NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 544 ความเย่อหยิ่งของโหจื่อ
บทที่ 544 ความเย่อหยิ่งของโหจื่อ
ชื่อของหลอซ่า ป๋ายหม่าเคยได้ยินมานานแล้ว
เมื่อสามปีก่อนหลอซ่าราวกับเป็นนักฆ่า ฆ่าคนนับไม่ถ้วน ตอนนั้นมีคำพูดในเมืองเอกที่บอกต่อๆ กันว่า เจอหลอซ่าก็เหมือนกับเจอพญายมบาล ดังนั้นถ้าบอกว่าป๋ายหม่าไม่กลัวนั้นก็ปลอมแล้ว
ที่จริงป๋ายหม่านึกว่าฐานะของตน จะทำให้หลอซ่าตกใจได้ หรือว่าจะทำให้หลอซ่ากลัวสักเล็กน้อย ใครจะรู้ หลอซ่าไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย แถมยังจะให้โหจื่อฆ่าเขาทิ้ง
ป๋ายหม่ากลืนน้ำลาย แล้วพูด: “ไม่มีอะไรแล้ว งั้นวางและ”
“ทำไม ไม่คิดจะมาล้างแค้นฉันแล้วเหรอ?” หลอซ่าหัวเราะอย่างเย็นชา
ป๋ายหม่าไม่กล้าพูด เขาอยากจะกลับไปที่องค์กรของเขา แล้วค่อยคิดหาวิธี
เขาเชื่อว่า เขาเสียสละให้องค์กรของตนมาตั้งหลายปี องค์กรของตน ต้องช่วยตนออกหน้าแน่ๆ
“นายไม่คิดบัญชีกับฉัน แต่ฉันจะคิด บาร์นี้ฉันให้นายแล้ว จะให้ฟรีๆ ก็ไม่ได้ ลูกชายของฉันหาเงินได้จากบาร์นี้ตั้งมากมาย ไม่น้อยไปกว่าธุรกิจสกปรกที่นายทำ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ตงไห่หรือว่าเมืองเอก ฉันไม่อนุญาตให้นายทำธุรกิจแล้ว ได้ยินมั้ย? ถ้าหากฉันเจอ พวกนายมาจากไหน ก็ไสหัวกลับไปที่นั่น นายจะคิดก็ได้ว่าฉันดีแต่ปาก แต่ว่าฉันจะบอกนายให้ ไอ้นิสัยดีแต่ปากของฉัน ฉันเลิกไปตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว”
หลอซ่าพูดจบ ก็กดวางสายไป
ต่อมา หลี่ฝางก็ได้รับข้อความ เป็นพ่อของตนที่ส่งมา หลังจากหลี่ฝางอ่าน ก็พูดกับโหจื่อ: “พ่อให้ฉันบอกนายว่า ถ้าเขายังกวนต่อไป ก็ให้ยิงทิ้งได้เลย เรื่องหลังจากนี้เขารับผิดชอบเอง”
หลังจากโหจื่อได้ยินแบบนั้นก็ยิ้ม: “พี่ๆ ได้ยินแล้วใช่มั้ย?”
ป๋ายหม่ากลืนน้ำลาย สีหน้าดื้อด้านเมื่อครู่ก็ไม่มีแล้ว เขาได้เห็นแล้ว ว่าหลอซ่าไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย ไม่ใช่แค่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา แม้แต่องค์กรที่หนุนหลังเขา หลอซ่าก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา
“ให้ฉัน เติมเต็มความหวังของนายให้มั้ย?” โหจื่อจ่อปืนไปที่หัวของป๋ายหม่า
ป๋ายหม่าส่งสายตาให้หมาจื่อ หลังจากหมาจื่อเห็น ก็ยกปืนขึ้น แล้วเหนี่ยวไกทันที
แต่ตอนที่กระสุนของหมาจื่อถูกยิงออกไป มืออีกข้างของโหจื่อ ก็เหนี่ยวไกปืนเหมือนกัน กระสุนสองนัดถูกยิงประสานกัน แล้วหล่นไป
ม่านตาของหมาจื่อ หดเล็กลงอยู่ครู่
กระสุนนัดก่อนหน้านี้บรรจบกัน ถ้าบอกว่ามันบังเอิญ งั้นครั้งนี้ล่ะ จะว่าไง?
หมาจื่อกลืนน้ำลาย ไม่คิดจะยิงเป็นครั้งที่สอง แต่ใช้ไพ่ความรู้สึกเข้าสู้: “พี่โหจื่อ พี่ยังจำได้มั้ย ตอนแรก ฉันยังเคยช่วยพี่นะ”
“เมื่อก่อนพี่เคยขโมยของบนพื้นที่ของผม ถูกคนจับ เป็นผมที่ช่วยพี่ พี่จำได้มั้ย?”
หน้าของหมาจื่อ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ส่วนหน้าของโหจื่อ ก็เข้มขึ้นมาทันที
“ฉันเคยพูด ถ้าลั่นไกปืนแล้ว ก็ต้องมีคนที่ล้ม นายไม่อยากล้ม งั้นก็เปลี่ยนมาให้เขาล้มก็แล้วกัน”
โหจื่อหันหน้าไป มองป๋ายหม่า: “ฉันรู้ กระสุนนัดนี้นายอนุญาตให้เขายิง”
“นายจะฆ่าฉันไม่ได้นะ เบื้องหลังฉันมี……”
คำพูดของป๋ายหม่า ยังไม่ทันได้พูดจบ โหจื่อก็ลั่นไกปืนใส่หัวของป๋ายหม่า
ต่อมา ป๋ายหม่าก็ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรง ตายแบบไม่รู้จะตายยังไงได้อีกแล้ว
หลังจากที่หมาจื่อได้เห็น ก็กลืนน้ำลายอย่างแรง เขารู้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าในปีนั้นเคยช่วยโหจื่อไว้ครั้งนึง คนที่ตาย ต้องเป็นเขาแล้ว
โหจื่อนั่งลงบนโซฟา รินเหล้าให้ตนเอง แล้วพูด: “หมาจื่อ นายมานี่”
หมาจื่อขาอ่อนเล็กน้อย ยืนนิ่งอยู่นานไปเดินไป
“หมาจื่อ นายหูหนวกเหรอ ถ้าหูหนวกแล้วจริงๆ ฉันจะลั่นไกให้สักนัด อย่าให้มันมาอยู่ที่หัวนายเลย มันน่าเกลียด”
โหจื่อหัวเราะ พลางมองหมาจื่อ แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา
หมาจื่อจึงก้าวเท้า เดินไปทางโหจื่อ
“คุกเข่าลง”
โหจื่อทำมือขึ้นลงไปทางหัวของหมาจื่อ หมาจื่อก็ไม่ได้ลังเลใดๆ เขาคุกเข่าลงไปทันที ต่อหน้าโหจื่อ
ในตอนนี้ หมาจื่อไม่กล้าพูดถึงความเสมอภาคกับโหจื่อแล้ว
ป๋ายหม่าถูกเขายิงแล้ว โหจื่อในตอนนี้มีอะไรที่ไม่กล้าทำอีก
โหจื่อมองหมาจื่อ แล้วพูด: “ทำไม ได้ยินดีนายพูด ลูกพี่หลินถูกนายทำให้เดี้ยงไปแล้วเหรอ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป นายก็คือลูกพี่ของตงไห่แล้ว ใช่มั้ย?”
“ท่านถึงจะเป็นลูกพี่ของตงไห่ เป็นท่านครับ” หมาจื่อพูดกับโหจื่อ อย่างเคารพ
“นายความจำสั้นเรื่องไงวะ? ฉันบอกนายแล้ว ตูดฉันมันใหญ่ ตำแหน่งลูกพี่ของตงไห่มันเล็กไป ฉันนั่งไม่ลง นายลืมไปแล้วเหรอ?”
โหจื่อมองบน แล้วพูด: “ตงไห่จะอยู่ในมือของใคร มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักนิด แต่นายฟังไว้ให้ดี ที่นี่ ไม่ใช่ที่ที่นายจะต้องเข้ามายุ่ง ถ้านายกล้าพาคนมาทำธุรกิจที่นี่ หรือว่ามาเรียกเก็บค่าคุ้มครอง……”
โหจื่อยังไม่ทันพูดจบ หมาจื่อก็ปัดมือแล้วพูด: “ไม่กล้าครับ ไม่กล้า พี่โหจื่อ ผมไม่รักชีวิตแล้วเหรอ ถึงจะมาเก็บค่าคุ้มครองกับพี่”
“อืม งั้นก็ดี แล้วก็ เมื่อก่อนเรื่องที่มันเกิดขึ้นมานานแล้ว ก็ไม่ต้องพูดถึงแล้ว ตอนนั้นที่นายช่วยฉัน ฉันก็ช่วยนายแล้วใช่มั้ย? ของที่ฉันขโมยไป ขายได้เงิน ก็แบ่งให้นายส่วนนึงแล้วนี่”
“ฉันไม่ได้ติดค้างอะไรนาย ดังนั้นที่ฉันยิงป๋ายหม่า ไม่ได้ยิงนาย ก็เพราะว่ามันขัดลูกตาฉันมากกว่า”
“ถึงยังไงนายก็เรียกเขาว่าพี่ป๋ายหม่า เห็นที่นายจะรู้ถึงฐานะของเขาแล้ว นายก็เอาศพเขา ส่งกลับไปด้วยแล้วกัน ถือโอกาส บอกพวกเขาด้วย ถ้าจะคิดบัญชี ก็มาหาฉัน อย่าไปลงที่ลูกพี่ฉัน ฉันตัวคนเดียว ก็อยู่เล่นเป็นเพื่อนพวกเขาได้จนถึงที่สุด”
โหจื่อบอกหมาจื่อ: “ประโยคนี้ ส่งไปให้พวกเขาได้มั้ย?”
“ได้ครับ ได้” หมาจื่อพยักหน้าตอบรับ
โหจื่อส่ายหน้า: “เห็นทีนายจะเข้าร่วมกับแก๊งพวกเขาแล้ว”
หลังจากพูดจบ โหจื่อก็พูดต่อ: “ดวลกันแล้วรอบนึง ความรู้สึกฉันก็ให้นายไปแล้ว ครั้งต่อไปเจอกัน ฉันจะไม่คำนึงถึงความรู้สึก รีบพาคนของนาย กับศพของป๋ายหม่าออกไปเถอะ”
“จำไว้ พวกนาย ตอนนี้พวกนายต่างหลับกันหมด ยังไม่ตื่น นี่เป็นแค่ความฝัน รอออกจากประตูนี้ไป ถึงจะตื่นจากฝัน พวกนายไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เข้าใจมั้ย?” โหจื่อมองฉางชิงและคนอื่นๆ แล้วพูด
ฉางชิงนำหน้าพูด: “พี่โหจื่อ พวกเรารู้ว่าต้องทำยังไงครับ”
“งั้นก็ดี”
ต่อมา ฉางชิงก็หันกลับ แล้วพูด: “ที่นี่ที่ไหนเหนี่ย บนสวรรค์เหรอ ความฝันนี้สมจริงมากเลย น่าเสียดายที่เป็นแค่ความฝัน”
หลังจากที่ฉางชิงเดินออกไป หมาจื่อก็อุ้มศพของป๋ายหม่าขึ้นมา จากนั้นก็ลุกขึ้นพูด: “พี่โหจื่อ ผมไปก่อนนะ จากนี้ผมจะพยายามอยู่ให้ห่างจากพี่”
“อืม ถ้าหากนายไม่อยากตายละก็ ทางที่ดีอย่าให้ฉันเจอนายอีก” โหจื่อดื่มเหล้าเข้าไปหนึ่งอึก แล้วพูดอย่างเย็นชา: “ขอพูดสิ่งที่นายไม่อยากฟังสักคำ เรื่องชั่วๆ ทำให้มันน้อยๆ หน่อย สร้างบุญให้ตัวเองสักนิด”
“ผมถอยกลับไม่ได้แล้ว ต้องขอโทษด้วย พี่โหจื่อ”
หมาจื่อถอนหายใจ หน้าของเขา ซับซ้อนเล็กน้อย: “ผมรู้สึกผิดกับคนมากมาย แต่ผมแค่อยากมีชีวิต มีชีวิตที่ดี”
“ผมเป็นคนที่เห็นแก่ตัว” หมาจื่อพูดจบ ก็เดินออกไป
โหจื่อยืนขึ้น มองไปที่ถังหยู่ซวน แล้วพูด: “เห้อ ไอ้ชั่วพวกนี้ วิ่งหนีเร็วจริงๆ ไปแล้ว ไม่ช่วยกันเก็บกวาดสักหน่อยเลย น้องชาย มอบหน้าที่ให้นายแล้วนะ”
“ทำเรื่องพวกนี้ให้มากหน่อย ต่อไปแต่งงาน ก็จะทะเลาะกันน้อยลง”
ถังหยู่ซวนยู่ปาก แล้วพูด: “ภรรยาผมต้องทำงานบ้านเป็น เรื่องพวกนี้ไม่ตกมาถึงผมหรอก”
พูดแบบนี้ แต่ถังหยู่ซวนก็ยังคงก้มหน้าทำความสะอาดกองเลือดที่พื้น โหจื่อเดินมายังด้านหน้าของหลี่ฝาง แล้วยื่นสัญญาให้เขา: “เจ้านาย”
“สัญญาไม่ได้อยู่ที่ตัวของป๋ายหม่าหรอกเหรอ?” หลี่ฝางมองโหจื่ออย่างสงสัย
“เจ้านาย ลืมไปแล้วเหรอว่าผมทำอะไรน่ะ?” โหจื่อหัวเราะฮี่ๆ
“พูดตามตรง เรื่องของป๋ายหม่า จะสร้างปัญญาให้กับพ่อฉันมั้ย? พอมองออก ว่าฐานะเขาไม่ใช้เล็กๆ นายเอาเรื่องทั้งหมด แบกไว้คนเดียว ฉันจะบอกนายให้ เรื่องนี้พ่อฉันไม่เห็นด้วยแน่ ถ้าเขารู้ ต้องโมโหแน่ๆ ถึงตอนนั้น เขาคงจะตบนายสองครั้งด้วยตัวเองจริงๆ ”
หลี่ฝางพูดจบ โหจื่อก็แค่ยู่ปากแล้วหัวเราะ: “มีอะไรที่ไหน ก็แค่องค์กรเล็กๆ เอง พูดตามตรง ถ้าหากเป็นที่ต่างประเทศ ผมจะไม่เห็นพวกนั้นอยู่ในสายตาเลย”
“หากพวกเขาบีบผม ผมก็จะบุกไปที่รังของพวกมัน”
โหจื่อยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด: “วางใจเถอะ เจ้านาย ผมจะไม่สร้างปัญหาให้ลูกพี่ใหญ่”
หลี่ฝางตบไปที่ไหล่ของโหจื่อ: “สร้างปัญหาให้ไม่เป็นไร นายอย่าฝืนตัวเอง ฉันกับพ่อของฉัน ต่างก็ไม่อยากให้นายเกิดเรื่อง”