NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1306 พลังกลืนที่ไร้ผล
“ร่างนี้ของคุณถ้าหากยังมีพลังครึ่งเทพอยู่ล่ะก็ บางทีผมอาจจะเอายาถอนพิษให้คุณก็ได้ แต่ตอนนี้?ฮึ ในสายตาของผมคุณมันก็แค่ขยะเท่านั้นแหละ”
อูหลิงมองหลี่ฝางอย่างดูถูก ภายในแววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ แต่เมื่อได้ยินแบบนี้ อารมณ์ของหลี่ฝางก็ยิ่งโมโหมากยิ่งขึ้น จนบริเวณร่างมีไอหมอกสีดำปกคลุมเต็มไปหมด
“ระวัง!อย่าให้หมอกดำนั่นโดนตัวเด็ดขาด!ไม่อย่างนั้นจะถูกเขาสูดเอาพลังจนร่างเหี่ยวแห้ง!”
ทั้งส้าวส้วยและกู่ยี่เทียนที่เคยได้เห็นพลังกลืนมาก่อน ทันทีที่ได้เห็นหมอกดำนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที ส้าวส้วยตะโกนเตือนทุกคน ทั้งยังรีบทิ้งช่องว่างระหว่างตัวเองกับหลี่ฝางให้ห่างออกไปอีก
ส่วนเสี่ยวหลินตังและสองพี่น้องไขจี๋เออถึงแม้จะไม่รู้ว่าหมอกดำนี่คืออะไร แต่เมื่อเห็นท่าทีระมัดระวังของส้าวส้วยและกู่ยี่เทียนแล้ว ต่างก็พากันถอยหลังออกไปหลายก้าว
ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังหลบเลี่ยงตัวจากหลี่ฝาง อูหลิงกลับเดินมุ่งหน้าเข้าไปหาเขาแทน
“อูหลิง!นี่นายไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไง?!” กู่ยี่เทียนที่อยู่อีกด้านเบิกตาค้างขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมร้องตะโกนออกมา หวังจะเข้าไปห้ามอูหลิงที่กำลังเดินไปข้างหน้า
ทางด้านหลี่ฝางเองก็รู้สึกนิ่งอึ้งกับการกระทำที่ผิดปกตินี้ของเขาด้วยเหมือนกัน แต่เพียงชั่วขณะก็สามารถเรียกสติกลับมาได้ แล้วมองไปยังอูหลิงด้วยรอยยิ้มกระหายเลือดที่ปรากฏขึ้นมา “แดนเต๋าระดับกลาง พลังนับว่าไม่เลว ในเมื่อนายรีบร้อนอยากจะสังเวยมันให้กับฉัน อย่างนั้นฉันก็จะขอรับไว้อย่างไม่เกรงใจแล้วกัน”
หลังจากที่พูดจบประโยคนี้ หมอกดำรอบตัวของหลี่ฝางก็พุ่งทะยานขึ้น ร่างของเขาเหมือนกับลูกศรที่ทะยานอย่างรุนแรงรวดเร็วพุ่งเข้าหา อูหลิงในทันที
“เหอะ คิดจะขโมยความสามารถของผมงั้นหรอ ?คงต้องดูแล้วว่าคุณจะมีความสามารถนั้นไหม” หลังจากหัวเราะออกมาเบาๆ อูหลิงก็ราวกับเสกเอาขวดเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมา ก่อนจะสะบัดมือออกไป แล้วมีผงสีขาวจำนวนมากโพยพุ่งออกมาจากด้านใน
เมื่อมองเห็นของบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายแป้งข้าวอยู่ตรงหน้า หลี่ฝางก็ชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ด้วยความที่ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาจึงทะลุผ่านผงสีขาวนั้นเข้ามา พร้อมกับมือที่เปลี่ยนสภาพกลายเป็นกรงเล็บอินทรีย์คว้าคอของ อูหลิงเอาไว้
เมื่อเห็นว่าอูหลิงยืนเป็นท่อนไม้ให้หลี่ฝางจัดการอยู่ตรงนั้น ไม่แม้แต่ที่จะขัดขืนเลยแม้แต่น้อย ส้าวส้วยและคนอื่นๆ ก็ต่างพากันโกรธจัด
ถึงแม้ว่าพลังกลืนจะเป็นปัญหาอย่างมาก แต่ตอนนี้หลี่ฝางมีพลังเหลือเพียงแค่กำลังภายในตอนต้นเท่านั้น เขาที่เป็นนักรบแดนเต๋า ไม่น่าที่จะถูกจับได้ง่ายดายขนาดนี้สิ !
ไอ้คนโง่นี่คิดจะทำอะไรกันแน่ !
“เอายาถอนพิษมาให้ฉัน!ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้นายรู้สึกเสียใจที่เกิดมาอยู่ในโลกใบนี้ !” หลังจากที่หลี่ฝางได้จับตัวอูหลิงเอาไว้กลับยังไม่ได้สูบกินพลังของเขาในทันที แต่กลับใช้สิ่งนี้มาชี้ในการข่มขู่ อูหลิงให้เอายาถอนพิษออกมา
แต่ใบหน้าของคนที่ใกล้จะถึงเวลาตายอย่างอูหลิงกลับไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันท่าทีของเขากลับยิ่งฌอหังยิ่งกว่าก่อนหน้าเสียอีก “กำลังรอดูอยู่ว่าคุณจะมีความกล้านั้นไหม”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของอูหลิง พวกส้าวส้วยถึงกับหมดคำด่า เจ้าหมอนี่มันเบื่อชีวิตแล้วหรือยังไง ?ทำไมถึงต้องจงใจไปยั่วโมโหหลี่ฝางด้วย!
“ดี ดีมาก !งั้นนายก็ไปตายซะเถอะ!” และก็เป็นอย่างที่คิด ขีดจำกัดของหลี่ฝางถูกคำพูดนี้กระตุ้นจนเดือดจัด จิตสังหารในตาของเขาล้นทะลักออกมา มือบีบแน่น เริ่มสูบกินพลังของ อูหลิง
หลังจากที่นิ่งเงียบไปสักพัก เดิมทีต่างคิดว่าอูหลิงจะกลายเป็นซากศพในชั่วพริบตา แต่ต่างก็ต้องตะลึงเมื่อเขาไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
คนที่นิ่งค้างไม่ได้มีแค่พวกส้าวส้วยเท่านั้น แม้แต่หลี่ฝางเองก็ยังต้องแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นออกมา
พอมองอูหลิงที่มีท่าทีเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไร เขาก็บีบมือออกแรงอีกครั้ง แต่ผ่านไปสักพัก เขาก็อย่างไม่สามารถสูดเอาพลังมาได้เลยแม้แต่นิดเดียว
จากนั้นเขาถึงค่อยตั้งสติได้ว่าผงสีขาวเขาเมื่อกี้นี้มีปัญหา
“พลังกลืนของเขาไม่มีผลแล้ว !ทุกคนร่วมมือกันให้เขายอมจำนนซะ!”
ส้าวส้วยเป็นคนแรกเลยที่ตั้งสติกลับมาได้ และหลังจากที่พูดจบประโยคนี้เขาก็รีบทะยานเข้าไปหาหลี่ฝางอย่างรวดเร็ว
หลี่ฝางที่ตระหนักได้ว่าตัวเองได้สูญเสียพลังกลืนไปแล้วในใจก็เกิดเสียงเตือนดังขึ้นมา ไม่ง่ายเลยกว่าที่เขาจะสามารถหาโอกาสในตอนที่หลี่ฝางนอนหลับแล้วยึดครองร่างนี้ หากถูกพวกเขาจับได้ในเวลานี้ เกรงว่าต่อไปคงจะไม่มีโอกาสที่จะสามารถสลับร่างได้อีกแล้ว
“คิดจะหนี?คุณคิดว่าคุณจะหนีพ้นจากมือของผมไปได้งั้นหรอ?” ทันทีที่เห็นว่าหลี่ฝางชักมือกลับ พร้อมหันหลังหวังจะหลบหนีเข้าไปในป่าทึบ อูหลิงก็หัวเราะเยาะออกมา พลางเอื้อมมือไปจับไหล่ของเขาเอาไว้
เมื่อไม่มี พลังกลืน พลังของหลี่ฝางที่อยู่เพียงกำลังภายในตอนต้น เมื่ออยู่ต่อหน้าอูหลิงก็ไม่ต่างอะไรกับปลาที่นอนนิ่งอยู่เขียงเพื่อรอเชือดเลย
เช่นเดียวกับตอนนี้ที่ อูหลิงใช้มือข้างเดียวก็สามารถจับหลี่ฝางไว้ได้อย่างแน่นไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะให้เขาได้ขัดคืนเลย
“กลับไปนอนดีๆ เถอะ” ในตอนที่หลี่ฝางกำลังเตรียมจะตัดแขนข้างหนึ่งทิ้งเพื่อจะหนีเอาตัวรอด อูหลิงก็โปรยผงสีขาวออกมาลงบนหน้าของเขา ร่างของหลี่ฝางสั่นอยู่ครู่หนึ่งก็จะล้มโครมลงไปนอนกับพื้น
“นี่……เขาไม่เป็นไรใช่ไหม?” ส้าวส้วยมองไปยังหลี่ฝางที่นอนสลบแน่นิ่งอยู่กับพื้น ก็ขมวดคิ้วถาม
อูหลิงสะบัดเอาผงขาวที่อยู่ในมือออกจนสะอาด ก่อนจะชำเลืองตามองไปยังหลี่ฝางด้วยสีหน้าที่ราบเรียบแล้วตอบกลับอย่างเฉยชา “ไม่ตายหรอก”
“ผงขาวเมื่อกี้นี้คืออะไรกัน?ทำไมถึงทำให้พลังกลืนบนร่างของหลี่ฝางไม่มีผลอะไร?”
กู่ยี่เทียนพอจะสังเกตได้ว่าที่พลังของอูหลิงไม่ได้ถูกสูบกินไปนั้น คาดว่าเป็นเพราะผงขาวที่ถูกโปรยออกมาก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ยังสงสัยจริงๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ถึงได้สามารถสะกดพลังกลืนได้
“เคล็ดลับเผ่ากู่” อูหลิงเหมือนว่าจะไม่อยากอธิบายอะไรมากนัก หลังจากที่พ่นสี่คำนี้ออกมา เขาก็เดินกลับเข้าไปในเต็นท์ของตัวเอง
หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกันมาถึงสองวัน พวกกู่ยี่เทียนก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกับลักษณะนิสัยแบบนี้ของอูหลิงแล้ว เวลาที่เห็นว่าเขาไม่สนใจตัวเอง ต่างก็ไม่คิดที่จะไปพูดอะไรกับเขาอีก
“ลูกพี่คงจะไม่เป็นไรแล้วมั้ง?” ไขจี๋เออมองไปยังหลี่ฝางที่นอนอยู่บนพื้น ไม่กล้าที่เข้าไปใกล้เขา กลัวว่าหลี่ฝางจะลุกขึ้นมาจากพื้นลงไม้ลงมือกับตัวเอง
“ดูจากสภาพแล้วน่าจะไม่เป็นไรแล้วหล่ะ พวกนายพาเขาเข้าไปในเต็นท์ เหนื่อยกันมาเยอะ ทุกคนก็คงจะเหนื่อยมาแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ”
ส้าวส้วยถอนหายใจโล่งอกออกมา พูดกับสองพี่น้องไขจี๋เออ
พอมีเรื่องคืนนี้เกิดขึ้น พวกเขาก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมอูหลิงถึงได้ตั้งใจที่จะสะกดพลังของพวกเขาเอาไว้
ถ้าหากว่าคืนนี้พลังของหลี่ฝางไม่ได้ถูกสะกดเอาไว้ อย่างนั้นคืนนี้พวกเขาทุกคนก็คงจะไม่ได้เห็นอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้อีกแล้ว
“เอาล่ะๆ ไม่เป็นไรแล้ว ทุกคนกลับไปนอนเถอะ” หลังจากที่นำเอาเต็นท์ที่ถูกทำลายกลับมาตั้งใหม่อีกครั้ง กู่ยี่เทียนก็หาวพร้อมกับเร่งร้าวให้ทุกคนกลับไปนอน