NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1335 ฉันคือศิษย์พี่ใหญ่
หลังจากที่หยางฉง ฉินวี่เฟย และหลี่ฝางจัดการเรื่องราวของกันได้ หยางฉงและฉินวี่เฟยจึงเปลี่ยนสรรพนามเรียกหลี่ต๋าคางและเมี๋ยวชุ่ยว่าพ่อแม่
ทีแรกพวกเธอทั้งคู่รู้สึกไม่ชิน ไม่ค่อยเรียกนัก หลังจากนั้นผ่านการชักจูงจากหลี่ต๋าคางและเมี๋ยวชุ่ย พวกเธอจึงไม่เรียกคุณลุงและคุณป้าอีก
เหมือนกับที่หลี่ต๋าคางบอก พวกเธอและหลี่ฝางจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่งานแต่งเท่านั้น ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องเรียก ก็เลยเรียกซะตั้งแต่ตอนนี้เลย
แม้ตอนนี้ผิงอันจะเล็กมาก แต่ยังไงชื่อก็ต้องตั้ง แถมคราวนี้หลี่ฝางออกไปสามเดือน เมื่อรอเขากลับมาผิงอันก็ครึ่งขวบได้แล้ว คงจะเรียกชื่อเล่นตลอดไม่ได้
“ได้ กลับถึงบ้านแล้วเธอก็เอาชื่อที่พวกเธอตั้งให้ผมดู ผมค่อยดูว่ามีที่เหมาะสมไหม” หลี่ฝางตอบรับด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสามคุยเล่นกันตลอดทาง ก็กลับมาถึงที่บ้านพักตากอากาศอย่างไม่รู้สึกตัว รถได้จอดลงที่หน้าคฤหาสน์ของหลี่ฝางอย่างรวดเร็ว โหจื่อและราฟาเอลสั่งให้คนยืนรออยู่ที่หน้าประตูตั้งนานแล้ว เมื่อเหล่าหลี่ฝางมาถึง ก็มีคนเข้ามารับสัมภาระ
“ว้าว! เฮีย บ้านเฮียหรูชะมัด?” ไขจี๋เออที่เห็นคฤหาสน์ตรงหน้า กล่าวชื่นชม
“เฮีย? นี่มันอะไรกัน?” ไท่ซางที่อยู่อีกด้านได้ยินไขจี๋เออเรียกหลี่ฝางว่าเฮีย คิ้วขมวดแน่นอย่างสงสัย ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม
เมื่อสักครู่ที่จิตใจอยู่แต่กับหยางฉงและฉินวี่เฟย หลี่ฝางไม่ทันได้แนะนำสองพี่น้องไขจี๋เออ เสี่ยวหลินตัง อูหลิง และไป๋หลิน
กับไท่ซางและคนอื่นๆ
เมื่อไท่ซางพูดถึง เขาถึงได้รีบก้าวออกมา
“ลืมแนะนำ นี่คือไขจี๋เออ นี่คือไขบู๊เกอ พวกเขาเป็นพี่น้องกัน แล้วก็เป็นลูกน้องใหม่ของผม คนนี้คือเสี่ยวหลินตัง เป็นน้องสาวของกู่ยี่เทียน แล้วนั่นอูหลิงเป็นนายน้อยของเผ่ากู่ คนนั้นคือไป๋หลิน”
หลี่ฝางชี้ไปที่เหล่าไขจี๋เออแนะนำพวกเขาให้กับเหล่าโหจื่อทีละคน เมื่อแนะนำเหล่าไขจี๋เออแล้ว หลี่ฝางก็หมุนตัวแนะนำไท่ซางและคนอื่นๆ
“นี่คือโหจื่อ เป็นสหายของผม นี่ราฟาเอล นี่ไท่ซาง เป็นลูกน้องของผม นี่เป็นภรรยาของผมสองคน หยางฉงและฉินวี่เฟย คนอื่นเป็นคนของผมหมด พวกคุณมีเรื่องอะไรก็บอกพวกเขาได้เลย”
“ว้าว เฮีย พี่นี่วาสนาดีไม่เล่น! ออกจากบ้านไปก็ได้ของดีกลับมาเลย”
ไท่ซางก็ยังคงแก้นิสัยเจ้าชู้ไม่หาย เมื่อเห็นไป๋หลินขาทั้งสองข้างก็เดินไม่ไหวขึ้นมา สายตาคู่นั้นจ้องเขม็งไป๋หลิน น้ำลายหกเต็มพื้น
เมื่อจบประโยค หลี่ฝางไม่ทันได้อธิบาย ส้าวส้วยก็ส่งสายตาพิฆาต
“ไท่ซาง ช่วงนี้แกไม่ได้ฝึกซ้อม รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวใช่ไหม?”
ไท่ซางตกใจสั่นไหวไปทั่วร่างเพราะสายตาของส้าวส้วย เมื่อเห็นสายตาที่ไป๋หลินจ้องมองส้าวส้วยถึงได้ไหวตัวทัน รีบโค้งคำนับขอโทษไป๋หลิน
“โอ๊ย ส้าวส้วยผู้หญิงของนายเองหรือ ดูจากฉันสิ พูดไม่เป็นเอาซะเลย สมควรโดนดี”
ไท่ซางกล่าว พร้อมกับใช้มือตบปากของตนเอง ส้าวส้วยที่สีหน้าบูดบึ้งเมื่อได้ยินว่าไป๋หลินเป็นผู้หญิงของเขา ใบหน้าของเขาคลายความตึงลงบ้างอย่างเห็นได้ชัด สายตาของคนอื่นที่จ้องมองส้าวส้วยและไป๋หลินเองก็เปลี่ยนไป
“พอได้แล้ว ทุกคนอย่ายืนอยู่ที่หน้าบ้านอีกเลย เข้าไปข้างในเถอะ” หลี่ฝางมองออกว่าส้าวส้วยประหม่า จึงเปลี่ยนบทสนทนา เรียกให้ทุกคนเข้าบ้าน
“เห้ย พวกแกสองคนมานี่” ทีแรกสองพี่น้องไขจี๋เออคิดที่จะเดินตามหลี่ฝางเข้าไปด้านใน ทว่ากลับถูกไท่ซางที่อยู่อีกด้านเรียกเอาไว้อย่างกะทันหัน
“นายเรียกเรา?” ไขจี๋เออชี้นิ้วยังตนเอง กล่าวถามอย่างไม่มั่นใจ
“ใช่ๆ เรียกพวกแกนั่นแหละ” ไท่ซางโบกมือใส่สองพี่น้องไขจี๋เอออย่างไร้ความอดทน เพื่อให้พวกเขาเข้ามา
แม้จะไม่รู้ว่าไท่ซางเรียกตนเองด้วยเรื่องอะไร แต่เพราะมารยาท ไขจี๋เออและไขบู๊เกอก็ยังคงเดินเข้าไป
“แค่กๆ แกชื่อไขจี๋เออ แกชื่อไขบู๊เกองั้นหรือ เป็นลูกน้องใหม่ของพี่ใหญ่งั้นใช่ไหม?”
เมื่อไขจี๋เออเดินไปยังหน้าเขา ไท่ซางแสร้งกระแอมไอสองที กล่าวถามเสียงทุ้มต่ำ
ไขจี๋เออและไขบู๊เกอที่ยังไม่รู้ว่าไท่ซางคิดแผนชั่วอยู่นั้นพยักหน้าอย่างว่าง่าย เมื่อได้คำตอบจากพวกเขา หัวของไท่ซางแหงนขึ้น กล่าวอย่างเกรงขาม
“นั่น เมื่อกี้พวกแกได้ยินแล้วใช่ไหม ฉันก็เป็นลูกน้องของพี่ใหญ่ ในประเทศจีนของเรา เป็นลูกน้องของคนอื่น มีการจัดอันดับก่อนหลัง”
“ฉันเป็นลูกน้องคนแรกของพี่ใหญ่ สถานะของฉันก็ต้องสูงกว่าพวกแกอยู่แล้ว ฉันเองก็ไม่ต้องการให้พวกนายซื่อสัตย์หรือตอบแทนอะไรฉัน ก็แค่หวังว่าพวกแก จะเรียกฉันว่าศิษย์พี่ใหญ่ คำขอแค่นี้ไม่เกินไปใช่ไหม?”
ไขจี๋เออและไขบู๊เกอแม้จะเรียนภาษาจีนมาสิบกว่าปี แต่สำหรับเรื่องการไหว้อาจารย์แล้วไม่เข้าใจอย่างมาก จึงถูกไท่ซางหลอก ถึงขั้นรู้สึกว่ามีเหตุผล
“ไม่เกินไป ไม่เกินไป นานเป็นลูกน้องเฮียก่อนเรา เราต้องเรียกนายว่าศิษย์พี่ใหญ่อยู่แล้ว”
ไขจี๋เออพยักหน้าใส่ไท่ซาง กล่าวอย่างเอาใจ
ความว่าง่ายของเขาทำให้ไท่ซางรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก ใบหน้าที่เคร่งขรึมเผยรอยยิ้มอย่างได้ใจ
“อย่าไปฟังเขา ที่ของเราไม่มีระเบียบแบบนี้” ในขณะที่ไท่ซางคิดที่จะหลอกล่อต่อไป ราฟาเอลปรากฏกายขึ้นอย่างเย็นชา ขัดไท่ซาง
“ให้ตาย! แกเป็นโรคประสาทใช่ไหม? จะทำเสียเรื่องกูให้ได้! แล้วอีกอย่าง กูเป็นลูกน้อยเฮียก่อนพวกมันก่อน ให้พวกมันเรียกศิษย์พี่ใหญ่จะเป็นอะไรไป?”
ไท่ซางระเบิดโมโห ชี้หน้าราฟาเอลด่ากราด ราฟาเอลเรียบนิ่ง ไม่แม้แต่มองเขา
“ถ้าเฮียรู้ว่าแกรังแกเด็กใหม่ เฮียไม่ปล่อยแกไว้แน่ มีเวลาแกล้งคนอื่น เอาเวลากลับบ้านไปอยู่กับเมียแกดีกว่า”
เมื่อจบประโยคราฟาเอลเดินเข้าไปในคฤหาสน์โดยไม่แม้แต่หันกลับไปมอง ทิ้งไว้เพียงแค่ไท่ซางที่โมโหอย่างหัวเสีย