชีวิตได้
แต่หลี่ต๋าคางกลับไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา พลันตบบ่าของหลี่ฝางอย่างจริงจัง
“ฉันรู้ว่าแกเป็นห่วงผิงอัน ฉันเองก็เหมือนกัน แต่ว่าหลี่ฝาง แกต้องเข้าใจ เทพอ้านในร่างของแกออกมาก่อปัญหาได้ทุกเมื่อ และเขาเองก็คิดไม่ซื่อต่อผิงอัน”
“ตอนนี้ความสามารถแกยังไงฉันเชื่อว่าแกรู้ดี ถ้าร่างกายของแกถูกเทพอ้านควบคุม แกคิดว่าพวกเราใครจะควบคุมแกได้?”
หลี่ฝางได้ยินคำของหลี่ต๋าคางจึงสงบลง จ้องมองเสี่ยวผิงอันที่ดวงตากลมโตพิจารณารอบด้านอย่างสงสัยพลันกำหมัดแน่น
ความสามารถของหลี่ฝางอยู่ในแดนครึ่งเทพสูงสุด การที่จะเป็นเทพนั้นเพียงแค่รอโอกาสสถานการณ์เหมาะเท่านั้น หากร่างกายของเขาถูกเทพอ้านควบคุม ผลที่ตามมาไม่อาจคาดคิด
หากเขาขาดการควบคุมไปโดยปริยาย สำหรับตระกูลหลี่ต้องเป็นภัยวิกฤตใหญ่หลวงแน่
“ผมเชื่อพ่อ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปเผ่ากู่เพื่อหาวิธีแก้ไขกัน”
เมื่อเห็นว่าหลี่ฝางสงบลงแล้ว หลี่ต๋าคางจึงตบบ่าของเขาอย่างสบายใจขึ้นมาบ้าง ช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย เขารู้สึกได้รางๆ ว่าเรื่องราวจะซับซ้อนกว่านี้
“ตัวน้อยอย่างแกไม่รู้จักคำว่ากลัวเลยสักนิด เห็นใครก็ยิ้มร่าอย่างเดียว ไม่รู้จะพูดยังไงดี”
เมี๋ยวชุ่ยหยอกล้อกับเสี่ยวผิงอันผ่านตู้ทารก ด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดูและไร้หนทาง
บางครั้งเด็กก็น่าอิจฉา นอกจากกินแล้วก็นอน ไม่ต้องนึกถึงอะไรทั้งนั้น
คนเรายิ่งโตขึ้นสิ่งที่ต้องคิดก็ยิ่งมากขึ้น ชีวิตก็ยิ่งซับซ้อนขึ้น