NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 549 คุณชายหลี่ ท่านมาแล้ว
บทที่ 549 คุณชายหลี่ ท่านมาแล้ว
“หลอซ่า!”
“หลอซ่า! ”
“หลอซ่า!”
พอพูดถึงหลอซ่า คนพวกนั้น ก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“หลอซ่ากลับมาแล้วจริงๆ เหรอ?”
“งั้นพวกเรา?”
ทุกคนในนี้ มีหลายคน ที่เคยเป็นศัตรูกับหลอซ่า
ถ้าหลอซ่ากลับมา ก็คงหนีไม่พ้นสงคราม
“ไม่ได้บอกว่าตอนนั้นสี่ตระกูลใหญ่ไล่ตามไปจนรู้ตัวตนที่แท้จริงของหลอซ่า และฆ่าเขาไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไม เขาถึงกลับมาอีกล่ะ?” คนพวกนั้นขมวดคิ้ว
“ใช่แล้ว เขาไม่ใช่แค่กลับมา แถมยังอยู่ข้างกายทุกคนด้วย ตระกูลหลี่แห่งบ้านพักตากอากาศ นั่นก็คือหลอซ่า”
ลูกพี่หลินหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ป๋ายหม่าถูกคนของหลอซ่าฆ่าตาย พวกนายคิดว่าหมาจื่อจะปลอดภัยเหรอ?”
ลูกพี่หลินมองฉางเหมา แล้วพูด: “นี่ก็สายแล้ว พวกเราควรไปได้แล้ว”
“ถ้าหากพวกนายอยากจะร่วมงานกัน สามารถติดต่อเสี่ยวเทาที่อยู่ด้านล่างได้ ส่วนของ พวกนายเอาไปก่อนได้ เมื่อได้ที่ขายได้ ค่อยเอามาจ่าย แน่นอนว่า ถ้าหากพวกนายอยากติดหนี้ละก็นะ……” ลูกพี่หลินยิ้มตาหยี ในคำข่มขู่ ก็มีความชัดเจน
ฉางเหมาหัวเราะเหอะๆ : “พวกพี่ทุกคนไม่ใช่คนที่อยากติดหนี้หรอก จริงมั้ย พวกพี่ๆ ?”
ปฏิกิริยาของฉางเหมาเมื่อครู่ ทำให้คนไม่น้อยถึงกับช็อก
ออกไปแค่เจ็ดนาทีเท่านั้น กลับจัดการคนข้างกายของหวางจี๋สองคนได้ราบคาบ
ประเด็นก็คือ ฉางเหมาไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
“หวางจี๋ สองคนที่นายพามา ฝีมือเป็นยังไง?” หลังจากที่ลูกพี่หลินออกไป คนพวกนั้นก็เดินไปหาหวางจี๋ และถามอย่างกระวนกระวาย
สีหน้าของหวางจี๋ ซีดลงเอามากๆ : “ถ้าหากฉันบอกพวกนายว่า พวกเขาสองคน เป็นลูกน้องฝีมือดีที่สุดของฉันล่ะ พวกนายจะเชื่อมั้ย?”
“ห้ะ?”
“เสี่ยงเอ้อร์กับเสี่ยวปิง” หวางจี๋พูดขึ้น: “พวกนายที่สนิทกับฉัน น่าจะรู้จักพวกเขา สองคนนี้ ถือได้ว่าเป็นลูกน้องที่เยี่ยมที่สุดของฉันแล้ว ทำงานสกปรกให้ฉันมาไม่น้อย”
“เห้อ เห็นที่ฉางเหมาจากเขตสามเหลี่ยมนั่นฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ ซะแล้ว”
หลังจากฟังหวางจี๋พูดจบ คนในห้อง ทั้งหมด เกิดความหวาดกลัวฉางเหมา
เมื่อมาถึงด้านล่าง ฉางเหมาก็มองเสี่ยวเทา แล้วถาม: “แฟนนายล่ะ?”
สีหน้าของเสี่ยวเทา ชะงักเล็กน้อย: “ผมปล่อยหล่อนไปแล้ว แต่ว่าผมบอกหล่อนแล้ว เรื่องที่ได้เห็นทั้งหมดในวันนี้ หล่อนจะไม่ไปบอกคนที่สองอย่างแน่นอน พี่ พวกพี่วางใจได้”
“หล่อนมีลูก มีพ่อแม่ ผมมีข่าวของพวกเขา ถ้าหากเธอกล้าหักหลังผม……” ใบหน้าของเสี่ยวเทา แสดงให้เห็นถึงความอาฆาตเบาๆ
“ไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กับฉัน ฉันเชื่อแค่คนตาย รอให้ถึงตอนที่นายหาครอบครัวเพื่อล้างแค้น ก็แสดงว่าที่ของพวกเราที่นี่ก็ถูกเปิดเผยแล้วสิ นายเข้าใจมั้ย?”
ลูกพี่หินมองเสี่ยวเทา พลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ก็แค่ผู้หญิงคนเดียวเอง นายยังลงมือไม่ได้ จะเป็นคนใหญ่คนโตได้ยังไง?”
“หรือว่านายมองไม่ออกเหรอ? ยัยผู้หญิงคนนั้นเห็นแก่เงิน ผู้หญิงแบบนี้ ขอแค่มีเงิน นายก็สามารถเอาหล่อนได้”
ลูกพี่หลินมองบนใส่เสี่ยวเทา แล้วพูด: “ถ้าหากนายไม่ลงมือ ฉันจะส่งคนอื่นไป”
“ให้ผมทำเองเถอะ” เงียบอยู่ไม่กี่วินาที เสี่ยวเทาก็พูดขึ้นเสียงเบา
“อืม ฉางเหมา ถามที่อยู่ของคุณชายหลี่ที พวกเราไปกันตอนนี้เลย ถ้าช้ากว่านี้ พวกเขาจะสงสัยพวกเรา” ลูกพี่หลินพูดขึ้น
“เมื่อครู่ตอนออกมา คุณชายหลี่โทรหาผม แล้วส่งที่อยู่มาให้แล้ว”
อีกฝั่ง ที่คฤหาสน์บ้านซาน
“ยังไม่มาอีกเหรอ?” ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง แล้วถาม
“อืม ที่ตำแหน่งไปให้แล้ว ฉางเหมาบอกว่า รออีกแป๊บนึง” หลี่ฝางพูด: “ฉางเหมาบอกว่าพวกเขาเพิ่งมาถึงเมืองเอก”
“เหอะๆ พวกเขาออกมาจากบาร์ แล้วตรงมาที่เมืองเอกเลย แต่พวกเรา แวะกลางทางกันก่อน กินข้าวเช้ากันหนึ่งมื้อ จากนั้นค่อยเข้ามาเมืองเอก ฉันขับรถก็ไม่ได้เร็ว ถึงพวกเขาจะช้ายังไง ก็น่าจะถึงได้แล้ว”
ส้าวส้วยพูดอย่างมั่นใจ: “ฉันคิดว่า พวกนั้นต้องไปทำเรื่องอื่นแน่”
“ช่างเถอะ พวกเราขึ้นไปกันเถอะ” ส้าวส้วยไม่ได้พูดมากอะไรต่อ และเดินขึ้นไปบนคฤหาสน์บ้านซาน
เมื่อมาถึงวิลล่ากลางภูเขาหมายเลข1 ที่หน้าประตูมีรปภ.ยืนอยู่หนึ่งคน รปภ.คนนี้มองแล้วอายุน่าจะราวๆ สี่สิบกว่าๆ หลี่ฝางเดินเข้าไป แล้วถามขึ้น: “นายคือพ่อของจ้าวเสี่ยวตาว จ้าวควนใช่มั้ย?”
“ใช่ครับ คุณชายหลี่ เป็นผมเอง” จ้าวควนผงกหัวให้อย่างเคารพ
หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่ พลางมองชายวัยกลางคนข้างหน้า พูดขึ้น: “นายรู้จักฉัน?”
“ตอนที่อยู่ที่บ้านพักตากอากาศ ผมเคยเจอคุณชายหลี่ครั้งนึง เป็นเสี่ยวตาวที่บอกผม” จ้าวควนพูดไปผงกหัวไป
จ้าวเสี่ยวตาวสูญเสียเพราะหลี่ฝางครั้งใหญ่ ดังนั้นจ้าวควนจึงได้รับบทเรียน และไม่สามารถสูญเสียเป็นครั้งที่สองได้แล้ว
ถึงยังไง ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลจ้าว ก็ไปยั่วโมโหตระกูลใหญ่ๆ อย่างตระกูลหลี่ได้หรอก
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ทำงานอาทิตย์นี้เสร็จ นายก็กลับไปได้แล้ว แล้วก็พาภรรยานายไปด้วยเถอะ ระยะที่ผ่านมา ทำให้พวกนายต้องเสียใจแล้ว”
“ไม่เสียใจครับ ไม่เสียใจ เสี่ยวตาวพุ่งเข้าไปแทงท่าน ท่านไม่ได้เอาคืนเสี่ยวตาว ไว้ไมตรีแล้ว พวกเราของคนผัวเมียทำงานให้ท่านอยู่ที่นี่ ก็ถือว่าเป็นการชดเชยความผิดแทนลูกแล้ว” จ้าวควนรีบพูดขึ้น
ในตอนนั้นหลี่ฝางไม่รู้จะต้องพูดยังไงดี
คนที่เป็นถึงประธานบริษัทจ้าวซื่อ ในมือกำอนาคตของบริษัทเอาไว้ กลับวิ่งมาที่บริษัทตนมาเป็นรปภ.?
แถมยังให้ภรรยาตัวเอง มาเป็นแม่บ้านด้วย
แล้วก็ยังให้กลุ่มผู้ประกาศข่าวมาเป็นแม่บ้านอีก
ถ้าบอกว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่เสียใจ ตีหลี่ฝางให้ตายก็ไม่เชื่อ
พูดตามตรง หลี่ฝางก็แค่อยากจะให้บทเรียนจ้าวเสี่ยวตาว ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ผ่านไปนานแล้ว ความโกรธในใจตน ก็หายไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะปล่อยพวกจ้าวควนไปแล้ว
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “ฉันกับจ้าวเสี่ยวตาวเป็นคนหนุ่ม มีเรื่องเข้าใจผิดกัน ทำให้มีปัญหาระหว่างกันเป็นเรื่องธรรมดา ถึงยังไงถ้าไม่สู้กันก็จะไม่เข้าใจกันจริงมั้ย”
ประโยคนี้ของหลี่ฝาง ทำให้จ้าวควนโล่งใจขึ้นเยอะ
ประโยคนี้ของหลี่ฝาง มีสองความหมาย อย่างแรก ไม่เพียงแต่เข้าใจจ้าวเสี่ยวตาว อย่างที่สอง ยังหมายความว่าสามารถเปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรได้
สามารถทำให้ตนกับคุณชายตระกูลหลี่เป็นเพื่อนกันได้ จ้าวควนคิดว่าสิ่งที่ตนได้พบเจอมาไม่กี่วันนี้ มันคุ้มค่า
หลายวันที่ผ่านมา ผู้ประกาศข่าวตัวเล็กๆ ก็กล้าเรียกใช้เขาไปมาแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะทนไหว
“ไว้คราวหน้าฉันจะเป็นเจ้ามือ เชิญคุณกับภรรยากินข้าวสักมื้อ เรียกเสี่ยวตาวมาด้วย ถือว่าเป็นการชดเชยที่หลายวันมานี่ผมเสียมารยาทไป ถึงยังไง พวกคุณก็เป็นผู้อาวุโส ให้พวกคุณมาทำงานให้ผม ไม่ไหวเลยจริงๆ ”
หลี่ฝางรู้ว่า พวกผู้อาวุโส สิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากผลกำไรแล้ว ก็คือหน้าตาทางสังคม
จ้าวควนคนนี้คงจะไม่หน้าไม่อาย ถ้าตนให้เขาออกไปเฉยๆ แล้วไม่ไว้หน้าเขาละก็ หลังจากวันนี้ เขาคงจะต้องมาขัดขวางตนแน่นอน
แน่นอนว่า มองจ้าวควนคนนี้ เขาก็พอมีความกล้าที่จะทำมันด้วย
ถือว่าเชื่อมสัมพันธ์สักเส้นแล้วกัน หลี่ฝางยิ้มอ่อนให้จ้าวควน แล้วพูด: “โอเค ฉันเข้าไปก่อนนะ ช่วงนี้ฉันจะหาคนมาเป็นรปภ.คนใหม่ รอให้เขามาแล้ว คุณก็กลับไปเถอะ”
“ขอบคุณคุณชายหลี่” จ้าวควนถึงจะพยักหน้าแล้วพูด
ไม่นาน หลี่ฝางก็เดินเข้ามาในคฤหาสน์
ในตอนนั้น ผู้หญิงหลายคน ที่สวมชุดนอน กำลังนั่งอยู่ที่ชั้นหนึ่งกินข้าวเช้าที่คุณนายจ้าวเป็นคนทำ
“พวกนายเป็นใครกัน?”
นักข่าวคนนึงลุกขึ้นมาอย่างเร็ว พลางมองที่ไปหลี่ฝางกับส้าวส้วยและคนอื่นๆ : “รปภ.ที่หน้าประตู นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงได้ปล่อยใครก็ไม่รู้เข้ามาเหนี่ย”
“นั่นสิ ใครกันเหนี่ย ทำไมถึงได้โผล่พรวดเข้ามาในคฤหาสน์พวกเรา”
“รปภ.ทำงานยังไงเหนี่ย?”
นักข่าวพวกนั้น ล้วนต่างไม่ได้แต่งหน้า แถมยังสวม บางได้ขนาดไหนก็บางเท่านั้น เป็นชุดนอนเดรส ชุดนอนพวกนั้น
จู่ๆ ก็มีชายสองคนเข้ามา ในใจของพวกหล่อนตกใจเป็นเรื่องธรรมชาติ หนึ่งพวกหล่อนสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น สองพวกหล่อนหน้าสด
“ยังจะมอง!”
“รีบหันหน้าไป” ผู้หญิงรูปร่างดี สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นคนนึงลุกขึ้น แล้ววิ่งเข้าห้องตนไปอย่างโมโห
โก่เอ๋อพูดอย่างไม่พอใจ: “เสียดายรุ่นดีๆ แบบนี้ แต่หน้าตาน่าเกลียด”
“ยัยเด็กนี่ แกพูดอะไรห้ะ เพื่อนฉันแต่งหน้าแล้วสวยกว่าแกเยอะ ดูเธอยังไร้เดียงสาแบบนี้ ยังไม่หย่านมใช่สินะ” นักข่าวหญิงคนนึงลุกขึ้น แล้วพูดอย่างโมโห
ในตอนนั้น จู่ๆ เหยาเหยาก็ลงมาจากชั้นบน เมื่อเห็นหลี่ฝาง จึงรีบยิ้มรับ: “คุณชายหลี่ ท่านกลับมาแล้ว”
“คุณชายหลี่?”
“เหยาเหยา เรียกเขาว่าอะไรนะ?”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ นักข่าวหญิงในห้อง ก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี