NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1297 ไอดอล
ต้องยอมรับเลยว่ามีบางเรื่องที่ส้าวส้วยคิดรอบคอบกว่าหลี่ฝาง ถึงขั้นพูดได้ว่าหลี่ฝางมีหน้าที่แค่หาลูกศิษย์ ส่วนการฝึกฝนส้าวส้วยเป็นคนทำมาโดยตลอด
เขาเข้าใจความเป็นต่อเป็นรองของหลี่ฝางในตอนนี้ดี แม้ตอนนี้หลี่ฝางและหลี่ต๋าคางต่างแข็งแกร่งมาก แต่ยังไม่เพียงพอในระดับโดยรวมของตระกูลหลี่
จากการค่อยๆเติบโตของตระกูลหลี่ คนที่อิจฉาก็ยิ่งเยอะขึ้นตามไปด้วย จะพึ่งแค่คนที่แข็งแกร่งไม่กี่คนมาปกป้องทั้งตระกูลหลี่นั้นเป็นไปไม่ได้
“ขอโทษด้วยส้าวส้วย ฉันคิดง่ายๆเกินไป นายพูดถูก ฉันจะเอาแต่พึ่งนายไม่ได้ แต่หลังกลับจากเผ่ากู่ครั้งนี้ ฉันจะวางแผนการฝึกอย่างละเอียดแน่นอน”
เมื่อได้ยินที่ส้าวส้วยพูด หลี่ฝางก็คำนึงถึงปัญหาทุกอย่างที่ตนมี พูดขึ้นพลางขมวดคิ้วเป็นปม
“ยังมีอีกอย่าง ฉันคิดว่านายจะมีลูกน้องแค่ไท่ซางกับราฟาเอลไม่ได้ หลังจากจัดการเรื่องเทพอ้านเสร็จ พวกเราต้องไปญี่ปุ่นหน่อยแล้ว พวกเรากลัวว่าต่อไปจะมีกำลังคนไม่พอ นายไปดูว่ามีคนเก่งๆที่ได้รับการคัดเลือกบ้างไหม แล้วคิดหาวิธีดึงเขามาอยู่กับเรา”
“โลกนี้ไม่ค่อยสงบแล้ว พวกเราทำได้แค่ต้องคิดหาวิธีขยายอำนาจตนเอง ถึงจะเป็นที่หนึ่งในโลกของนักบู๊ได้”
ส้าวส้วยอยากคุยเรื่องนี้กับหลี่ฝางมานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสมานั่งคุยกันอย่างละเอียด และจากการมาถึงของศึกแห่งโชคชะตา คิดว่าปรมาจารย์ที่ซ่อนอยู่ก็ยิ่งปรากฏตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าอยากช่วงชิงโอกาสกลายเป็นเทพ หลี่ฝางต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้คนมากกว่านี้
หลังจากได้ยินที่ส้าวส้วยพูด ในที่สุดหลี่ฝางก็มีท่าทีจริงจังสักที ขมวดคิ้วเป็นปม ไตร่ตรองถึงคำชี้แนะของส้าวส้วยอย่างละเอียดรอบคอบ
ไม่นานนักทุกคนก็มาถึงสนามบิน จากเมืองตงไห่ไปถึงเผ่ากู่แห่งเมืองชีหนันประมาณ2000กว่าๆกิโล หากเดินทางด้วยเท้าคงทั้งเสียเวลาทั้งเปลืองแรง ดังนั้นหลี่ฝางและคนอิ่นๆจึงตัดสินใจนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินชีหนัน จากนั้นค่อยให้คนในพื้นที่นำทางพวกเขาไปหาคนของเผ่ากู่
ช่วงนี้คนมาเที่ยวเมืองชีหนันค่อนข้างเยอะ สนามบินคนคับคั่ง นอกจากคนจีนแล้วยังมีคนต่างชาติอีกจำนวนไม่น้อย
ชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวแปลกๆดึงดูดความสนใจหลี่ฝางเข้าให้ คนกลุ่มนี้อายุยังไม่มากนัก อายุน่าจะประมาณ20-30ปี มีทั้งชายและหญิง ใช้ภาษาที่ไม่ค่อยมีคนใช้พูดกัน และมีแทรกภาษาอังกฤษบ้างบางคำ
ตอนแรกหลี่ฝางแค่ถูกรูปลักษณ์และการแต่งกายของคนเหล่านี้ดึงดูด แต่จากนั้นกลับพบว่ามีสองคนในกลุ่มนั้นมองตนด้วยสายตาแปลกๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกระแวง
“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ นายสองคนไปไหม?”หลี่ฝางดูเวลา ยังเหลือเวลาขึ้นเครื่องอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เขาจึงจะจัดการกับความต้องการของร่างกายสักหน่อย
ส้าวส้วยและกู่ยี่เทียนอีกด้านโบกมือไปมา เป็นการบอกว่าตนไม่ไป หลี่ฝางเห็นเช่นนั้นจึงเดินไปทางด้านห้องน้ำ
เป็นไปอย่างที่คิดไว้ พอเห็นเขาเคลื่อนไหว ชาวต่างชาติสองคนนั้นก็ตามออกมา รักษาระยะห่างจากหลี่ฝางประมาณ4-5เมตร เดินไปพลางคุยกันไปพลาง
หลี่ฝางเหลือบมองสองคนนั้น แดนเต๋าระดับกลาง อายุแค่นี้แต่มีฝีมือเช่นนี้ ถือว่าฉลาดอยู่
เขาเดินไปทางด้านห้องน้ำพลางค่อยๆรวบรวมชี่แท้ในร่างกายตัวเอง รวบรวมเสร็จแล้วก็เตรียมตัวจู่โจมได้ทุกเมื่อ หลี่ฝางจัดการธุระของตัวเองเสร็จอย่างไม่เร่งรีบ จากนั้นก็เดินมาตรงอ่างล้างมือ
ชาวต่างชาติสองคนนั้นยืนประกบซ้ายขวาเขา แสร้งทำเป็นล้างมือ อย่าคิดว่าหลี่ฝางไม่ได้มองเขาแม้แต่น้อย ในความเป็นจริงเขาเหลือบเห็นทุกการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนนั้นหมดแล้ว
เห็นชาวต่างชาติสองคนสบตากันในกระจกเงียบๆ จากนั้นโจมตีหลี่ฝางอย่างรวดเร็ว
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าลุยทีเดียวจอด แต่ใครจะไปคิดว่าวินาทีที่หลี่ฝางกำลังล้างมืออยู่ จู่ๆก็หลบไปด้านหลังของชาวต่างชาติที่อยู่ด้านซ้าย และปลายมีดทั้งแหลมคมทั้งแวววาวจ่อตรงคอของชาวต่างชาติคนนั้นแล้ว ขยับเบาๆทำให้คอของชายคนนั้นมีเลือดไหลออกมา
ชาวต่างชาติคนนั้นยังพยายามดิ้นให้หลุดจากหลี่ฝาง มือข้างที่ถือมีดของหลี่ฝางจึงลงแรงลงไปอีก ทำให้หยดเลือดสีแดงสดหยดลงบนพื้นตามปลายมีด หลี่ฝางพูดเตือนอย่างเยือกเย็น
“อย่าขยับ!มีดในมือฉันมันไม่มีตา!”
ความรู้สึกเจ็บแสบบนเชื่อฟังขึ้นมาทันทีเหมือนชาวต่างชาติคนนั้น ยกมือขึ้นสองข้างทำท่ายอมแพ้ จากนั้นพูดกับหลี่ฝางด้วยภาษาจีนแบบไม่เก่ง
“เห้ย สหาย เรามาคุยกันดีๆดีกว่า”
“อย่ามาทำเป็นสนิทกับฉัน!พูดมา!ตามฉันมาทำไม?เมื่อกี้ทำไมถึงลงมือกับฉัน!”
หลี่ฝางไม่หลงกลหรอก กดแรงลงไปที่มีดบนคอชายคนนั้นอีก เลือดอุ่นๆค่อยๆไหลออกมาจากคอของเขา เห็นเช่นนั้นชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางรีบโบกมือไปมาทันทีพลางพูด
“ไม่ใช่ๆๆ!ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด!คุณวางมีดลงก่อน เรามีอะไรค่อยๆพูดกัน ok?”
ที่จริงต่อให้ทั้งสองคนนี้โจมตีพร้อมกัน พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฝาง ที่เขาทำแบบนี้เพียงเพื่อขู่ขวัญชาวต่างชาติสองคนนี้ก็เท่านั้น
“พวกแกตอบคำถามฉันมาตรงๆจะดีกว่า ถ้ากล้าโกหกแม้แต่คำเดียว ก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไป”
หลี่ฝางขยับมือเก็บมีดเล่มนั้นไป ชาวต่างชาติที่ชีวิตอยู่ในวิกฤตถูกปล่อยไปชั่วคราว รีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิดคอตนที่เลือดไหลไม่หยุดพลางมองหลี่ฝางด้วยหน้าซีดๆ
“ผมชื่อไขจี๋เออ ส่วนเขาเป็นน้องชายของผมชื่อไขบู๊เกอ พวกเราเป็นคนอลาสก้า ที่พวกเรามาประเทศจีนก็เพื่อมาเที่ยว ไม่คิดว่าจะเจอไอดอลที่สนามบิน ดังนั้นผมกับไขบู๊เกอจึงอยากขอคำชี้แนะจากคุณสัก2-3ทริค”
“ตอนแรกคิดว่าถ้าเราสองคนร่วมมือกัน ก็สามารถตีเสมอคุณได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะแพ้ทันทีที่ลงมือ คุณไอดอล คุณแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!มาเป็นลูกพี่ของพวกเราได้ไหมครับ?”
ได้ยินที่ไขจี๋เออพูด หลี่ฝางอึ้งไปทันที ชาวต่างชาติผู้นี้เห็นเขาเป็นคนปัญญาอ่อนหรือไง?เหตุผลบ้าๆแบบนี้ก็ยังพูดออกมาได้?