NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1346 การฟื้นคืนชีพของเมพอ้าน
“คุณเป็นใครกันแน่เนี่ย?” หลี่ฝางมองชายคนนั้น พลางถามด้วยความระแวงระวัง
“เป็นคำถามที่ดี” หลังจากที่ได้ฟังเสียงของหลี่ฝางก็ยิ้มพลางปรบมือ จากนั้นจึงพูดขึ้น
“ฉันเป็นใครงั้นเหรอ?ฉันเองก็อยากรู้ว่าฉันเป็นใครเหมือนกัน ตอนแรกฉันชื่อนัยเหลียง จากนั้นพวกเขาก็เรียกฉันว่านักรบมือหนึ่งของญี่ปุ่น แล้วจากนั้นพวกเขาก็เรียกฉันว่าท่านยมบาล แล้วจากนั้น ฉันก็กลายเป็นอาซาโทส แล้วก็เป็นฝ่าบาทที่เขาว่ากัน”
ไขจี๋เออที่อยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินดังนั้นเสียงก็เปลี่ยนไปทันที พลางถอยออกห่างด้วยสายตาเบิกโพลงที่ไม่อยากจะเชื่อ
“คุณ คุณคือนัยเหลียงงั้นเหรอ?เป็นไปไม่ได้!นัยเหลียงนั้นเป็นคนเมื่อหลายร้อยปีก่อน!เขานั้นตายไปตอนที่เกิดศึกนักรบครั้งแรก คุณจะเป็นเขาได้อย่างไร!”
สำหรับการไล่ล่ายุทธภพอย่างบ้าคลั่งนั้น ไขจี๋เออกับไขบู๊เกอทั้งสองเข้าใจนักรบที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์มากเลยทีเดียวล่ะ
ดังนั้นตอนที่ชายคนนี้พูดชื่อตัวเองออกมา เขาเลยรู้ตัวตนของนัยเหลียง
ตามบันทึกของประวัติศาสตร์ นัยเหลียงนั้นเป็นนักรบญี่ปุ่นที่รักชาติคนหนึ่ง เคยชนะมาก่อนอย่างสวยงามในศึกนักรบครั้งที่หนึ่ง จนมีคนญี่ปุ่นให้เพลงยกย่องเลยล่ะ
แถมนัยเหลียงนั้นไม่ได้หน้าตาแบบนี้ ชายที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นนัยเหลียงได้อย่างไร
“ฮ่าๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะโกหกคนมาเป็นเวลาร้อยกว่าปีได้ คำโกหกของฉันมันจะสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก!” หลังจากที่ได้ยินคำพูดของไขจี๋เออ ชายคนนั้นก็หัวเราะขึ้นมาอย่างจัง ในแววตาก็มีความบ้าคลั่งขึ้นมาไม่น้อย
นัยเหลียงในตอนนั้นทำให้หลี่ฝางรู้สึกเหมือนบ้าไปแล้ว ถ้าไม่ใช่คนบ้า จะมาบอกว่าตัวเองเป็นคนในประวัติศาสตร์ร้อยกว่าปีได้อย่างไร?
“ในประเทศจีนของพวกคุณ มีความคิดที่โด่งดังเป็นอย่างมาก ก็คืออมตะ ฉันคือคนที่เป็นอมตะจริงๆ อย่างไรล่ะ ตั้งแต่ตัวตนแรกของฉันอย่างนัยเหลียง ฉันก็ลองการวิจัยที่จะหาทางไม่แก่ตายตลอด”
“แต่ไม่ว่าฉันจะวิจัยอย่างไร ก็ไม่มีทางทำให้ตัวตนนั้นเต่งตึงเหมือนเดิมได้ สุดท้ายฉันเลยคิดวิธีหนึ่งออกมาได้ นั่นก็คือการเปลี่ยนร่าง แล้วเอาจิตวิญญาณของฉันเปลี่ยนไปอยู่ในที่ที่แข็งแกร่ง แข็งแรง และสมบูรณ์แบบกว่าเดิม”
“จากนั้นก็มีเทคโนโลยีการโคลนนิงเกิดขึ้นมา มันทำให้ฉันเปลี่ยนร่างได้เรื่อยๆ แต่การเกิดใหม่แบบนี้มันก็ไม่ดีเสมอไป ฉันเลยเริ่มจัดการกับตำนานโบราณ หวังว่าขณะเดียวกับการเกิดนั้นจะย้ายกำลังการสู้ที่แข็งแกร่งไปด้วย”
“เมื่อพยายามมามากมาย ฉันก็ทำสำเร็จแล้ว ตอนแรกฉันคิดว่าจะพอแค่นี้ แต่จากนั้นฉันก็พบโดยบังเอิญ มันทำให้ฉันรู้ว่ามีเทพหมิงเทพอ้านกับเทพไท่จี๋อยู่ ฉันสนใจการวิจัยกับเทพอ้านเป็นอย่างมาก เลยจัดให้คนไปสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับเทพอ้านไม่หยุดหย่อน”
“หลังจากที่ฉันรู้ว่าวิญญาณของเทพอ้านนั้นมีอยู่บนโลกแล้ว ฉันก็ตัดสินใจว่าจะทำให้เขาฟื้นคืนชีพ เพียงแค่เทพอ้านฟื้นคืนชีพ งั้นฉันก็สามารถที่จะเป็นอมตะได้เหมือนกัน”
นัยเหลียงนั้นมองหลี่ฝางด้วยความละโมบ พลางมีรอยยิ้มอย่างกระหายเลือด แววตาของเขานั้น เหมือนกับเป็นสัตว์ร้ายเลยล่ะ มันทำให้หลี่ฝางรู้สึกไม่สบายใจเลย
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?ถ้าเกิดเทพอ้านเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ โลกนี้คงวุ่นวายไปหมด หรือว่าคุณจะใช้ความสงบของโลกใบนี้ มาเพื่อแลกกับความต้องการของคุณเองงั้นเหรอ?”
หลี่ฝางคิดว่าการกระทำของนัยเหลียงนั้นมันไม่สามารถใช้คำว่าบ้าคลั่งมาอธิบายได้แล้ว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าโลกใบนี้จะมีคนที่ทำอะไรบ้าๆ เพื่อให้เป็นอมตะ
ทุกอย่างนั้นมันเกิดขึ้นและดับไปเป็นวงจร ธรรมชาติมีกฎของมันเอง แม้ว่าจะเป็นเทพไท่จี๋ที่เป็นบรรพบุรุษของเหล่านักรบ เขาเองก็ต้องมีวันที่ร่วงหล่นอยู่ดี
เทพนั้นยังทำให้คงอยู่ตลอดไปไม่ได้เลย แล้วคนอย่างนัยเหลียงจะขัดกฎธรรมชาติได้อย่างไร จะสู้ฟ้างั้นเหรอ?
“สำหรับฉันโลกนี้มันมีค่าอะไรงั้นเหรอ?อีกอย่าง ถ้ารอเทพอ้านฟื้นคืนชีพ เขาจะต้องยอมอ่อนต่อฉัน แล้วเมื่อนั้นโลกทั้งใบก็จะเป็นของฉันแน่นอน”
มองออก ว่านัยเหลียงนั้นไม่ได้ใส่ใจเทพอ้านเลยด้วยซ้ำ หลี่ฝางมองความทะเยอทะยานของเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
“เหอะ คิดไม่ถึงเลยว่าความทะเยอทะยานของคุณมันจะมากขนาดนี้ โลกทั้งใบจะเป็นของคุณงั้นเหรอ?คุณอย่าดูถูกเทพอ้านมากเกินไป?คุณเอาความมั่นใจมาพูดแบบนี้ได้อย่างไร เทพอ้านจะยอมสยบต่อคุณงั้นเหรอ?”
หลี่ฝางกับเทพอ้านใช้ร่างเดียวกันมาช่วงหนึ่งแล้ว เทพอ้านเป็นคนอย่างไรนั้นเขาเข้าใจมากที่สุดแล้วล่ะ
เทพอ้านนั้นไม่ใช่คนที่จะยอมอยู่ใต้เท้าใคร แล้วมาฟังคำสั่งของเขาหรอก
เมื่อได้ยินดังนั้น นัยเหลียงก็เผยรอยยิ้มอย่างมั่นใจออกมา “ในเมื่อฉันมีทางที่จะทำให้เขาคืนชีพจากความตายอีกครั้ง ก็ต้องมีวิธีที่จะทำให้เขาตายได้อีกครั้งเหมือนกัน เพียงแค่เขาไม่อยากตาย ก็ต้องฟังสิ่งที่ฉันพูด”
หลังจากที่ได้ยินคำนี้ ใจของหลี่ฝางก็ตกใจไปอยู่ที่ตาตุ่ม นัยเหลียงนี่เตรียมพร้อมทุกอย่างเอาไว้แล้วจริงๆ ดูเหมือนครั้งนี้ตัวเองต้องเย็นลงแล้วล่ะ
หลี่ฝางมองไปรอบๆ อย่างไม่ส่งเสียงอะไร ก็พบว่าความระแวดระวังนั้นไม่ได้หนักหนาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เลยเตรียมจะส่งสายตาให้พวกราฟาเอล เพื่อให้พวกเขาเข้าคุมก่อน
นัยเหลียงมองแผนในหัวของหลี่ฝางออกจากสายตา ก่อนจะยิ้มพลางปรบมือ เพียงไม่นานชายเหล่านั้นก็พาตัวฉินวี่เฟยกับหยางฉงออกมาจากด้านใน
“พี่หลี่ฝาง!ช่วยฉันด้วย!”
“หลี่ฝาง!”
ฉินวี่เฟยกับหยางฉงในตอนนี้ถูกมัดมือเอาไว้ด้านหลัง หลังจากที่เห็นเงาของหลี่ฝางแล้ว ก็พยายามดิ้นรน
หลี่ฝางเห็นพวกเธอทั้งสองก็ใจเย็นต่อไปไม่ไหว เลยก้าวเดินเพื่อจะเข้าไปช่วยฉินวี่เฟยกับหยางฉง
แต่ว่าเมื่อเดินเข้าไปก้าวหนึ่ง ก็มีมีดคมกริบสองเล่มมาขวางเอาไว้ที่คอของฉินวี่เฟยกับหยางฉง นัยเหลียงจึงมองหลี่ฝางด้วยแววตานึกสนุก พลางข่มขู่
“หลี่ฝาง ถ้าคิดจะทำอะไรบ้าๆ ละก็ ผู้หญิงทั้งสองคนนี้ได้หัวหลุดออกจากบ่าแน่ๆ”
“นัยเหลียง พวกเขาเป็นแค่หญิงธรรมดาๆ เท่านั้นเอง ทำไมคุณต้องลากพวกเธอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย?”
เมื่อเห็นสถานการณ์ดังนั้น หลี่ฝางยืนนิ่งอยู่กับที่ โดยที่ไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย เขาไม่กล้าล้อเล่นกับชีวิตของฉินวี่เฟยกับหยางฉง ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาทั้งสองล่ะก็ หลี่ฝางจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ
ถ้าเกิดเป็นคนอื่น บางทีอาจจะไม่ต้องทำเรื่องที่น่าขายขี้หน้าขนาดนั้นก็ได้ แต่นัยเหลียงกลับเป็นคนที่กล้าทำอะไรด้วยวิธีแย่ๆ ได้ เขารู้ว่าฉินวี่เฟยกับหยางฉงนั้นเป็นจุดอ่อนของหลี่ฝาง เลยให้คนไปจับตัวของพวกเธอที่เมืองตงไห่มา
“เพราะพวกเธอเป็นจุดอ่อนของคุณไงล่ะ” นัยเหลียงยื่นมือออกมาจับแก้มของฉินวี่เฟย พลางยิ้มขึ้น “ถ้าไม่ใช่พวกเธอ คุณจะยอมเชื่อฟังฉันขนาดนี้ได้อย่างไร?”
“แกนี่มันสารเลว!” ไขจี๋เออที่อยู่ข้างๆ นั้นทนฟังต่อไปไม่ไหว เลยชี้ไปที่หน้าของนัยเหลียงพลางด่าขึ้นมาอย่างจริงจัง
ไขจี๋เออคิดว่าตัวเองนั้นแทบจะระเบิดออก พวกเขาทั้งสองนั้นเคยเคารพนัยเหลียงเป็นอย่างมาก คิดว่าเขาเป็นฮีโร่ที่น่าเคารพนับถือเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งที่นัยเหลียงพูดในวันนี้ กลับทำให้ฮีโร่ในใจที่ไขจี๋เออมองนั้นเปลี่ยนไปทันตา
“สารเลวงั้นเหรอ?” เมื่อเห็นไขจี๋เออด่าตัวเอง สีหน้าของนัยเหลียงเลยเปลี่ยนไป จากนั้นก็เห็นแขนเสื้อของเขาขยับ ก่อนจะมีเข็มสองเล่มกระเด็นออกมาฉับพลัน
เข็มเงินนั้นมันรวดเร็วจนน่าตกใจ แม้ไขจี๋เออจะเห็นแล้ว แต่ตัวกลับตอบรับอะไรไม่ได้ เลยได้แต่ยืนมองเข็มเงินนั้นแล่นเข้าสู่หัวใจของเขา
“ระวัง!” หลี่ฝางนั้นเมื่อเห็นสถานการณ์ดังนั้นก็รีบดึงไขจี๋เออเอาไว้ จากนั้นก็ใช้อีกมือดึงมีดสั้นออกมา ก่อนจะปัดเข็มเงินสองเล่มนั้นออกไป
เข็มเงินที่ถูกปัดออกไปนั้นพุ่งแทงไปที่แขนของนัยเหลียงอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นก็มีเสียงดังระเบิดออก นั่นคือแขนของคนคนนั้นถูกระเบิดออกทันที
เสียงร้องเสียดหูพวกหลี่ฝางเป็นอย่างมาก จากนั้นก็มองคนที่เจ็บปวดร้องโอดโอยอยู่ที่พื้น หลี่ฝางเลยขมวดคิ้วแน่น
จากนั้นก็มีการระเบิดเล็กๆ ออกมา