NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 583 อย่ารังแกหลินชิงชิง
เมื่อเห็นเบอร์แบบมั่วๆ หลี่ฝางก็รู้ สายนี้จะต้องเป็นของจางกงหมิงที่โทรมา
หลี่ฝางรีบกดรับสาย ไม่รอให้จางกงหมิงพูด หลี่ฝางก็พูดอย่างเป็นห่วง: “พี่หมิง พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“ไอ้บ้า มีจิตใต้สำนึกบ้างมั้ยเหนี่ย ฉันหวังดีคาบข่าวไปแจ้ง แต่นายกลับเอาคนมาเป็นร้อย จะฆ่ากันเหรอ? ทำไม ฉันไปทำอะไรผิดต่อนายหรือไง นายถึงได้ทำกับฉันแบบนี้!”
เมื่อโทรติด จางกงหมิงก็ด่าหลี่ฝางในโทรศัพท์ ไปชุดนึง
หลี่ฝางรีบเอ่ยปากอธิบาย: “พี่หมิง พี่อย่าเข้าใจผิด……”
“เข้าใจผิด? นี่เรียกว่าเข้าใจผิดเหรอวะ? นายกล้าพูดว่าหวางเสี่ยวหยวนไม่ใช่คนมั้ย? ไม่ใช่ว่านายเรียกมาเหรอ? เ**ดแม่ ไอ้สารเลวนั่นใช้ท่อเหล็กทุบไหล่ฉัน ถ้าเอาแขนฉันเกือบหัก โชคดีที่กระดูกฉันแข็ง นายรู้มั้ย แขนของฉัน อาทิตย์นึงฉันไม่ต้องแม้แต่จะคิดยกแขนเลย”
“ยังมีเอวฉัน ทางที่ดีอย่าแตะผู้หญิงสองเดือน ถ้าหากอดไม่ไหว หมอแนะนำให้นอนเฉยๆ ” จางกงหมิงกัดฟัน แล้วพูดอย่างโมโหสุดๆ : “นายรู้มั้ยสำหรับฉันแล้วหมายความว่าอะไร?”
“พี่หมิง หลังจากที่เล่นผู้หญิงมาหลายวัน ก็ถึงเวลาที่ตับของตน ต้องพักผ่อนบ้างแล้ว”
หลี่ฝางพูดอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย: “พี่หมิง ถ้าผมบอกว่าที่ผมทำแบบนี้ ก็เพื่อพี่ พี่จะเชื่อมั้ย?”
“ฉันยอมเชื่อตาแก่เลวข้างถนน ดีกว่าเชื่อไอ้สารเลวอย่างแก”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วถาม: “งั้นผมถามหน่อย พี่หมิง หลังจากเกิดเรื่อง มู่เสี่ยวไป๋สงสัยพี่มั้ย?”
“นั้นต้องสงสัยอยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของเขา เพียงแค่ชั่วครู่ก็พังยับเลย แถมยังไปรู้มาอีกว่าเป็นฝีมือของพวกนาย ธุรกิจขายส่งนี้ ก็ถูกจัดการไปด้วย ในเวลาเดียวกัน ช่วงนี้แผนการหาเงินของเขา ทั้งหมดถูกนายทำพังหมดเลย นี่เห็นได้ชัดว่ามีคนขายเขาแล้ว แอบส่งข่าวให้นาย จากความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน ถ้าเขาไม่สงสัยฉัน จะไปสงสัยใคร? แต่ว่าให้พูด ฉันกับพี่น้องของฉัน ได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้ ก็ยังถือว่าเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี มู่เสี่ยวไป๋เหมือนจะแคลงใจฉันน้อยลงแล้ว แต่แค่ ยังสงสัยอยู่เล็กน้อย”
หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูด: “เหอะๆ บอกแล้วไง ดังนั้น ผมหวังดีนะ ลองคิดดูพี่ทำงานภายใต้คำสั่งของมู่เสี่ยวไป๋ ถ้าหากทำให้เขารู้สึกว่าพี่กำลังทำอะไรบางอย่าง ลับหลังเขา เขาจะปฏิบัติกับพี่ยังไง? ถ้าหากในใจเขาคิดว่าพี่ทรยศ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะลงมือกับพี่ ฝังกลบพี่ คนแบบเขา คงจะทำได้อย่างแน่นอน”
“ผมให้หวางเสี่ยวหยวนทำร้ายพี่ นั่นมันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ จึงต้องจำใจทำร้าย เข้าใจมั้ย? พี่หมิง” หลี่ฝางพูดพลางหัวเราะเหอะๆ
“เอาละ เรื่องนี้ ฉันจะไม่โวยวายแล้ว ฉันโทรหานาย ก็ไม่ได้อยากจะมาบ่นอะไรหรอก ฉันมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่านั้น จะแจ้งให้นายรู้” น้ำเสียงของจางกงหมิง จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
หลี่ฝางรีบยิงคำถาม: “เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?”
“ถึงแม้ว่าข้อสงสัยในตัวฉัน ถือได้ว่าล้างไปเรียบร้อยแล้ว แต่ว่า คนอีกฝ่ายที่มู่เสี่ยวไป๋สงสัย กลับเปลี่ยนไปอยู่ที่ตัวของเสี่ยวโจว เสี่ยวโจวถือว่าถูกฉันลากเข้ามาเกี่ยวด้วยแล้ว เมื่อกี้มู่เสี่ยวไป๋มาเยี่ยมฉัน เขาบอกกับฉันว่า อยากหาโอกาสกำจัดเสี่ยวโจว แถมยังให้ฉันเป็นคนลงมือ แม่งเอ๊ย ไอ้เลวนั่นยังไม่เชื่อใจฉันอีก”
จางกงหมิงพูดอย่างเย็นชา: “เสี่ยวฝาง ฝั่งนายคิดหาวิธีเถอะ”
“ลงมือเมื่อไหร่?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว
“ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่ว่ามู่เสี่ยวไป๋พูดกับฉันว่า มันจะรอให้ฉันออกจากโรงพยาบาลก่อน ค่อยให้ฉันลงมือจัดการเสี่ยวโจวด้วยตัวเอง แบบนี้ ถึงจะแสดงถึงความซื่อสัตย์ของฉันได้”
“แม่ของเสี่ยวโจว อยู่ได้อีกไม่นาน ตระกูลรู้กันหมดแล้ว เหตุผลที่เสี่ยวโจวอยู่ที่ตระกูลมู่ นั่นก็เพราะว่าแม่ของตนมีอาการป่วยหนัก ถ้าหากแม่ของเสี่ยวโจวตาย เสี่ยวโจวต้องจากไปแน่ๆ ”
“หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยวโจวรู้ความลับของตระกูลมู่มากเกินไปแล้ว ตระกูลมู่คงไม่ยอมให้เสี่ยวโจวจากไปหรอก ที่จริงแล้วถึงแม้ฉันจะไม่ลงมือ มู่เสี่ยวไป๋คนนั้น ก็ต้องหาคนอื่นมาทำอยู่ดี ดังนั้น ฉันจึงตอบตกลงมู่เสี่ยวไป๋ แล้วเรียกเงินเขาห้าล้าน แน่นอนว่า ฉันไม่อยากลงมือ ดังนั้น ฉันถึงได้โทรมาหานายเพื่อบอก มีวิธีอะไร ก่อนที่ฉันจะออกจากโรงพยาบาล เตรียมการให้เสี่ยวโจวหนีไปก่อน”
“ให้เขาออกไปจากเมืองเอกเถอะ” จางกงหมิงพูด
“ฉันรู้แล้ว ถ้ามีโอกาส ฉันจะไปหาเสี่ยวโจวสักรอบ” หลี่ฝางพยักหน้า แล้วถาม: “ยังมีเรื่องอื่นอีกมั้ย?”
“หรือครั้งนี้ ตระกูลมู่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถึงแม้ปากของมู่เสี่ยวไป๋ไม่ได้บอกว่าจะล้างแค้นนาย แต่ฉันคิดว่า ตอนนี้ในหัวของมันคิดถึงแต่เรื่องนาย มันต้องลงมือกับนายแน่ นายต้องระวังมันด้วย ข้างกายมัน ไม่ได้มีแต่ฉันที่ใช้งานได้” จางกงหมิงพูดเตือนหลี่ฝาง
“นอกจากนาย ข้างกายมันยังจะมีใคร? เสือก็เดี้ยงไปแล้ว ข้างกายมันไม่มีคนแล้วไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“เมื่อก่อน ฉันก็คิดเหมือนกับนาย ฉันนึกว่ามู่เสี่ยวไป๋ไม่มีคนให้ใช้แล้ว ถึงได้มาใช้ฉัน ต่อมาฉันถึงได้รู้ ลูกน้องของมู่เสี่ยวไป๋ ไม่ได้มีแค่เสือกับตัวฉัน พูดตามตรง ไอ้เสือมันก็ไม่เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับคนพวกนั้น อย่างมากก็เป็นได้แค่แมวป่วย”
“แต่คนพวกนั้น ดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่ลูกน้องของมู่เสี่ยวไป๋ เหมือนจะผู้ร่วมมือกันมากกว่า”
“ฉันเคยสู้กับคนพวกนั้นแค่ครั้งเดียว เป็นมู่เสี่ยวไป๋ที่จงใจวางแผน จุดมุ่งหมายของเขา ก็เพื่อให้ฉันเกิดความเกรงกลัว” จางกงหมิงหัวเราะเบาๆ
“งั้นนายกลัวแล้วเหรอ?” หลี่ฝางถามอย่างกวนๆ
“กลัวที่หน้า” จางกงหมิงพูด: “ทุกคนมีไหล่สองข้างที่พยุงสมองไว้ ทำไม มันมีอวัยวะมากกว่าฉันหรือไง?”
เมื่อได้ยินจางกงหมิงพูดด้วยน้ำเสียงไม่แฮปปี้ หลี่ฝางก็แค่หัวเราะเหอะๆ เมื่อก่อน ความคิดของหลี่ฝาง ก็คล้ายกับจางกงหมิง แต่ตอนนี้ ถือได้ว่าหลี่ฝางเข้าใจแล้ว บนโลกนี้ ยังมีคนที่มีอวัยวะมากกว่าตนอยู่จริงๆ
ก็เหมือนกับส้าวส้วยที่อยู่ด้านหน้าตน เขาทำให้คนอื่นเกิดความเกรงกลัวได้จริงๆ จะสู้ตายกับเขา? ชีวิตแลกชีวิต อย่างไม่ต้องคิดเลย
ตอนที่กำลังจะวางสาย จู่ๆ หลี่ฝางก็นึกบางอย่างขึ้นได้ แล้วพูด: “ใช่แล้ว เรื่องของลูกพี่หลิน นายได้ยินแล้วใช่มั้ย?”
“อาฉัน? เขาทำไมเหรอ?” จางกงหมิงทำหน้าสงสัยแล้วถาม
“ไม่มีอะไร วางและ”
“เชี่ย ไม่ปกติและ รีบบอกฉันมา มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่ ไอ้หมอนี่ มาหลอกให้อยากแล้วจากไป นายอยากให้ฉันขาดใจตายใช่มั้ย?” จางกงหมิงตะโกนด่าเสียงดัง
“ฉันแค่กลัวว่าถ้าพูดแล้ว จะทำให้นายขาดใจตายน่ะสิ” หลี่ฝางพูดอย่างเอือมๆ
“พูดมา อยู่ไกลขนาดนี้” จางกงหมิงพูด
“ขาสองข้างของเขา พิการแล้ว” หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วพูดตึงเครียด “หมาจื่อทรยศ”
“นายล้อเล่นบ้าอะไรเหนี่ย หมาจื่อคือคนที่อาฉันผลักดันให้ได้ดี ถ้าเขาทรยศ ฉันจะเปลี่ยนไปใช้แซ่นายเลย พูดแบบนี้ละกัน ถึงแม้ฉันจะทรยศแล้ว หมาจื่อก็ไม่มีทางทรยศ อาฉันเลี้ยงหมาจื่อ ถือว่ามาเป็นผู้สืบทอดเลยนะ”
“มีหลายที ที่ฉันยังนึกอิจฉาหมอนั่น” จางกงหมิงยู่ปากพูด
หลี่ฝางที่อยู่ปลายสายหัวเราะ ความจริงแล้ว เขาก็สงสัยมาตลอด ว่าที่จริงแล้วหมาจื่อไม่ได้หักหลัง แต่นัดแนะกับลูกพี่หลินไว้ เล่นละครฉากนี้
หมาจื่อขึ้นมาแทนที่ลูกพี่หลิน ส่วนลูกพี่หลิน ก็สามารถล้างมือได้อย่างสะอาดหมดจด
ราคาแลกเปลี่ยนก็แค่ขาทั้งสองข้างเท่านั้น
เหตุผลที่หลี่ฝางบอกจางกงหมิงเรื่องที่ขาของลูกพี่หลินพิการ ก็เพื่ออยากจะลองเช็คความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนระหว่างหมาจื่อกับลูกพี่หลิน
“นายไม่เชื่อเหรอ?” หลี่ฝางพูด: “นี่เป็นความจริงทั้งหมด”
“ตอนนี้ลูกพี่หลินหนีไปแล้ว ส่วนหมาจื่อก็ขึ้นมาแทนที่เขาแล้ว ไม่ใช่แค่ทำธุรกิจต่อจากเขา ยังรับช่วงต่อพื้นที่ของเขาด้วย นายลองไปฟังข่าวดู ก็น่าจะรู้”
“หลี่ฝาง นายไม่ได้ล้อฉันเล่น?” เสียงของจางกงหมิง เข้มขึ้นอยู่ครู่
“ผมจะล้อเล่นเรื่องแบบนี้กับพี่เหรอ?” หลี่ฝางถามกลับ
ทันใดนั้น จางกงหมิงก็ตะโกนด่าเสียงดัง: “ไอ้ชิงหมาเกิด คุณอาฉันดีกับมันขนาดนั้น แต่มันกลับทรยศผู้มีพระคุณ!”
“ไม่ใช่แค่หมาจื่อที่หักหลัง แม้แต่หม่าเชากับฉางชิง ก็ทรยศกับเขาด้วย” หลี่ฝางพูดขึ้นต่อ
“อะไรนะ” จางกงหมิงเอ๋อเลย ช็อกอยู่นานไม่พูดอะไร
“ฉางชิงกับหม่าเชา พวกเขาสองคน ก็ทรยศกับหมาจื่อด้วย? สองคนนี้ ไม่พอใจหมาจื่อมาตลอดไม่ใช่เหรอ?” จางกงหมิงขมวดคิ้ว แล้วพูด: “เมื่อก่อนตอนที่พวกเรากินเหล้าด้วยกัน พวกเขาสองคนยังเคยวางแผนกับฉัน ว่าจะหาโอกาส กำจัดหมาจื่อทิ้ง”
“พวกนายยังเคยคิดแบบนั้นด้วยเหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ
“พื้นที่ก็มีแค่นั้น อาฉันเอาพื้นที่ ทรัพยากรที่สำคัญที่สุด ทั้งหมดให้กับหมาจื่อ คนอื่นๆ จะไม่ให้ไม่เคืองได้ยังไง? ถ้าหากไม่มีหมาจื่อ ฉันต้องอยู่ข้างกายลูกพี่หลินแน่ๆ ช่วยเขา ทำไมจะต้องไปเสียเวลา วันๆ นึกถึงแต่ลูกพี่หลี่ด้วย?” จางกงหมิงพูด: “นายบอกว่าหมาจื่อหักหลัง ฉันเชื่อ นายบอกว่าหม่าเชากับฉางชิง ร่วมมือกับหมาจื่อหักหลัง ฉันไม่เชื่อ”
“พวกเขาสองคน ยังไงก็ไม่ยอมก้มหัวให้หมาจื่อแน่ๆ ” จางกงหมิงยิ้มอย่างเย็นชา: “ไม่แม้แต่ทำงานร่วมกัน”
“ถ้าหากฉันบอกพี่ว่า ในมือของลูกพี่หลิน มีเงินอยู่ห้าร้อยล้านล่ะ?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ
“ล้อเล่นอะไร? ทรัพย์สินที่อาฉันมี ฉันรู้ดีกว่านาย อย่างเขามากสุดก็มีแค่ห้าหกสิบล้านเท่านั้น แถมส่วนมากจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ และลงทุนธุรกิจ ยากมากที่จะแลกเป็นเงินได้เพียงชั่วครู่ นายบอกว่าเขามีเงินห้าร้อยล้าน นั่นไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรอกเหรอ? ถ้าเขามีเงินห้าร้อยล้านนั่น งั้นตอนที่เมียฉันยิงจื่อถูกลักพาตัวไป ทำไมถึงไม่ออกเงินให้ฉัน?”
จางกงหมิงพูด: “อาฉันไม่ใช่คนที่เห็นคนลำบากแล้วไม่ช่วยหรอก”
“เขาไม่มีทางมีเงินห้าร้อยล้านนั่น”
“พี่อย่าลืม ธุรกิจที่พี่ทำ มันได้กำไรมหาศาล แล้วก็ พี่ก็พูดแล้ว ฐานะของอาพี่ ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น เขากับมู่เสี่ยวไป๋ ฐานะเท่าเทียมกัน แม้แต่มู่เสี่ยวไป๋ยังเคารพเขามาก มู่เสี่ยวไป๋เป็นใคร? เป็นคุณชายอันดับหนึ่งของเมืองเอก ธุรกิจของตระกูลมู่ มีมูลค่าเป็นพันล้าน นายคิดว่าคุณชายแบบนั้น จะมาก้มหัวให้ คนที่มีเงินแค่ห้าหกสิบล้าน? เป็นไปได้เหรอ?”
หลี่ฝางพูด: “นี่คือเรื่องจริง ไม่สนว่าพี่จะเชื่อหรือไม่”
“จริงเหรอ?”
“จริง ถ้าไม่เชื่อ พี่จะไปสืบเองก็ได้ ฉันคิดว่าพี่ก็อยู่กับลูกพี่หลินมานานขนาดนั้น ก็น่าจะมีเพื่อนอยู่ในนั้นไม่น้อยสินะ? คนของหม่าเชา คนของฉางชิง หรือแม้แต่คนของหมาจื่อ พี่ก็คงจะรู้จักบ้างสิ? พี่ไปฟังจากพวกเขาเถอะ”
จางกงหมิงส่ายหน้า แล้วพูด: “ฉันเชื่อที่นายพูด ไม่ต้องไปถามแล้ว”
“อาฉันก็หนีไปแล้ว งั้นบัญชีนี้ ฉันก็จะชำระแทนเขาแล้วกัน รอฉันออกจากโรงพยาบาลก่อน ฉันจะไปจัดการหมาจื่อ” จางกงหมิงพูดอย่างเย็นชา
“เบื้องหลังหมาจื่อมีแบคอัพที่มีอิทธิพล และแข็งแกร่งมาก ทางที่ดีพี่อย่าทำอะไรวู่วาม” หลี่ฝางพูดเตือน
“อิทธิพลที่หน้าแม่งดิ ไม่ว่าแม่งจะเป็นใคร ที่หมาจื่อมันทรยศหักหลังผู้มีพระคุณ ฉันจะต้องฆ่ามัน แทนอาของฉันให้ได้”
จางกงหมิงพูด: “ใช่แล้ว ดูแลชิงชิงให้ดี อย่าให้ชิงชิงรู้เรื่องนี้”
“ชิงชิงรู้หมดแล้ว”
จางกงหมิงที่ปลายสายเงียบอยู่ครู่ แล้วพูด: “ช่วงนี้ก็อยู่เป็นเพื่อนเธอหน่อย ที่จริงแล้วเธอน่าสงสารนะ หลังจากถูกมู่เสี่ยวไป๋บีบบังคับจนมาถึงเมืองเอก ก็ได้แต่หลบๆ ซ่อนๆ แม้แต่จะนอนยังไม่วางใจ มันทรมานมาก เมื่อเทียบกับชีวิตที่อยู่ในตงไห่”
“แล้วก็หลังจากมาที่เมืองเอก ก็เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ฉัน อาฉัน แล้วก็นาย……”
“ฉันทำไม?” หลี่ฝางถามอย่างร้อนตัว
“นายไม่ต้องมาทำเหมือนกันเป็นคนโง่ เรื่องนายกับชิงชิง อยู่ในสายตาฉันหมด เมื่อก่อนเอาแต่เรียกว่าพี่ชิงชิงๆ ฉันมองออก นายชอบเธอ และเธอก็ชอบนาย”
จางกงหมิงพูด: “ห้ามรังแกเธอ ไม่งั้นฉันจะเฉือนนาย”