NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 590 มู่เสี่ยวไป๋ประกาศลงโทษ
“หวางเฉิงหย่วนก็ใกล้จะถึงแล้ว ถึงตอนนั้น ฉันจะดูว่านายจะอธิบายกับเขายังไง”
มู่เสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างน่ากลัว แล้วพูด: “บ้านซานเป็นสถานที่แห่งการพักผ่อน แต่นายกลับฆ่าคนที่นี่ นายทำแบบนี้ ทำให้ฮวงจุ้ยของบ้านซานเสียหมด สถานที่แห่งการพักผ่อน จะให้มีการนองเลือดได้ยังไง?”
มู่เสี่ยวไป๋ มองหลี่ฝางพลางหัวเราะเหอะๆ : “ยิ่งไปกว่านั้น เกิดการลงมืออยู่ที่คฤหาสน์บ้านซาน ก็หมายความว่าการรักษาความปลอดภัยที่นี่มีปัญหา เหอะๆ ถ้าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของคฤหาสน์บ้านซาน ก็พังหมดพอดี”
“ใครก็รู้ ระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ มีชื่อเสียงมากๆ แถมหวางเฉิงหย่วนก็เคยรับประกัน ว่ายังไงก็จะรักษาความปลอดภัยของชีวิตผู้พักอาศัย การกระทำของนาย เหมือนกันการตบหน้าหวางเฉิงหย่วนอย่างจัง”
มู่เสี่ยวไป๋หัวเราะเยาะเย้ย หน้าของเขา ไม่มีความเสียใจเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเหมือนมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ มองไปทางกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังของมู่เสี่ยวไป๋ แล้วพูด: “เห็นแล้วหรือยัง? ปากและหน้าตาของลูกพี่พวกนาย มีคนตายไปทั้งคน ไม่ใช่แค่ไม่เสียใจ ดูปากเขายิ้มสิ อย่างกับหมาปั๊ก อยู่กับคนแบบนี้ ฉันล่ะเศร้าแทนพวกนายจริงๆ ”
“มีที่ไหนลูกน้องตัวเองตายทั้งคน เป็นถึงเจ้านาย กับยังยิ้มร่าเริงได้?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ
ประโยคนี้ของหลี่ฝาง ที่จริงก็บาดใจอยู่มาก
กลุ่มคนด้านหลังของมู่เสี่ยวไป๋ ได้ยินประโยคของหลี่ฝาง ก็อึดอัดในใจเป็นอย่างมาก
พวกเขาติดตามหวางต้อง ทำเรื่องมากมายกับหวางต้องมาหลายปี หวางต้องก็ดีกับพวกเขา เมื่อกี้มู่เสี่ยวไป๋คิดร้ายจงใจ ลากเวลา ถึงทำให้หวางต้องต้องตาย
ในตอนนี้คนกลุ่มนี้เห็นกับตา จนมีคนนึงเกือบจะลุกไปตีกับมู่เสี่ยวไป๋
มู่เสี่ยวไป๋ทำหน้าเข้ม: “หลี่ฝาง นายอย่าเบี่ยงประเด็น หวางต้องติดตามฉันมาหลายปี เขาตาย ฉันก็ต้องเสียใจอยู่แล้ว”
“ที่ฉันหัวเราะ ก็เพราะสวรรค์มีตา ให้ฉันหาคนร้ายเจอ”
“อย่างน้อย พวกพ้องฉันตายก็ไม่ใช่ตายแบบหาตัวจับไม่เจอ”
มู่เสี่ยวไป๋พูดขึ้น: “หลี่ฝาง เฉินฝูเซิงไปไหนกันแน่?”
“นายถามฉันให้ฉันไปถามใคร? เฉินฝูเซิงไม่ใช่เพื่อนนายเหรอ?” หลี่ฝางพูดอย่างกวนๆ
“เหอะๆ หมายความว่าไง อยากจะกวนฉันใช่มั้ย?” มู่เสี่ยวไป๋พยักหน้า แล้วพูด: “ได้ งั้นฉันจะรอให้หวางเฉิงหย่วนมาแล้ว ดูสิว่าเขาจะอธิบายให้ฉันฟังว่าอะไร”
“ไม่สนว่าใครเป็นคนทำ ถึงยังไง ถ้าหวางเฉิงหย่วนช่วยฉันหาคนร้ายไม่ได้ ไม่สามารถอธิบายให้ฉันฟังได้ งั้นฉันก็จะแจ้งความ”
มู่เสี่ยวไป๋พูดเสียงเย็นชา
โจวเจ๋ขมวดคิ้ว พลางมองมู่เสี่ยวไป๋ แล้วพูด: “คุณชายมู่ คุณคิดดีแล้วเหรอ?”
“เรื่องที่จะแจ้งความ คุณไม่ใช่แค่จะทำให้หวางเฉิงหย่วนไม่พอใจ แถมยัง……” โจวเจ๋ยิ้ม ไม่ได้พูดให้จบ: “หวังว่าคุณชายมู่จะคิดนึกให้ดีๆ ว่าลืมเรื่องอะไรไปหรือเปล่า”
มู่เสี่ยวไป๋หรี่ตา พลางมองโจวเจ๋: “กลุ่มคนปิดบังหน้าตาเมื่อกี้ น่าจะมีนายอยู่ด้วยสินะ?”
“เสียงของนายคุ้นๆ นายน่าจะเป็นคนที่ยืนตกใจจนเข่าอ่อน อยู่ที่หน้าประตูนั่นใช่มั้ย?” มู่เสี่ยวไป๋มองโจวเจ๋ พลางพูด
ไม่รู้ว่าโจวเจ๋นึกอะไรขึ้นมา กลับยิ้มเยาะขึ้นมา
“คุณชายมู่ คุณกำลังพูดอะไร ทำไมผมถึงฟังไม่เข้าใจเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ ผมก็อยู่แต่ในคฤหาสน์สนุกสนานก็สาวๆ ในบริษัทเรานะครับ หากคุณชายไม่เชื่อละก็ สามารถถามดูได้เลย”
โจวเจ๋ยิ้ม แล้วพูด
“สาวๆ พวกเธอสามารถเป็นพยานให้ฉันได้มั้ย?” โจวเจ๋หันกลับไป มองเน็ตไอดอลสาวที่อยู่ในห้อง แล้วถาม
ทันใดนั้นเน็ตไอดอลสาวก็พยักๆ หน้ารัวๆ แถมตอบกลับมา
“คุณดูสิ คุณชายมู่ ผมมีพยานเยอะขนาดนี้ คุณอยากจะปรักปรำผม คงจะไม่ง่ายหรอกครับ”
โจวเจ๋ยิ้ม แล้วพูด: “เมื่อกี้เหมือนข้างหูมีเสียงหลอนๆ ราวกับว่ามีคนมาเรียกผมว่าพ่อ ไม่รู้ว่าเรียกผม หรือว่าเรียกเพื่อนผมที่แซ่เฉินคนนั้นกันนะ”
“คุณชายมู่ พูดมาก็บังเอิญนะ คนที่เรียกเพื่อนผมคนนั้นว่าพ่อ น้ำเสียงเหมือนกับคุณมาก เหมือนกันเปี๊ยบเลย”
โจวเจ๋หรี่ตา พลางมองมู่เสี่ยวไป๋แล้วยิ้มเย็นชา
“นาย!”
มู่เสี่ยวไป๋มองโจวเจ๋ สีน้ำเคร่งขรึมขึ้นมา
เขากำหมัดแน่น แล้วมองโจวเจ๋ พลางถาม: “นายชื่อว่าอะไร?”
“คุณชายมู่ สวัสดีครับ ขออนุญาตแนะนำตัว ผู้น้อยชื่อโจวเจ๋ เป็นผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติงานของช่องถู่โต้วครับ” โจวเจ๋ยื่นมือออกไปอย่างไม่รู้ตัว ต่อมาก็รู้สึกว่าไม่ใช่ ก็รีบเก็บมือมาทันใด
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ต่อหน้าคุณชายอย่างมู่เสี่ยวไป๋ โจวเจ๋จึงนอบน้อมเป็นธรรมดา
แต่ในวันนี้ มู่เสี่ยวไป๋เป็นศัตรูของตน ทำไมตนต้องไปดีด้วย?
“เหอะๆ เมื่อก่อนทำไมไม่เคยเห็นนายเลย?” มู่เสี่ยวไป๋มองโจวเจ๋ อย่างดูถูกสุดๆ
“ช่างเถอะ ถึงแม้นายจะเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ฉันก็จำนายได้แล้ว” มู่เสี่ยวไป๋มองโจวเจ๋อย่างเย็นชา แล้วพูด: “หลังจากนี้ตอนกลางคืนเดินต้องระวังหน่อยนะ ไม่แน่อาจจะมีโจรโผล่มา แล้วจัดการนายก็เป็นได้”
“แน่นอนว่า ถ้านายยอมแพ้ไปเร็วๆ แล้วมาอยู่ข้างฉัน งั้นก็ไม่ต้องกังวลแล้ว”
มู่เสี่ยวไป๋พูดข่มขู่ขึ้น อย่างชัดเจน
“มู่เสี่ยวไป๋ หน้าไม่อายจริงๆ ฉกเด็กในสังกัดฉันไปก็เอาเถอะ ตอนนี้แม้แต่ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติงาน ยังจะฉกไปอีกเหรอ?”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองมู่เสี่ยวไป๋ มู่เสี่ยวไป๋กลับยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วพูด: “คนมีความสามารถก็น่าจะอยู่ในที่ที่ผู้นำมีความสามารถสิ ฉันแค่เสนอทางเลือกที่ดีกว่าให้เขาเท่านั้นเอง ทำไม คุณชายหลี่ แม้แต่ความมั่นใจก็ไม่มีเหรอ?”
“ฉันยืนอยู่ตรงนี้ขนาดไหนแล้วเหนี่ย? ไม่คิดจะเชิญฉันเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” มู่เสี่ยวไป๋เลิกคิ้ว แล้วถาม
ขณะที่หลี่ฝางกำลังจะปฏิเสธ สุดท้ายมู่เสี่ยวไป๋ก็พูดขึ้น: “หวางเฉิงหย่วนใกล้จะถึงแล้ว ฉันนัดเขาไว้ที่คฤหาสน์ของนาย แน่นอนว่า ถ้านายไม่ยินดี งั้นก็ย้ายไปที่คฤหาสน์ของฉันก็ได้ แต่ว่าที่นั่นเป็นสถานที่เกิดเหตุ มีเลือดนองเต็มไปหมด”
“นายอยากเข้ามา ก็เข้ามาสิ”
หลี่ฝางคิดอยู่ครู่ แล้วก็พูดขึ้น
ขณะที่มู่เสี่ยวไป๋เข้าไปในตัวบ้าน หลี่ฝางก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วส่งข้อความให้หลินชิงชิง
มู่เสี่ยวไป๋เดินเข้ามาด้านใน หลินชิงชิงก็เดินลงมาจากด้านล่าง หลินชิงชิงตอนดึก สวมชุดนอนสีแดง ปล่อยผม รูปร่างงดงาม ทำให้มู่เสี่ยวไป๋สติหลุดเล็กน้อย
ขณะที่มู่เสี่ยวไป๋กำลังจะพูดกับหลินชิงชิง หลินชิงชิงก็เดินเข้าไปหาหลี่ฝาง แล้วควงแขนเขาไว้ และพูด: “ที่รักขา ทำไมที่รักยังไม่ขึ้นไปนอนอีกล่ะ? ฉันอุ่นเตียงรอนายไว้แล้วนะ”
ประโยคนี้ของหลินชิงชิง หลังจากมู่เสี่ยวไป๋ได้ฟัง ก็เกือบจะกระอักเลือด
หลี่ฝางก็มองหลินชิงชิงอย่างตกใจ ที่จริงอยากจะเรียกหลินชิงชิงลงมา ทั้งสองร่วมมือ ยั่วโมโหมู่เสี่ยวไป๋เล็กน้อย แต่ใครจะรู้ว่าหลินชิงชิงลงมา ยังไม่ทันที่ตนจะได้พูด กลับชิงพูดขึ้นก่อน ทำเอามู่เสี่ยวไป๋โมโหเกือบตาย
สีหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ กลายเป็นสีเขียวปั๊ด ขึ้นมาในทันใด
“เด็กดี ฉันมีเรื่องนิดหน่อย ที่รักของฉันแป๊บนึงนะ เดี๋ยวฉันจะตามขึ้นไปหา” หลี่ฝางพูดเออออตามหลินชิงชิง
มู่เสี่ยวไป๋ มองหลี่ฝาง โมโหจนหัวใกล้ระเบิด
“พวกนายอยู่ด้วยกันเหรอ?” มู่เสี่ยวไป๋มองหลี่ฝางกับหลินชิงชิง แล้วพูดอย่างโมโหจนหาที่เปรียบไม่ได้
ที่จริง ในใจของมู่เสี่ยวไป๋ ก็ยังมีความหวังต่อหลินชิงชิงอยู่ จนมาถึงวันนี้ ในใจของมู่เสี่ยวไป๋ กลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง
อยู่ด้วยกัน มันไม่ต่างอะไรกับแต่งงานกันเลย
ในสถานการณ์แบบนี้ ถึงแม้มู่เสี่ยวไป๋จะรักหลินชิงชิง ก็ยอมรับหล่อนไม่ได้แล้ว
“เปล่า ก็แค่ขึ้นเตียงนอนแล้วเล่นเกมใต้ผ้าห่มบ้างบางที” หลี่ฝางมองหลินชิงชิงอย่างหวานหยาดเยิ้ม จากนั้นก็พูดกับมู่เสี่ยวไป๋แล้วพูด: “เหอะๆ คุณชายมู่น่าจะเข้าใจที่เราพูด ใช่มั้ย?”
“กะหรี่”
มู่เสี่ยวไป๋กัดฟัน มองหลินชิงชิงด้วยสีหน้าเข้ม แล้วพูด: “หลินชิงชิง ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะร่านได้แบบนี้ ใจแตกแบบนี้ ยังไม่ได้แต่งงานกับหลี่ฝาง ก็อยู่ด้วยกันแล้ว”
“เธอรู้มั้ย เขามีแฟนอยู่แล้ว?” มู่เสี่ยวไป๋ชี้หลี่ฝาง แล้วถามอย่างเย็นชา
น้ำเสียงของมู่เสี่ยวไป๋ ราวกับคำราม ตาของเขา จ้องไปที่หลินชิงชิง นัยน์ตาทำใจไม่ได้ และโมโหอย่างมาก
หลินชิงชิงตกใจจนชะงักอยู่ครู่ ต่อมาก็ดึงสีหน้ากลับมาได้ มองมู่เสี่ยวไป๋ แล้วยิ้มนิ่งๆ พลางพูด: “ฉันรู้”
“แล้วมันยังไงล่ะ ก็ฉันรักเขา” หลินชิงชิงพูดขึ้น