NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1353 ไวรัสเบบี้
หลังจากที่โดนราฟาเอลตบแล้ว แววตาของหลี่ฝางก็เป็นประกาย ถึงแม้จะไม่ได้มีสติครบถ้วนเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้บ้าเหมือนเมื่อครู่แล้ว
“พี่ใหญ่!คุณจะแหลกสลายไปด้วยไม่ได้นะ!พวกเราทุกคนต้องการคุณ!คุณคิดถึงน้าเมี๋ยวสิ คุณลุงหลี่ถูกพาไปแล้ว น้าเมี๋ยวเป็นคนที่เจ็บปวดที่สุด ถ้าเธอยังต้องเสียลูกชายอย่างคุณไปอีก คุณจะให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร?”
“แล้วยังมีพี่สะใภ้สองคนอีก พวกเธอเจอเรื่องอะไรมามากมาย หรือว่าคุณทนทิ้งพวกเธอไปได้?คุณชายน้อยเขายังเด็กขนาดนั้น ถ้าคุณไม่อยู่แล้ว เขาจะทำอย่างไร?”
เมื่อเห็นว่าหลี่ฝางมีท่าทีตอบกลับ ราฟาเอลเลยรีบพูดตอนที่ยังได้ผลอยู่ เลยพูดออกไปมากมาย พลางเอาแต่พูดถึงเมี๋ยวชุ่ย พวกฉินวี่เฟยมากระตุ้นหลี่ฝาง
เป็นไปตามคาด หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของเขา แววตาของหลี่ฝางก็เหมือนจะกลับมาใสมากขึ้น
หลี่ฝางกะพริบตาปริบๆ พลางเช็ดน้ำตา แล้วมองราฟาเอลพลางยิ้มขึ้นด้วยความขมขื่น
“ราฟาเอล ขอบคุณคุณนะ ฉันน่ะไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันไม่มีทางพูดอะไรโง่ๆ อีกแล้ว พ่อของฉันยังไม่ตายหนิ เขาก็แค่อยู่อีกโลกเท่านั้นเอง จะต้องมีสักวันที่ฉันจะได้พาเขากลับมา!”
หลี่ฝางหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ยืนขึ้นด้วยการพยุงจากราฟาเอล แววตานั้นก็แน่วแน่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ใช่!พี่ใหญ่คุณควรจะคิดแบบนี้!พวกเราจะต้องพาคุณลุงหลี่กลับมาได้แน่นอน!”
เมื่อเห็นหลี่ฝางกลับมามีสติอีกครั้ง ราฟาเอลถึงได้วางใจลง ถ้าหลี่ฝางมีอะไรที่คาดไม่ถึงอีก นั่นมันยิ่งทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปมากกว่าเดิม
“พวกวี่เฟยล่ะ?เป็นอย่างไรบ้าง?หาได้หรือยังว่านัยเหลียงฉีดสารอะไรเข้าไปในตัวของผิงอัน?”
หลี่ฝางที่มีสติกลับมาแล้วก็คิดถึงพวกฉินวี่เฟยกับหยางฉง ก่อนจะจับมือของราฟาเอลพลางถามแล้วขมวดคิ้วแน่น
แต่ว่าหลังจากที่ราฟาเอลพาพวกฉินวี่เฟยไปส่งที่โรงพยาบาล ก็รีบกลับมา เขาเองก็ไม่รู้ว่าทางโรงพยาบาลเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้
“พี่ใหญ่ วางใจเถอะ คุณชายน้อยโชคดี เขาจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน”
ท่าทางของเขาในตอนนี้ ราฟาเอลทำได้เพียงคิดไปในทางที่ดีเท่านั้น
“ให้ตายเถอะ!น่าเสียดายที่ไอ้เลวนั่นมันตายแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะบดกายมันให้ละเอียดเลย!”
เมื่อคิดได้ว่าลูกชายของตัวเองเจอเรื่องแน่ๆ มากมาย หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกคันยุบยิบ พลางมองนัยเหลียงที่กลายเป็นศพแห้งกรังแล้ว แววตาก็ลุกเป็นไฟ ก่อนจะยกขาขึ้นมาเตะไปหลายที จากนั้นก็รู้สึกสบายอารมณ์ขึ้น
คนมันตายไปก็ฟื้นไม่ได้แล้ว พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ หลังจากที่หลี่ฝางค้นพบแล้ว ก็รีบตามราฟาเอลไปที่โรงพยาบาล
แต่สถานการณ์ในโรงพยาบาลนั้นกลับไม่ดีเท่าไหร่ ผิงอันมีปฏิกิริยาที่ไม่ดีระหว่างทางมาที่โรงพยาบาล ผิวขาวนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีม่วง หลับตา ก่อนจะหายใจเร็วมาก
ไม่ว่าพวกหยางฉงจะเรียกอย่างไร เสี่ยวผิงอันก็ไม่ตอบสนอง เมื่อถึงโรงพยาบาลก็ส่งเข้าไปในห้องรักษาพยาบาล จนตอนนี้เองก็ยังไม่มีข่าวอะไรออกมา
“พี่วี่เฟย ฉันกลัวจังเลย!คุณว่า ผิงอัน เขาจะ……”
หยางฉงซบอกของฉินวี่เฟยอย่างไร้เรี่ยวแรง เสียงก็สั่นมาก คำพูดต่อจากนั้นเธอพูดไม่ออก เพราะกลัวว่าคำพูดตัวเองจะเป็นจริง
ฉินวี่เฟยมองหยางฉงที่น้ำตาอาบหน้า ในใจก็ร้อนรนและรู้สึกไร้ทางช่วยเหลือเหมือนกัน ถึงแม้เสี่ยวผิงอันจะไม่ใช่ลูกของเธอ แต่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ก็เหมือนลูกแท้ๆ อยู่ดี เพราะตั้งแต่หยางฉงท้องจนคลอดนั้น ฉินวี่เฟยก็เป็นคนดูแลมาตลอด
เธอไม่ได้รักผิงอันน้อยไปกว่าหยางฉงเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผิงอันล่ะก็ อย่าว่าแต่หยางฉงเลย ฉินวี่เฟยเองก็คงไม่มีทางรับได้เหมือนกัน
“อย่าพูดอะไรบ้าๆ เลย ผิงอันจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน!ผิงอันของพวกเราผ่านอะไรมามากมาย เพียงแค่เรื่องเล็กๆ นั้นจะต้องผ่านไปได้แน่นอน!”
ฉินวี่เฟยจ้องประตูของห้องรักษาพยาบาลไม่ห่าง จากนั้นก็รู้สึกเหมือนจุกที่อกอย่างไรอย่างนั้น
“วี่เฟย เสี่ยวฉง!” ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางกับราฟาเอลเองก็ตามมาที่โรงพยาบาล เมื่อหลี่ฝางเห็นประตูของห้องรักษาพยาบาลมีผู้หญิงสองคนอยู่ ก็รีบวิ่งไปหาพวกเธอก่อนจะโอบไว้ในอ้อมกอด
“หลี่ฝาง!” ฉินวี่เฟยที่กลั้นน้ำตาอยู่ในตอนแรกเมื่อได้เห็นหลี่ฝาง น้ำตาก็ไหลออกมาเหมือนสายฝน ก่อนจะซบไหล่ของเขาพลางร้องไห้อย่าไร้เสียง
ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อหลี่ฝางเปลี่ยนเป็นเทพอ้านแล้วเธอกลัวขนาดแค่ไหน แต่ว่าเธอก็ยังมีสติพอที่จะบอกให้เข้มแข็งเข้าไว้ แล้วก็ต้องใจเย็น อย่าทำให้หลี่ฝางต้องลำบาก
“พี่หลี่ฝาง!ทำอย่างไรดีล่ะ!ลูกเขา เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ?” หยางฉงเองก็รู้สึกเหมือนได้เจอที่พึ่งทางใจแล้ว เลยกอดเองของหลี่ฝางเอาไว้แน่น พลางถามด้วยความตกใจกลัวอย่างมาก
หลี่ฝางมองพวกเธอทั้งสอง ในใจก็สงสารจับใจเป็นอย่างมาก เลยโอบมือของฉินวี่เฟยกับหยางฉงแน่นขึ้น จากนั้นก็เงยหน้ามองห้องรักษาพยาบาล พลางพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“วางใจเถอะ ผิงอันต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน!”
หลังจากที่ได้คำตอบที่แน่นอนจากหลี่ฝางแล้ว อารมณ์ของหญิงทั้งสองก็ค่อยๆ นิ่งขึ้นมาบ้าง
หลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง พยาบาลที่ใส่ชุดปลอดเชื้อก็เดินออกมาจากห้องรักษาพยาบาล หน้าตาของพยาบาลคนนี้ทีท่าทีกังวล พลางมองพวกหลี่ฝางแล้วขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้น
“ใครเป็นญาติคนไข้?รบกวนมาที่นี่สักหน่อย”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของพยาบาลคนนี้ พวกหลี่ฝางก็รีบวิ่งมาอย่างร้อนรน
“ฉันคือ ฉันคือ ฉันคือแม่ของลูก พยาบาล ลูกฉันตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
หยางฉงปรี่เข้าไปหาพยาบาลเป็นคนแรก จากนั้นก็จับแขนของพยาบาลพลางถามด้วยความร้อนใจ
“ฉันเป็นพ่อของเด็ก คุณพยาบาล ถามหน่อยว่าลูกของฉันเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้?”
หลี่ฝางประคองหยางฉงข้างๆ พลางกลัวว่าเธอเดินเร็วเกินไปแล้วจะล้มลง หลังจากที่ทำให้เธอยืนมั่นแล้ว ถึงได้เงยหน้าขึ้นพูด
พยาบาลมองหลี่ฝางกับหยางฉงก่อน จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ พลางพูดด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด
“สถานการณ์ของเด็กน้อยนั้นไม่สู้ดีนัก ตอนนี้มีอาการไตไม่ทำงานตามปกติ พวกเราพบว่าในร่างกายเขามีเชื้อโรคมากกว่าร้อยอย่าง ไม่มีทางทำอะไรได้เลย ดังนั้นพวกคุณก็คิดถึงสถานการณ์ที่แย่ที่สุดดีกว่านะ”
ในฐานะที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ อันที่จริงพยาบาลนั้นไม่อยากพูดแบบนี้กับญาติคนไข้ พวกเขาหวังว่าคนไข้ทุกคนที่มาที่นี่ จะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน
แต่ว่าสถานการณ์ในครั้งนี้มันแย่มาก เขาอยู่ในโรงพยาบาลมาเกือบยี่สิบปี ไม่เคยเห็นร่างกายของคนไข้คนไหนมีเชื้อมากมายในเวลาเดียวกันมากขนาดนี้เลย แถมยังเป็นเด็กน้อยน่ารักคนนี้ด้วย
นี่มันบ้าไปจริงๆ ใครจะใจร้ายทำกับเด็กได้ลงคอ?
“ไม่!ไม่เอา!” หลังจากที่ได้ยินคำพูดของพยาบาล ก็ร้องออกมาด้วยความทรมานจากนั้นจึงล้มลงในอ้อมกอดของฉินวี่เฟย
เธอท้องผิงอันถึง10เดือน ฉีดบำรุงรักษาเด็กมากมายนับไม่ถ้วน กินยาบำรุงมากมายถึงจะได้คลอดเด็กคนนี้ออกมา!
ตอนแรกคิดว่าหลังจากนี้ผิงอันจะปลอดภัยตลอด แต่ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้จะมาเกิดเรื่องอีก
ฟ้าไม่ยุติธรรมเลยนะ ทำไมต้องให้ลูกของเขามาเจอเรื่องเลวร้ายมากมายตั้งแต่เด็กด้วยนะ!
หลังจากที่หลี่ฝางได้ฟัง ก็รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ถ้าไม่ใช่ราฟาเอลที่พยุงเอาไว้ หลี่ฝางคงจะล้มลงบนพื้นแล้ว