NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1322 ในที่สุดก็ฟื้นแล้ว
ไม่ได้กินข้าวแม้แต่เม็ดเดียวมาสามวัน แถมยังไม่ได้กินน้ำแม้แต่หยดเดียว หลี่ฝางในตอนนั้นอยากจะกินแต่น้ำ
เขารู้สึกว่าคอของตัวเองนั้นแหบแห้งเป็นอย่างมาก อ้าปากก็ร้อนผ่าว เมื่อเห็นกาน้ำชาที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างๆ ก็รีบผลักกู่ยี่เทียนออก จากนั้นก็ปรี่เข้าไปหาโต๊ะนั้นก่อนจะหยิบกาน้ำชาขึ้นมาเทใส่ปาก
หลังจากที่กินน้ำอึกๆ แล้ว หลี่ฝางเลยรู้สึกสบายคอมากขึ้น จากนั้นท้องก็ร้อง เขาเลยเอามือมาคว้าเค้กแล้วก็ยัดใส่ปาก
เมื่อเห็นหลี่ฝางที่กินอย่างบ้าคลั่ง กู่ยี่เทียนก็แอบพูดเบาๆ ว่าจบเห่แล้ว สลบไปสามวันก็บ้าไปแล้วล่ะ
เขาจะต่อรองกับคนตระกูลหลี่ได้อย่างไรเนี่ย!
หลี่ฝางกินอย่างบ้าคลั่งอยู่ข้างๆ ส้าวส้วยที่อยู่บนเตียงก็ตื่นขึ้นมาแล้ว จากนั้นเขาก็ใช้มือเคาะหัวที่มึนๆ ของตัวเอง จากนั้นจึงค่อยๆ นั่งขึ้นมาบนเตียง
กู่ยี่เทียนได้ยินเสียงขยับเขยื้อน เลยไม่สนใจหลี่ฝางที่กินอย่างบ้าคลั่งแล้ว เลยรีบวิ่งเข้าไปข้างกายส้าวส้วย
“ส้าวส้วย คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?ยังจำได้ไหมว่าฉันคือใคร?”
ส้าวส้วยที่ไม่ได้กินอะไรเองก็หิวน้ำและหิวข้างเหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่ได้เขมือบเหมือนหลี่ฝาง แถมยังตอบกู่ยี่เทียนที่เป็นห่วงไม่น้อย
“ฉัน……ไม่……ไม่เป็นไร” เพราะปากแห้งผาก และเจ็บคอเป็นอย่างมาก เสียงของกู่ยี่เทียนก็แหบแห้ง แถมยังค่อยๆ พูดออกมา
เมื่อได้ยินเขาบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร กู่ยี่เทียนเลยถอนหายใจอย่างหนัก เมื่อมองส้าวส้วยที่ปากแห้งผาก เขาเลยรู้ตัวว่าส้าวส้วยอยากดื่มน้ำ ก่อนจะรีบรินน้ำชาให้เขาทันที
แต่กาน้ำชาเพิ่งจะถูกหลี่ฝางดื่มหมดไป กู่ยี่เทียนเห็นว่าไม่มีน้ำในกาเลยแม้แต่น้อย เลยเตะหลี่ฝางที่ยังกินอยู่บ้าคลั่งอยู่
“ผีหิวข้าวออกจากร่างได้แล้ว!กินน้ำจนหมดเลยเหรอไง”
หลี่ฝางที่กำลังตั้งใจกินอยู่ถูกเขาเตะเลยตกใจ ของที่กินอยู่ในปากก็ยังไม่ทันกลืน มันเลยพุ่งพรวดออกมาเลอะกู่ยี่เทียนเต็มตัว
“ให้ตายเถอะ!หลี่ฝางบ้าไปแล้ว!กินอะไรก็ไม่กินดีๆ !”
กู่ยี่เทียนที่ถูกพ่นเค้กเละๆ ใส่ก็หน้าดำคร่ำเครียด ก่อนจะปัดๆ ของที่ติดอยู่บนตัว พลางบ่นไปด้วย
“เห็นท่านชายทั้งสองคนดูมีชีวิตชีวาดี คงจะฟื้นตัวเต็มที่แล้ว พวกคุณไม่ได้สติไปสามวัน ตอนนี้คงจะทั้งหิวน้ำและหิวข้าวเลยล่ะ ฉันเลยเตรียมของกินเอาไว้ พวกคุณรีบกินตอนยังร้อนๆ เถอะ”
ในตอนนั้นเอง ในมือของไป๋หลินถือกล่องข้างกล่องหนึ่งออกมา ด้านหลังก็ยังมีไป๋เห้อที่หน้าดำคร่ำเครียด
ไป๋หลินเดินมาด้านข้างโต๊ะ จากนั้นก็หยิบอาหารออกมาจากกล่องเหมือนกัน ก่อนจะหันตัวไปรินน้ำชาแทนกู่ยี่เทียน
“คุณดื่มน้ำก่อนเถอะ” ถึงไป๋หลินจะมีท่าทีปกติ แต่ไป๋เห้อที่อยู่ข้างๆ กลับดมกลิ่นที่แตกต่างกันด้วยความจมูกไว
จู่ๆ ในหัวก็มีความคิดขึ้นมา หรือว่าไป๋หลินรู้สึกอะไรกับผู้ชายของส้าวส้วยหรือเปล่า?
แต่ตอนที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในหัวของไป๋เห้อ เขารีบส่ายหัวอย่างรุนแรง ก่อนจะเลิกความคิดนี้ของตัวเอง
เป็นไปไม่ได้ ไป๋หลินรู้จักกับส้าวส้วยเพียงไม่กี่ครั้งเอง จากนั้นก็คิดว่าตัวเองคิดมากเกินไปเอง
“ขอบคุณน้องไป๋หลิน” เมื่อเห็นไป๋หลินที่เข้ามาหาตัวเองก่อนเลย ในแววตาของส้าวส้วยก็เปล่งประกาย แต่เขานั้นปิดแววตาของตัวเองได้ดี เพื่อไม่ให้คนอื่นๆ สังเกตเห็น
เพียงแค่เห็นเขารับถ้วยชาในมือของไป๋หลิน พลางยิ้มให้ไป๋หลิน จากนั้นก็ดื่มน้ำในถ้วยนั้นจนหมด
“ฉันจะรินน้ำให้คุณอีกแล้วกัน” เมื่อเห็นส้าวส้วยที่กินน้ำหมดภายในครั้งเดียว ไป๋หลินก็รีบถือกาน้ำขึ้นมารินให้เขาจนเต็ม
ทั้งสองคนรินให้กันไปกันมาสี่ห้าครั้ง ส้าวส้วยเลยรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนั้นเหมือนจะฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว
“น้องไป๋หลิน ฉันเองก็คอแห้งแล้ว รบกวนคุณรินน้ำให้ฉันบ้างเถอะ” หลี่ฝางที่กินเค้กจนปากคอแห้งเลยยื่นถ้วยไปที่ด้านหน้าของไป๋หลิน ก่อนจะยิ้มขึ้นอย่างอวดดี พลางขอให้ไป๋หลินรินน้ำให้ตัวเอง
เมื่อได้ฟังหลี่ฝางแล้ว ไป๋หลินก็มองไปหาส้าวส้วยก่อน จากนั้นก็ส่งน้ำให้หลี่ฝางแก้วหนึ่ง
“ให้ตายเถอะ แกโง่หรือเปล่า?ฉันถามอยู่ทำไมไม่ตอบ?”
เมื่อเห็นหลี่ฝางมาพูดกับไป๋หลินก่อน ในใจของกู่ยี่เทียนนั้นรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ เลยเอาถ้วยชาในมือของเขามา พลางถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
“คุณมองออกได้อย่างไรว่าฉันเอ๋อไปแล้ว?ไม่งั้นก็ลองมาหิวสามวันติดกันแบบฉันบ้างสิ ฉันว่าถึงตอนนั้นแกยังจะมีอารมณ์ตอบคำถามบ้าๆ นั่นนะ”
หลังจากที่หลี่ฝางดื่มน้ำแก้วนี้จนหมด ก็หลอกตาใส่กู่ยี่เทียน
เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าไม่ได้ยินมาวันเดียว แต่ทั้งหิวและทั้งคอแห้ง ตอนนั้นเขาเลยไม่สนใจอะไรมากแล้ว
“กู่ยี่เทียน พวกเขานั้นปกติดีแล้ว คุณควรจะเอาหัวใจมาคืนฉันได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
บางคนก็กวนเป็นอย่างมาก พูดอะไรไม่ดู ตอนที่กู่ยี่เทียนกำลังดีใจที่เห็นหลี่ฝางกับส้าวส้วยฟื้นขึ้นมา ไป๋เห้อก็เปิดปากเพื่อจะเอาหัวใจของตัวเองจากเขาอย่างมีตาหามีแววไม่
“เอาล่ะๆ ดูแลหัวใจของคุณดีๆ รีบเอากลับไปเถอะ” กู่ยี่เทียนกลอกตามองบนใส่ไป๋เห้อ จากนั้นก็เอากล่องไม้จากตู้ส่งให้เขา
“นี่คืออะไรเหรอ?” หลี่ฝางมองของที่ส่องแสงในกล่องนั้นก่อนจะถามด้วยความสงสัย
“หัวใจของเจ้านี่” กู่ยี่เทียนใช้นิ้วชี้ไปที่ไป๋เห้อพลางพูด
ตอนแรกหลี่ฝางก็คิดว่าอัญมณีส่องแสงนี้มันเป็นของหายากอะไร เมื่อได้ยินว่าเป็นหัวใจของไป๋เห้อก็ตกใจจนเห็นได้ชัด