NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1374 ขอโทษ
“ชิ ท่านนายพล ในจวนของคุณนั้นดูเหมือนจะสนุกขึ้นมาแล้วสินะ?วันๆพวกสนมชายนั้นหาเรื่องให้คุณไม่น้อยเลยนะ?”
พอสวนนี้เหลือเพียงหลี่ฝางกับท่านนายพลหญิงสองคนแล้ว หลี่ฝางก็หัวเราะออกมา ก่อนจะมองท่านนายพลหญิงพลางยิ้มออกมา
ท่านนายพลหญิงพูดไม่ออกเพราะคำพูดของหลี่ฝาง ก่อนจะมองหลี่ฝางด้วยความไม่พอใจ
“คุณว่างไม่ได้เลยนะ ฉันพักไปไม่นาน คุณก็มีเรื่องใหญ่ได้ขนาดนี้ ดูเหมือนจากนี้ในจวนของท่านนายพลของฉันคงจะไม่มีวันสงบแล้วล่ะ”
เมื่อได้เจอการลงโทษอย่างไม่ตั้งใจของท่านนายพลหญิงแล้ว หลี่ฝางกลับยักไหล่ขึ้นอย่างไม่สนใจ ก่อนจะเด็ดหญ้ามาคาบไว้ในปาก
“คุณอย่ามาใส่ร้ายฉันนะ นั่นเพราะสนมชายของคุณมาหาเรื่องฉันนะ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าคุณจะมองไม่ออก”
เมื่อเห็นท่าทีไม่จริงจังของหลี่ฝาง ท่านนายพลหญิงก็ทั้งโกรธและอยากจะหัวเราะออกมา หลังจากที่ถอนหายใจอย่างหนักแล้ว ในแววตาก็มีความเศร้าใจออกมา
“ฉันเป็นหญิงคนเดียว ต้องดูแลจวนของท่านนายพลมากมายขนาดนี้ การอยู่ในตำแหน่งของท่านนายพลในประเทศญี่ปุ่น คุณคิดว่าในชีวิตดีขนาดนั้นเลยเหรอ?เบื้องหลังของเจียเหอกับฮัวเหลียนน่ะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ฉันต้องทำเป็นรักและเอ็นดูพวกเขา เพื่อดึงครอบครัวของเขามาให้ได้”
“คนอื่นๆ ในจวนนั้นอย่างน้องก็ต้องมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกันฉันบ้าง ฉันเลยต้องทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสมดุล ถึงจะได้รับการสนับสนุนอย่างดีที่สุด วันนี้คุณทำให้ใบหน้าของเจียเหอเสียหายแล้ว เดี๋ยวพ่อของเขาจะต้องมาหาที่จวนนี้ในเร็ววันแน่”
“วันนี้ฉันทำให้เรื่องมันผ่านๆ ไปแทนคุณแล้ว เดี๋ยวตอนที่พ่อเขามา ถึงจะเป็นงานยากน่ะ เดี๋ยวถึงตอนนั้นฉันอาจจะต้องลงโทษคุณ แล้วหวังว่าคุณจะไม่โทษอะไรฉัน”
เมื่อได้ยินท่านนายพลหญิงพูดอย่างไร้ทางเลือกแบบนั้น หลี่ฝางก็เลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะคายหญ้าที่คายเอาไว้ในปาก ด้วยท่าทีไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“คุณคิดว่า ด้วยกำลังของฉันเนี่ย ยังจะต้องกลัวไหม?ถ้าไม่ได้คิดถึงความสมดุลของโลกใบนี้ ฉันคงจะเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศญี่ปุ่นได้แล้ว ถึงอย่างไรถ้าเกิดว่าพ่อของเจียเหอกล้ามาทำอะไรให้ฉันไม่พอใจ ฉันก็จะไม่เกรงใจเขาเหมือนกัน”
มันทำให้ท่านนายพลหญิงโกรธขึ้นมา เธอรู้ว่าหลี่ฝางนั้นเก่งกาจ ถ้าเกิดเขาคิด ว่าไม่มีใครในโลกนี้สามารถต่อกรกับเขาได้ แต่เธอในฐานะที่เป็นท่านนายพลหญิงของญี่ปุ่น ต้องคิดถึงอะไรมากมาย เธอไม่มีทางทำอะไรโดยไม่สนอะไรอย่างหลี่ฝางหรอก
“หลี่ฝาง ในใจของคุณนั้นเห็นฉันเป็นอะไร?คุณรู้ไหมว่าการที่คุณทำตามใจใหญ่โตแบบนี้ทำให้ฉันลำบากขนาดไหน?คุณรู้ว่าฉันต้องขัดใจคนมากมายขนาดไหนเพื่อคุณไหม?ทำไมคุณถึงได้คิดว่าอยากจะทำอะไรก็ทำได้ลาะ?ไม่คิดถึงความรู้สึกฉันบ้างเลย!”
เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆ ของท่านนายพลหญิง หลี่ฝางก็อึ้งไป พลางมองดวงตาแดงๆ ของเธอ กลับมีท่าทีพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ออกมา โดยที่ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป
“ขอโทษ……ฉัน……”
“เอาล่ะ!คุณไม่ต้องพูดแล้ว!เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องนี้เอง ช่วงนี้คุณก็อยู่ในนี้ไปก่อนไม่ต้องไปที่อื่นนะ!เดี๋ยวฉันจัดการเสร็จแล้ว ฉันจะมาหาคุณเอง!”
ตอนแรกหลี่ฝางอยากขอโทษ แต่เมื่อพูดไปได้ครึ่งเดียว ท่านนายพลหญิงก็ตัดบทของเขา ก่อนจะสูดหายใจเข้าเต็มแรง เพื่อกลั้นน้ำหูน้ำตาที่จะออกมา หลังจากที่พูดออกไปแบบนั้นแล้ว ท่านนายพลหญิงก็รีบเดินไป
หลี่ฝางมองท่าทีโซเซของเธอ แววตาก็มืดมน พลางยืนอยู่ที่เดิมอยู่นาน จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง พลางหันตัวเดินเข้าไปในห้องตัวเอง
จากนั้นสามสี่วัน นอกจากมีคนเอาข้าวเอาน้ำมาส่งให้ตามเวลา ก็ไม่มีใครเข้ามาเยี่ยมในสวนนี้อีก หลี่ฝางเองก็ได้อยู่สงบๆ บ้าง
เขาที่จะลืมเรื่องของเจียเหอในตอนแรกนั้น พอเช้าวันที่สี่ จื่อยีก็เข้ามาหาเขา
“ท่านหลี่!คุณอยู่ไหม?” หลี่ฝางเพิ่งจะกินข้าวเช้าเสร็จ ก็ได้ยินจื่อยีที่อยู่ด้านนอกประตูตะโกนเรียกตัวเองอย่างดัง เขาใช้กระดาษเช็ดปากตัวเอง ก่อนจะตอบรับ แล้วก็ให้จื่อยีเข้ามา
“ท่านหลี่ ที่ฉันมาหาคุณในครั้งนี้ก็เพราะมีเรื่องอยากจะขอร้อง” หลังจากที่ผ่านเรื่องครั้งก่อนมาแล้ว จื่อยีก็มีท่าทีดีต่อหลี่ฝางมากขึ้นไม่น้อยเลย อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังเรียกเขาว่าท่านหลี่แล้ว
หลี่ฝางมองอยู่สักพัก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จื่อยีมองหลี่ฝางอย่างไม่รู้สึกอะไร พลางลังเลเล็กน้อย โดยไม่รู้ว่าควรจะพูดไหม
“ท่านหลี่ คุณรู้ไหม?วันนี้พ่อของเจียเหอมาที่จวนของท่านนายพลตั้งแต่เช้า ตอนนี้เขากำลังกินข้าวเช้าอยู่กับท่านนายพลที่โถงด้านหน้า”
เมื่อคิดไปสักพัก จื่อยีถึงได้เปิดปากพูดขึ้น
“พ่อเขาอยากจะมาก็มาสิ มันเกี่ยวอะไรกับฉัน ไม่ใช่พ่อของฉันสักหน่อย”
หลี่ฝางชะงักไป เขายังไม่เคยได้ยินข่าวนี้มาก่อน แต่ก็ไม่เป็นไร แม้พ่อของเจียเหอจะมาแล้วมันจะทำไมกัน?เขาจะฆ่าตัวเองได้หรือไงกัน?
คำตอบของหลี่ฝางทำให้จื่อยีพูดอะไรไม่ออก ปากก็ป้าออกแต่ไม่รู้จะพูดอะไร
“คุณมาหาฉันทำไมกันแน่?มายืนบื้ออยู่ที่นี่แต่ไม่เข้าเรื่องสักที ถ้าคุณไม่พูด งั้นฉันจะไปทำอะไรของฉันเองแล้วนะ”
หลี่ฝางมองจื่อยีที่มีใบหน้าเหมือนท้องผูก ก่อนจะถามอย่างพูดอะไรไม่ออก
เขานั้นไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ต้องมาเสียเวลากับเขาที่นี่มากนัก ช่วงนี้เขาแค่มาสอดแนมเรื่องที่อยู่ของส่วนผสมปรุงยาเท่านั้น
“เดี๋ยวๆ !ท่านหลี่คุณฟังฉันก่อน!” เมื่อเห็นหลี่ฝางลุกขึ้นเตรียมจะเดินไป จื่อยีเลยรีบขวางเขาเอาไว้ก่อน
“ฉันรู้ว่าพลังยุทธของคุณนั้นแข็งแกร่งมาก และไม่กลัวการขู่ของใครเลย แต่เราไม่เหมือนกับคุณ ฐานะทางครอบครัวของฉันกับยาโกะเทียบอะไรกับเจียเหอไม่ได้เลย ตั้งแต่พ่อของเจียเหอรู้ว่าเจียเหอเสียโฉมแล้ว ก็หยุดการแจกจ่ายเงินให้กับจวนของท่านนายพล ในขณะเดียวกันก็ไปกดดันครอบครัวของฉันกับยาโกะไม่หยุด”
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าจวนของท่านนายพลจะเกิดวิกฤตได้ ครอบครัวของฉันกับยาโกะนั้นคงจะได้เจออะไรร้ายแรงได้ ท่านหลี่ ฉันรู้ว่าคุณน่ะเป็นคนดี คุณจะต้องไม่มีทางดูอยู่เฉยๆ แน่ๆ ที่ฉันมาหาคุณในวันนี้ อันที่จริงก็อยากจะมาโน้มน้าวให้คุณไปขอโทษเจียเหอ”
“เพียงแค่คุณไปขอโทษเขา พ่อของเจียเหอจะต้องไม่มีทางตั้งหน้าตั้งตาจับผิดและทำร้ายจวนของท่านนายพลกับครอบครัวของเราแล้วล่ะ”
หลังจากที่ได้ยินคำของจื่อยีแล้ว หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา เด็กคนนี้คิดอะไรง่ายเกินไปแล้ว คิดไปว่าถ้าตัวเองขอโทษแล้ว มันก็จะไม่มีเรื่องแล้วเหรอไง?
เขาทำให้เจียเหอเสียโฉมเลยนะ มันเท่ากับว่าตัดหนทางการได้เป็นคู่ครองของนายพลของเจียเหอ เจียเหอจะยกโทษให้ตัวเองง่ายๆ ได้อย่างไร?
“ท่านหลี่ คุณ คุณหัวเราะอะไร?” จื่อยีคิดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นหลี่ฝางหัวเราะ พลางถามด้วยความไม่เข้าใจ
“คุณบอกให้ฉันขอโทษเขางั้นเหรอ?สมองคุณเสียไปแล้วหรือไง?อีกอ่ยางคุณอย่าได้ใสซื่อเกินไปได้ไหม เรื่องนี้มันไม่ได้แก้ไขได้ด้วยการขอโทษ คุณคิดว่าพ่อของเจียเหอเขามาในครั้งนี้ เพื่ออยากออกหน้าแทนเจียเหอจริงๆ เหรอ?”
“คุณอย่าคิดว่าคนเหล่านั้นดีเกินไป โลกนี้เป็นโลกที่โหดร้ายยิ่งนัก เหมือนกับครอบครัวของเจียเหอ ที่มีเพียงผลประโยชน์ ไม่มีความรักหรือความสนิทชิดเชื้ออะไร ถ้าเกิดพ่อของเขาอยากจะออกหน้าแทนเจียเหอจริงๆ คงจะมาตั้งแต่วันที่เจียเหอเสียโฉมแล้ว ไม่มีทางรอให้มาถึงวันนี้หรอก”
หลี่ฝางกลอกตาใส่จื่อยี ก่อนจะหยิบถั่วบนโต๊ะโยนใส่ปาก
ให้ตัวเองมาขอโทษพ่อของเจียเหองั้นเหรอ?ฝันไปเถอะ?แม้วันนี้จะมีจักรพรรดิมา เขาเองก็ไม่มีทางขอโทษหรอก