NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1343 ล่อเสือออกจากป่า
ขัดขืนอยู่ครึ่งค่อนวัน มือที่พันธนาการทั้งคู่เอาไว้ราวกับกรงเล็บเหล็ก ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย แถมอาซาโทสยังมีความรู้สึกชอบใจอีกต่างหาก พลันยื่นปากเข้าไปใกล้ใบหูของฉินวี่เฟยอย่างวิตถาร กล่าวอย่างเสน่ห์หา
“ผู้หญิงที่งดงามอย่างพวกเธอ อยู่กับคนไม่เอาถ่านอย่างหลี่ฝางช่างน่าเสียดาย เธอลองอยู่กับฉันไหม ฉันจะเอ็นดูรักใครดูแลพวกเธอเป็นอย่างดีเลยล่ะ”
“แกฝันไปเถอะ! ไอ้สารเลว! ปล่อยฉันนะ!” ฉินวี่เฟยสัมผัสได้ถึงลมหายใจของชายหนุ่ม รู้สึกสะอิดสะเอียน ตอกกลับอย่างไม่ลังเล
“คุณพ่อ! ช่วยด้วย! มีใครอยู่บ้าง!” เมื่อหยางฉงเห็นว่าขัดขืนไร้ผล จึงตะโกนขอความช่วยเหลือ
ปฏิกิริยาของทั้งคู่ทำให้อาซาโทสบันดาลโทสะ สายตาที่ฉายแววความหวังเต็มไปด้วยความดุดันที่เย็นชา ใช้แขนล็อกคอของฉินวี่เฟยและหยางฉง กล่าวอย่างข่มขู่
“อย่าดื้อรั้นไปหน่อยเลย ไม่เป็นผู้หญิงของกูก็ไปตายซะ”
เมื่อจบประโยค แขนของอาซาโทสรัดแน่น ฉินวี่เฟยและหยางฉงรู้สึกว่าลำคอจะหักให้ได้ อากาศในปอดก็น้อยลงทุกที
มือทั้งสองข้างของทั้งคู่ข่วนอาซาโทสแน่น แต่กลับไร้ประโยชน์แม้แต่น้อย ดวงตาของทั้งคู่รู้สึกหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาไหลเอ่อออกมาจากขอบตาอย่างควบคุมไม่ได้
“เจ้าสาม พอสมควรแล้ว” ในขณะที่ฉินวี่เฟยและหยางฉงคิดว่าตนเองกำลังจะสิ้นใจตาย ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น
เพราะประโยคนี้เอง แขนที่ล็อกคอของพวกเธอแน่นก็ค่อยๆ คลายออก อากาศบริสุทธิ์ปะทะเข้าสู่ปอด ฉินวี่เฟยและหยางฉงอดไม่ได้ที่จะสำลักไอต่อเนื่อง
ผ่านไปอยู่นานกว่าพวกเธอจะดีขึ้น นาทีที่แหงนหน้าขึ้น ฉินวี่เฟยและหยางฉงก็สงสัยว่าพวกเธอเกิดภาพหลอนไปเอง
เพราะตรงหน้าของเธอปรากฏชายสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกันยืนอยู่
“คืนลูกของฉันมา!” หยางฉงเหลือบเห็นในมือของอาซาโทสคนหนึ่งในนั้นถือตู้ทารกเอาไว้ จึงพุ่งเข้าไปที่ชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเห็นหยางฉงมุ่งไปที่เขา จึงชูตู้ทารกสูงขึ้นเหนือหัว ก้มเหลือบมองเธอ ก่อนที่จะกล่าวกับอาซาโทสอีกคนด้วยสีหน้าเย็นชา
“เจ้าสาม ควรไปได้แล้ว”
คนที่ชื่อเจ้าสามเหมือนว่าจะเชื่อฟังคำสั่งของบุคคลนั้นมาก พลันกระแทกมือที่ท้ายทอยของฉินวี่เฟยและหยางฉง ภาคหน้าของพวกเธอดำมืดก่อนสลบไป
“เมื่อกี้ฉันให้คนล่อหลี่ต๋าคางออกไปแล้ว เป้าหมายในครั้งนี้ของเราคือพาตัวของลูกและภรรยาของหลี่ฝางไป ไม่ต้องต่อสู้”
ชายหนุ่มมุ่งออกไปด้านนอกพร้อมกับกล่าว
เจ้าสามแบกฉินวี่เฟยและหยางฉงเอาไว้เดินตามหลังของเขาอย่างว่าง่าย ไม่กล้าต่อต้านคำสั่งของเขา
ที่หน้าคฤหาสน์ในตอนนี้มีรถตู้สีดำคันหนึ่งจอดรออยู่ ชายชุดดำสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูรถเมื่อเห็นทั้งสองกลับออกมาแล้ว
เหล่าบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ที่รอบๆ สถานตากอากาศ ในตอนนี้ต่างก็ล้มลงกับพื้น เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากร่างของพวกเขา กลายเป็นลำธารเล็กๆ
เผชิญกับภาพนองเลือดที่โหดร้ายเหล่านี้ ทั้งคู่ไม่แม้แต่กะพริบตา เข้าไปนั่งบนรถ
“คุณท่านโก ท่านแน่ใจนะว่าคนเมื่อกี้นี้คือยินยิน?” หลี่ต๋าคางที่ตามคุณท่านโกออกมาพร้อมกันจากที่สถานตากอากาศกล่าวถามอย่างสงสัย
เมื่อสักครู่หลี่ต๋าคางกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโกยินกับคุณท่านโก ทว่าเงาร่างหนึ่งแล่นผ่านหน้าต่าง
คุณท่านโกที่ใจเย็นในทีแรกผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ บอกว่าคนนั้นคือโกยิน หลี่ต๋าคางเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ยังคงไล่ตามออกมาด้วย
แม้เขากับโกยินจะไม่ได้เจอกันมานาน แต่ก็ยังพอจำได้บ้าง เธอคนนั้นมีหน้าตาที่คล้ายกับโกยิน แต่เธอกลับไม่ได้หยุดลงเมื่อได้ยินเสียงของคุณท่านโก กลับวิ่งออกไปที่ด้านนอก
หลี่ต๋าคางยิ่งไล่ตามก็ยิ่งไม่แน่ใจ จึงหยุดชะงักลง วันนี้หลี่ฝางและคนอื่นๆ ออกไปกันหมด ที่สถานตากอากาศนอกจากตัวเขาเองและคุณท่านโกที่ความสามารถแข็งแกร่งหน่อย นอกเหนือจากนั้นต่างก็ฝีมือธรรมดา
หากมีคนลักลอบเข้ามาตอนนี้ ถ้างั้นฉินวี่เฟยและคนอื่นหนีไม่รอดแน่
“แย่แล้ว! เราโดนแผนการล่อเสือออกจากถ้ำ!” หลี่ต๋าคางที่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติตบหัวของตนเองอย่างแรง ตะโกนเสียงดังก่อนที่จะกลับไปยังสถานตากอากาศ
คุณท่านโกจ้องมองโกยินที่ไกลออกไปทุกที ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้กลับไปกับหลี่ต๋าคาง ทว่ากลับวิ่งไล่ตามไปต่อเนื่อง
“คุณท่านโก! ทำไมคุณถึงได้ไม่เข้าใจอะไรเลย!” หลี่ต๋าคางจ้องมองคุณท่านโกที่ไปคนละทิศกับเขา ตะโกนอย่างโมโห
“สหายต๋าคาง ไม่ต้องสนใจฉัน กลับไปก่อนเถอะ วันนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร”
คุณท่านโกตะโกนกับหลี่ต๋าคางโดยไม่แม้แต่หันหน้ากลับมามอง ก่อนที่จะเร่งความเร็ว
เมื่อหลี่ต๋าคางเห็นอย่างงั้น ไม่มีทางอื่นแล้ว พลันถอนหายใจก่อนที่จะแยกทางกับคุณท่านโก
“วี่เฟย! เสี่ยวฉง!” หลังจากที่หลี่ต๋าคางกลับมายังสถานตากอากาศ เมื่อได้พบกับร่างที่ไร้วิญญาณเต็มพื้น เขานิ่งอึ้งไป
เขาที่ผ่านความเป็นความตายมาเป็นครั้งแรกที่รู้สึกร้อนรน รีบวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์ ตะโกนเรียกชื่อฉินวี่เฟยและคนอื่นๆ เสียงดัง แต่สิ่งที่ตอบโต้เขากลับมีเพียงเสียงฟ้าร้องเสียงดังและความเงียบเหงาราวกับความตาย
หลี่ต๋าคางที่หาฉินวี่เฟยและหยางฉงไม่เจอที่ชั้นล่างรีบขึ้นไปยังชั้นบน วิ่งไปที่ห้องทดลอง
ผิงอันที่นอนหลับลึกอยู่ในตู้ทารกได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย กล่องสารฟื้นบำรุงของเมี๋ยวชุ่ยก็ถูกคนอื่นลอบปิดสวิตช์ไฟฟ้า
ในหัวของหลี่ต๋าคางเกิดระเบิดเสียงดัง รีบช้อนร่างของเมี๋ยวชุ่ยขึ้นจากสารฟื้นบำรุงแบบเหลวพัลวัน ทำการปฐมพยาบาลให้กับเธอ
“ที่รัก! ที่รักตื่นสิ! ที่รักอย่าทำให้ผมตกใจสิ!” หลี่ต๋าคางจ้องมองรอยนิ้วมือทั้งห้าที่ชัดเจนบนลำคอของเธอ น้ำตาของเขาไหลพรากลงมาในทันควัน ด้านหนึ่งปั๊มหัวใจพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อของเธอไปด้วย
ช่วงเวลาที่ช่วยชีวิตเมี๋ยวชุ่ยเพียงสั้นๆ หลี่ต๋าคางนั้นรู้สึกเหมือนเป็นปี เขาที่ไม่กลัวแม้แต่ความตายตอนนี้กลับลนลาน ตัวก็สั่นเทาเป็นอย่างมาก ไม่อยากจะคิดถึงท่าทีในวันที่ขาดเมี๋ยวชุ่ยไปเลยล่ะ
“ที่รัก คุณฟื้นขึ้นมาเถอะ!ที่รัก!เสี่ยวชุ่ย!” หลี่ต๋าคางร้องไห้เหมือนใจจะขาด ร่างจะแยกออกจากกันอย่างไรอย่างนั้น บรรยากาศรอบๆ ตัวเขานั้นระเบิดออกมาในทันที จนห้องด้านบนสุดของคฤหาสน์ยังปลิวออกมา
“แค่ก……แค่กๆ ……” ตอนที่หลี่ต๋าคางกำลังจะระเบิดไปนั้น เมี๋ยวชุ่ยที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะหายใจแล้วจู่ๆ ก็กระแอมขึ้นมาเบาๆ จากนั้นเธอก็หายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ที่รัก!” หลี่ต๋าคางไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้เห็นเมี๋ยวชุ่ยฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะกอดเธอเอาไว้ในอ้อมกอด จนแทบจะจมเข้าไปในเรือนร่างของตัวเองแล้ว
“แค่กๆ ……ต๋าคาง……ลูก ลูกถูกขโมยไปแล้ว” เมื่อเมี๋ยวชุ่ยรอดจากความตายก็คิดถึงลูกก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะไอพลางดึงเสื้อของหลี่ต๋าคางเข้ามาพูด
“ที่รักอย่าเพิ่งพูดอะไรทั้งนั้น หายใจหายคอให้คล่องก่อนแล้วค่อยบอกฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น” หลี่ต๋าคางตบหลังเมี๋ยวชุ่ยด้วยความเห็นใจ เพื่อให้เธอหายใจให้คล่อง
เมี๋ยวชุ่ยสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นจึงพยายามจะปรับตัวเองให้ปกติ เธอนั้นหลับใหลนั้น แต่เพียงแค่เวลาก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงจู่ๆ เธอก็สังเกตได้ถึงความอาฆาตเต็มไปหมด
ก่อนหน้าที่อันตรายจะเข้ามาถึงตัวนั้น เมี๋ยวชุ่ยก็ลืมตาขึ้นมาทันที ก่อนจะหลบการโจมตีที่อาจถึงชีวิตได้เลยล่ะ
แต่คนที่พละกำลังยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่อย่างเมี๋ยวชุ่ยนั้นเป็นศัตรูของอาซาโทสไม่ได้เลยด้วยซ้ำ หลังจากที่ทั้งสองปะทะกันหลายกระบวนท่าแล้ว เธอก็ถูกอาซาโทสบีบคอแน่น
ตอนที่เห็นอาซาโทสนั้น เมี๋ยวชุ่ยเองก็ตกใจเป็นอย่างมาก มีคนหนึ่งที่ตายไปแล้ว จู่ๆ ก็มาปรากฎตัวอยู่ต่อหน้าตัวเอง เรื่องนี้มันน่าตกอกตกใจมากเลยจริงๆ