NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 566 ข้อเสนอที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”หลี่ฝางพอเห็นว่าสีหน้าของส้าวส้วยดูแปลกๆ จึงรีบถามด้วยความเป็นห่วง
ส้าวส้วยหยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เช้าวันนี้ผู้หญิงคนนั้น ขับรถบิวอิคก์สีดำออกไป กับผู้หญิงของลูกพี่หลิน”
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอเหรอ?”
“ผมส่งคนไปสืบเรื่องของเธอดู เพิ่งได้รับรายงานมาว่าเธอ เธอตายไปแล้ว” ส้าวส้วยพูดด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด
“ตายแล้ว?” สีหน้าของหลี่ฝางถอนสีเล็กน้อย ช่วงนี้ได้ยินแต่ข่าวเรื่องการตายมาอย่างต่อเนื่อง แถมล้วนเกี่ยวข้องกับลูกพี่หลิน เรื่องนี้ทำให้หลี่ฝางรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง
การตายของผู้หญิงคนนี้ จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกพี่หลินอย่างแน่นอน
“ใช่ ตายแล้ว นี่เป็นการบ่งบอกถึงปัญหาอันหนักอึ้ง ลูกพี่หลินไม่ได้เคี้ยวง่ายอย่างที่เห็น เบื้องหลังของเขา จะต้องเก็บซ่อนความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยได้อย่างแน่นอน ความลับนี้ เขายอมทำทุกอย่างเพื่อเก็บซ่อนมันไว้ ไม่อย่างงั้น เขาก็คงไม่ถึงกับฆ่าคนเพื่อปิดปาก”
“วันเดียวฆ่าคนไปถึงสองคน จิตใจของลูกพี่หลิน ช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน ดูเหมือนว่าผมจะดูถูกเขาจนเกินไป” สายตาของส้าวส้วย เผยความเย็นชาออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะเกิดความคิดที่จะฆ่าลูกพี่หลิน เดิมที่หลี่ฝางก็กะจะห้าม แต่จนสุดท้ายหลี่ฝางก็ไม่ได้พูดออกไป
หลี่ฝางได้ให้คำสัญญากับหลินชิงชิง ถ้าเกิดเป็นไปได้ ให้ไว้ชีวิตลูกพี่หลิน แต่ว่า หลี่ฝางไม่มีเหตุผลที่จะไปขอร้องส้าวส้วย
ธุรกิจของลูกพี่หลิน หลี่ฝางเองก็เข้าใจซักส่วนใหญ่ คนที่ทำธุรกิจแบบนี้ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีคงจะหายไปนานแล้ว?
สิ่งที่ลูกพี่หลินทำนั้นไม่ใช่ธุรกิจ แต่เป็นเรื่องชั่วช้า คนแบบนี้ ตายไปก็สมควรแล้ว
เพราะงั้น หลี่ฝางไม่สามารถขอร้องให้ไว้ชีวิตเขาได้
อีกยังหลี่ฝางยังรู้สึกว่าลูกพี่หลินค่อนข้างน่ากลัว
ตอนที่เพิ่งช่วยเหลือเขา เขาอ่อนแอราวกับลูกแมวข้างทาง ทุกคำที่พูดออกมา ฟังแล้วรู้สึกว่าทุกคำล้วนมาจากใจ แต่พอมานึกดูอีกที นั่นล้วนมาจากการแสดงทั้งนั้น
จะว่าไป พ่อลูกฉินเสี่ยวหู่ไม่สมควรที่จะได้รับรางวัลนักแสดงออสการ์ แต่ควรจะเป็นของลูกพี่หลินมากกว่า
แถมแผนการของลูกพี่หลิน ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จ
เป้าหมายของเขาคือการทำให้องค์กรที่อยู่เบื้องหลัง เกิดความขัดแย้งกับตระกูลหลี่
“ส้าวส้วย แกอยากแก้แค้นใช่ไหม?”
หลี่ฝางหันไปมองส้าวส้วย จากนั้นก็ถามขึ้นมา “แกไม่ต้องรีบปฏิเสธ ความจริงต่อให้ลูกพี่หลินจะฆ่าไปซักกี่คน ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่ขับรถบิวอิคก์สีดำ หรือจะเป็นเจ้าของร้านลาเบอร์เกอร์ แกไม่เห็นต้องโมโหขนาดนั้นเลย”
“การตายของพ่อแก อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกพี่หลิน เพราะงั้น……”
ส้าวส้วยส่ายหัว “ไม่ใช่ ถ้าจะแก้แค้น ผมไม่รอจนถึงตอนนี้”
“ที่ผมโมโห เพราะว่าผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขายังทำร้ายคนอื่นอยู่”
ส้าวส้วยส่ายหัว แล้วพูดว่า “ช่างเถอะ ไม่ว่าจะยังไง เขาก็เป็นพ่อของหลินชิงชิง ผมรู้ดี หลินชิงชิงจะต้องขอร้องคุณ เจ้านาย เธอคงจะขอร้องว่าไม่ว่าจะยังไง ก็ขอให้ไว้ชีวิตพ่อของเธอถูกไหม?”
“หลินชิงชิงเป็นผู้หญิงที่ฉลาด เธอเป็นคนที่ระมัดระวังมาก และเป็นคนช่างสังเกต วันนี้ตอนที่ฉันได้เล่าเรื่องการตายของเจ้าของร้านลาเบอร์เกอร์ ฉันคิดว่าเธอคงสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง”
หลี่ฝางพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดว่า “พี่ชิงชิงบอกกับฉันว่า ลูกพี่หลินรักเธอมาก”
“ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชั่วช้าขนาดไหนก็ไม่มีทางทำร้ายลูกของตัวเอง ยิ่งเป็นคนที่ไร้จิตสำนึกแบบนี้ ล้วนเก็บความเป็นคน ไว้กับลูกเมียของตัวเอง ผู้หญิงที่ตายในวันนี้ เดิมทีทำงานอยู่ที่ไนท์คลับ เธอไม่ได้เป็นภรรยาอย่างเป็นทางการของลูกพี่หลิน”
“สังคมในปัจจุบัน คนชั่วส่วนใหญ่มักจะได้รับความสนใจอยู่เสมอ อย่างเช่นหัวหน้าแก๊งมาเฟีย มักจะเป็นคนกตัญญูรู้บุญคุณ และมักจะมีคนชมไม่ขาดสาย เอาแต่พูดว่าลูกพี่เป็นคนที่กตัญญูอย่างนั้น กตัญญูอย่างนี้ หึๆ เมื่อเทียบกับเรื่องชั่วช้าที่พวกเขาทำ กตัญญูแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร คนแบบนี้ยังจะมีคนมาชื่นชมอีก สมองของคนพวกนี้ ข้างในมีแต่ก้อนขี่รึไง?”
ส้าวส้วยพูดไป พร้อมกับจุดบุหรี่
หลี่ฝางหัวเราะออกมา “นึกไม่ถึงว่า คนแบบแกจะโมโหเป็นด้วย”
“ตอนเด็กได้ยินคำพวกนี้มาเยอะแล้ว ตอนนี้ก็แค่รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาเรื่อยๆเท่านั้นเอง”ส้าวส้วยหัวเราะอย่างเย็นชา “คนผิดก็คือคนผิด ไม่ควรได้รับความเห็นใจ ยิ่งไม่ควรเอามาชื่นชม”
ตอนที่กลับถึงคฤหาสน์บ้านซาน ระหว่างทางหลี่ฝางก็เห็นหวางต้องอยู่ที่นี่ หวางต้องกำลังคุยโทรศัพท์อยู่……
และในเวลานั้นเอง หงหงเองก็เพิ่งลงมาจากคฤหาสน์บ้านซาน หลี่ฝางรีบดึงตัวส้าวส้วยไปแอบเพื่อดูลาดเลา
หลี่ฝางมองไปยังส้าวส้วย แล้วถามว่า “ส้าวส้วย ระยะห่างขนาดนี้ แกสามารถฟังออกไหมว่าพวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่?”
ส้าวส้วยหยักหน้า แล้วพูดว่า “ไม่น่าจะมีปัญหา”
หลังจากที่หงหงลงมา มองไปยังหวางต้องแวบนึง แล้วพูดว่า “มีเรื่องอะไรก็พูดมาตรงๆเถอะ”
“เฮ้ๆ ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากจะชี้ทางสว่างให้กับเธอ มาอยู่แพลตฟอร์มของพวกเรา ฉันไม่เพียงแค่รับประกันว่ารายได้ของเธอจะมากกว่าเดิม ยังสามารถรับประกันความปลอดภัยของแฟนหนุ่มเธอได้อีกด้วย”
“ถ้าเกิดเธอไม่ยอมรับล่ะก็ ฉันไม่เพียงแค่จะอัดเสียงการสนทนาของเราให้แฟนหนุ่มของเธอ ให้เขารู้ตัวตรงที่แท้จริงของเธอ ฉันยังจะทำให้ขาของเขาพิการสักข้าง”
หวางต้องพูดข่มขู่ “แน่นอน ถ้าเกิดเธอยอมออกมาจากแพลตฟอร์มของหลี่ฝาง แล้วมาอยู่กับพวกเราล่ะก็ นอกจากจะรับประกันว่าจะไม่ทำอะไรเธอแล้ว ฉันยังจะให้ค่าเซ็นสัญญาหนึ่งล้านกับเธอ”
หวางต้องพูดไป พร้อมกับหยิบการ์ดออกมาจากอกเสื้อ “ข้างในการ์ดใบนี้มีเงินอยู่หนึ่งล้าน ถ้าเกิดเธอไม่เชื่อ สามารถไปเช็คที่ตู้ATMได้”
“จะบอกอะไรเธออย่างนะ เพื่อนสนิทของเธอหวางเหยา ไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ฮ่าๆ แถมพ่อของเขา ยังถูกส่งเข้าไปยังห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน จะอยู่หรือตาย ตอนนี้ก็ยังไม่แน่เลย ถ้าเกิดเธอไม่อยากเป็นหวางเหยาคนที่สอง ก็รับเงินไปซะ เก็บข้าวของให้เรียบร้อย แล้วย้ายมาอยู่วิลล่าของพวกเรา”
“แพลตฟอร์มของพวกเรา ก็มีอำนาจอยู่ไม่น้อย”
หวางต้องอมยิ้ม “ตอนนี้ พวกเรากำลังเจรจาเพื่อซื้อแพลตฟอร์มที่มียอดผู้เข้าชมสูง ถึงเวลานั้น ก็จะสามารถซื้อมาเป็นของตัวเองได้ และสามารถสร้างให้กลายเป็นแพลตฟอร์มของตัวเอง
“เธอคงจะเข้าใจ ขอแค่ยอมจ่ายเงิน ก็อปปี้ถู่โต้วขึ้นมาสักอัน ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร”
หวางต้องมองไปยังหงหง ยิ้ม แล้วถามว่า “ว่ายังไง จะมาหรือไม่มา?”
สีหน้าของหงหงดูสับสน
“จะบอกให้นะ โอกาสแบบนี้ ฉันให้เธอแค่ครั้งเดียว ถ้าเกิดเธอไม่คว้าเอาไว้ อีกไม่นาน เธอจะต้องมาขอร้องฉันแน่” หวางต้องหัวเราะ สีหน้าของเขาค่อยๆเผยความเย็นชาออกมา
ส่วนหงหงมองไปยังหวางต้อง กัดฟันแล้วพูดออกไปว่า “ให้เวลาฉันหน่อยได้ไหม ให้ฉันคิดดูก่อน?”
“คิด? เธอจะคิดทำเชี้ยอะไร มาติดตามฉัน รับประกันว่าเธอจะได้รายได้มากกว่านี้อีก แถมยังรับประกันความปลอดภัยของเธอ เธอยังลังเลอะไรอีก?” หวางต้องถามด้วยสีหน้าที่ดูโมโหเล็กน้อย
“ให้เวลาฉันสองวัน หลังจากสองวัน ฉันจะให้คำตอบกับคุณ ตกลงไหม?” หงหงขอร้องหวางต้อง
เวลาที่หลี่ฝางให้หงหง ก็เป็นสองวัน เขาให้คำสัญญากับหงหง ภายในสองวันเขาจะจัดการเคลียร์ทุกปัญหาให้หมด
“คิดจะยื้อเวลากับฉันงั้นเหรอ? ฮ่าๆ ฉันรู้นะว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่”
หวางต้องพูดไป พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมา ยื่นให้กับหงหง “อย่าไปหวังกับเด็กเมื่อวานซืนอย่างหลี่ฝางจะดีกว่า ลองดูสิว่ารู้จักคนๆนี้รึเปล่า?”
“เฉินฝูเซิง?” หงหงดูคลิปที่อยู่ในโทรศัพท์ จู่ๆสีหน้าก็ขาวซีดไปแวบนึง
ในคลิป เฉินฝูเซิงถูกจับขังอยู่ในโรงพัก แถมยังสวมเสื้อผ้าของนักโทษ
สีหน้าของหงหง จู่ๆก็เปลี่ยนไปในทันที หงหงรู้ดีว่า เฉินฝูเซิงไปจัดการปัญหาของตัวเอง แต่ว่าทำไมตอนนี้ ถึงถูกจับอยู่ในโรงพักได้ล่ะ?
“ฮ่าๆ นี่ก็คือผู้ช่วยที่หลี่ฝางหามาให้เธองั้นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ เจ้าเด็กนี้ก็เป็นแค่คนไร้น้ำยา คิดจะเป็นศัตรูกับพวกเรา ผลลัพธ์มีแค่อย่างเดียว นั้นก็คือตาย”
คำพูดของหวางต้องเต็มไปด้วยความเย็นชา แล้วพูดต่อว่า “ถ้าเกิดเธอยังอยากมีชีวิตอยู่ล่ะก็ ก็รีบคิดให้ดีๆ แล้วให้คำตอบกับฉัน เธอมีวีแชทของฉัน ถ้าได้คำตอบแล้ว ฉันจะส่งคนไปรับเธอ”
“ฉันให้เวลาถึงแค่เช้าวันพรุ่งนี้ ถ้าเกิดพรุ่งนี้เช้าเธอยังไม่ให้คำตอบกับฉันล่ะก็ ฮ่าๆ เตรียมรับผลที่ตามมาให้ดี”
หวางต้องพูดเตือนทิ้งท้าย จากนั้นก็หันหน้ากลับไปยังวิลล่าของมู่เหวินตง
ตาของหงหงแดงก่ำ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ในเวลานี้นี่เองหลี่ฝางก็เดินขึ้นมา มองไปยังหงหงแวบนึง “เชื่อใจฉัน ทุกอย่างจะเรียบร้อย”
หงหงเงยหน้าขึ้นมา มองไปยังหลี่ฝางด้วยความตกใจ “คุณชายหลี่ ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เพิ่งกลับมา”
“ท่าน……ท่านเห็นหมดแล้วใช่ไหม?” เสียงของหงหงเต็มไปด้วยความลังเล
จากนั้น หงหงก็ยื่นการ์ดไปให้หลี่ฝาง “คุณชายหลี่ ฉันไม่ได้อยากได้การ์ดของเขา ฉันแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของแฟน”
“แฟนของเธอจะไม่เป็นอะไร” หลี่ฝางพูดอย่างมั่นใจ
“แต่เฉินฝูเซิง……”
“เฉินฝูเซิงเองก็จะไม่เป็นอะไร” หลี่ฝางพูด