NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1350 การต่อสู้ระหว่างเทพผู้ยิ่งใหญ่
หลังจากที่หลี่ต๋าคางจากไปแล้ว หลิวฮุยก็จะจัดคนไปช่วย แต่ว่าภายใต้คำสั่งนั้นก็ถูกท่านผู้อาวุโสหยุดเอาไว้
เรื่องในวันนี้มันเปลี่ยนมาถึงจุดนี้แล้ว ในใจของหลิวฮุยก็แอบรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
“พวกคุณไปแล้วช่วยอะไรได้เหรอ?สงครามนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาอย่างพวกเราจะเข้าไปยุ่งด้วยได้แล้วล่ะ สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ ก็คือการรอดูผลที่จะเกิดขึ้นแล้วล่ะ”
ท่านผู้อาวุโสเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยอ่อน พลางพูดด้วยความไร้เรี่ยวแรง
เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวฮุยเองก็ปิดปากลง ท่านผู้อาวุโสพูดไม่ผิดเลย การต่อสู้แบบนี้ถ้าไม่ใช่คนมากฝีมือที่อยู่เหนือกว่าแดนเทพ คนอื่นๆ เกรงว่าจะไม่มีใครอยู่ใกล้เลยด้วยซ้ำ
“โหลๆ พละกำลังเก้าส่วนงั้นเหรอ?หลี่ต๋าคาง คุณดูถูกฉันเกินไปหรือเปล่า?” เทพอ้านมองหลี่ต๋าคางที่อยู่บนสุด ก่อนจะถามพลางยิ้มอย่างร้ายกาจ
ถึงแม้เขาจะรู้ว่านัยเหลียงฉีดอะไรเข้าสู่ร่างกายของตัวเอง แต่ยาปรุงนั้นมันเป็นของดีจริงๆ ไม่เพียงแค่ทำให้รังสีแห่งนภาที่เซียนผู้ยิ่งใหญ่ใส่เข้าไปในร่างกายของหลี่ฝางแตกออก แต่ยังทำให้พลังแห่งการเขมือบกลืนนั้นเพิ่งมากขึ้นเกือบครึ่งเลยล่ะ
ถึงแม้กำลังในร่างกายของหลี่ฝางจะยังห่างจากช่วงเวลารุ่งโรจน์ของตัวเอง พละกำลังแบบนี้บนโลกมันก็เพียงพอที่จะถูกเรียกว่าราชาแล้วล่ะ
ในใจของเทพอ้านตอนนี้โอ่อ่าเป็นอย่างมาก โดยที่คนอื่นไม่ได้อยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิดเดียว
หลี่ต๋าคางมีแววตานิ่งไป ก่อนจะปล่อยก๊าซออกมาทางปาก แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา จากนั้นกลับออกแรงที่เท้า ก่อนจะตรงเข้าไปหาเทพอ้านทันที
พละกำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้งร่างกายของเขาก็เฉียบแหลมและรวดเร็วมากขึ้น แถมการออกหมัดก็รุนแรงกว่าแต่ก่อนไม่น้อยเลย
เทพอ้านที่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาในตอนแรกนั้นก็มีสีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไป เลยป้องกันการโจมตีของหลี่ต๋าคาง และโจมตีกลับด้วย
ยิ่งเขาสู้กับหลี่ต๋าคางก็ยิ่งตกใจมากขึ้น แม้หลี่ต๋าคางจะไม่ได้เปิดประตูเทพออกทั้งหมด แต่พละกำลังกลับห่างกันเป็นอย่างมากแล้ว
เกราะป้องกันสีทองในตอนแรกนั้นกลายเป็นเสื้อเกราะตัวหนึ่งแล้ว มันห่อหุ้มตัวของหลี่ต๋าคางเอาไว้ พลังแห่งการเขมือบกลืนของเทพอ้านนั้นแทบจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย
เมื่อเทพอ้านรู้ตัวว่าดูถูกคู่ต่อสู้เกินไปก็ค่อยๆ มีความอาฆาตในแววตา ก่อนจะเปล่งเสียงออกมา พลางเอาพละกำลังของตัวเองปล่อยออกมาอย่างเต็มกำลัง
พวกเขาทั้งสองสู้กันอย่างรวดเร็วจนเหมือนจะไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว ภายในเวลาไม่กี่วินาทีแต่กลับสู้กันไปราวๆ ร้อยกระบวนท่าแล้ว
ชั้นบรรยากาศบนฟ้านั้นมันแปลกมากกว่าเมื่อครู่ บนหัวของพวกเขานั้นมีเมฆฝนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา สายฟ้าสีทองนั้นฟาดผ่านลงมา จากนั้นก็มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นทั้งใกล้และไกล
คนที่ล้อมดูอยู่รอบๆ เพิ่งจะเห็นถึงความผิดปกติ ก่อนจะรีบเก็บโทรศัพท์ พลางวิ่งหนีแยกย้ายกันไป
เทพอ้านที่ปล่อยพลังถึงขีดสุดปล่อยหมัดต่อยไปที่ตัวของหลี่ต๋าคาง เสื้อเกราะที่แข็งแกร่งไร้เทียมทางนั้นก็เกิดรอยร้าวเล็กๆ หลี่ต๋าคางที่รับมือกับเขาได้นั้นกลับค่อยๆ กลับเสียเปรียบแล้ว
“คนที่ใส่เสื้อเกราะสีทองนั้นเหมือนจะไม่ไหวแล้ว คุณดูสิเขาถูกต่อยจนถอยถดไปด้านหลัง”
“ผู้กล้าหาญสีทอง ต่อยเลยสิ!ล้มปีศาจสีดำให้ได้เลย!”
“อั้ยหยา!ผู้กล้าหาญสีทองคุณสู้กับสิ!ใช้หมัดต่อยปีศาจขนดำไปเลย!”
“ปีศาจสีดำสู้ๆ !ล้มผู้กล้าหาญสีทองให้ได้เลย!”
……
บางคนที่ไม่กลัวตายนั้นก็ส่วนเสียงให้หลี่ต๋าคางกับเทพอ้านสู้กัน แถมยังให้ชื่อประหลาดๆ กับพวกเขาด้วย
แต่ในตอนที่หลี่ต๋าคางอยู่ในระหว่างตอนที่ยากต่อการรับมือนั้น ก็มีเงาหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังเขาในตอนนี้ จากนั้นก็ต่อยหลังของเขาไปเต็มๆ
เขาถูกต่อยอย่างไม่ได้ระวังตัวจนเซไปสองก้าว เสื้อเกราะสีทองที่อยู่บนตัวนั้นก็แตกออกอย่างรุนแรง
เขาพยายามทนต่อความเจ็บปวด หลี่ต๋าคางเลยใช้หลังมือตบไปที่คนที่เข้ามาแทรก
ก็เห็นเพียงแค่ร่างกายของนัยเหลียงนั้นร่างลงบนพื้นราวกับใบไม้ที่ปลิดปลิว จากนั้นก็มีเลือดไหลออกมาจากปากเขากองโต
แม้ว่าจะถูกหลี่ต๋าคางทำร้ายจนเป็นแบบนี้ แต่มุมปากของนัยเหลียงก็ยังเลิกขึ้น พลางมองเทพอ้านราวกับว่ากำลังชื่นชมผลงานอย่างภาคภูมิใจ
“คนนี้ประสาทหรือเปล่า?อยู่ๆ เข้าไปแทรกทำไม!”
“ให้ตาย!แม่งเลวจริงๆ !คนแบบนี้ต้องรีบตายไปเสียที!”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?หรือว่าถึงวันสิ้นแล้ว?คนพวกนี้เป็นอะไรกันแน่?”
“ให้ตายเถอะ!คนพวกนี้ต้องเป็นปีศาจแน่ๆ !พวกเขาจะมาพังโลกแล้ว!รีบวิ่งเถอะ!”
……
การเข้าแทรกแซงของนัยเหลียงนั้น ยิ่งทำให้คนตื่นตระหนกเข้าไป พวกคนที่ไม่กลัวตาย และคนที่ชอบความสนุกสนานต่างชี้ไปทางนัยเหลียง แล้วบอกว่าเขาไม่ควรเข้ามายุ่งกับการต่อสู้ของหลี่ต๋าคางกับเทพอ้าน
แต่มีคนมากมายที่คิดว่าวันสิ้นโลกมาถึงแล้ว และคิดไปแล้วว่าพวกหลี่ต๋าคางเป็นปีศาจ
“เหอะๆ ……หลี่ต๋าคาง ฉันว่าคนอย่างคุณเนี่ย เอาอย่างไรดี คิดจะมาร่วมกับปกครองโลกนี้กับฉันไหม?”
เมื่อเห็นมุมปากของหลี่ต๋าคางที่มีเลือดไหลออกมา เทพอ้านก็พูดด้วยความมั่นใจ
ผ่านเวลามาเป็นพันปี พวกลูกน้องของเทพอ้านที่มีนั้นก็หายไปหมดแล้ว การที่เขาอยากปกครองโลก อยากทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จนั้น เลยต้องรับผู้แข็งแกร่งเข้ามา
ส่วนพละกำลังของหลี่ต๋าคางนั้นไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าสามารถเอาเขามาไว้กับตัวได้ การปกครองโลกนั้นก็อีกไม่นานเกินคอยแล้วล่ะ
“ถุย คำพูดแบบนี้ออกมาจากปากของลูกชายฉัน มันกวนบาทาจริงๆ เลย” หลี่ต๋าคางถุยน้ำลาย เพื่อเอาเลือดในปากออกมา ในตาก็มีความดูแคลน “ในฐานะที่เป็นพ่อ มีหน้าที่ที่ต้องสอนลูกชายของฉันให้เดินไปในทางที่ถูก วันนี้ พ่อต้องสอนแกสักหน่อยแล้ว!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ในใจของเทพอ้านก็รู้สึกได้ถึงความไม่ดีแล้ว พลางอยากจะหยุดหลี่ต๋าคาง แต่กลับไม่ทันแล้ว
จึงเห็นเพียงหลี่ต๋าคางอ้าแขนออกพลางตะโกนขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นประตูเทพบนหัวเขาก็ถูกเปิดออกทั้งหมด ก่อนจะมีแสงสีทองส่องลงมา จนมาคลุมหลี่ต๋าคางเอาไว้ทั้งหมด
เทพอ้านเห็นสถานการณ์ดังนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ต๋าคางจะมาลบล้างผนึกบนตัวออก
ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่หลี่ต๋าคางปลดผนึกแล้ว เขาจะอยู่บนโลกนี้ต่อไปไม่ได้ เขาจะต้องลาจากจากเมี๋ยวชุ่ยกับหลี่ฝาง
หลายปีมานี้หลี่ต๋าคางแบกรับความทุกข์ทรมานของผนึกทุกวัน เพื่อให้ได้อยู่ข้างกายเมี๋ยวชุ่ยกับหลี่ฝาง
เทพอ้านคิดว่า ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางปลดผนึกออก
“หลี่ต๋าคาง คุณไม่อยากอยู่ข้างกายเมี๋ยวชุ่ยแล้วเหรอ?!” เทพอ้านมองหลี่ต๋าคางที่อาบไปด้วยแสงสีทอง หน้าดำคร่ำเครียด
หลังจากที่หลี่ต๋าคางปลดผนึกทั้งหมดแล้วออร่ารอบๆ ตัวก็เปลี่ยนไป สนามแม่เหล็กทั้งสี่ทิศก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น มันพัดลมยักษ์ขึ้นมา ทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีร้อยเมตรต่างถูกพังราบเป็นหน้ากลอง กลุ่มคนที่หนีไม่ทันก็ถูกลมนี้พัดขึ้นมาอยู่กลางอากาศ
เมฆฝนบนท้องฟ้าเหมือนถูกคนใช้ขวานเล่มยักษ์ผ่ากลางออก มันแยกไปถึงสองทาง ก่อนจะเกิดทางบนฟ้ากว้างกว่าร้อยเมตร
“ถ้าภรรยาของฉันอยู่ที่นี่ เธอเองก็คงจะชื่นชมที่ฉันทำแบบนี้” หลี่ต๋าคางมองเทพอ้านอย่างเย็นชา จากนั้นน้ำเสียงก็เปลี่ยนไป พลางใช้ท่าทีระหว่างพ่อลูกในการพูดต่อ “ลูกชาย ฉันรู้ว่าคุณยังไม่ได้หายไป สิ่งที่ฉันพูดในตอนนี้คุณต้องจำให้ดีนะ!”
“ภรรยาของฉันก็ต้องฝากให้คุณแล้วล่ะ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธเหมือนตอนเด็กๆ ละก็ ถึงฉันจะต้องโดนทัณฑ์จากฟ้าก็จะลงมาสั่งสอนคุณให้หนักเลย!อีกอย่าง วี่เฟยกับเสี่ยวฉงนั้นเป็นเด็กดี คุณจะต้องทำดีกับพวกเธอให้มาก อย่าทรยศหัวใจของพวกเธอจนต้องเจ็บปวด”
“นี่คือชะตาของพ่อ ฟ้าให้ฉันอยู่กับพวกคุณแม่ลูกนานหลายปีแบบนี้ก็ถือว่าใจกว้างมากแล้ว ได้เห็นคุณแต่งงานมีลูก ฉันเองก็พอใจเป็นอย่างมาก จากนี้ตำแหน่งเสาหลักก็ยกให้คุณเลยแล้วกัน อย่าทำให้ฉันต้องผิดหวังนะ”
หลังจากที่พูดคำที่มีนัยมากมายจบแล้ว หลี่ต๋าคางก็หายไปต่อหน้าต่อตาคนที่ล้อมรอบอยู่ คนที่มาดูความสนุกสนานนั้นถึงได้รู้ว่าสถานการณ์มันหนักหน่วงขนาดนี้ พลางทยอยวิ่งหนีไป