NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 636 การเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของถังหยู่ซวน
ตกดึก หลี่ฝางกับถังหยู่ซวนเปิดห้องเพรสซิเดนสูทค้างคืน
เมื่อถึงเช้าวันถัดไป หลี่ฝางก็จัดแจงเสื้อผ้าตัวเองอย่างง่ายๆ และไปบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปกับถังหยู่ซวน
รถจอดลงตรงหน้าประตูใหญ่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ทั้งสองลงจากรถ และเตรียมตัวเข้าไป
แต่คาดไม่ถึง ขณะที่เดินมาถึงหน้าประตู หลี่ฝางกับถังหยู่ซวนก็ถูกขวางไว้
“หยุดนะ จะทำอะไร?”
บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทอันดับต้นๆ ในเมืองเอก อาคารทั้งหลังได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา คนหนุ่มๆ อย่างหลี่ฝางกับถังหยู่ซวน รปภ.คงปล่อยให้เข้าไปง่ายๆ ไม่ได้
เมื่อกี้ระหว่างทาง หลี่ฝางได้รับข้อความจากฉินซ่างเสียน บอกว่าก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง ฉินเสี่ยวหู่ก็มาถึงบริษัทแล้ว และเรียกประชุมรวมบอร์ดบริหาร เตรียมตัวทำตามแผนของตน
ฉินเสี่ยวหู่กำลังจะทำให้บริษัทกลวง ถ้าหากบอร์ดบริหารให้ผ่าน ทรัพย์สินของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ก็จะกลายเป็นบริษัทต้มตุ๋นทันที และจากนั้น บริษัทต้มตุ๋นนี้ ไม่นานก็จะล้มละลาย เงินที่เอามา ก็จะถูกมู่หรงฉางเฟิงหุบไป
“พวกเรามาหาคน ฉินซ่างเสียน นายนาจะรู้จักนะ? เขาเป็นผู้จัดการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปของพวกนาย” หลี่ฝางถอยออกมา จากนั้นก็โทรหาฉินซ่างเสียน
หลังจากสายติด หลี่ฝางก็ยื่นโทรศัพท์ให้รปภ.
“ถ้าหากนายไม่เชื่อ ก็ฟังเอาเอง” หลี่ฝางพูด
รปภ.คนนั้นหัวเราะเหอะๆ แล้วรับโทรศัพท์มาจากหลี่ฝาง: “ฉินซ่างเสียนใช่มั้ย?”
“ใช่ หัวหน้าผู้จัดการของที่นี่”
หลี่ฝางพูดพลางยิ้ม
หลังจากมอบเวทีให้ฉินซ่างเสียน รปภ.คนนี้จะต้องเคารพตนเองแน่ๆ
ถึงยังไง หลายสิบปีที่ผ่านมาบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ล้วนแต่เป็นฉินซ่างเสียนจัดการทุกอย่าง
ชื่อเสียงของเขา ทั้งบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ไม่มีใคร ที่จะไม่รู้จัก
แต่ใครจะคิด หลังจากรปภ.รับโทรศัพท์ไป ก็โยนโทรศัพท์ออกไปไกลเจ็ดแปดเมตร
“ขอโทษนะ ฉันไม่รู้จักฉินซ่างเสียนอะไรนั่น”
“ดูจากอายุของพวกนายสองคน ไม่เหมือนว่าจะเป็นพนักงานของบริษัท ฉันแนะนำให้นะ รีบออกไป ถ้าไม่อย่างนั้น อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจ”
รปภ.พูดอย่างดูถูก
เมื่อเห็นท่าทางของรปภ. สีหน้าของรปภ. ก็เข้มขึ้นทันที
รปภ.ของฉินซื่อกรุ๊ป กลับไม่รู้ว่าฉินซ่างเสียนเป็นใคร?
หลี่ฝางคิดว่าเรื่องนี้มันผิดปกติเล็กน้อย จึงเงยหน้าขึ้นมอง บนตึก หนังสือตัวใหญ่ๆ เขียนว่าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป แสงแดดส่องกระทบ เป็นประกายสว่างไสว ทำให้แสบตา
หลังจากหลี่ฝางยืนยันว่าตนไม่ได้มาผิดที่ ก็ขมวดคิ้วมองรปภ. แล้วพูดยืนยัน: “ที่นี่เป็นตึกบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป นายบอกว่านายไม่รู้จักฉินซ่างเสียน?”
“งั้นฉินวี่เฟยล่ะ? ประธานบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป นายน่าจะรู้จักนะ?”
รปภ.หัวเราะอย่างเย็นชา: “ฉินวี่เฟย? ยัยนั่นยังไม่ตายเหรอ?”
“จะบอกให้นะ ฉันรู้จักแค่คนเดียว นั่นก็คือท่านหู่ ประธานบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ชื่อฉินวี่เฟยไม่ผิด แต่ตั้งแต่วันนี้ ฉินซื่อกรุ๊ป จะเป็นท่านหู่ดูแลแล้ว ถ้านายอยากจะเข้าไป ถ้างั้น ก็เอาบัตรพนักงานออกมา หรือไม่ก็ โทรหาท่านหู่” รปภ.พูดอย่างเย็นชา
หลี่ฝางถึงได้เข้าใจ ที่แท้รปภ.คนนี้ เป็นคนของฉินเสี่ยวหู่
ก็จริง รปภ.คนก่อน ถูกฉินเสี่ยวหู่เล่นงานจนเข้าโรงพยาบาลไปนานแล้ว
หลี่ฝางไม่อยากเสียเวลาอยู่ตรงนี้ เขาส่งสายตาให้ถังหยู่ซวน ความหมายคือลงมือพร้อมกัน กดรปภ.คนนั้นลง
รปภ.คนนี้สูงร้อยแปดสิบ ท่อนแขนก็มีกล้ามเป็นมัดๆ ดูแล้วจัดการไม่ง่าย
หลังจากที่ถังหยู่ซวนเข้าใจความหมายของหลี่ฝาง ก็ยิ้มอ่อน แล้วพูด: “หลี่ฝาง ให้ฉันจัดการก็พอแล้ว”
“นายเข้าไปก่อนเถอะ” ถังหยู่ซวนมองหลี่ฝาง แล้วพูด
หลี่ฝางมองถังหยู่ซวนอย่างสงสัย: “นายคนเดียวเอาไหวเหรอ?”
“ไม่มีปัญหา”
ถังหยู่ซวนยิ้ม ใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ถึงแม้หลี่ฝางยังมีความสงสัย แต่ก็รีบ ตนจึงหยิบโทรศัพท์กลับมา หลี่ฝางตบไปที่บ่าของถังหยู่ซวน แล้วพูด: “ถ้างั้นไอ้หมอนี่ ฝากนายด้วยแล้วกัน”
ถังหยู่ซวนพยักหน้า รปภ.ก็หัวเราะฮี่ๆ พลางมองถังหยู่ซวน: “ทำไม จากที่ได้ยิน นายจะล้มฉันคนเดียวเหรอ?”
“ถูกแล้ว” ถังหยู่ซวนพูดอย่างนิ่งๆ
หลี่ฝางลุกขึ้นและเดินเข้าไปทางด้านในตัวตึก รปภ.ยื่นมือมาขวาง แต่กลับถูกถังหยู่ซวนจับไว้
“พี่ชาย ดูนี่……”
ถังหยู่ซวนยิ้มอย่างเย็นชา ต่อมาก็เหวี่ยงมัด อัดเข้าหน้าของรปภ.
“เ**ดแม่มึง”
รปภ.คนนั้นตะโกนด่าเสียงดัง แล้วง้างแขน แล้วเหวี่ยงไปที่ใบหน้า ของถังหยู่ซวน
ส่วนสองมือของถังหยู่ซวน ก็จับแขนของรปภ.ไว้ แล้วยืมแขนของเขา พยุงตัวกระโดดขึ้นไป ขี่คอของรปภ.คนนั้น
เสียงตุ้บดังขึ้น ถังหยู่ซวนใช้ขาสองข้างล็อกคอของรปภ.ไว้ จากนั้นก็กระโดดไปข้างหลัง ต่อมารปภ.คนนั้นก็ล้มลงไปนอนกับพื้น
ส่วนถังหยู่ซวน ก็ใช้มือสองข้างพยุงตัวไว้ เป็นการตีลังกาที่สวยงามมากๆ
“ต่อสู้ ไม่ได้วัดกันที่ใครตัวใหญ่กว่า!”
ถังหยู่ซวนวิ่งเข้าไป แล้วเตะไปที่ท้ายทอยของรปภ. จนเขาสลบไป
หลี่ฝางเดินมาถึงหน้าลิฟต์ ถังหยู่ซวนก็วิ่งตามมาแล้ว
หลี่ฝางหันกลับไปมองถังหยู่ซวน แล้วก็ตกใจ: “เชี่ยไอ้หมอนั่นล่ะ?”
“ถูกฉันเตะสลบไปแล้ว”
ถังหยู่ซวนยิ้มอย่างชิวๆ
หลี่ฝางทำหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อ พลางมองถังหยู่ซวน: “เชี่ย จริงจัง?”
“ไม่เชื่อก็ลองดู” ถังหยู่ซวนชี้ไปที่ประตูหน้าตึก หลี่ฝางเห็นรปภ.นอนแน่นิ่ง ก็ตกใจทันที
หลี่ฝางมองถังหยู่ซวน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความช็อก
“นายทำได้ยังไงเหนี่ย?” หลี่ฝางถาม
“เรื่องเล็กน้อย ไอ้หมอนั่น ก็งั้นๆ นอกจากตัวใหญ่ ก็ไม่มีอะไรดีแล้ว” ถังหยู่ซวนพูดอย่างดูถูก
“กล้ามของเขา มองดูแล้วน่ากลัว แต่พอมองดีๆ แล้วก็เห็นว่า ทั้งหมดคงมีได้เพราะยา มีกล้ามแต่ใช้งานไม่ได้”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดอย่างชื่นชมเล็กน้อย: “นายก็ยังมองออกอีกนะ”
พูดไป ประตูลิฟต์ก็เปิดออก หลี่ฝางส่งข้อความให้ฉินซ่างเสียน หลังจากถามว่าอยู่ชั้นไหน ก็กดลิฟต์ขึ้นไป
“คิดไม่ถึง ไม่เจอกันแค่แป๊บเดียว นายก็เปลี่ยนเป็นร้ายกาจขนาดนี้แล้ว” ในลิฟต์ หลี่ฝางก็พูดชมถังหยู่ซวน
“ทั้งหมดเป็นเพราะอาจารย์สอนมาดี” ถังหยู่ซวนยิ้มเม้มปาก
“ลำบากมาไม่น้อยเลยใช่มั้ย?” หลี่ฝางเลิกคิ้วถาม
“อืม”
ถังหยู่ซวนไม่ได้ปฏิเสธ: “ฝึกวิชา จะไม่ลำบากได้เหรอ มีหลายครั้งที่แทบจะเอาไม่อยู่ แต่อาจารย์บอกว่า อยากจะเป็นคนเก่ง ก็ต้องทำให้เกินขีดจำกัดของตัวเองทีละนิดๆ ศักยภาพของคน ไม่มีขีดจำกัด ขอแค่ต้องพยายามต่อไป”
“ดังนั้นทุกครั้ง ตอนที่ฉันรู้สึกว่าจะตายแล้ว หรือว่าจะสลบ อาจารย์ถึงจะบอกให้หยุด” ถังหยู่ซวนพูดอย่างนิ่งๆ
หลี่ฝางคิดไม่ถึง ถังหยู่ซวนจะได้รับการฝึกฝนมาเกือบตาย
จู่ๆ หลี่ฝางก็นึกถึงชุนเซิง เวลาสั้นๆ ถังหยู่ซวน ก็สามารถเป็นคนที่มีฝีมือได้? งั้นชุนเซิงล่ะ? คิดดูแล้วสิ่งที่ชุนเซิงต้องฝึกฝน คงจะไม่สบายไปกว่าถังหยู่ซวนหรอกมั้ง?
“เมื่อคืน ฉันคิดว่านายกับโหจื่อกำลังพูดโอ้อวด ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว แผลที่คอของนาย เกรงว่าจะถูกหมาป่าข่วนจริงๆ ”
หลี่ฝางยิ้มอย่างซับซ้อน
เมื่อคืน หลี่ฝางไม่ได้เชื่อที่ถังหยู่ซวนพูด ถึงยังไงฝีมือของถังหยู่ซวน หลี่ฝางรู้ดีที่สุด อย่างมากก็พอๆ กับตน ความสามารถแบบนี้ จะล้มหมาป่าตัวหนึ่งได้ยังไง?
ถ้าต้องเจอกับหมาป่าจริงๆ เกรงว่าจะกลายเป็นแค่ออเดิร์ฟของหมาป่า
แต่วันนี้ หลี่ฝางเชื่อแล้ว
“หมาป่าตัวนั้น เกือบเอาชีวิตฉันไปแล้ว”
ถังหยู่ซวนพูด: “ถ้าหากฉันประมาทไปนิดเดียว เกรงว่า ฉันคงถูกหมาป่าตัวนั้นกินไปแล้ว”
“หมาป่าภูเขาแรงเยอะมาก แรงเยอะกว่าฉันมากๆ ”
“อาจารย์ เป็นคนไร้ความรู้สึก ช่างเถอะ ฉันไม่ควรโทษเขา บางทีที่เขากลายเป็นคนเก่งกาจแบบนี้ได้ ก็อาจจะเคยเจอการฝึกฝนเสี่ยงตายแบบนี้มาแล้วเหมือนกัน”
หลี่ฝางฟังออก ถังหยู่ซวนกำลังบ่นว่าโหจื่อไร้หัวใจ ถึงยังไงหมาป่าตัวนั้น ก็เป็นโหจื่อที่เตรียมไว้
แต่หมาป่าตัวนั้น เกือบจะเอาชีวิตถังหยู่ซวนไปแล้ว
พูดไปพูดมา หลี่ฝางกับถังหยู่ซวนก็มาถึงชั้นบนสุดของตึก ขณะที่ออกมาจากลิฟต์ หลี่ฝางกับถังหยู่ซวน ก็เจอกับชายสวมสูทสองคน
ถังหยู่ซวนไม่พูดมาก ควักมีดพกออกมา แล้วพุ่งเข้าใส่ สองคนตรงหน้า
ส่วนหลี่ฝาง ในตอนนั้นยังไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย…..