NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1375 พ่อของเจียเหอเข้ามาแทรกแซง
“แต่……แต่คุณจะไม่สนใจไม่ได้นะ!คุณเป็นคนทำร้าย ถ้าคุณไม่สนใจล่ะก็ ท่านนายพล และครอบครัวของเราจะทำอย่างไรล่ะ?เมื่อวานพ่อฉันโทรมาหาฉัน บอกว่าธุรกิจกว่าครึ่งของที่บ้านจะล้มละลายแล้ว ฉันจะเป็นอย่างไรก็ได้ แต่จะทำให้ครอบครัวของฉันลำบากไปด้วยไม่ได้ ท่านหลี่ ฉันขอร้องคุณล่ะ คุณก้มหัวขอโทษเจียเหอเถอะ!”
หลังจากที่จื่อยีได้รับโทรศัพท์จากที่บ้านแล้ว ก็แทบจะไม่ได้นอนเลย เขาลังเลอยู่นาน ถึงได้บากหน้ามาหาหลี่ฝาง
เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะหนักหนาขนาดนี้ ถ้าเขารู้ว่าหลี่ฝางจะลงมืออย่างรุนแรงนั้น เขายอมให้ตัวเองเป็นคนเสียโฉมยังจะดีกว่า
หลี่ฝางมองจื่อยีพลางขมวดคิ้ว จากนั้นก็เงียบไปเกือบนาที ก่อนจะถอนหายใจพลางพูดออกมา
“ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันจะไปคุยเรื่องนี้กับพ่อของเจียเหอเอง คุณวางใจเถอะ เรื่องที่ฉันก่อ ฉันจะรับผิดชอบเอง แล้วจะไม่มีทางกระทบถึงพวกคุณและครอบครัวของพวกคุณ”
เมื่อพูดคำนี้จบ หลี่ฝางก็ก้าวออกไปด้านนอก จื่อยียังยืนอึ้งอยู่ที่เดิม โดยไม่มีท่าทีจะเข้าใจความหมายของหลี่ฝางเลย
เพิ่งจะเดินออกจากประตู หลี่ฝางก็หยุดยืนนิ่ง เขามองไปรอบๆ เพราะอยากจะหาทางไปที่โถงด้านหน้า แต่หาอยู่นาน ก็ไม่เจอทางเลย
“ท่านหลี่ คุณกำลังจะไปไหน?” จื่อยีรีบตามไป เมื่อเห็นท่าทีที่หลี่ฝางเหมือนกำลังหาอะไรอยู่ ก็ถามอย่างสงสัย
“หาพ่อของเจียเหอไง นี่คือทางไปที่โถงด้านหน้าเหรอ?คุณบอกทางไปหน่อยสิ” หลี่ฝางหวนคิดถึงทางในจวนของท่านนายพล พลางพูดไปด้วย
“ท่านหลี่ตามฉันมาเถอะ”
ถึงแม้จื่อยีจะไม่รู้ว่าหลี่ฝางจะไปโถงหน้าในตอนนี้ทำไม แต่ตอนนี้เขาเองก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เลยทำได้เพียงนำหลี่ฝางไปที่โถงหน้าอย่างไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
“ให้ตาย ท่านนายพลของพวกคุณว่างจนต้องสร้างจวนของท่านนายพลใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?เดินทีก็เหนื่อยตาย เฮ้ จื่อยี อย่าขยับ เดี๋ยวพี่พาไปสัมผัสประสบการณ์การบินล่องสักหน่อย”
จื่อยีพาหลี่ฝางเดินไปมา สิบนาทีแล้วก็ยังไม่ถึงโถงด้านหน้าอีก มันดูเหมือนสวนพิศวง หลี่ฝางทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ
มือหนึ่งก็กดอเอวของจื่อยีเอาไว้ อย่างเต็มแรง จากนั้นสองคนก็ลอยขึ้นไปอยู่กลางท้องฟ้า
การลอยขึ้นไปกะทันหันนั้นมันทำให้จื่อยีตกใจจนหัวใจแทบหลุดออกมา แขนขาก็ทำอะไรไม่ถูก ขนาดหลี่ฝางที่พาไปนั้นยังสั่นไปด้วยเลย
“เอ๊ะ!อย่าขยับไปนะ!” เมื่อเห็นทั้งสองคนจะตกลงไป หลี่ฝางรีบออกแรงมากกว่าเดิม เพื่อให้จื่อยีที่ขยับนั้นอยู่นิ่ง ก่อนจะบินไปอย่างสงบอีกครั้ง
ผ่านไปสักพัก จื่อยีก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้นแล้ว ถึงแม้แรงทั้งเนื้อทั้งตัวจะยังเนื้อเต้นอยู่บ้าง แต่แววตาทั้งคู่นั้นกลับกวาดสายตามองไปรอบๆ จวนของท่านนายพลด้วยความตื่นตาเป็นอย่างมาก
“ท่านหลี่ คุณเก่งมากเกินไปแล้ว!ฉันโตมาขนาดนี้ยังไม่เคยลอยบนฟ้าแบบนี้เลย!ขนาดท่านเจียเหอที่เก่งที่สุดในจวนยังทำไม่ได้เลย”
จื่อยีมองวิวรอบๆ จวนอย่างชื่นชม พลางพูดกับหลี่ฝางด้วยน้ำเสียงชื่นชม
ท่าทีที่เขาทำต่อหลี่ฝางที่เหมือนจะเป็นศัตรูในตอนนั้น กลายมาเป็นเพื่อนที่ดีในตอนนี้ แถมยังมีท่าทีสนิทสนมอีกด้วย ขนาดท่าทีและน้ำเสียงที่พูดนั้นยังดีกว่าแต่ก่อนมาก
ถึงแม้เรื่องการเหาะนี้มันจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหลี่ฝาง แต่คนก็มีความต้องการคำชื่นชม เมื่อได้ยินจื่อยีชมแบบนี้ ในใจของหลี่ฝางก็รู้สึกสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก
เพราะกำลังบินอยู่กลางอากาศ ดังนั้นเลยมองได้อย่างกว้างขวาง หลี่ฝางก็หาตำแหน่งของโถงด้านหน้าได้ในเวลาไม่นาน จากนั้นก็พาจื่อยีร่อนลงไปทันที
“ใครกัน!” มีคนสองคนลอยลงมาจากท้องฟ้ากะทันหัน จนทำให้ซามูไรในจวนของท่านนายพลต่างตกใจ จากนั้นก็ควักเอามีดซามูไรออกมา พลางเล็งไปหาพวกหลี่ฝางทั้งหมด
จื่อยีมองมีดซามูไรสิบกว่าเล่มที่ชี้มาทางตัวเอง ก่อนจะตกใจจนไม่กล้าขยับ แต่หลี่ฝางกลับนิ่งเฉยเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้ใส่ใจพวกซามูไรที่อยู่ตรงหน้าเลย แต่กลับกระแอมเล็กน้อยก่อนจะตะโกนเข้าไปในจวน
“ท่านนายพล คุณอยู่ไหม?”
ท่านนายพลหญิงด้านในนั้นกำลังดื่มชาอยู่กับพ่อของเจียเหอแล้วก็เขา หลังจากที่ได้ยินเสียงของหลี่ฝางสีหน้าของเธอก็นิ่งไปเป็นอย่างมาก
เจียเหอมีผ้าพันแผลพันอยู่ครึ่งหนึ่ง ผ้าก๊อซสีขาวนั้นยังมีรอยเลือดอยู่บางๆ ด้วย หลังจากที่ได้ยินคำของหลี่ฝางใบหน้าที่ยังมีรอยยิ้มของเขาในตอนแรกก็นิ่งลง ก่อนจะเกือบบีบแก้วชาในมือแทบแตก
ชายวัยกลางคนที่ดูร่ำรวยที่นั่งอยู่ข้างๆ นั้นมองเจียเหอเล็กน้อย ก่อนจะวางถ้วยชาในมือลงอย่างอ่อนโยนเป็นอย่างมาก พลางตำหนิออกมา
“เจียเหอ ก่อนหน้านี้พ่อสอนคุณอย่างไร?เจอเรื่องอะไรก็ตามต้องนิ่งไว้ อย่าได้ด่วนทำอะไรไป”
เจียเหอที่หน้าดำคร่ำเครียดเมื่อได้ยินคำของชายวัยกลางคนแล้วก็อึ้งไป จากนั้นก็เก็บความเกลียดในตา อารมณ์ก็เย็นลงเป็นปกติ พลางโน้มตัวไปด้านหน้าเบาๆ ก่อนจะพูดกับชายวัยกลางคน
“พ่อสอนฉันถูกแล้ว เจียเหอวู่วามเกินไป”
เมื่อชายวัยกลางคนเห็นเจียเหอกลับมาใจเย็นแล้ว ท่าทีใบหน้าของเขาก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปมองท่านนายพลหญิง
“ท่านนายพล คนที่ตะโกนอยู่ด้านนอกใช่คู่ครองของท่านนายพลในอนาคตหรือเปล่า?พอดีว่าฉันเองก็อยากเจอคู่ครองของท่านนายพลในอนาคตเหมือนกัน ตอนนี้ท่านเชิญเขาเข้ามาเลยดีกว่า”
อันที่จริงตอนแรกชายวัยกลางคนไม่รู้ว่าคนที่ตะโกนตรงหน้าประตูคือใคร แต่จากนั้นเมื่อเห็นสีหน้าของท่านนายพลหญิงกับเจียเหอเขาก็เดาออกทันที
หลังจากที่ท่านนายพลหญิงได้ฟังคำพูดของชายวัยกลางคนแล้วอารมณ์บนใบหน้าก็แทบจะทนไว้ไม่อยู่ เลยมองไปทางประตูเล็กน้อย พลางพูดอย่างกลัวถูกจับผิด
“คือ……ครอบครัวเรายากที่จะได้มาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา อย่าให้คนอื่นๆ มารบกวนอีกเลย”
ตอนนี้ท่านนายพลหญิงนั้นปวดหัวเป็นอย่างมาก เธอคิดไม่ออกเลยว่าหลี่ฝางจะมาหาด้วยตัวเองแบบนี้ วันนี้พ่อของเจียเหอมาเพื่อหาทางออก ตอนแรกเธออยากคุยเรื่องธุรกิจกับเจียเหอ ว่าเรื่องนี้มันจะสามารถเปลี่ยนให้เป็นเรื่องเล็กได้ไหม
ยังไม่ทันได้พูดออกมา ตัวก่อเรื่องก็มาถึงแล้ว แล้วจะให้เธอคุยอย่างไร?
“คู่ครองของท่านนายพลในอนาคตจะเป็นคนอื่นได้อย่างไร?จากนี้ถ้าท่านนายพลแต่งงานกับเขา ลูกของฉันก็ยังต้องยกน้ำชาให้เขา แถมจะได้คุยเรื่องบาดหมางใจก่อนหน้านี้กับเขาและลูกฉันด้วย ถ้าแก้ความเข้าใจผิดนี้ได้เร็ว มันก็ดีต่อทุกคนไม่ใช่เหรอ?”
ชายวัยกลางคนนี้เหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ในตอนแรก พูดเพียงไม่กี่คำก็ตัดทางของท่านนายพลหญิงไปหมดแล้ว เขาพูดอย่างไรก็มีเหตุผล ตอนนี้แม้ท่านนายพลหญิงจะไม่ให้หลี่ฝางเข้ามา เขาก็ต้องเข้ามาอยู่ดี
“เหอะๆ ……ในเมื่อคุณพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็ทำได้เพียงให้เขาเข้ามา” ท่านนายพลหญิงหัวเราะอย่างทำตัวไม่ถูก พลางโบกมือให้สาวใช้อย่างจนปัญญาเป็นอย่างมาก เพื่อบอกให้เธอไปพาหลี่ฝางเข้ามา