NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1359 คฤหาสน์ของนายพลใหญ่
“นิสัยคุณกับพ่อนั้นเหมือนกับไม่มีผิดเลย แถมความเย่อหยิ่งในตัวคุณนั้นมันมากกว่าเขาเสียด้วย คุณเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่ฉันเคยเจอมา แล้วก็เป็นคนที่โชคดีที่สุดอีกด้วย ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องพาหลี่ต๋าคางกลับมาได้แน่นอน”
ท่านผู้อาวุโสยื่นมือออกมาตบไหล่ของหลี่ฝาง ด้วยแววตาเชื่อมั่น
ตอนแรกหลี่ฝางคิดว่าหลังจากที่ท่านผู้อาวุโสได้ฟัง จะคิดว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่หยิ่งและโอ้อวด คิดไม่ถึงว่าท่านผู้อาวุโสจะมาเชื่อตัวเองแบบนี้
หลังจากที่ได้รับกำลังใจจากท่านผู้อาวุโสแล้ว หลี่ฝางมั่นใจเป้าหมายต่อไปของตัวเองแล้ว
นั่นคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น จากนั้นก็ไปที่อีกโลกหนึ่งเพื่อพาหลี่ต๋าคางกลับมาอยู่กับเมี๋ยวชุ่ย
“เรื่องนี้มันยังมีแผนอีกยาวไกล จะรีบร้อนไม่ได้ พวกเราจัดการเรื่องตรงหน้าให้ได้ก่อนดีกว่า”
หลังจากที่แจกจ่ายเรื่องของตัวเองและหลี่ต๋าคางแล้วเรียบร้อย ท่านผู้อาวุโสก็มีความอ่อนล้าบนใบหน้าขึ้นมา
ทั้งวันทั้งคืนนี้ สายโทรศัพท์ของเขาแทบไหม้ หัวหน้าโทรแล้วโทรเล่า เหมือนกับเร่งให้ไปตายเลยล่ะ บอกให้ท่านผู้อาวุโสต้องพาหลี่ฝางกลับมาประเทศจีนอย่างปลอดภัย อย่าให้คนของญี่ปุ่นพาหลี่ฝางไปได้
เหตุผลนี้ท่านผู้อาวุโสเองก็เข้าใจได้ดี ถ้าหลี่ต๋าคางไปแล้ว หลี่ฝางก็ต้องกลายเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศจีนทันที ถ้าเกิดว่าหลี่ฝางถูกคนของญี่ปุ่นพาตัวไปด้วย สำหรับประเทศจีนนั้นมันก็คือเป็นความเสียหายที่ยิ่งใหญ่
ไม่ว่าจะพูดจากมุมของเพื่อน หรือมุมของประเทศ ท่านผู้อาวุโสก็ไม่มีทางพาหลี่ฝางไปให้ญี่ปุ่นแน่นอน
“ท่านผู้อาวุโส ครั้งนี้ฉันกลัวว่าจะทำให้คุณลำบากไม่น้อยเลย ถ้าไม่ไหวจริงๆ เรื่องนี้คุณก็ไม่ต้องเข้ามายุ่งหรอก ทางญี่ปุ่นนั้นฉันจะจัดการด้วยตัวเอง”
ถึงแม้หลี่ฝางจะไม่ได้ดูข่าว แต่ใช้หัวแม่โป้งก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้ข่าวอะไรที่กำลังว่อนเน็ต
เขาสู้กับนัยเหลียงและหลี่ต๋าคางรุนแรงเกินไป อีกอย่างตอนนั้นมีคนมุงดูมากมาย อยากจะปิดบังอะไรก็ไม่ได้ ความลับเกี่ยวกับนักรบนั้น เกรงว่าอีกไม่นานก็จะรู้กันทั้งโลกแล้ว
“คุณมาจัดการเหรอ?คุณจะจัดการอย่างไร?ตอนนี้คนแทบทั้งโลกได้เห็นการต่อสู้ในวันนั้นแล้ว หรือคุณสามารถปิดปากคนได้งั้นเหรอ?”
ท่านผู้อาวุโสรู้ว่าหลี่ฝางนั้นไม่ได้อยากจะทำให้ตัวเองลำบาก แต่ว่าตอนนี้เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาจะแก้ไขคนเดียวได้
หัวหน้านั้นเสนอหน้ามาแต่ก็ไม่มีวิธีที่จะปิดเรื่องนี้ได้ แล้วเขาที่เป็นหลี่ฝางเนี่ย จะมาจัดการได้อย่างไร?
“พวกข่าวโคมลอยในเน็ตนั่นแค่ไม่ต้องไปสนใจก็พอแล้ว ผ่านไปไม่นานเดี๋ยวมันก็ค่อยๆ หายไปเอง ตอนนี้สิ่งที่ทำให้คุณใจว้าวุ่นกว่าคือทางญี่ปุ่น ฉันจะไปคุยกับพวกเขา เดี๋ยวพวกเขาก็ซื่อลงเอง”
ในยุคนี้ ต่างอยู่ในยุคที่ไหลไปตามความยอดนิยมและความโด่งดังต่างๆ นานา หลังจากที่เรื่องทั้งหมดมันดังระเบิดแล้วเดี๋ยวอีกไม่นานก็จะถูกลืมไป เพียงแค่พวกหลี่ฝางไม่ก่อเรื่องอะไรอีก เรื่องนี้มันก็จะถูกกลบไปในอีกไม่นาน
เหมือนกับเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่โด่งดังกับเรื่องของสัตว์ประหลาดใต้น้ำ อันที่จริงของพวกนี้มันมีอยู่จริงทั้งนั้น
แต่เพราะปิดข่าวได้ดี แล้วก็ไม่ได้มีข่าวอะไรโด่งดังออกมาเพิ่มเติมเป็นเวลานาน มันเลยถูกกลุ่มคนค่อยๆ ลืมไป
เหตุผลเดียวกัน ขอเพียงแค่พวกหลี่ฝางนั้นทำเรื่องต่างๆ อย่างเงียบๆ ผ่านไปไม่นาน ข่าวเกี่ยวกับสงครามนี้มันก็จะค่อยๆ หายไปเหมือนกัน
ตอนนี้สิ่งที่ยากจะรับมือคือเรื่องของทางญี่ปุ่น พวกหลี่ฝางนั้นก่อเรื่องขึ้นที่ญี่ปุ่น และฆ่านักรบแข็งแกร่งไปมากมาย แถมยังฆ่านัยเหลียงอีกด้วย พวกเขาคงจะไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
“ที่ฉันมาในครั้งนี้ ก็เพื่อพาคุณไปเจอคนเบื้องบนของญี่ปุ่น เพียงแค่เขาพยักหน้าให้พวกคุณออกจากญี่ปุ่น เรื่องมันก็ถือว่าผ่านไปแล้วล่ะ”
ท่านผู้อาวุโสคิดเอาไว้หมดแล้ว ครั้งนี้เขามาเพื่อเอาตัวหลี่ฝางไปเจอคนคนหนึ่งเท่านั้น
“เรื่องนี้จะช้าไม่ได้แล้ว ตอนนี้พวกเราต้องไปแล้วล่ะ” เรื่องนี้ยิ่งแก้ไขเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ตอนนี้หลี่ฝางเอครอบครัวมาที่ญี่ปุ่น เขาเองนั้นไม่กลัวใครอยู่แล้ว แต่ฉินวี่เฟยกับหยางฉงแล้วก็เสี่ยวผิงอันคงไม่ใช่
ผู้หญิงบอบบางสองคนพาลูกอายุครบเดือนเท่านั้นเอง ไม่ต้องพูดถึงนักรบหรอก แค่ชายชาตรีสองคน ก็สามารถควรคุมพวกเขาเอาไว้ได้แล้ว
ท่านผู้อาวุโสรู้ว่าหลี่ฝางนั้นจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ในไม่ช้า เลยไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะพาหลี่ฝางออกไปจากโรงพยาบาล แล้วตรงไปยังที่ที่ต้องการ
เพราะนี่คือที่ของคนอื่น ครั้งนี้ท่านผู้อาวุโสไม่ได้พาใครมานอกจากหลี่ฮุย ส่วนหลี่ฝางก็ทำเพื่อความปลอดภัยของฉินวี่เฟยกับหยางฉง แต่ราฟาเอลแล้วก็พวกไขจี๋เออสองคนที่ยังอยู่โรงพยาบาล
ตัวเองกับท่านผู้อาวุโสและหลี่ฮุยนั้นมาถึงสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่หรูหรา
“จวนของท่านนายพลงั้นเหรอ?” หลี่ฝางมองสิ่งที่เขียนอยู่บนประตูบานใหญ่ก่อนจะพึมพำ
“ท่านผู้อาวุโส คุณจะพาฉันไปเจอใคร ใช่ท่านนายพลของญี่ปุ่นหรือเปล่า?” หลี่ฝางหันหัวมา ก่อนจะมองท่านผู้อาวุโสด้วยความตกใจ
ท่านนายพลนั้นเหมือนกับราชาในญี่ปุ่นเลยทีเดียว เขาถึงขั้นสามารถกำหนดทิศทางการเดินไปของประเทศได้เลยด้วยซ้ำ
คนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ทำไมถึงอยากเจอตัวเองล่ะ?
“ไปเถอะ ท่านนายพลรอพวกเราอยู่ข้างในแล้ว” ท่านผู้อาวุโสยืดเอวขึ้น จากนั้นก็เคาะประตูใหญ่ที่จวนของท่านนายพล
เพียงไม่นาน ประตูบานหนักที่ทำด้วยไม้นั้นก็ค่อยๆ เปิดออกจากด้านใน ด้านซ้ายขวานั้นมีชายที่สวมชุดนักรบอยู่ แถมที่เอวยังมีดาบของทหารห้อยอยู่ด้วย
ผ่านประตูใหญ่ตรงเข้าไปนั้น ก็มีทางหินกว้างกว่าสิบเมตร สุดปลายทางนั้นมีเก้าอี้ไท่ซือที่สวยงามอยู่ ด้านซ้ายขวานั้นมีหญิงที่ถือพัดวีและสวมชุดกิโมโนอยู่
ส่วนบนเก้าอี้ไท่ซือนั้น มีหญิงที่ใส่ชุดกิโมโนสีดำทองนอนอยู่บนนั้นอย่างผ่อนคลาย พลางหรี่ตามองพวกหลี่ฝาง
ผู้หญิงงั้นเหรอ?
ท่านนายพลของญี่ปุ่นเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ?
หลี่ฝางมองหญิงที่อยู่บนเก้าอี้ไท่ซือก็ตกใจเบาๆ แต่ว่าบนใบหน้านั้นกลับไม่ได้แสดงอะไรออกมา พลางก้าวเท้าเดินต่อเข้าไป
หญิงที่อยู่บนเก้าอี้ไท่ซือนั้นยกแขนซ้ายของตัวเองขึ้น เมื่อหญิงปรนนิบัติที่อยู่ข้างๆ เห็นสถานการณ์ดังนั้นก็รีบเข้าไปประคองเธอขึ้นมาอย่างเคารพ
เพราะท่าทีของเธอนั้น กิโมโนที่หญิงคนนี้ใส่อยู่เลยหลวมเล็กน้อย ทำให้เห็นไหล่ของเธอครึ่งหนึ่ง กระโปรงด้านล่างนั้นก็กองอย่างสะเปะสะปะ ขายาวทั้งสองข้างก็เห็นวับแวมๆ
หลังจากที่หลี่ฝางมองแล้ว ก็รีบเบี่ยงสายตาออก ถึงแม้ท่านนายพลหญิงคนนี้จะหน้าตาไม่เลว แต่เขาเป็นคนมีครอบครัวแล้ว เลยต้องกดความคิดอย่างว่าเอาไว้
“ท่านหลี่ ทำไมคุณไม่มองฉัน?” ท่านนายพลหญิงเห็นหลี่ฝางผลุบสายตาลง แววตาเป็นประกาย ส่วนน้ำเสียงก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ที่ญี่ปุ่น ท่านนายพลถือได้ว่าเป็นตระกูลจักรพรรดิ มีตำแหน่งที่สูงส่งเกินเทียม ชายใดที่เห็นเธอ ก็ต้องสยบเว้นแต่หลี่ฝาง ที่ไม่อยากจะมองตัวเองด้วยซ้ำ
ท่าทีที่พิเศษและไม่มองนั้น มันทำให้ท่านนายพลหญิงสนใจขึ้นมา ตอนแรกเธอสงสัยหลี่ฝางมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยิ่งอยากจะเข้าใกล้ชายคนนี้มากกว่าเดิมเสียอีก
เมื่อได้ฟังภาษาจีนห่วยๆ ของท่านนายพลหญิง หลี่ฝางก็เอามือทั้งสองข้างกำขึ้นก่อนจะคำนับเธอ พลางตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยไม่หืออือ
“ท่านนายพลคุณเป็นคนที่น่าภาคภูมิของฟ้า คนธรรมดาอย่างฉัน ไม่กล้าสบตากับคุณตรงๆ เป็นแน่”