NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1291 คลอดลูก
แม้จะพูดแบบนั้น แต่หลี่ฝางคิดว่าหยูหลิงฮุ่ยไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น แม้ฐานะทางบ้านของตระกูลหยูไม่ได้รวยนัก แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีอันจะกิน
บวกกับหน้าตาและรูปร่างหยูหลิงฮุ่ยค่อนข้างโดดเด่น ถึงแม้ท้องแล้ว เธอก็สามารถเอาเด็กออกแล้วไปหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ได้
อีกทั้งหลี่ฝางดูสายตาหยูหลิงฮุ่ยที่มองไท่ซางออก ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ไม่รู้สึกอะไรกับไท่ซาง
“เอางี้ ยังไงหยูหลิงฮุ่ยก็จะคลอดแล้ว มิสู้ให้เธอคลอดลูกเสร็จ แล้วคุณก็ไปตรวจความเป็นพ่อเด็ก พอผลออกมาแล้วค่อยวางแผนกันก็ยังไม่สาย”
แม้นี้เป็นเรื่องส่วนตัวของไท่ซางและหยูหลิงฮุ่ย แต่หลี่ฝางในฐานะที่เป็นลูกพี่เขา ก็หวังว่าไท่ซางจะมีความรับผิดชอบที่ตนควรมี
ถ้าเด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของไท่ซางจริงๆ อย่างน้อยเข้าก็ต้องทำตัวเป็นพ่อที่เหมาะสม
“โอเคๆ ผมทนได้มากสุดแค่1เดือน หลังจาก1เดือน พอผลตรวจออกมาผมจะให้หยูหลิงฮุ่ยเป็นคนเลี้ยงเด็กนั่นทันที”
ตอนแรกไท่ซางไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของหลี่ฝาง แต่โดนหลี่ฝางเอาชนะด้วยสายตา จึงพยักหน้าอย่างจนปัญญา
“นี่ คุณ คุณคลอดเด็กคนนี้ออกมาได้ หลังจากนี้อีก1เดือนผมจะไปตรวจความเป็นพ่อกับเขา ถ้าเป็นลูกผมจริงๆ ผมจะรับผิดชอบ แต่ถ้าคุณกล้าหลอกผมด้วยวิธีนี้ ผลที่ตามมาคุณรู้ว่าจะเป็นยังไง”
ไท่ซางกลับเข้าห้องผู้ป่วยอีกครั้ง มองหยูหลิงฮุ่ยที่นั่งร้องไห้อยู่บนโซฟาไม่หยุดไม่หย่อน พลางพูดขึ้นอย่างเย็นชา
สายตาไร้ความรู้สึกของไท่ซางที่มองมา ทำเอาหยูหลิงฮุ่ยสั่นไปทั้งตัว แน่นอนว่าเธอรู้ผลที่จะตามมาของการโกหก
ระยะเวลาที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันเกือบปี หยูหลิงฮุ่ยได้สัมผัสกับนิสัยของไท่ซางแทบทั้งหมดแล้ว
ไท่ซางเกลียดการโดนคนอื่นผูกมัดที่สุด ทำอะไรตามใจตัวเองตลอด เพราะศักยภาพการเป็นปรมาจารย์ของตน เขาจึงยโสโอหังสุดๆอีกทั้งเขาใช้ความสามารถแทนคำพูดมาโดยตลอด หมัดใครหนักกว่าเขาก็ฟังคนนั้น
หยูหลิงฮุ่ยกำชายเสื้อแน่น พลางกัดฟันพูด“บางทีฉันอาจโกหกคุณเรื่องอื่น แต่เรื่องนี้ฉันไม่มีทางโกหกแน่นอน”
ขณะหยูหลิงฮุ่ยพูดประโยคนี้ออกมา น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวมาก ท่าทีจริงจังของเธอทำเอาไท่ซางวุ่นวายใจ โบกมือไปมาอย่างเหลืออด
“เอาล่ะๆ โกหกหรือไม่โกหก 1เดือนหลังจากนี้ก็จะได้รู้กัน คุณไม่ต้องพูดมากความกับผมหรอก”
เมื่อกี้ยังคิดอยู่เลยว่าจะใช้เวลาครึ่งเดือนกว่าๆนี้ไปจีบสาวๆยังไงดี คิดไม่ถึงว่าจู่ๆจะมีลูกชาย ไท่ซางอารมณ์เสียทันที
“ลูกพี่ ผมไปทำธุระก่อน ผู้หญิงคนนี้ให้ลูกพี่กับพี่สะใภ้จัดการแล้วกัน”ไท่ซางเหลือบมองหยูหลิงฮุ่ยแวบหนึ่ง ความรู้สึกซับซ้อนสุดๆ
เขาหาข้ออ้างแล้วแอบหนีออกมา เขาคิดว่าถ้าตนอยู่กับหยูหลิงฮุ่ยต่ออีกละก็ ไม่ช้าก็เร็วต้องเป็นบ้าไปแน่ๆ
“ไท่ซางนี่!สารเลวจริงๆ!”หยางฉงมองไท่ซางที่แอบหนีออกไป พลางก่นด่า
หยูหลิงฮุ่ยที่อยู่อีกด้านมีสีหน้าเรียบสงบ ดูเหมือนจะชินกับท่าทีที่ไท่ซางมีต่อตนมานานแล้ว เธอไม่เพียงรู้สึกเสียใจ กลับกันคือไปปลอบใจหยางฉง
“ช่างเถอะ เขาก็เป็นแบบนี้ ฉันชินแล้ว เขายอมให้คลอดลูกก็ถือเป็นการอ่อนข้อให้มากๆแล้ว ฉันพอใจแล้วล่ะ”
ได้ยินที่หยูหลิงฮุ่ยพูด หยางฉงและคนอื่นๆล้วนรู้สึกเป็นห่วงอย่างและอดไม่ได้
“คุณหยู พ่อคุณรู้เรื่องที่คุณท้องไหม?เขายอมให้คุณท้องทั้งที่ยังไม่แต่งงานแบบนี้ได้ยังไง?”หลี่ฝางมองหยูหลิงฮุ่ยพลางขมวดคิ้วถาม
เมื่อได้ยินหลี่ฝางพูดถึงพ่อของตน สายตาหยูหลิงฮุ่ยก็สลัวๆทันที ความเศร้าโศกแผ่คลุมไปทั้งตัว เห็นเธอเป็นเช่นนี้ หลี่ฝางก็หวั่นใจเดาว่าคงไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตระกูลหยูหรอกนะ?
“พ่อฉันไม่อยู่แล้ว ตระกูลหยูไม่มีที่สำหรับฉันแล้ว พวกลุงๆยึดทรัพย์สินในบ้านไป ฉันไม่มีที่ให้ไปแล้วถึงได้มาหาไท่ซาง”
แม้หลี่ฝางพอจะเดาได้ว่าที่หยูหลิงฮุ่ยมาหาไท่ซางครั้งนี้มีความในใจ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องโหดร้ายเช่นนี้
ภายในห้องผู้ป่วยตกอยู่ในความเงียบทันที แม้พ่อของหยูหลิงฮุ่ยไม่ได้มีอำนาจมากนัก แต่ก็ดูออกว่าเขารักหยูหลิงฮุ่ยมาก ภายในระยะเวลาสั้นๆเพียง1ปี จากหยูหลิงฮุ่ยที่ถูกรักทะนุถนอมดั่งเจ้าหญิงตกต่ำมาถึงขั้นนี้ มันยากสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเธอมากๆ
“ผมรู้สึกเสียใจมากๆสำหรับเรื่องพ่อของคุณ คุณอย่าเสียใจเกินไปเลย ในเมื่อตอนนี้คุณไม่มีที่ให้ไป ก็อยู่สถานตากอากาศของผมไปสักพักเถอะ ยังไงไท่ซางก็ยอมให้คุณอยู่ต่อแล้ว เดี๋ยวผมจะสั่งให้คนไปทำความสะอาดห้องรับแขกในคฤหาสน์นั้นของเขา”
หลี่ฝางไม่รู้จะปลอบใจหยูหลิงฮุ่ยยังไง ทำได้เพียงช่วยเธออย่างสุดความสามารถ
“พี่หยู ฉันเรียกพี่แบบนี้ได้หรือเปล่า?เด็กในท้องพี่เป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายเหรอ?ฉันก็เพิ่งคลอดลูกไปไม่นาน ลูกฉันนั้นดื้อมากๆ ตอนอยู่ในท้องฉันนี่ซนสุดๆ”
เมื่อจัดที่พักให้หยูหลิงฮุ่ยเรียบร้อย หยางฉงที่เป็นแม่คนแล้วก็เปิดบทสนทนา จับมือหยูหลิงฮุ่ยพลางเริ่มพูดกัน
หยูหลิงฮุ่ยมองหยางฉงด้วยความตกใจสุดๆ หากหยางฉงไม่บอกเองว่าเพิ่งคลอดลูก หยูหลิงฮุ่ยไม่มีทางเชื่อแน่นอนว่าเธอเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งแล้ว
ถึงแม้หยางฉงจะสวมชุดผู้ป่วยอยู่ แต่รูปร่างเธอไม่ผิดแปลกไปเลยแม้แต่น้อย สำหรับหยูหลิงฮุ่ยยังดูเหมือนเด็กสาวอยู่เลย
“ลูกฉันเป็นผู้หญิง นอกจากความเจ็บปวดในช่วง2-3เดือนแรกของการตั้งครรภ์ หลังจากนั้นก็ยังโอเค หลังจากท้องฉันอ้วนขึ้นตั้ง25กิโลแหน่ะ ดูตัวฉันสิ”
เมื่อพูดถึงลูกสาวตน หยูหลิงฮุ่ยก็ยิ้มออกมา สายตาเต็มไปด้วยความสุข เธอพูดพลางประคองท้องของตัวเอง ร่างกายเต็มไปด้วยความเป็นแม่
“อ้วนขึ้นหน่อยสิดี ผอมไปไม่ดีต่อลูก คุณดูฉันสิไม่มีเนื้อหนังเลย ลูกฉันคลอดก่อนกำหนดหนึ่งเดือน ตอนนี้ยังต้องอยู่ในตู้อบอยู่เลย”