NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 543 โทรศัพท์จากหลอซ่า
บทที่ 543 โทรศัพท์จากหลอซ่า
“ตอนเด็กฉันดูหนัง จำได้ว่ามีคำพูดประโยคนึง เขาพูดว่า บอกว่าจะฆ่าล้างโคตร ก็ต้องฆ่าทิ้งให้หมด แน่นอน คนอย่างฉันไม่ได้ร้ายขนาดนั้น แต่ว่าฉันก็พูดจริงทำจริงเหมือนกัน ถึงยังพวกเราล้วนแต่เป็นคนออกมาใช้ชีวิต จะปราศจากความน่าเชื่อถือไม่ได้จริงมั้ย มา อ้าปาก ให้ฉันดูหน่อย ถ้าไม่เหลือแล้วบัญชีของพวกเราก็ถือว่าสะสางแล้ว ถ้าหากยังเหลือ เห้อ ฉันก็ต้องตบนายอีก ความจริงฉันก็ไม่อยากตบนายแล้ว ตบนายที่นึง มือฉันเจ็บนะ”
โหจื่อพูด พลางสะบัดมือตนเอง แล้วพูด: “เห้อ เจ็บแบบแสบๆ เจ็บจะตายอยู่แล้วเหนี่ย”
“ถังหยู่ซวน เมื่อไม่กี่วันก่อนนายซื้อแผ่นแปะแก้ปวดนั้นมาใช่มั้ย เอามาติดให้ฉันสักสองที ฉันรู้สึกว่ามือฉัน จะเดี้ยงแล้ว” โหจื่อมองถังหยู่ซวนอย่างจริงจังมาก แล้วพูด
พูดจบ โหจื่อก็เหลือบมองป๋ายหม่า แล้วพูด: “นายดูนายสิ ทำไมถึงได้ดื้อด้านแบบนี้นะ ฉันยังตบนายไม่ถึงใจใช่มั้ย? ฉันบอกให้นายอ้าปาก นายไม่ได้ยิน หรือว่าทำเป็นไม่สนใจกันแน่?”
“ช่างเถอะ นายไม่ฟังก็ช่าง”
โหจื่อพูดจบ จู่ๆ ก็เหนี่ยวไกปืน ยิงไปที่ขาอีกข้างของป๋ายหม่า: “แบบนี้ดีมั้ย?”
“มา อ้าปาก ถ้าไม่อ้าปาก พ่อจะยิงใส่ปากแกสักนัด!”
โหจื่อพูดอย่างเย็นชา
ป๋ายหม่าเจ็บปวด รีบอ้าปากขึ้นทันที
โหจื่อผิดหวังเล็กน้อย: “ที่จริงแล้ว ฉันชอบที่นายดื้อด้านมากกว่านะ เป็นเอกลักษณ์ดี ดูนายตอนนี้ บอกให้อ้าปาก นายก็อ้าปาก เห้อ ไม่มีความใจแข็งเลยสักนิด”
“แบบนายนี่ ยังจะออกมาเที่ยวเตร่อีกนะ”
โหจื่อส่ายหน้า แล้วหันไปพูดกับหมาจื่อ: “นี่คือลูกพี่คนใหม่ของนาย? นายนี่ใช่ไม่ได้เลยนะ สายตาแย่มาก เทียบลูกพี่หลินไปได้เลยสักนิด อย่างน้อยๆ ลูกพี่หลินก็ไม่ยอมคุกเข่าให้ฉัน เหมือนกับหมาแบบนี้ ให้มันอ้าปากมันก็อ้า นายคิดว่าติดตามลูกพี่แบบนี้ จะมีอนาคตเหรอ”
“ให้ฉันชี้ทางสว่างให้มั้ย”
ขณะที่โหจื่อพูดอยู่ ถังหยู่ซวนก็เดินเข้ามาในมือถือแผ่นแปะแก้ปวดมาสองอัน โหจื่อชี้ไปที่ถังหยู่ซวน แล้วพูด: “ให้เขาเป็นลูกพี่นายเป็นไง?”
โหจื่อพูดจบ สีหน้าของหมาจื่อกับฉางชิง ก็เข้มขึ้นอยู่ครู่
ถังหยู่ซวนคนนี้ เป็นแค่บริกรตัวเล็กๆ ในบาร์คนนึง แถมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของโหจื่อด้วย
ให้ถังหยู่ซวนมาเป็นลูกพี่ของพวกเขา?
งั้นพวกเขากลายเป็นอะไร
น้องชายของน้องชายเหรอ!
“โหจื่อ ทางที่ดีนายเลิกเล่นเถอะ นายรู้มั้ยว่าเขาเป็นใคร?” หมาจื่อมองโหจื่อ แล้วทำสีหน้าซีเรียส
“ฉันรู้ว่าพื้นเพพวกนายก็ไม่ได้เล็ก แต่นายรู้มั้ย? ถ้าหากนายทำแบบนี้ต่อไป จะหาเรื่องคนกลุ่ม……”
หมาจื่อยังไม่ทันพูดจบ โหจื่อก็พูดแทรก: “นายหุบปากไป ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับลูกพี่ของพวกเรา ฉันก็แค่เห็นมันแล้วขัดลูกตา ลีลาอยู่นั่น แถมยังกล้าข่มขู่ฉัน มีความสามารถแค่ไหน ถึงกล้ามาข่มขู่ฉัน?”
“ฉันไม่สนว่ามันเป็นใครมาจากไหน และก็ไม่อยากฟังด้วย ทางที่ดีนายไม่ต้องพูด รู้มั้ย?”
หลังจากโหจื่อเตือนไปหนึ่งประโยค ก็ยกแขนขึ้น แล้วตบไปที่หน้าป๋ายหม่าอีกหนึ่งที ปากของป๋ายหม่า ก็มีเลือดกระเด็นออกมาพร้อมฟันสองซี่อีกครั้ง
“อืม น่าจะไม่มีแล้ว นายอ้าปากอีกที ให้ฉันตรวจดูหน่อย” หลังจากโหจื่อตบเสร็จ ก็พูดกับป๋ายหม่าอีกครั้ง
ในตอนนั้นปากของป๋ายหม่า บวมช้ำแล้ว แถมมีแต่เลือดเต็มไปหมด
ป๋ายหม่าเงยหน้าขึ้น มองโหจื่อ: “ถึงขนาดนี้ ก็ฆ่าฉันเถอะ”
สายตาของป๋ายหม่า เต็มไปด้วยความยั่วยุ: “นายไม่ให้ฉันบอกว่าฉันเป็นใคร มาจากที่ไหน นั่นก็หมายความว่ากลัวว่าหลังจากนี้ฉันจะตามมาคิดบัญชีใช่มั้ย?”
“เหอะๆ ถึงตอนนั้น แม้ว่าฉันจะตามหาเจอแล้ว นายก็สามารถบอกปัดได้ บอกว่านายไม่รู้จักฉันและไม่ได้เป็นคนทำ”
“นี่เพื่อน กลัวว่าเรื่องจะไปหล่นใส่หัวลูกพี่นาย ใช่มั้ย?”
“เหอะๆ ฉันจะบอกนายให้ ไม่ว่าจะเป็นนาย หรือว่าลูกพี่ใหญ่ของนาย ก็หนีไม่พ้นหรอก”
ในตอนนั้น โทรศัพท์ของหลี่ฝาง ก็มีสายเรียกเข้า
หลี่ฝางก้มหน้าดู เป็นพ่อของตนที่โทรมา หลี่ฝางขมวดคิ้ว ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ
เช้าตรู่แบบนี้ พ่อของตนโทรมา นั่นก็หมายความว่ามีเรื่องไง
หลี่ฝางลังเลอยู่นาน ถึงกดรับสาย หลี่ฝางพูดกับปลายสาย: “พ่อ พ่อรู้เรื่องแล้วใช่มั้ย?”
“อืม นายยกบาร์ให้คนอื่นแล้ว ใช่มั้ย?” หลอซ่าถามจากปลายสาย
หลี่ฝางพูดอืม: “ขอโทษครับ พ่อ ผมไม่มีทางเลือก ฝั่งลูกพี่หลิน ผมไม่สามารถเห็นคนจะตายแล้วไม่ช่วยได้ ถึงยังไงผมกับหลินชิงชิงก็……”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก ระหว่างพวกเราพ่อลูก ไม่จำเป็นต้องขอโทษ อีกอย่าง บาร์นั่นเป็นของลูก ลูกอยากจะให้ใครก็แล้วแต่ลูก ลูกมีสิทธิ์ตัดสินใจเอง”
“ลูกส่งโทรศัพท์ให้โหจื่อเถอะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ พ่อเห็นหมดแล้ว” หลอซ่าพูดจากทางปลายสาย
หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่ แต่ต่อมาก็เข้าใจ
ก็จริง บาร์แห่งนี้มีกล้องวงจรปิด พ่อของตน สามารถเห็นภาพทั้งหมดที่เกิดขึ้น จากระยะไกลได้
หลี่ฝางเดินขึ้นหน้าไป ยังด้านหน้าของโหจื่อ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้กับเขา
“โหจื่อ สายจากพ่อฉัน” หลี่ฝางยื่นโทรศัพท์ให้ พลางพูด
สีหน้าของโหจื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงรับโทรศัพท์มาจากมือของหลี่ฝาง
“เหอะๆ เห็นที่คงมีคนจะถูกด่าแล้ว” ป๋ายหม่าที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น พูดอย่างรื่นเริง
รับจากโหจื่อรับโทรศัพท์มา ก็พูดขึ้น: “ลูกพี่ใหญ่ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคนอื่น เป็นเรื่องส่วนตัวของผมเอง”
“ถ้าหากมันนำเรื่องมาให้ลูกพี่ ผมสามารถตัดความสัมพันธ์กับลูกพี่ให้หมดจดได้ครับ”
โหจื่อเพิ่งพูดจบ หลอซ่าก็ด่าออกมาจากทางปลายสาย: “ไอ้เลว พูดบ้าอะไรไร้สาระของแก อยากจะแปรพักตร์หรือไง? ยังจะมาอยากตัดความสัมพันธ์กับฉัน นายลืมไปแล้วเหรอว่านายเป็นใคร? นี่แกดื่มไปเท่าไหร่เหนี่ยห้ะ พูดไร้สาระตั้งแต่หัววันเลย เอาโทรศัพท์ให้เสี่ยวฝาง”
โหจื่อชะงักอยู่ครู่ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้หลี่ฝางอีกครั้ง หลี่ฝางรับมา แล้วได้ยินพ่อของตนพูดขึ้นทางปลายสาย: “ไอ้ลูกชาย ตบโหจื่อแทนพ่อสักสองที”
“ห้ะ” หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่
“ตบโหจื่อแทนพ่อสองที ไอ้บ้านี่ดื่มเมาแล้ว ตบมันสักสองที ให้มันได้สติหน่อย ไอ้เด็กผยองนี่ ถึงกับอยากจะตัดความสัมพันธ์ หมอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ” หลอซ่าที่อยู่ปลายสาย พูดอย่างโมโห
หลี่ฝางอยากจะหัวเราะและร้องไห้ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้โหจื่อ แล้วพูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน: “โหจื่อ พ่อฉันบอกว่าให้ตบนายสองที นายว่าให้ฉันทำมั้ย?”
“ลูกพี่ใหญ่ให้นายตบ ก็ตบเถอะ”
โหจื่อพูดอย่างกับคนหมดแรง
หลี่ฝางอืม จากนั้นก็ลูบเบาๆ ไปที่หน้าของโหจื่อสองครั้ง: “เอาล่ะ ตบเสร็จแล้ว”
“โห นายลงมือได้โหดเหี้ยมมากจริงๆ ” โหจื่อพูด ด้วยน้ำเสียงตกใจ
หลอซ่าพูดขึ้นจากปลายสาย: “พวกนายสองคนไม่ต้องมาแสดง ฉันดูผ่านCCTVเห็นชัดหมดทุกอย่าง”
“นายบอกเด็กที่ชื่อป๋ายหม่านั้น บาร์นี้ถ้าเขาอยากได้ ก็ให้เขาไป”
“ขอแค่เขามีปัญญามาเอาไปได้ ไม่ต้องพูดถึงบาร์ แม้แต่บ้านพักตากอากาศ หรือว่าสวนสนุก รวมไปถึงที่ดินที่ฉันมีอยู่ทั้งหมด ก็จะให้เขาหมด นายถามเขา ว่าเขาอยากได้มั้ย? ถ้าอยากได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ไปเซ็นสัญญากับเขา”
หลอซ่าพูดจากปลายสาย
โหจื่อมองป๋ายหม่า แล้วหัวเราะเหอะๆ : “ป๋ายหม่า ใช่มั้ย? นายรวยแล้ว ลูกพี่ใหญ่ของพวกเราบอกว่าแม้แต่บ้านพักตากอากาศกับสวนสนุก ทั้งหมดก็จะยกให้นาย นายอยากได้มั้ย? ถ้าอยากได้ลูกพี่ใหญ่ของพวกเราก็จะมาเซ็นสัญญาเดี๋ยวนี้”
“ฉันให้นายคุยกับลูกพี่”
ป๋ายหม่ายื่นมือ ไปรับโทรศัพท์: “หลอซ่า พวกเราทำอะไรมีขอบเขตไม่ก้าวก่าย บาร์นี้ เป็นลูกชายของคุณเอามาแลกกับชีวิตของลูกพี่หลิน ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจกับการแลกเปลี่ยนนี้ พวกเราสามารถยกเลิกได้”
“มีอะไรให้ไม่พอใจล่ะ นายอยากได้ ก็เอาไปสิ”
หลอซ่าหัวเราะ แล้วพูด: “ยังคงเป็นคำเดิม นายมีความสามารถขนาดไหน ก็ทำตามนั้น นายฟังที่ฉันจะพูดให้ดี บาร์แห่งนี้ฉันให้นายไปแล้ว งั้นฉันก็ไม่เอาแล้ว”
“เหอะๆ งั้นมูลค่าบนร่างของผมจะคิดยังไง กระสุนสองนัด ทั้งหมดยิงมาที่ขาของผม เกรงว่าอีกครึ่งชีวิตที่เหลือ คงจะเดี้ยงไปข้าง ยังมีฟันทั้งปากอีก” ป๋ายหม่าถามน้ำเสียงเย็นชา
ส่วนหลอซ่าที่อยู่ปลายสายก็เงียบอยู่ครู่ แล้วพูดต่อ: “ใช่แล้ว ป๋ายหม่า เมื่อกี้นายบอกว่าให้โหจื่อฆ่านายเลย ใช่มั้ย?”
วินาทีนั้น ร่างของป๋ายหม่า ก็สั่นไปทั้งตัว
“นายเปิดลำโพง ให้ฉันพูดกับโหจื่อหน่อย” หลอซ่าพูดขึ้น