NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1354 ป่วยหนัก
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ฉันยังไม่ได้มีโอกาสอยู่กับลูกเท่าไหร่เลย เขาเพิ่งจะอายุเดือนกว่าเองนะ!ฉันยังไม่ได้ได้ยินเขาเรียกว่าพ่อเลย ฉันยังไม่ได้สอนเขาเดินเลยแม้แต่น้อย เขาจะมาจากฉันไปได้อย่างไร?ฉันไม่ยอม!”
การจากไปของหลี่ต๋าคางก็ทำร้ายจิตใจหลี่ฝางมากแล้ว ตอนนี้ยังมาบอกว่าผิงอันอาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้เหมือนกัน นี่มันทำให้เขารับได้ได้อย่างไร?
พยาบาลมองพวกหลี่ฝางด้วยสีหน้าขมขื่น ถึงแม้จะสงสารมาก แต่ก็ทำได้เพียงส่ายหัวอย่างจนปัญญา
ถึงแม้เด็กในห้องรักษาพยาบาลจะน่าสงสารมาก แต่ชีวิตของคนนั้นถูกกำหนดเอาไว้แล้ว จะเกิดหรือตายนั้นก็ถูกกำหนดเอาไว้หมดแล้ว เขาที่เห็นความเป็นความตายมามากมาย ในใจก็ชินชาแล้ว
“นี่คือหนังสือประกาศความอันตรายในการรักษาอาการเจ็บป่วย รบกวนพวกคุณช่วยเซ็นด้วย” พยาบาลเอาหนังสือสัญญานั้นส่งให้หลี่ฝางพลางพูด
“ไม่!ฉันไม่เซ็น!ลูกของฉันจะตายได้อย่างไร!แกหลบไปนะ!”
เมื่อเห็น “หนังสือประกาศความอันตรายในการรักษาอาการเจ็บป่วย” ความโกรธและความเศร้าที่หลี่ฝางเก็บเอาไว้ในใจมันระเบิดออกทันที
เมื่อแย่งสัญญานั้นมาได้ ก็ฉีกมันออกเป็นเสี่ยงๆ จากนั้นก็ผลักพยาบาลออก ก่อนจะพุ่งเข้าไปในห้องรักษาพยาบาล
“เฮ้อ!คุณเป็นอะไรเนี่ย!พวกเรากำลังช่วยชีวิตอยู่นะ คุณเข้ามาไม่ได้!” พยาบาลถูกหลี่ฝางผลักเต็มแรงจนเซ เกือบจะล้มลงกับพื้น หลังจากที่ยืนมั่นแล้วก็รีบไปขวางหลี่ฝาง เพื่อไม่ให้เขาเข้าไปในห้องรักษาพยาบาล
แต่ว่าเขาในฐานะที่เป็นคนธรรมดาจะขวางหลี่ฝางเอาไว้ได้อย่างไร เพียงแค่การสะบัดมือเล็กน้อยของหลี่ฝาง พยาบาลก็กระเด็นไป ถ้าไม่ใช่ว่าราฟาเอลที่อยู่ด้านหลังรับเขาเอาไว้ พยาบาลคนนี้คงจะเกือบตายไปแล้ว
“คุณเป็นใคร!คนล่ะ?รีบเอาเขาออกไป!นี่มันห้องรักษาพยาบาลนะ!คุณทำแบบนี้มันจะทำให้คนไข้เป็นอันตรายนะ!”
หมอในห้องรักษาพยาบาลกับพยาบาลนั้นตกใจเป็นอย่างมาก เพราะการปรี่เข้ามาของหลี่ฝาง จากนั้นทั้งห้องนั้นก็วุ่นวาย พยาบาลเหล่านั้นคว้าหลี่ฝางเอาไว้ พลางอยากจะผลักเขาออกไป
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงแจ้งเตือนขึ้นมาจากที่ตรวจชีพทันที ชีพจรและหัวใจของเสี่ยวผิงอันหยุดเต้นแล้ว
“เร็ว!รีบช่วยชีวิต!” เมื่อหมอเห็นสถานการณ์ดังนั้น ก็ไม่ได้สนใจหลี่ฝางแล้ว แต่หันกลับไปช่วยชีวิตเสี่ยวผิงอันต่อ
หลี่ฝางได้ยินเสียงเสียดแก้วหูดังขึ้น จากนั้นในใจก็ร้อนรนเป็นอย่างมาก ขาทั้งสองข้างก็สั่นมาก ฝ่ามือและหน้าผากก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
หมอกำลังแข่งกับเวลาอยู่ แล้วก็ยื้อกับเทพแห่งความตายในเวลาเดียวกัน
ระยะการช่วยชีวิตนั้นใช้เวลาราวสิบนาที หมอกับพยาบาลเร่งรีบเป็นอย่างมาก แต่ว่าชีพจรของเสี่ยวผิงอันกับหัวใจนั้นก็ไม่ได้กลับมาเต้น สุดท้ายเสียงดังขึ้นตลอด เส้นที่ขยับมันกลายเป็นเส้นตรง
ดวงตาทั้งสองข้างของหลี่ฝางดำลง ก่อนจะล้มลงที่พื้น จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในหัว ดวงตาทั้งสองก็ไร้แววอย่างน่ากลัว
หมอที่เหงื่อแตกมองเสี่ยวผิงอันที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความขัดใจ ในแววตาก็มีความสงสารและตำหนิแต่ตัวเอง
“หัวหน้า คุณว่า……” ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้างๆ หมอผู้รักษาหลักมองเสี่ยวผิงอันที่หัวใจไม่เต้นแล้ว พลางพูดด้วยความลังเล
“ประกาศเวลาของผู้ตาย” หมอผู้รักษาหลักถอนหายใจด้วยความเศร้าใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเวลา
“บ่ายสามโมงสิบห้านาที คนไข้หลี่……”
“พวกแกไสหัวไป!อย่าได้โดนตัวเขา!ลูกของฉันยังไม่ตาย!เขาไม่มีทางตายหรอก!รีบไสหัวไป!”
ตอนที่ผู้ช่วยเตรียมจะประกาศการตายของเสี่ยวผิงอันนั้น หลี่ฝางที่นั่งอยู่ที่พื้นจู่ๆ ก็ผลักเหล่าแพทย์พยาบาลออก ก่อนจะเข้าไปข้างเตียงผ่าตัด แล้วอุ้มเสี่ยวผิงอันขึ้นมาอย่างระวัง
“ผู้ปกครอง ขอแสดงความเสียใจกับคุณด้วย ฉันรู้ว่าการเสียลูกไปมันทำให้คุณเสียใจเป็นอย่างมาก แต่คุณกับภรรยายังอายุน้อย คิดให้ดีหน่อยเถอะ”
ถึงแม้หมอผู้รักษาหลักจะถูกหลี่ฝางผลักจนล้มลงไปบนพื้น แต่ว่าเขากลับไม่ได้จะต่อว่าหลี่ฝางเลย แต่กลัวเดินไปข้างกายของหลี่ฝางพลางตบไหล่เป็นการปลอบใจ
อันที่จริงคำพูดของหมอผู้รักษาหลักนั้นไม่ได้ผิดอะไร แต่ว่าหลี่ฝางในตอนนี้จะทนฟังต่อไปได้อย่างไร จากนั้นก็พลิกมือมาบีบคอของหมอผู้รักษาหลัก ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง
“ฉันบอกว่าเขายังไม่ตายก็คือยังไม่ตายสิ!ถ้าแกยังจะพูดอะไรออกมาอีก กูจะส่งมึงไปเจอยมทูตเลย!”
หมอผู้รักษาหลักคิดว่าคอของตัวเองจะหักแล้ว เลยรีบเอามือทั้งสองข้างมาจับแขนของหลี่ฝาง เพื่อให้หลุดออกจากมือของหลี่ฝาง
“พี่ใหญ่!” เมื่อราฟาเอลได้ยินเสียงภายในก็รีบปรี่เข้ามา จากนั้นเมื่อเห็นหมอผู้รักษาหลักที่ถูกหลี่ฝางทำให้หมดสติไปแล้วก็ใจเต้นแรง ก่อนจะดึงแขนของหลี่ฝางเอาไว้ เพื่อให้เขาปล่อยคนออก
หลี่ฝางมองราฟาเอลอย่างเย็นชา ก่อนจะปล่อยมือออก
“พี่ใหญ่ คุณ……”
ราฟาเอลมองหลี่ฝางที่แผ่รังสีความน่ากลัวออกมา ใบหน้าก็ทุกข์ใจเป็นอย่างมาก อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่หลังจากที่เห็นเสี่ยวผิงอันแล้วกลับพูดอะไรไม่ออกเลย
“ลูกน้อย พ่อจะมาช่วยชีวิตคุณเอาไว้ให้ได้” หลี่ฝางมองเสี่ยวผิงอันที่หลับตาแน่น ก่อนจะพูดด้วยความอ่อนโยน
จากนั้นราฟาเอลก็เห็นว่าหลี่ฝางเอากล่องไม้ออกมาจากอ้อมกอด พลางเอาจั๊กจั่นทองด้านในออกมาอย่างระวัง
“พี่ใหญ่!นี่มันส่วนผสมที่จะช่วยชีวิตคุณเชียวนะ!คุณจะทำอะไร!”
เมื่อเห็นท่าทีของหลี่ฝางแบบนี้ ราฟาเอลก็เดาได้ว่าเขาอยากทำอะไร เลยรีบจับข้อมือของหลี่ฝาง เพื่อหยุดการเดินของหลี่ฝางลง
“ปล่อย!” หลี่ฝางมองราฟาเอลอย่างเย็นชา พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่ปฏิเสธได้ยาก
“ฉันไม่ปล่อย!พี่ใหญ่ คุณมีสติให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหม!คุณชายน้อยเขาตายไปแล้ว คุณรับความจริงเถอะ!นี่มันส่วนผสมของยาที่จะช่วยชีวิตคุณเลยนะ!ทำไมคุณต้องมาใช้ช่วยชีวิตกับคนที่ไม่สามารถกลับมาได้แล้วด้วยล่ะ!”
ถึงแม้การจากไปของเสี่ยวผิงอันจะทำให้ราฟาเอลเองก็ปวดใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็เป็นคนนอกอยู่ดี ถือได้ว่ามีสติมากกว่าหลี่ฝางสักหน่อย
สำหรับเขานั้น เสี่ยวผิงอันจากไปอยู่อีกโลกหนึ่งแล้ว และไม่มีทางฟื้นกลับมาแล้ว
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมจะต้องเอาของมีค่าหายากขนาดนี้มาใช้กับเขาด้วยล่ะ?
“แกกล้าพูดอีกครั้งสิว่าลูกชายฉันตายแล้วน่ะ!อย่ามาหาว่าฉันไม่สนใจความเป็นพวกพ้องที่มีต่อกันมาหลายปีนะ!”
เมื่อได้ยินราฟาเอลบอกว่าเสี่ยวพานตายแล้ว หลี่ฝางก็มีความอาฆาตก่อตัวขึ้น ก่อนจะตบราฟาเอลกระเด็น พลางด่าเสียงดัง
ตอนนี้ลี่ฝางอยู่ในแดนเทพแล้ว เมื่อทำร้ายราฟาเอลด้วยความโกรธมันทำให้กระดูกซี่โครงหัก ราฟาเอลที่ชนหับกำแพงก็กระอักเป็นเลือดสีแดง
“พี่ใหญ่!” ราฟาเอลที่เจ็บหนักแต่ก็ยังอยากจะหยุดหลี่ฝางไว้ เขาใช้มือจับส่วนที่กระดูกหัก จากนั้นก็พยายามขึ้นมาจากพื้นด้วยความยากเย็น
แต่ว่ายังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว หลี่ฝางก็บี้จั๊กจั่นทองตัวนั้นไปแล้ว ก่อนจะเอาของเหลวสีเขียวเหลือบทองใส่เข้าไปในปากของเสี่ยวผิงอัน
เมื่อเห็นหลี่ฝางดึงดันจะช่วยชีวิตเสี่ยวผิงอัน ราฟาเอลก็ทุบกำแพงด้วยความร้อนใจเป็นอย่างมาก
“ลูกน้อย จะต้องไม่เป็นอะไรนะ ลืมตามามองพ่อได้ไหม?” หลังจากที่เอาน้ำจั๊กจั่นสีทองใส่เข้าไปในปากของเสี่ยวผิงอันแล้ว หลี่ฝางก็มองเสี่ยวผิงอันด้วยความคาดหวัง ที่รอเห็นเขาลืมตาขึ้นมา
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า เสี่ยวผิงอันดื่มน้ำจั๊กจั่นสีทองไปสามนาทีแล้ว แต่ว่าเขากลับไม่มีท่าทีที่จะฟื้นขึ้นมาเลย
หลี่ฝางร้อนใจ จากนั้นก็ฉีดน้ำจั๊กจั่นสีทองเข้าปากผิงอัน ก่อนจะพูดพึมพำ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมยังไม่ฟื้นขึ้นมาอีก?หรือว่าฉันทำน้อยเกินไปหรือเปล่า?ให้พ่อป้อนให้อีกหน่อยไหม”
แต่ผ่านไปประมาณ5นาที เสี่ยวผิงอันก็ไม่ขยับแม้แต่ขนตา ราฟาเอลเองก็เงยหน้าขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาก็ไหลลงมาจากตาเขเป็นสาย