NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1349 การเปลี่ยนแปลง
หลี่ต๋าคางมองท่าทีบ้าคลั่งของเขาพลางขมวดคิ้ว อยากจะจัดการนัยเหลียงให้ได้เสียก่อน แต่เขาเพิ่งจะขยับ เทพอ้านก็วาร์ปเข้ามาอยู่ข้างกายเขาแล้ว พลางหยุดการโจมตีของหลี่ต๋าคาง
“คู่แข่งของแกก็คือฉัน”
เทพอ้านมองหลี่ต๋าคางพลางยิ้มอย่างเหยียดหยาม จากนั้นจึงใช้มือม้วนพลังแห่งการเขมือบกลืนพลางจู่โจมเข้าไปในหน้าอกของเขา
ดีที่หลี่ต๋าคางมีเกราะป้องกันสีทองป้องกันเอาไว้ ถึงแม้คนจะถูกทำร้ายจนกระเด็น แต่กลับไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากพลังแห่งการเขมือบกลืนเลย
หลี่ต๋าคางที่ล้มอยู่ที่พื้นเช็ดมุมปากที่แตก ก่อนจะถุยเลือดออกมาอย่างเต็มแรง
เขาเป็นเทพมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกคนทำให้มาถึงจุดนี้
หลังจากที่หายใจเข้าลึกๆ แล้ว หลี่ต๋าคางใช้ผนึกที่อยู่บนตัวคลายออกชั้นหนึ่งอีกครั้ง จนเกิดพละกำลังเก้าส่วนขึ้นมา
ประตูเทพบนหัวของเขานั้นแทบจะถูกเปิดออกทั้งหมด หลังคาบนหัวเองก็ถูกบดขยี้จนพังทลายเพราะได้รับผลกระทบจากแรงที่แข็งแกร่งของเขาด้วย
ฟ้าที่ดูสดใสในตอนแรกนั้นจู่ๆ ก็มีม่านเมฆสีดำเข้าปกคลุมในทันที ก่อนจะมีลมพัดมาเป็นระยะๆ ฉินวี่เฟยและคนอื่นๆ ที่เพิ่งจะเข้าไปในคฤหาสน์เก่าเมื่อได้เห็นก็งงเป็นไก่ตาแตก ก่อนจะยืนอึ้งอยู่กับที่
“นี่ก็คือเทพเหรอ?แข็งแกร่งจัง” ราฟาเอลมองหลี่ต๋าคางที่ลอยอยู่กลางอากาศ พลางพูดคนเดียวด้วยความอึ้งค้างไป
ตอนที่พวกเขากำลังตกใจกับพละกำลังของหลี่ต๋าคางอยู่นั้น เสี่ยวผิงอันที่อยู่ในอ้อมกอดของหยางฉงจู่ๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมา
เสียงในลำคอนั้นทำให้ทุกคนกลับสู่โลกแห่งความจริง หยางฉงเลยรีบกล่อม
“เด็กน้อย ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะๆ แม่อยู่นี่ไง เดี๋ยวแม่จะพาไปโรงพยาบาลเองนะ”
หลายๆ คนที่มีสติกลับมาแล้วก็ไม่ได้สนใจสถานการณ์ของทางหลี่ต๋าคางอีกแล้ว แต่รีบไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
ฉากใหญ่อลังการแบบนี้มันดึงดูดความสนใจของคนอื่นในทันที มีคนที่ล้อมอยู่ไม่น้อยเลยที่หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายฉากที่ไม่น่าเชื่อนี้
“ให้ตายเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?ถ่ายหนังหรือไง?ทำเอฟเฟกต์ได้ดีเกินไปแล้วนะเนี่ย!”
“ปีศาจ!ทุกคนรีบหนีไปเถอะ!ถ้าไม่วิ่งเดี๋ยวจะไม่ทันแล้วนะ!”
“เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง?นี่มันยุคไหนแล้ว พวกคุณยังเชื่อเรื่องปีศาจอะไรอีกเหรอ ฉันว่าน่าจะเป็นพวกสมองพิการที่ไหนที่ทำออกมาเพื่อดูดความสนใจมากกว่า”
……
ทุกคนต่างวิจารณ์หลี่ต๋าคางกับเทพอ้านไปต่างๆ นานา ทั้งหมดต่างเดาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ท่านผู้อาวุโสในตอนนี้กำลังนั่งเปิดคลิปการประชุมอยู่ที่ห้องทำงานของต้าเซี่ยหลงเช่ว
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!ฉันให้แกดึงหลี่ต๋าคางเอาไว้ไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงได้ไปที่ญี่ปุ่นได้ล่ะ!”
หน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นกำลังมีคนใส่สูทคนหนึ่ง เป็นชายวัยกลางคนใส่สูท เขาในตอนนี้กำลังโกรธเลยดูร้ายกาจอย่างเห็นได้ชัด บนหน้าผากก็มีเส้นเลือดปูด พลางชี้ไปที่คลิปที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตแล้วด่าออกมา
เมื่อเทียบกับความขี้โมโหของเขานั้น ท่านผู้อาวุโสดูใจเย็นกว่ามาก เขานั่งลงบนเก้าอี้อย่างไร้อารมณ์ พลางมองชายวัยกลางคนบนหน้าจอพูด
“ฉันขวางเอาไว้แล้ว แต่ก็ขวางเอาไว้ไม่อยู่”
“ขวางไม่ได้งั้นเหรอไอ้งั่ง!กูเห็นมึงไม่อยากจะขวางเลยด้วยซ้ำ!แกอย่าลืมนะ ตอนนี้แกนั่งอยู่บนตำแหน่งนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะฉัน!แกเชื่อไหมว่ากูดึงมึงลงมาได้เดี๋ยวนี้เลย!”
“ขนาดหลี่ต๋าคางยังขวางไว้ไม่ได้ กูเลี้ยงคนไร้ประโยชน์มาเพื่ออะไรกัน?เลี้ยงหมายังรู้จักเฝ้าบ้าน คนไร้ประโยชน์อย่างพวกแกเอาแต่หาเรื่องวุ่นวายทำอะไรได้บ้าง?”
ชายวัยกลางคนนั้นไม่พอใจกับคำตอบของท่านผู้อาวุโสเป็นอย่างมาก เลยตบโต๊ะด้วยความโกรธ แถมยังขู่ท่านผู้อาวุโสอีกด้วย
เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของท่านผู้อาวุโสก็เปลี่ยนไป ในตาก็มีประกายความดูแคลน
“เหอะ อยากจะดึงเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันไม่มีความเห็นอะไร แต่ผลที่ตามมานั้นแกก็ต้องระวังด้วยนะ ต้าเซี่ยหลงเช่วนั้นฉันสร้างมาเองกับมือ แกคิดว่าคนด้านล่างจะฟังคำสั่งของแกงั้นเหรอ?”
“อีกอย่าง ถ้าแกคิดว่าลูกน้องในมือของฉันมันใช้ไม่ได้ งั้นคุณก็ไปโน้มน้าวหลี่ต๋าคางเองดีกว่า ฉันอยากจะเห็นว่าแกมีความอดทนมากแค่ไหน ที่จะขวางเขาเอาไว้ได้น่ะ”
คำพูดของท่านผู้อาวุโสนั้นทำให้ชายวัยกลางคนพูดอะไรไม่ออก เขาโกรธจนมีเสียงลมหายใจหนักหน่วงออกมาจากทางคอมพิวเตอร์
เมื่อมองมาที่ท่านผู้อาวุโสด้วยความร้ายกาจนั้น อารมณ์เหมือนพร้อมจะฆ่าได้เลยล่ะ
“ส่งเมี๋ยวชุ่ยคนนั้นมา ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าหลี่ต๋าคางจะไม่สนใจความเป็นความตายของเธอ!”
ชายวัยกลางคนหายใจเข้าอย่างแรง ก่อนจะกดความโกรธในใจของตัวเองเอาไว้ พลางสั่งท่านผู้อาวุโสเสียงเย็นชา
ในเวลาสิบกว่าปีที่ล่วงเลยไป พวกเขาใช้วิธีนี้ในการคุมรั้งหลี่ต๋าคางเอาไว้ แถมวิธีนี้เองก็ยังใช้ได้ผลเป็นอย่างมาก ปกติเพียงแค่ควบคุมเมี๋ยวชุ่ยกับหลี่ฝางได้ หลี่ต๋าคางก็ไม่มีทางแล้วล่ะ
แต่ในครั้งนี้ ชายวัยกลางคนเองก็เข้าใจไปเสียอย่างเดิม ว่าหลี่ต๋าคางเองก็จะฟังการจัดการของตัวเอง
ท่านผู้อาวุโสหัวเราะเสียงเย็นชา จากนั้นก็มองชายวัยกลางคนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความดูแคลน
“คุณมั่นใจเหรอว่าผลของมันจะไม่สะท้อนกลับน่ะ?แถมคลิปนั้นคุณเองก็เห็นแล้ว ว่าตอนนี้กำลังของหลี่ฝางนั้นเรียกได้ว่าไม่มีใครเทียม ถ้าคุณไม่ให้หลี่ต๋าคางออกโรงเอง โลกคงจะพังพินาศ”
ชายวัยกลางคนได้ฟังคำของท่านผู้อาวุโสแล้วก็อึ้งไปสักพัก เขาแทบจะไม่ได้คิดถึงปัญหาในด้านนี้เลย
เขามองคลิปท่อนนั้นบนอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง ในแววตาก็มีความไม่พอใจออกมา
“หรือจะยอมให้หลี่ต๋าคางก่อความวุ่นวายแบบนี้ต่อไปงั้นเหรอ?เขาเป็นไพ่ใบเด็ดในมือพวกเราเลยนะ!เพราะมีเขา นักรบคนอื่นๆ เลยไม่กล้าทำอะไรโดยไม่คิด ถ้าเขาปลดผนึกบนตัวแล้ว งั้นคนในแดนอื่นก็จะรู้ถึงการมีอยู่ของเขาแล้วสิ”
“ตอนนี้พวกเรายังไม่มีเขาไม่ได้ เมื่อใดที่หลี่ต๋าคางถูกคนของแดนอื่นพาไป มันจะต้องเกิดการสั่นสะเทือนเป็นอย่างมากแน่ๆ พวกเรารับผลที่จะเกิดขึ้นไม่ไหวหรอก”
เหตุผลนี้ไม่ใช่ว่าท่านผู้อาวุโสจะไม่เข้าใจ ความสำคัญของหลี่ต๋าคางนั้นเขาเข้าใจดีกว่าใคร หลี่ต๋าคางไม่ได้เป็นตัวแทนของตระกูลหลี่เท่านั้น แต่ยังเป็นภาพลักษณ์ของพละกำลังของนักรบในจีนด้วย
เพราะการมีอยู่ของหลี่ต๋าคางพอดี หลายปีมานี้ของเหล่านักรบของประเทศจีนเลยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ถ้าเสียหลี่ต๋าคางไปในตอนนี้ งั้นสำหรับนักรบในประเทศจีนนั้น ก็จะเสียคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งไป
แต่ว่า ท่านผู้อาวุโสเองก็เข้าใจ ยุคนี้มันจะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเหล่านักรบของจีนอยากจะแข็งแกร่งขึ้นมาจริงๆ แล้วเป็นที่หนึ่งของโลก จะใช้กำลังของคนคนเดียวไม่ได้
ต้นไม้ต้นเดียวจะเป็นป่าไม่ได้ และดอกไม้ในห้องก็ไม่มีทางได้ประสบกับสายฝน ถ้านักรบของประเทศจีนยังใช้ชีวิตอยู่ในห้องที่ต้าเซี่ยหลงเช่วกับหลี่ต๋าคางสร้างขึ้น พวกเขาเองก็ไม่มีทางได้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้โดยตนเอง
“ยุคมันเปลี่ยนไปแล้ว พวกเราจะพึ่งกำลังของหลี่ต๋าคางคนเดียวไม่ได้ ทำไมคุณมั่นใจขนาดนี้ หลังจากที่เสียหลี่ต๋าคางไป นักรบของประเทศจีนจะอยู่ในจุดตกต่ำงั้นเหรอ?พวกเราเองก็ควรลองปล่อยมือบ้างแล้วล่ะ”
ท่านผู้อาวุโสมองชายวัยกลางคนพลางพูดโน้มน้าวด้วยความมีนัย
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น หน้าของชายวัยกลางคนก็เกิดความลังเลเกิดขึ้น เขามองท่านผู้อาวุโสด้วยความสับสน ผ่านไปนานถึงจะถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ
“เฮ้อ หรือบางทีนี่อาจจะเป็นชะตาฟ้า อีกไม่นานก็จะพลิกผันแล้ว”
หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ ชายวัยกลางคนก็ตัดสายทางวิดีโอของท่านผู้อาวุโส ส่วนใบหน้าของท่านผู้อาวุโสเองก็มีแววตาหนักใจเผยให้เห็นออกมา
“ท่านผู้อาวุโส มั่นใจเหรอว่าพวกเราจะไม่ต้องไปช่วยเหรอ?” เมื่อเห็นท่านผู้อาวุโสคุยวิดีโอคอลเสร็จแล้ว หลิวฮุยที่อยู่ข้างๆ ถึงได้ถามขึ้นอย่างระมัดระวัง