NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 537 ฆ่าเขาไม่ได้นะ
บทที่ 537 ฆ่าเขาไม่ได้นะ
เมื่อได้ยินจำนวนเงินห้าล้าน สีหน้าของหม่าเชา เปลี่ยนไปในทันที แต่ชั่วพริบตาก็กลับมาเป็นปกติ: “พี่ใหญ่ หมายความว่ายังไง กำลังยุแยงตะแคงรั่วใช่ไหม?”
“ใช่หรือไม่ก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือ แกอยากได้ห้าร้อยล้านนี้หรือเปล่า?”
ลูกพี่หลินมองหม่าเชา แล้วยิ้มกล่าว: “แกน่าจะรู้จากปากของหมาจื่อแล้ว เรื่องที่ในมือของฉันมีเงินอยู่ห้าร้อยล้าน และนี่ก็คงเป็นเหตุผลที่แกทรยศฉัน สำหรับแกคนนี้ ไม่มีอะไรที่ชอบเลย จะมีก็แต่เงิน เงินคือบรรพบุรุษของแก”
“เพื่อยับยั้งไม่ให้แกทรยศ ทุกครั้งเวลาที่แบ่งเงิน ฉันจะแอบให้แกเพิ่มเป็นการส่วนตัวอยู่ตลอด จุดประสงค์ก็เพื่อให้แกรู้สึกซาบซึ้งมากขึ้น”
“คิดไม่ถึงว่า แกยังคงทรยศอยู่ดี” ลูกพี่หลินส่ายหัว เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างจะผิดหวังในตัวหม่าเชา
บนใบหน้าของหม่าเชา ไม่มีแววของความรู้สึกผิดใด ๆ เลย เขายิ้มให้ลูกพี่หลิน กล่าว: “พี่ใหญ่ ผมรู้ว่าในใจพี่ตำหนิผม แต่ในสังคมนี่ เดิมทีก็เป็นแบบนี้ ประเทศชาติย่อมมีคนมีความสามารถเกิดขึ้นมาทุกยุคทุกสมัย ยุคสมัยของพี่ มันได้ผ่านไปแล้ว พี่ดูความใจกล้าของพี่ในตอนนี้สิ น้อยกว่าเมื่อก่อนตั้งเยอะ ยังมีอีก พี่รู้ไหมว่าอะไรคืออินเทอร์เน็ต? รู้ไหมว่าอะไรคือแอปพลิเคชันปล่อยกู้? รู้ไหมว่าอะไรคือเว็บพนันออนไลน์?”
“พี่ไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยสักนิด บอกพี่พี่ก็ไม่เข้าใจ ดังนั้นผมคิดว่าติดตามพี่ เป็นไปไม่ได้ที่จะร่ำรวย”
“ไม่เหมือนพี่หมาจื่อ พี่หมาจื่อเป็นคนยุคสมัยเดียวกันกับผม เขารู้ไปหมดทุกอย่าง ตามทันกระแสนิยม เราสองคนตกลงกันแล้ว”
“รอเขาขึ้นเป็นพี่ใหญ่ เขาจะช่วยเหลือผมอย่างเต็มที่ พวกเราสองคนร่วมมือกันเปิดเว็บพนันออนไลน์ พอถึงตอนนั้น ผมเป็นเจ้ามือบ่อน เขาช่วยผมเรียกลูกค้า พอได้เงินมา ก็แบ่งกันคนละครึ่ง”
“พี่หมาจื่อเล่นพนันทุกวัน ก็รู้จักนักพนันอยู่ไม่น้อย ได้รับการช่วยเหลือจากเขา เว็บไซต์ของผม จะต้องทำเงินได้มากมายอย่างแน่นอน”
“พี่ว่าไหมล่ะ? พี่หมาจื่อ?”
หม่าเชาเดินเข้ามาหาหมาจื่ออย่างช้า ๆ ยิ้มพลางยักคิ้ว
แต่หมาจื่อกลับหันปลายกระบอกปืนจ่อไปที่หม่าเชา และกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา: “อาเชา อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้ นายยืนอยู่ตรงนั้น ก็ดีอยู่แล้ว
หมาจื่อรู้จักกับหม่าเชามานานหลายปี แล้วก็รู้ดีว่าหม่าเชาเป็นคนยังไง
เพื่อเงินแล้ว ขายได้แม้แต่ภรรยาและลูก เขาทิ้งได้แม้กระทั่งเกียรติศักดิ์ความเป็นมนุษย์ของตัวเอง
สามารถพูดได้ว่า ในสายตาของหม่าเชา เงินชนะทุกอย่าง
ดังนั้น ในตอนที่ลูกพี่หลินบอกว่าจะยกเงินห้าร้อยล้านให้เขา ใจของหม่าเชาก็ได้หวั่นไหวไปซะแล้ว เขาจึงเกิดความคิดที่ชั่วร้ายต่อหมาจื่อขึ้นมา
เพียงแต่ว่า หมาจื่อมีปืนอยู่ในมือ ในมือของเขา ก็มีปืนอยู่เหมือนกัน
ดังนั้น หม่าเชาจึงต้องการที่จะเข้าประชิดตัวหมาจื่อ แล้วลอบลงมือ
หมาจื่อมองแผนร้ายของหม่าเชาออก จึงกล่าวเปิดโปง: “หมาจื่อ ฉันแนะนำนายนะ อย่าคิดวางแผนอะไรเพื่อให้ได้เงินห้าร้อยล้านนั่น และอย่าได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมกับฉัน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ป๋ายหม่าจะต้องจัดการกับแกอย่างแน่นอน”
“พี่หมาจื่อ พี่จะทำอะไร ทำไมถึงเล็งปลายกระบอกปืนมาที่ผมล่ะ? ไหนบอกว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันไง? ทำไมพี่ถึงได้ใช้ปืนจ่อพี่น้องของตัวเองล่ะ?” หม่าเชาเสแสร้งแกล้งทำเป็นโง่เขลาเบาปัญญา แล้วหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา
ตามด้วยเสียงกระแอมไอของหม่าเชา ผู้คนที่อยู่ด้านหลังของเขา ต่างก็ยกปืนขึ้นมา และเล็งไปที่พี่หมาจื่อ
“ทำไม พวกแกคิดจะทรยศหรือยังไง?” ใบหน้าของหม่าเชา หม่นหมองและเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
ถูกคนมากมายจ่อปลายปืนมาหาตัวเองแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าหมาจื่อค่อนข้างไม่สบอารมณ์
“ลูกพี่ของพวกเรามีเพียงคนเดียว นั่นก็คือพี่เชา พี่หมาจื่อ พี่วางปืนลงจะดีกว่า” ลูกน้องของหม่าเชากล่าว
“หม่าเชา บอกให้ลูกน้องของนายวางปืนลง” หมาจื่อมองหม่าเชาอย่างเยือกเย็น พลางกล่าว
หม่าเชาหัวเราะอย่างเย็นชา: “หมาจื่อ นายกำลังออกคำสั่งกับฉันเหรอ?”
“อย่าลืมสิ พี่ใหญ่ยังไม่ตายซะหน่อย นายยังไม่ได้ขึ้นครองตำแหน่ง นาย ฉัน ฉางชิง พวกเราสามคน มีฐานะเท่าเทียมกันมาแต่ไหนแต่ไร เอาจริง ๆ นะ ฉันไม่พอใจนายมาโดยตลอด พูดถึงกำลังความสามารถ และการทำเพื่อส่วนรวม มีตรงไหนบ้างที่นายสู้ฉางชิงได้?”
“แม้กระทั่งคุณสมบัติประจำตัว ฉางชิงก็คงทิ้งห่างนายไปไกลใช่ไหมล่ะ?”
หม่าเชากล่าว แล้วมองไปที่ฉางชิง ทันใดนั้นเองสีหน้าของเขาก็ชะงักลง
“ฉางชิง เกิดอะไรขึ้นกับแขนของนาย นายถูกใครยิง?” หม่าเชาเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
สีหน้าของฉางชิงม่วงบ้างเขียวบ้าง ผ่านไปนานก็ยังไม่ได้ตอบอะไร
สีหน้าของหมาจื่อก็ไม่ได้ต่างอะไร: “ฉันยิงเองแหละ”
หมาจื่อไม่เพียงยอมรับด้วยตัวเอง แถมยังอธิบายให้ฟังอีก เขากล่าว: “เมื่อกี้ฉางชิงได้ห้ามฉัน ให้ฉันปล่อยพี่ใหญ่ไป”
“เพราะเรื่องแค่นี้ นายก็เลยลั่นไกยิงฉางชิง? ในตอนที่นายชักชวนฉันและฉางชิงเข้าเป็นพวกด้วย พูดกับพวกเราว่ายังไง นายบอกว่าต่อไปพวกก็เป็นพี่น้องกันแล้ว มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน…… ฉันว่านะหมาจื่อ นี่นายยังไม่ได้ขึ้นเป็นพี่ใหญ่เล
ย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปแล้วล่ะ แม้แต่พรรคพวกของตัวเองยังทำร้าย”
“เย็ดแม่ง หมาจื่อ นายยังมีความเป็นคนอยู่ไหม? ถึงแม้พี่ใหญ่ค่อนข้างเห็นแก่ได้ไปหน่อย เงินที่แบ่งให้กับพวกเรา น้อยไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยลงมือทำร้ายพวกเราเลย แต่นายล่ะ กลับใช้ปืนจ่อพรรคพวกของตัวเอง มีพี่ใหญ่ที่ไหนกันที่เป็นแบบนาย?”
หม่าเชาโมโหขึ้นมาในทันที และก็ไม่ได้เกรงกลัวหมาจื่อแล้ว
ในหมู่ลูกน้องของลูกพี่หลิน มีคนที่มีความสามารถอยู่ทั้งหมดสามคน นั่นก็คือหมาจื่อ ฉางชิง และหม่าเชา
ถ้าหากหม่าเชาและฉางชิงอยู่ฝ่ายเดียวกัน ยังไงหมาจื่อก็ขึ้นเป็นพี่ใหญ่ไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น หมาจื่อยังหักหลังลูกพี่ใหญ่ เดิมทีก็ไม่ได้รับความศรัทธาจากพรรคพวกอยู่แล้ว
“หม่าเชา นายฟังฉันนะ……”
“นายยากจะพูดกับฉัน ก็วางปืนลงก่อนแล้วค่อยพูด นายแม่งใช้ปืนจ่อฉัน กำลังขู่ฉันอยู่หรือไง? ถ้านายแน่จริง ก็ลั่นไกปืนสิ ทำไม ไม่กล้าเหรอ?”
“ไม่กล้าก็วางปืนลงซะ”
“ฉางชิงพูดอะไรผิดเหรอ? พวกเราทรยศพี่ใหญ่ ก็เพียงเพราะพี่ใหญ่แบ่งเงินให้เราน้อยไปเท่านั้นเอง แต่ว่า พี่ใหญ่เคยให้พวกเราขาดเหลืออะไรไหม? ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่ พวกเราทุกคน จะมีความรุ่งโรจน์ในทุกวันนี้ได้ยังไง? หมาจื่อ ทำไมถึงต้องเอาชีวิตพี่ใหญ่ให้ได้ พวกเราเอาแค่เงินของพี่ใหญ่ ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“เกิดเป็นคน ทำไมจะต้องฆ่ากันให้ตายด้วย?”
หมาจื่อกล่าวอย่างไม่ค่อยมั่นใจ: “ไม่ใช่ว่าฉันต้องการฆ่าพี่ใหญ่ แต่เป็นเพราะถ้าฉันไม่ฆ่าพี่ใหญ่ ฉันก็จะรายงานต่อป๋ายหม่าไม่ได้”
“ป๋ายหม่า? ป๋ายหม่าจะนับประสาอะไร ทำไมนายต้องกลัวมันด้วย?”
หม่าเชาพึ่งพูดจบ ทันใดนั้นมีกระสุนลูกหนึ่ง พุ่งมาจากที่ไกล ๆ และเจาะเข้าไปที่หูข้างหนึ่งของหม่าเชาอย่างจัง
เสียงร้องโอดโอยเปล่งออกมาจากปากของหม่าเชา
“แม่ง ใครวะ” หม่าเช่าตะคอกด่าออกมา และรีบหลบเข้าไปในป่าทันที
เสียงปืนดังขึ้น ตามด้วยกระสุนปืนได้พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
ลูกกระสุนนัดนี้ พุ่งโดนต้นไม้ที่อยู่ด้านหน้าของหม่าเชาอย่างจัง
และในเวลานี้เอง ผู้ชายสวมเสื้อสีขาวคนหนึ่ง ก็ได้ค่อย ๆ เดินออกมา จากป่าไม้อีกทาง
“พี่ป๋ายหม่า”
หมาจื่อกล่าวกับชายสวมเสื้อสีขาว ด้วยสีหน้าท่าทางที่นอบน้อม
ป๋ายหม่ามองหมาจื่อด้วยสายตาที่เหยียดหยาม แล้วกล่าวอย่างเย็นชา: “ไม่มีประโยชน์จริง ๆ เรื่องเล็กแค่นี้ แกยังจัดการไม่เรียบร้อย ต่อไปจะให้ฉันเชื่อใจแกได้ยังไง?”
“เหล่าหลิน หน้าที่ของแกได้สิ้นสุดลงแล้ว”
ป๋ายหม่าพูดจบ ก็มองไปหาลูกพี่หลินที่อยู่บนพื้น กล่าว: “จากไปอย่างสงบเถอะ
กล่าวไป ป๋ายหม่าพลางนำเอาปลายกระบอกปืน เล็งไปที่ลูกพี่หลิน
“เหล่าหลิน มีอะไรอย่างจะพูดอีกไหม?” ป๋ายหม่าเอ่ยถาม
วินาทีแรกที่ลูกพี่หลินเห็นป๋ายหม่า บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏแววสิ้นหวังออกมา: “ทำไม ฉันสามารถเรียกร้องอะไรจากแกได้หรือยังไง?”
“ได้สิ ขอเพียงไม่มากจนเกินไป ฉันสามารถทำให้แกสมปรารถนาได้”
ป๋ายหม่าหัวเราะเยาะ: “แต่มีข้อแม้ นั่นก็คือมอบเงินห้าร้อยล้านนั่นออกมาซะ”
“คิดไม่ถึงว่าแกก็อยากได้ห้าร้อยล้านของฉันเหมือนกัน” ลูกพ่อหลินยิ้มอ่อน กล่าว: “ฉันนึกว่า แกจะยิงฉันให้ตายในนัดเดียวซะอีก”
“มอบห้าร้อยล้านนั่นออกมา ฉันจะปล่อยลูกสาวของแกไป”
ป๋ายหม่าถาม: “ข้อเสนอนี้เป็นยังไงบ้าง? ฉันรู้ ที่แกใส่ใจที่สุด นั่นก็คือลูกสาวของแก”
“ป๋ายหม่า ฉันเชื่อแกได้ไหม?”
ลูกพี่หลินไม่ได้ใส่ใจห้าร้อยล้านนั่นเลยแม้แต่น้อย ยังไงซะเมื่อถึงเวลานี้แล้ว เงินจำนวนนี้สำหรับลูกพี่หลินแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้นเอง
ถ้าหากตัวเลขเหล่านี้ สามารถแลกกับผลประโยชน์เพียงน้อยนิดได้ ลูกพี่หลินก็ยินดีที่จะแลก
เพียงแต่ว่าป๋ายหม่าที่อยู่ตรงหน้า ลูกพี่หลินไม่อาจเชื่อเขาได้
“ใช้ห้าร้อยล้านแลกกับคำสัญญาของแก เหอะ ๆ ป๋ายหม่า คำสัญญาของแก มีค่าขนาดนั้นเชียวหรือ?”
ลูกพี่หลินส่ายหัวกล่าว: “จะฆ่าก็ลงมือซะ ฉันร่วมมือกับแกมาเป็นเวลาหลายปี มีเหรอที่จะไม่รู้จักแก?”
“ในเมื่อแกมาแล้ว นั่นหมายความว่าฉันไม่มีอะไรที่สามารถต่อรองได้อีก คนของฉัน ล้วนจะต้องถูกแกฆ่าตาย” ลูกพี่หลินกล่าวอย่างสิ้นหวัง
“เฮ้อ แกยังคงฉลาดอยู่เหมือนเดิม”
ป๋ายหหม่าทอดถอนใจ กล่าว: “เหล่าหลิน แกมันฉลาดมากเกินไป จนฉันแทบตัดใจที่จะฆ่าแกไม่ลง”
“ช่างเถอะ ห้าร้อยล้าน ก็ฝังไปพร้อมกับแกเถอะ” ป๋ายหหม่าหรี่ตาลง เขายิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
ในขณะที่ป๋ายหม่ากำลังจะลั่นไกปืนนั่นเอง หลี่ฝางพลันยืนขึ้น: “ฆ่าเขาไม่ได้นะ