NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1380 ยาโกะฟื้นแล้ว
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?เสียงดังได้ทั้งวัน” หลี่ฝางส่งถ้วยชาให้จื่อยี เพื่อบอกให้เขาค่อยๆ ดื่มน้ำ
จื่อยีเพราะวิ่งมาเร็วเกินไป ใบหน้าก็มีเหงื่อออกมาปกคลุม แก้มก็แดง ดูน่ารักดี
เขาตบอกตัวเองด้วยความโกรธ ก่อนจะกรอกน้ำชาที่หลี่ฝางยื่นให้ลงปากไป เมื่อกินเสร็จก็หายใจเฮือกก่อนจะพูดกับหลี่ฝาง
“ท่านหลี่ ยาโกะฟื้นแล้ว!”
นี่เป็นข่าวดี ยาโกะหมดสติไปอาทิตย์หนึ่ง ถึงจะฟื้นขึ้นมา ตอนนี้ฟื้นขึ้นมาแล้ว เลยค่อยๆ ดีขึ้นมา
“ฟื้นก็ดีแล้ว” แม้หลี่ฝางจะดีใจแทนยาโกะ แต่กลับไม่ได้แสดงออกมาเท่าไหร่ เลยพูดออกมาเรียบๆ เพื่อแสดงออกว่ารู้แล้ว
“ท่านหลี่ คุณไปดูยาโกะหน่อยเถอะ เขาให้ฉันมาเชิญคุณโดยเฉพาะเลย บอกว่าอยากจะขอบคุณที่ช่วยเอาไว้”
ถึงแม้ท่าทีของหลี่ฝางจะนิ่งเฉยมาก แต่กลับไม่ได้กระทบต่อความดีใจของจื่อยีเลย เขามองหลี่ฝางด้วยความยินดี ก่อนจะเชิญหลี่ฝางไปเยี่ยมยาโกะ
“ก็ได้ งั้นก็ไปดูเถอะ” หลี่ฝางอยู่ในที่พักมาตลอดขนเริ่มเบื่อ เมื่อตอบรับจื่อยีแล้ว ก็เก็บของเล็กน้อยก่อนจะออกไปทันที
“เอ่อ……ท่านนายพลมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เมื่อหลี่ฝางออกไป กลับได้เห็นท่านนายพลหญิงที่ยืนอยู่ตรงกลางสวน ก่อนจะถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
หลังจากที่ครั้งก่อนท่านนายพลหญิงโมโหและไม่พอใจกับเขา หลี่ฝางก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย ท่านนายพลหญิงก็ไม่มาหาเขา เขาเองก็อยู่เงียบๆ อย่างสบายใจ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้ท่านนายพลหญิงจะมาหาเขาด้วยตัวเอง
“ท่านนายพลมากับฉันน่ะ ท่านหลี่ คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหม?” จื่อยีมองหลี่ฝาง พลางถามด้วยความกลัว
ครั้งก่อนที่เขาไปปลอบท่านนายพลหญิงแทนหลี่ฝาง ความสัมพันธ์ของเขากับท่านนายพลหญิงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไป ช่วงนี้ท่านนายพลหญิงแทบจะรักและเอ็นดูจื่อยีคนเดียว ขนาดฮัวเหลียนมาหา ท่านนายพลหญิงยังไม่สนใจเท่าไหร่เลย
จู่ๆ จื่อยีก็กลายเป็นสนมสนมชายของท่านนายพลที่ถูกรักและทะนุถนอมมากที่สุดไป
การที่ท่านนายพลหญิงรักขึ้นมากะทันหันแบบนี้ทำให้จื่อยีตกใจอยู่ไม่น้อย เขาที่ผ่านโลกมาไม่มากเลยบริสุทธิ์อยู่มาก ทำให้มองไม่ออกว่าที่ท่านนายพลหญิงแสดงความรักกับเขาก็แค่เพื่อทำให้หลี่ฝางโกรธ แถมเขายังแอบดีใจอยู่เล็กน้อย เพราะคิดว่าท่านนายพลหญิงทำดีกับตัวเองอย่างจริงใจ
หลี่ฝางสบตากับท่านนายพลหญิงเมื่อไหร่ ก็เดาเรื่องในใจของท่านนายพลหญิงได้ทั้งหมด จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา พลางมองจื่อยีที่เขินอายเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดเอาไว้
“เห้อ ไปเถอะ บอกให้ไปหายาโกะไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางมองจื่อยีสักพัก จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาหนักหน่วง
ตอนแรกจื่อยีเป็นสนมชายของจวนของท่านนายพล มีบางเรื่องที่เขาไม่ยุ่งจะดีกว่า
ท่านนายพลหญิงจ้องหลี่ฝางอยู่ตลอด เพราะอยากจะมองอะไรออกจากเขาบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้เธอเศร้า เพราะนอกจากหลี่ฝางจะขมวดคิ้วในตอนแรกแล้ว ก็ไม่มีอารมณ์อื่นอีกเลย
เธออดไม่ได้ที่จะคิดในใจ บางทีหลี่ฝางอาจจะไม่ได้รู้สึกรักอะไรตัวเองเลยก็ได้
แต่ยิ่งหลี่ฝางแสดงออกว่าไม่สนใจเธอเท่าไหร่ ในใจของท่านนายพลหญิงก็ยิ่งไม่สบายใจ พลางโบกมือให้จื่อยี แล้วพูดขึ้น
“จื่อยี คุณมานี่หน่อย”
จื่อยีเห็นเธอเรียกตัวเอง เลยหน้าแดง จากนั้นก็เดินมาหาท่านนายพลหญิงด้วยความเชื่อฟังเป็นอย่างมาก พลางถามเสียงเบาสุดๆ
“ท่านนายพล ท่านเรียกฉันมาทำไม?”
ท่านนายพลหญิงดึงจื่อยีเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดตัวเอง จากนั้นก็ประทับจูบลงบนริมฝีปากของเขา
“จากนี้ห้ามห่างฉันเกินไป ต้องอยู่ข้างกายฉันอย่างเชื่อฟังนะ เข้าใจไหม?”
จูบของเธอนั้นทำให้จื่อยีแก้มแดงเหมือนตูดลิง ก่อนจะก้มหน้าเอาหัวซุกอก พลางขบริมฝีปากเบาๆ ด้วยความเขินอาย พลางตอบรับเสียงเบา
หลี่ฝางมองจื่อยีที่มีท่าทีเหมือนสาวน้อยที่เพิ่งมีรักแรก แววตาก็เป็นประกาย เด็กคนนี้หวั่นไหวง่ายเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วงั้นเหรอ?
นอกจากนี้ท่านนายพลหญิงใจร้ายเกินไปแล้ว เพื่อแก้แค้นตัวเอง เลยทำกับเด็กน้อย เขาควรจะเตือนจื่อยีหน่อยไหมนะ?
ถ้าบอกจื่อยีตอนนี้ ว่าท่านนายพลหญิงกำลังใช้เขาเพื่อดึงความสนใจของตัวเอง จื่อยีคงจะฟังไม่เข้าหู ไม่แน่ว่าอาจจะเกลียดตัวเองไปเลยก็ได้
ถ้าไม่สนใจ ในใจก็ปล่อยไปไม่ได้เหมือนกัน
“ท่านหลี่ ทำไมคุณยังไม่ไป?” ในตอนที่หลี่ฝางคิดอยู่นั้น ท่านนายพลหญิงกับจื่อยีก็เดินไปหลายเมตรแล้ว ท่านนายพลหญิงเห็นหลี่ฝางยังยืนเหม่ออยู่ที่เดิม ไม่ได้ตามมา เลยอดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียกเขา
เมื่อหลี่ฝางได้ยินเสียงของท่านนายพลหญิงเลยมีสติกลับมา ก่อนจะสะบัดหัว แล้วก็ลบสิ่งที่อยู่ในสมองมากมายออกไป ก่อนจะรีบตามไป
“ท่านหลี่ ขอบคุณที่ตอนนั้นท่านช่วยชีวิตเอาไว้ ขอให้ท่านรับการขอบคุณจากข้าน้อยด้วย!”
หลี่ฝางเพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องของคิริน ยาโกะ คิริน ยาโกะที่นั่งพิงอยู่ตรงหัวเตียงก็รีบลุกลงมาจากเตียง เพราะอยากจะก้มหัวคำนับหลี่ฝาง
ตัวเขายังพันผ้าพันแผลอยู่เลย ปากแผลก็เพิ่งจะประสาน ท่าทีนี้มันไปขยับแผลบนตัว มันเจ็บจนเขาเกือบจะหมดสติไป
หลี่ฝางเห็นดังนั้นเลยรีบเดินไปด้านหน้าสองก้าว ก่อนจะประคองคิริน ยาโกะขึ้นไปนอนบนเตียงอีกครั้ง
“คุณอย่าขยับ!กว่าจะฟื้นขึ้นมาได้ ถ้าเกิดเจ็บหนักอีก เพราะก้มหัวให้ฉัน ก็ถือว่าฉันช่วยไปอย่างเปล่าประโยชน์แล้วนะ!”
หลี่ฝางจนปัญญากับชายหนุ่มคนนี้มาก คิริน ยาโกะซื่อเกินไปแล้ว ตัวเองยังเจ็บอยู่แท้ๆ ยังจะให้ตัวเองมา เพื่อก้มหัวขอบคุณตัวเองอีก
ต้องรู้ว่าคิริน ยาโกะเกือบจะตายแล้ว ก่อนหน้านี้หลายวันก็ไข้ขึ้นหนักไม่หาย หมอลงสัญญาความเสี่ยงในการรักษาหลายครั้ง ดีที่เขาแข็งแกร่งมากพอ บวกกับใช้ยาที่ดีที่สุดด้วย เลยแย่งเขามาจากมือของพญายมได้
ถ้าเกิดว่าต้องตายเพราะได้รับบาดเจ็บ จนทำให้แผลติดเชื้อ งั้นสิ่งที่ตัวเองทำก่อนหน้าทั้งหมดมันก็คงไร้ประโยชน์
เมื่อได้ยินหลี่ฝางด่าตัวเอง คิริน ยาโกะก็ฝืนยิ้มออกมา
“ท่านหลี่ท่านสอนถูกแล้ว ฉันร้อนใจเกินไป แต่ฉันไม่ได้พยายามจะเรียกร้องให้ท่านหลี่มา แต่เป็นพ่อแม่ของฉัน พวกเขาอยากขอบคุณท่านต่อหน้า”
เมื่อได้ยินคิริน ยาโกะพูด หลี่ฝางถึงได้เห็นว่าในห้องมีคนแปลกหน้าอยู่อีกสองคน
ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ตัวผอมสูง ไว้เคราแพะ ใส่แว่นขอบทอง ดูสุภาพเป็นอย่างมาก หญิงวัยกลางคนที่อยู่ข้างเขากลับอวบเล็กน้อย แต่หน้าตานั้นดูร่ำรวย ดูใจดีเป็นอย่างมา ก็น่าจะเป็นพ่อแม่ของคิริน ยาโกะ
“ท่านหลี่ ท่านมีพระคุณต่อตระกูลคิรินมาก ฉันกับฮุย มิโกะเลยมาเพื่อคำนับท่าน”
ตอนที่หลี่ฝางกำลังจะทักทายพ่อแม่ของคิริน ยาโกะอยู่นั้น พ่อของเขาก็ภรรยาของเขาคุกเข่าลงลงอะหลี่ฝาง
คำพูดที่ติดสำเนียงอย่างมาก แถมยังพูดไม่ชัดมันทำให้หลี่ฝางรู้สึกแย่ไปหมด ถ้าไม่ใช่เพราะสถานที่และบรรยากาศแบบนี้ เขาจะต้องหัวเราะออกมาแน่