NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 632 ความชั่วร้ายของฉินเสี่ยวหู่
“วี่เฟย ลูกเบลอไปแล้วเหรอ ทำไมลูกถึงได้ยกหน้าที่ตัวแทนประธานกรรมการให้ฉินเสี่ยวหู่ล่ะ? เขา…..เขามันชั่วช้า รู้เรื่องการบริหารบริษัทที่ไหนกัน?” พ่อของฉินวี่เฟย ก็พูดอย่างปวดหัวขึ้นมาทันที
บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เป็นเลือดเนื้อของนายท่านฉิน ในฐานะที่เป็นลูกชายที่นายท่านฉินพอใจที่สุด คุณพ่อของฉินวี่เฟย จะยอมทำใจให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปตกไปอยู่ในมือคนสารเลวคนนึงได้ยังไงกัน?
มันต่างอะไรกับการทำลายบริษัทกันล่ะ?
พ่อของฉินวี่เฟยไม่เห็นด้วย ให้ตายยังไงก็ไม่เห็นด้วย
“น้องสาว ไม่ต้องไปกลัวมัน ที่นี่เป็นโรงพยาบาล มันไม่กล้าทำอะไรเธอหรอก” ฉินจื่อยี่พูดหึขึ้น
ถึงแม้ว่าฉินจื่อยี่กับฉินซ่างเสียนจะโดนกดลงอยู่ที่พื้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้กลัวฉินเสี่ยวหู่
“เ**ดแม่ หุบปากไปกันให้หมด”
ไม่ง่ายเลยที่ฉินวี่เฟยจะตัดสินใจแบบนี้ ฉินเสี่ยวหู่กลัวว่าคำพูดของฉินจื่อยี่กับฉินซ่างเสียนทั้งสองคน จะทำให้ฉินวี่เฟยเปลี่ยนใจ
ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะเหอะๆ : “ไม่เลว ในโรงพยาบาลฉันไม่กล้าลงมือกับพวกนาย แต่ถ้าออกจากโรงพยาบาลล่ะ?”
“ฉินเสี่ยวหู่ หรือว่านายไม่สนใจกฎหมายบ้านเมืองเลยเหรอไง?” ฉินซ่างเสียนมองฉินเสี่ยวหู่อย่างเย็นชา แล้วถาม
“กฎบ้านเมือง? อะไรคือกฎบ้านเมือง?”
ฉินเสี่ยวหู่ยิ้มอย่างเยาะเย้ยแล้วพูด: “คุณอา อาคงไม่คิดว่าผมจะลงมือกับอาเอง จากนั้นก็เรียกตำรวจมาจับผมหรอกนะ?”
“ฮ่าๆ ลูกน้องของผม มีพวกไม่เสียดายชีวิต ถ้าหากพวกนายจะมาสู้กับฉัน งั้นฉันก็จะให้พวกเขาสู้ตายกับพวกนายเลย”
“ก็อย่างเช่นไอ้คนที่ขับรถชนน้องวี่เฟย เขาก็เป็นผู้ต้องหาหนีคดีมาหลายปี ถึงแม้พวกนายจะจับฉันได้ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันเลยแม้แต่นิดเดียว”
“แล้วก็ รถที่ชนน้องวี่เฟย เจ้าของรถชื่อว่าหวางเสี่ยวหยวน เป็นลูกน้องของคุณชายหลี่ ถึงแม้ตำรวจจะสืบความได้ ประเด็นก็จะไปตกอยู่ที่หวางเสี่ยวหยวนกับหลี่ฝาง”
อุบัติเหตุทางรถยนต์คราวนี้ ฉินเสี่ยวหู่จัดฉากได้อย่างเข้าใจรอบคอบ
“น้องวี่เฟย ที่น้องตัดสินใจเมื่อกี้ถูกต้องแล้ว ตอนนี้เธอแค่โดนชนจนขาหักไปสองข้างแค่นั้น รักษาตัวไม่กี่เดือน ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ถ้าเธอยังดื้อด้านต่อละก็ เกรงว่าที่สูญเสีย จะไม่ใช่แค่ขาทั้งสองข้างแล้ว อาจจะเป็นใบหน้าที่งดงามของเธอ ถ้าหากถูกคนใช้มีดกรีดสักแผลสองแผล อีกครึ่งชีวิตของเธอ จะแต่งงานออกได้ยังไง? ไอ้คุณชายหลี่นั่น ยังจะเอาเธอเหรอ?”
ฉินเสี่ยวหู่ยิ้มอย่างชั่วร้าย: “มีดโกนหนวดนี่ เป็นแบบสองชั้นนะ ถึงตอนนั้น ถึงเธอจะไปศัลยกรรมก็ไม่มีประโยชน์” หลังจากถูกข่มขู่ ฉินจื่อยี่กับฉินซ่างเสียน ในที่สุดก็เงียบปาก
ก็จริง พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อกรของฉินเสี่ยวหู่เลย
วิธีการของฉินเสี่ยวหู่ มันเกินคำว่าสกปรกแล้ว
บวกกับวันนี้มู่หรงฉางเฟิงก็คอยมาเป็นแบ็คให้เขาอีก เขาจึงยิ่งป่าเถื่อนเข้าไปอีก
ฉินซ่างเสียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วพูดกับตัวเอง: “เวรกรรมเอ๊ย!”
“คุณอา อาไม่ต้องเสียใจ จะให้พูด พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ผมจะไม่ให้พวกอาหิวตายหรือว่าต้องไปนอนข้างถนนหรอก” ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะฮี่ๆ
“ฉินเสี่ยวหู่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้แผนการของนายนะ นายคิดจะทำบริษัทปลอมๆ เอาบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไปต้มตุ๋น ฉันจะบอกนายให้ ผู้ถือหุ้นเก่าแก่ของบริษัท ไม่มีทางเห็นด้วยกับนายหรอก” ฉินซ่างเสียนพูดอย่างเย็นชา
“ใช่แล้ว พวกตาแก่หัวแข็งนั่น ต้องไม่ยอมแน่ๆ อย่างที่พูด คุณอา ผมคิดว่าอาคงจะเป็นคนแรกที่ค้านผมใช่มั้ย?” ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะฮี่ๆ พลางมองฉินซ่างเสียน แล้วพูด: “แต่ว่าอาก็คิดดีๆ ล่ะ ถ้าหากอามายั่วโมโหผม งั้นพี่รองฉินหยีหรันก็คงจะ……”
“มา คุณอา ผมจะให้อาดูอะไรดีๆ ”
ฉินเสี่ยวหู่เดินเข้าไปหาฉินซ่างเสียน และลากตัวฉินซ่างเสียนขึ้นมา
ฉินเสี่ยวหู่แรงเยอะมาก ชายวัยกลางคนอย่างฉินซ่างเสียน ถูกเขาลากตัวขึ้น มองดูแล้วไม่ได้ออกแรงอะไรเลย
ฉินจื่อยี่ลุกขึ้นและกำลังจะซัดหน้าฉินเสี่ยวหู่ แต่ฉินซ่างเสียนกลับยื่นแขนมาห้ามไว้ แล้วพูด: “พอแล้ว นายไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา อย่ารนหาที่เลย รีบกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยของตัวเองเถอะ ร่างกายของนาย ยังไม่หายดีนะ”
“แต่ว่า พ่อ……” ฉินจื่อยี่กำหมัดแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห
มีบางครั้ง ถึงแม้จะต่อยไม่ชนะ ก็ต้องต่อยวะ
ฉินเสี่ยวหู่มองบนใส่ฉินจื่อยี่ แล้วพูด: “พี่ใหญ่ ฟังที่คุณอาพูดเถอะ พี่สู้กับฉัน ก็เหมือนกันลูกเจี๊ยบสู้กับนกอินทรี ไม่ใช่คู่ต่อกรกันเลย”
“ฉินเสี่ยวหู่ ถ้านายทำร้ายพ่อฉันแม้แต่ผมเส้นเดียว ฉันสาบานเลย ถึงแม้ฉันจะตาย ฉันก็จะไม่ปล่อยแกไว้” ฉินจื่อยี่กัดฟันพูด
ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะอย่างดูถูก: “พวกเด็กๆ ชอบที่จะทิ้งคำพูดแบบนี้ไว้กัน คนที่โตๆ กันแล้วอย่างพวกฉัน มันต้องแบบนี้……”
ฉินเสี่ยวหู่พูดพลาง เดินขึ้นหน้า แล้วชกเข้าไปที่หน้าของฉินจื่อยี่ อย่างแรงจนลงไปกองกับพื้น: “อย่างฉัน ใช้การกระทำมาพิสูจน์ว่านายมันแค่คนไร้ความสามารถ”
“อย่ามาขู่ฉัน นายมันไม่แน่จริง”
ฉินเสี่ยวหู่มองฉินจื่อยี่แล้วพูด: “ถ้าหากนายไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ ฉันคิดหาทางฆ่านายไปนานแล้ว”
“นายรู้มั้ยว่าคนที่ฉันเกลียดที่สุดเป็นใคร? นั่นก็คือมึงไง ตั้งแต่เล็กจนโต มึงเก่งไปกว่ากูทุกอย่าง คุณปู่ก็เอาใจมึง ไม่ว่ากูจะทำอะไร คุณปู่ก็ไม่เคยชมกูเลย เขาชมแต่มึง รู้มั้ยเพราะว่ามึง พ่อกูโดนปู่ด่าไปแล้วกี่ครั้ง? รู้มั้ยว่าทำไมกูต้องออกไปเป็นนักเลง? เพราะกูรู้ไง ว่าทางสายนี้ มึงไม่มีทางดีไปกว่ากูหรอก”
“ความจริงก็สามารถพิสูจน์ได้ กูในตอนนี้ เก่งและมีความสามารถมากกว่ามึงเยอะ”
ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะอย่างเย็นชา: “ในสังคมนี้ ต้องดูว่าใครจะได้เป็นคนชนะสุดท้าย”
“เห็นได้ชัด ว่าฉันชนะแล้ว” ฉินเสี่ยวหู่พูดอย่างพอใจ
หลังจากฉินเสี่ยวหู่พูดจบ ก็คว้าแขนฉินซ่างเสียน แล้วเดินออกจากห้องพักไป
ส่วนหลี่ฝางในตอนนั้น ก็หลบเข้าไป แอบฟังที่พวกเขาคุยกัน
“แกจะทำอะไร?” ฉินซ่างเสียน มองฉินเสี่ยวหู่อย่างระแวง
ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะเหอะๆ แล้วช่วยฉินซ่างเสียนจัดระเบียบคอเสื้อ และพูด: “คุณอา ไม่ต้องตระหนกไป อาเป็นผู้อาวุโสของผม ผมจะไปทำอะไรอาได้? หรือว่าคิดว่าผมจะฆ่าเหรอ? ผมไม่กล้า นั้นจะไม่ใช่การกระทำผิดกฎระเบียบตามบรรพบุรุษหรอกเหรอ?”
“เหอะๆ กระทำผิดกฎระเบียบตามบรรพบุรุษ ฉินเสี่ยวหู่นายใช่ว่าจะไม่เคยทำนี่” ฉินซ่างเสียนพูดเหน็บแนม
“เอาล่ะ ไม่พูดมากกับอาแล้ว พวกเรามาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า ผม ต้องการให้อาสนับสนุน”
ฉินเสี่ยวหู่จุดบุหรี่ให้ตัวเอง แล้วพูด: “หลายปีที่ผ่านมา เป็นอาที่จัดการเรื่องในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ดังนั้นเรื่องราวทั้งหมดในฉินซื่อกรุ๊ป คนที่อยู่สูงที่สุดแล้ว นั่นต้องเป็นอา ขอแค่อาสนับสนุนผม แบบนั้น ทุกคนก็ต้องสนับสนุนผม กลับกัน ถ้าหากอาต่อต้านผม ถ้างั้นเวลาผมจะทำเรื่องอะไร ก็ไม่สะดวก”
“อยากให้ฉันสนับสนุนแก ฝันไปเถอะ” ฉินซ่างเสียนปฏิเสธอย่างหนักแน่น
ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ผมก็รู้อยู่แล้วว่าอาจะต้องไม่ยอมง่ายๆ แน่”
“แต่ว่านะ คุณอาก็อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธสิ ผมให้อาดูอะไรก่อน ถ้าหากคุณอาเห็นแล้วยังยืนยันที่จะไม่สนับสนุนผม งั้นผมก็จะได้คิดหาวิธีอื่น”
ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะฮี่ๆ แล้วควักโทรศัพท์ออกมา เปิดไปที่วิดีโอของตน
คลิปในโทรศัพท์ เป็นคลิปที่ลูกสาวของฉินซ่างเสียน ฉินหยีหรันถูกมู่หรงฉางเฟิงใช้แส้ฟาด
เมื่อเห็นคลิปพวกนี้ นัยน์ตาของฉินซ่างเสียน ก็ลุกเป็นไฟ
“มู่หรงฉางเฟิงไอ้สารเลว ฉันจะไปฆ่าแก”
เมื่อได้เห็นลูกสาวอันเป็นที่รักของตนถูกตีแบบนี้ ฉินซ่างเสียนในฐานะคนเป็นพ่อ จะทนไหวได้ยังไง?
ฉินเสี่ยวหู่คว้าฉินซ่างเสียนไว้ แล้วพูดอย่างดูถูก: “พอเถอะอา อย่างอาเหนี่ยนะ? ยังอยากจะเป็นศัตรูกับคุณชายมู่หรง จะไปล้างแค้นคุณชายมู่หรง อามีกำลังพอเหรอ? ไม่ต้องพูดถึงคุณชายมู่หรงเลย แม้แต่ผม อาเอาอยู่มั้ย? ใจเย็นแล้วคิดดีๆ อามันก็แค่ขยะ”
ฉินเสี่ยวหู่ใช้สายตาชั่วร้ายมองฉินซ่างเสียน แล้วพูด: “เป็นคน ที่สำคัญต้องรู้จักประมาณตน อาไม่ใช่คู่ต่อกรของพวกเรา รีบถอยไปซะ ยอมแพ้ แล้วก็เชื่อฟังพวกเราซะดีๆ แล้วทำงานแทนพวกเรา แบบนี้ วันข้างหน้าของอา ก็จะไม่ทรมานมากนัก”
“รวมไปถึงลูกสาวของอาด้วย พี่รองของผมฉินหยีหรัน ก็ไม่ต้องทนรับก็ทรมานแบบนั้นด้วย คลิปพวกนี้ ผมดูก็ยังปวดใจเลย”
ฉินเสี่ยวหู่พ่นควันบุหรี่ แล้วหัวเราะเหอะๆ : “เป็นไง คุณอา ตอนนี้จะยอมสนับสนุนผมได้ยัง?”