NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 630 ให้ร้ายหวางเสี่ยวหยวน
หลี่ฝางรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน ชั่ววินาทีที่ Land Rover พุ่งชนเข้ามา ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ใช้ร่างกายของตัวเอง เข้าปกป้องฉินวี่เฟยเอาไว้อย่างรวดเร็ว
Land Rover ทันทีพุ่งตรงเข้ามา ตัวรถยนต์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ถุงลมนิรภัยทำงาน และป้องกันหลี่ฝางเอาไว้
หลี่ฝางเพียงแค่รู้สึกปวดร้าวไปหมดทั้งตัว นอกนั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก
แต่ฉินวี่เฟยเห็นได้ชัดว่าตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อไปแล้ว เธอสั่นไปหมดทั้งตัว
“แม่งเอ๊ย”
หลี่ฝางตะโกนด่าออกมา เขาไม่ได้สนใจความเจ็บปวดของเขา และเปิดประตูรถ แล้วเดินออกไป
รถ Land Rover ที่อยู่ตรงหน้า คุ้นคุ้นตาเป็นอย่างมาก
เป็นรถของหวางเสี่ยวหยวนนั่นเอง เพียงแต่ว่า คนที่นั่งอยู่ข้างใน จะต้องไม่ใช่หวางเสี่ยวหยวนอย่างแน่นอน
มองเห็นหลี่ฝางลงมาจากรถ คนที่อยู่ในรถคันนั้น ก็รีบหักล้อรถ แล้วพุ่งชนเข้ามาทางหลี่ฝาง
หลี่ฝางรีบขยับตัว หลบไปยังด้านข้าง
หลี่ฝางตกใจแทบตาย นึกว่าคนคนนั้นจะฆ่าเขา สุดท้ายกลับรีบขับรถ Land Rover คันนั้นหนีหัวซุกหัวซุนไป
ตรงนี้มีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกหนแห่ง ถ้าเกิดอีกฝ่านกล้าฆ่าคน จะต้องหลบหนีไปได้ยากอย่างแน่นอน
หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วรีบโทรหาหวางเสี่ยวหยวนทันที
“พี่หยวน พี่อยู่ไหนน่ะ?” เมื่อมีคนรับสาย หลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว แล้วซักถามหวางเสี่ยวหยวนทันที
หวางเสี่ยวหยวนชะงักไปชั่วขณะ: “เจ้านาย มีงานเหรอครับ?”
“ผมกำลังเล่นไพ่อยู่น่ะ”
หลี่ฝางถามต่อไปอีกครั้ง: “พี่เล่นไพ่อยู่กับใคร?”
อีกฝั่งของสายก็มีเสียงของเฉินเจียโล่ หวงว่างโก๋สองสามคนดังออกมา หลังจากที่หลี่ฝางได้ยิน ในที่สุดก็วางใจ
ถึงแม้หลี่ฝางจะรู้ดี คนที่ชนตัวเองเมื่อกี้ ไม่ใช่หวางเสี่ยวหยวนแน่นอน แต่เพื่อความแน่ใจ คอนเฟิร์มสักหน่อยจะดีกว่า
เพื่อป้องกันไม่ให้มีหนอนบ่อนไส้อย่างไม่รู้ตัว
หลี่ฝางพูดกับหวางเสี่ยวหยวน: “Land Roverของพี่ล่ะ?”
“รถเหรอ เมื่อกี้ลูกน้องคนหนึ่งขับออกไปแล้วครับ” หวางเสี่ยวหยวนพูดจบ ก็รับรู้ได้ถึงความไม่ปกติทันที: “เจ้านาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ?”
“หมอนั่นบอกว่าจะไปรับผู้หญิงสองคนเล่น อย่างมากสิบนาทีก็กลับมาแล้ว แต่ตอนนี้ผ่านไปสามสิบนาทีแล้ว ผมเล่นไพ่ติดลมไปหน่อย ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก……” หวางเสี่ยวหยวนถามขึ้นมาอย่างว่องไว
“เมื่อกี้ฉันกับคุณหนูตระกูลฉินถูกคนขับรถชน คนที่ชนพวกเรา ขับรถ Land Rover ของพี่ แต่ว่า เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดจะเอาชีวิตของพวกเรา เพียงแค่ต้องการข่มขู่พวกเราแค่นั้นเอง”
หลี่ฝางกล่าว: “วางไพ่ในมือลง ก่อนเช้าพรุ่งนี้เช้า ฉันหวังว่าพี่จะให้คำตอบกับฉันได้”
“ทราบแล้วครับ เจ้านาย” หวางเสี่ยวหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
หลังจากที่วางสาย หวางเสี่ยวหยวนโมโหจนคว่ำโต๊ะเล่นไพ่
หลังจากนั้น เขาก็หยิบเอาบุหรี่ออกมามวนหนึ่ง แล้วคาบไว้ในปาก
เฉินเจียโล่และหวงว่างโก๋ต่างก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เฉินเจียโล่รีบถามขึ้นมาทันที: “ลูกพี่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงทำให้พี่โมโหขนาดนี้?”
นี่เป็นกระดานไพ่ที่เล่นด้วยกันสี่คน นอกว่าพี่น้องสองคนของหวางเสี่ยวหยวนแล้ว ยังมีอีกคนที่ชื่ออากวง
อากวงคนนี้ ก็นับว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงเดียวกัน
อากวงกล่าวอย่างเหน็บแนม: “ผมว่านะพี่หยวน พี่คงไม่ได้เสียเงินจนหัวเสียหรอกใช่ไหม?”
หวางเสี่ยวหยวนดูดบุหรี่เข้าไปคำใหญ่ จากนั้นก็เหลือบตามองไปที่อากวง เขายิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว: “อากวง ฉันลืมถามแก วันนี้มีอารมณ์สุนทรีย์ดีอะไร จู่ ๆ ถึงได้มาชวนพวกเราเล่นไพ่?”
อากวงกล่าวอย่างเรียบ ๆ : “ก็มาสร้างความสัมพันธ์กับพวกพี่ ๆ ไง ถ้าไม่ต้อนรับ ต่อไปฉันไม่มาแล้วก็ได้”
“ต้อนรับ ต้อนรับ จะไม่ต้อนรับได้ยังไง?”
หวางเสี่ยวหยวนยิ้มกล่าวจนจบ จากนั้นเขาก็พลันยกแขนขึ้นมา ทันในนั้นฝ่ามือหนึ่ง ก็ฟาดลงไปที่ใบหน้าของอากวง
อากวงยังไม่ทันได้รู้สึกตัวอะไร เขาก็ถูกฟาดลอยลงไปกองที่พื้นทันที
“ลูกพี่ เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงขั้นลงไม้ลงมือแล้วล่ะ?” ในวินาทีนี้เฉินเจียโล่ก็ได้ลนลานขึ้นมา
เฉินเจียโล่และหวงว่างโก๋ติดตามหวางเสี่ยวหยวนมานาน น้อยมากที่จะเห็นเขาใจร้อนแบบนี้
โดยเฉพาะอย่างเรื่องคว่ำต๊ะไพ่ หวางเสี่ยวหยวนในเมื่อก่อน ไม่มีทางที่จะทำแบบนี้
เขาเป็นคนสุขุมเยือกเย็นมาโดยตลอด วันนี้เป็นอะไรไป?
หวางเสี่ยวหยวนก้าวยาว ๆ เข้ามา แล้วยกร่างอากวงขึ้น: “น้องชาย ฉันกับแกไม่มีความแค้นกันใช่ไหม? ทำไมแกถึงได้มาทำร้ายพวกเราสามคน? ทั้งยังเป็นการทำร้ายแบบกะจะเอาให้ตาย!”
กล่าวไป หวางเสี่ยวหยวนก็เอาบุหรี่ที่อยู่ในปาก จี้ลงไปที่ดวงตาของอากวง ยังดีที่อากวงหลับตาลงเร็ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ดวงตาของเขา จะต้องตาบอดแน่ ๆ
“แม่งเอ๊ย!”
หวางเสี่ยวหยวนตะโกนด่าออกมา เขายกกำปั้นขึ้น และหวดเข้าไปที่ใบหน้าของอากวง ต่อนจนเขาแทบสลบไป
เพราะยังไงตามรูปร่างของหวางเสี่ยวหยวนแล้ว หมัดนี้ คนธรรมดาไม่อาจทนรับได้จริง ๆ
และอากวงคนนี้ ร่างกายก็ไม่นับว่าสูงใหญ่ แล้วจะเป็นคู่ต่อสู้ของหวางเสี่ยวหยวนได้ยังไง?
หวางเสี่ยวหยวนต่อยอากวงติดต่อกันอยู่หลายหมัด ต่อยจนเขาไม่ค่อยมีสติแล้ว และในตอนที่เฉินเจียโล่อยากจะเข้าไปห้าม กลับถูกหวงว่างโก๋ขวางเอาไว้
หวงว่างโก๋ส่ายหน้าให้กับเฉินเจียโล่ แล้วกล่าว: “เรื่องราวมีพิรุธ อีกเดียวพี่ใหญ่ก็จะอธิบายกับพวกเราเอง”
เฉินเจียโล่พยักหน้า และไม่ได้กล่าวอะไร
“พลิกโต๊ะขึ้นมา”
เมื่อได้ยินที่หวางเสี่ยวหยวนพูด เฉินเจียโล่ก็รีบจัดโต๊ะให้เข้าที่ทันที
รอจนหวางเสี่ยวหยวนต่อยจนพอ ก็กดอากวงลงไปที่โต๊ะทันที
“พูด ใครเป็นคนส่งแกมา?”
หวางเสี่ยวหยวนถามอย่างเยือกเย็น
อากวงนั่นมีชีวิตเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียวแล้ว แต่เขายังคงกัดฟันไม่ยอมพูด
“หวางเสี่ยวหยวน ถ้าแน่จริงก็ต่อยฉันให้ตาย ไม่อย่างนั้นล่ะก็ พรุ่งนี้ฉันจะต้องหาคนมาจัดการกับพวกแกสามคนแน่” อากวงกล่าวข่มขู่อย่างเย็นชา
หวางเสี่ยวหยวนก้มหัวลง แล้วหยิบกระโถนที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
จากนั้นก็ใช้กระโถน เล็งไปที่มือของอากวง และฟาดลงไปอย่างแรง
ชั่ววินาทีนั้น ข้อมือของอากวงก็ได้ถูกทุบจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ
อากวงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด หวางเสี่ยวหยวนเอ่ยถามอีกครั้ง: “ฉันถามแกอีกครั้ง ใครกันแน่ที่ส่งแกมา!”
“ถ้าแกไม่พูด ครั้งนี้ที่ทุบ จะไม่ใช่มือแก แต่เป็นหัวแกแทน” หวางเสี่ยวหยวนกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา
ทันใดนั้นอากวงก็พลันหวาดกลัวขึ้นมา เขามองใบหน้าที่ดุร้ายของหวางเสี่ยวหยวน รู้ว่าหวางเสี่ยวหยวนไม่ได้ล้อเล่นกับตัวเอง
“เป็นฉินเสี่ยวหู่ ฉินเสี่ยวหู่เป็นคนส่งผมมา”
อากวงกล่าว: “เมื่อก่อนผมเคยติดค้างฉินเสี่ยวหู่ วันนี้ฉินเสี่ยวหู่ได้มาหาผม จ่ายให้ผมหนึ่งล้าน บอกให้ผมมาหาพี่ แล้วยืมรถของพี่”
“ไอ้คนที่ขับรถของพี่ออกไปเมื่อกี้ มันไม่ใช่คนของผม แต่เป็นคนของฉินเสี่ยวหู่”
อากวงกล่าวอย่างขมขื่น: “นี่พี่หยวน รถคันนั้นของพี่อย่างมากก็แค่สองล้านกว่า หรือไม่ก็ให้ผมชดใช้รถให้พี่ได้ไหม?”
“ชดใช้รถ?”
หวางเสี่ยวหยวนตะคอกด่าอากวง: “แกคิดว่าไอ้เหี้ยนั้นขโมยรถฉัน?”
“ไอ้เวรนั่นคิดจะฆ่าพวกเราสามพี่น้อง!”
หวางเสี่ยวหยวนถุยน้ำลายให้กับอากวง: “ไอ้โง่อย่างแก ทำไมไม่ลองคิดดู เพราะรถคันเดียว มีค่าพ่อที่จะให้ฉันเอาชีวิตแกไหม?”
อากวงตะลึงงันไปสักพัก รู้สึกว่าตัวเองก็ได้ถูกขายไปแล้ว
“พี่ใหญ่ ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?” หวงว่างโก๋เอ่ยถามขึ้นมา
หลังจากที่หวางเสี่ยวหยวนรู้ว่าผู้ร้ายตัวจริงคือฉินเสี่ยวหู่ เขาก็ปล่อยอากวง แล้วเดินไปอีกด้านหนึ่งพลางกล่าว: “เรียกรวมตัวพี่น้อง ถามหาไอ้เวรเมื่อกี้นั่น”
“คืนวันนี้ ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดิน ก็ต้องหาตัวมันมาให้ได้”
“ไอ้เวรนั่นขับรถของฉัน เกือบจะชนคุณชายหลี่และคุณหนูฉินตาย แม่งเอ๊ย ชัดเจนว่ามันคิดจะโยนความผิดให้พวกเรา โชคดีที่ไม่สำเร็จ ถ้าเกิดสำเร็จขึ้นมา หัวของพวกเรา คงต้องได้เปลี่ยนที่อยู่แน่”
หวางเสี่ยวหยวนรู้ฐานะของหลี่ฝาง และรู้จักนิสัยของหลอซ่าเป็นอย่างดี
ถ้าหากหลี่ฝางถูกรถของตัวเองชนตาย พอถึงเวลานั้นหลอซ่าจะไม่ให้โอกาสตัวเองได้อธิบายเลยแม้แต่น้อย เขาจะฆ่าตัวเองทันที
ดังนั้น หวางเสี่ยวหยวนถึงได้โกรธมากขนาดนั้น
หลังจากนั้น หวางเสี่ยวหยวนก็หันไปมองอากวง แล้วกล่าว: “โทรหาลูกน้องของแก ให้พวกมันไปตามหาคน และรถ”
“แน่นอน แกสามารถไปหาฉินเสี่ยวหู่โดยตรง ให้ฉินเสี่ยวหู่มอบคนและรถออกมา”
“พูดอย่างสรุป พรุ่งนี้ก่อนที่ตะวันจะขึ้น ถ้าหากฉันยังไม่เห็นคนและรถล่ะก็ อากวง ฉันไม่สนว่าแกจะมีพรรคพวกมากแค่ไหน และไม่สนว่าคนที่อยู่ข้างหลังแกจะเป็นใคร ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มาขอร้อง ฉันก็ยังจะเอาชีวิตแกอยู่ดี”
หวางเสี่ยวหยวนกล่าวจบ เขาก็ได้จากไปทันที
และเฉินเจียโล่ก็คว้าเข้าไปที่คอเสื้อของอากวง แล้วโยนเขาเข้าไปในรถของตัวเอง
“รีบโทรโทรศัพท์ โทรเสร็จ ฉันจะพาแกไปสถานที่ดี ๆ แห่งหนึ่ง
หลีงจากที่อากวงโทรโทรศัพท์เสร็จ ก็ถูกเฉินเจียโล่จับโยนเข้าไปในกรงหมา
ฉินเสี่ยวหู่นะ ฉินเสี่ยวหู่ นับว่าฉันได้ถูกแกฆ่าแทบตายแล้ว
อากวงโทรหาฉินเสี่ยวหู่ไม่ติด เขาแอบด่าฉินเสี่ยวหู่อยู่ในใจหลายครั้ง
ตัวเองได้ถูกไอ้เหี้ยฉินเสี่ยวหู่หลอกเข้าให้แล้ว