NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 639 ส่งตัวฉินหยีหรันมา
เมื่อออกมาจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป สายของลุงเฉียน ก็ต่อติดแล้ว
“เสี่ยวฝาง เจอปัญหาอะไรเหรอ?” เมื่อสายติด ลุงเฉียนก็ถามขึ้น
“ลุงเฉียน ลุงพูดแบบนี้ ถ้าผมไม่มีปัญหา ผมจะโทรมาทักทายไม่ได้เลยเหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ
“พอเถอะ ไอ้เด็กนี่ มีอะไรรีบพูดมา อย่าลีลา คนอย่างลุง ไม่ชอบฟังเรื่องไร้สาระ” ลุงเฉียนพูดพลางขำ
หลี่ฝางตรงเข้าประเด็น: “ลุงเฉียน ลุงรู้เรื่อง การมีอยู่ของชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนานมั้ย?”
“ทำไมจู่ๆ มาถามถึงเรื่องนี้?”
น้ำเสียงของลุงเฉียน เข้มขึ้นอย่างมาก: “ที่นั่น มีมาหลายปีแล้ว”
“ลุงเฉียนรู้แล้ว งั้นก็พูดง่ายหน่อย” หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “มีผู้หญิงคนนึง ถูกส่งตัวเข้าไปด้านใน ผมอยากจะไปช่วยออกมา”
ฝั่งลุงเฉียนก็เงียบไปสักพัก ถึงถามขึ้น: “จะต้องช่วยให้ได้ใช้มั้ย? เสี่ยวฝาง”
ประโยคเดียว ก็แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการช่วย
ต่อมา หลี่ฝางก็เกือบจะยอมแพ้
แต่พอคิด ฉินหยีหรันนอกจากจะเป็นลูกสาวคนรองของฉินซ่างเสียน ก็ยังเป็นพี่สาวของฉินวี่เฟยนะ
ฉินซ่างเสียนจะไม่สนใจได้ แต่ฉินวี่เฟย ไม่ได้นะ
หลี่ฝางพูด: “ผู้หญิงคนนั้นสำคัญสำหรับผมมาก ลุงเฉียน เปอร์เซ็นต์ที่จะช่วยได้สำเร็จ มากขนาดไหน? มันจะสร้างผลกระทบอะไร ให้กับตระกูลหลี่ของพวกเรามั้ย”
“เหอะๆ พูดแบบนี้แล้วกัน เมื่อสามปีก่อนที่พวกเราถูกไล่ฆ่า นอกจากสี่ตระกูลใหญ่นั่น เจ้าพวกนั้น ก็อยู่มีส่วนเกี่ยวอยู่เบื้องหลังไม่น้อย” ลุงเฉียนพูดเสียงเย็นชา
หลี่ฝางรู้ว่า เจ้าพวกนั้นที่ลุงเฉียนพูดถึง ต้องเป็นลูกค้าที่ชั้นใต้ดินสโมสรเจียงหนานแน่ๆ
เสียงของหลี่ฝางเข้มลงทันทีเย่อหยิ่ง “ลุงเฉียน ความหมายของลุงคือ ถ้าหากตระกูลหลี่จะช่วยคน เกรงว่าจะทำให้เรื่องเมื่อสามปีก่อน ซ้ำรอยเดิมใช่มั้ย?”
ลุงเฉียนส่ายหน้า แล้วพูด: “ไม่ พวกเราในตอนนี้ ไม่ใช่พวกเราในตอนนั้นแล้ว นอกจากพวกเราอยากไป ไม่อย่างนั้น ก็ไม่มีใครไล่เราได้”
เสียงของลุงเฉียน เต็มไปด้วยความผยอง มันทำให้ในใจของหลี่ฝาง มีกำลังใจขึ้นมาไม่น้อย
“ที่จริงแล้ว ในแผนการที่พวกเรากลับมา มีแผนนึง นั่นก็คือเข้าไปที่นั่น แล้วทำลายล้าง แต่แค่ ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น”
“หน้าที่ของลูกพี่ใหญ่กับส้าวส้วยครั้งนี้ ที่จริงแล้ว ก็คือต้องการทำลายล้างที่นั่น แล้วปูทาง ขอแค่ให้มีสิทธิ์ฆ่าคนได้ ไอ้เจ้าพวกนั้น ก็จัดการง่ายนิดเดียว”
หลังจากลุงเฉียนพูดจบ ก็ถามหลี่ฝาง: “ผู้หญิงคนนั้น ชื่ออะไร?”
“พี่ของฉินวี่เฟย ฉินหยีหรัน” หลี่ฝางไม่ได้ปิดบัง
“เมื่อกี้มู่หรงฉางเฟิงโทรมา บอกว่าจะส่งตัวฉินหยีหรันไปที่ชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน เป็นการทำโทษฉินซ่างเสียน”
หลี่ฝางพูด: “ให้พูด ฉินซ่างเสียนทำงานให้เรา ดังนั้นถึงได้เจอเรื่องแบบนี้ ผมคิดว่า พวกเราควรจะรับผิดชอบต่อเรื่องนี้”
“ไอ้เด็กอ่อนนี่ พูดเหตุผลที่ดูดีให้มันน้อยๆ หน่อย ฉันคิดว่าถ้านายไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย หลังจากนี้ก็คงไม่มีหน้าไปเจอกับคุณหนูตระกูลฉินที่นอนอยู่ในโรงพยาบาล ฉินวี่เฟยแล้วตั้งหาก?”
ลุงเฉียนหัวเราะ แล้วพูด: “เอาล่ะ เรื่องนี้ ฉันจะจัดการเอง”
“หวังว่า ฉินหยีหรันกำลังอยู่ระหว่างการส่งตัว”
ลุงเฉียนพูด จู่ๆ น้ำเสียงก็เข้มขึ้นระดับนึง: “ถ้าหากถูกส่งตัวเข้าไปแล้ว แบบนั้น การจะช่วยออกมาให้ได้ ก็ลำบากแล้ว”
“ชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน ไม่ได้มีแค่ชั้นเดียว และในแต่ละชั้น ก็มีบอดี้การ์ดฝีมือดีคอยคุ้มกัน”
หลังจากลุงเฉียนพูดจบ ก็กดวางสายไป
หลี่ฝางหันไปถามฉินเสี่ยวหู่: “มู่หรงฉางเฟิงนัดนาย ที่ห้องเบอร์อะไร?”
“888” ฉินเสี่ยวหู่พูด
หลี่ฝางขมวดคิ้ว: “นายสามารถขวางมู่หรงฉางเฟิง ให้ส่งตัวฉินหยีหรัน ช้าลงหน่อยได้มั้ย?”
ฉินเสี่ยวหู่ส่ายหน้า แล้วพูด: “เป็นไปไม่ได้ ข้อแรก ผมไม่มีความสามารถนั้น ข้อสอง คุณชายมู่หรงกังวลว่าพี่รองผมจะหนีหรือว่าฆ่าตัวตาย ดังนั้นจึงสามารถพาตัวเธอไปได้ทุกเวลา”
“ไม่ว่าเวลาไหน พี่รองของผม ก็ถูกคุณชายมู่หรงใส่ไว้ที่ท้ายกระโปรงรถ ทั้งตัวถูกมัดไว้ ราวกับถูกลักพาตัว”
“ดังนั้น พวกคุณอยากจะขวาง ไม่มีทางเลย เกรงว่าตอนนี้ พี่รองของผมจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนานแล้ว”
“แน่นอนว่า ลูกค้าชั้นได้ดิน เลือกมาก ปกติแล้ว ผู้หญิงที่ถูกส่งเข้าไป ก็จะต้องผ่านระบบ นั่นก็คือการทำความสะอาด ก็คือการอาบน้ำอะไรพวกนั้น จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาด และจะมีหมอเฉพาะทางมา ทำการตรวจร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้มีโรคแพร่ การขัดกรองระบบนี้ เกรงว่าจะต้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง”
“อยากจะช่วยพี่รอง ทางที่ดีที่สุดพวกคุณจะต้องทำให้เสร็จภายในเวลานี้ ถ้าไม่อย่างนั้น พวกคุณก็เลิกคิดได้เลย ถึงแม้พวกคุณจะจะเป็นตระกูลหลี่ ก็ไม่ควรจะไปหาเรื่องแขกด้านในนั้น”
“แขกในนั้น ถึงแม้จะเป็นตระกูลซือถู ก็ยังต้องยกย่องเป็นแขกผู้มีเกียรติ”
“ผมได้ยินมา ถึงแม้ที่นี่จะเป็นที่ของตระกูลซือถู แต่ที่จริงแล้ว เป็นสี่ตระกูลทำธุรกิจร่วมกัน” ฉินเสี่ยวหู่พูด
หลี่ฝางมองถังหยู่ซวน พลางพูด: “เร่งความเร็วหน่อย”
ที่จริงหลี่ฝางอยากจะโทรหาโหจื่อ หลังจากนั้นก็คิดดู แม้แต่ลุงเฉียนยังรู้แล้ว ถ้างั้นลุงเฉียนคงจะจัดการเองทั้งหมดมั้ง
ถ้าหากลุงเฉียนอยากจะช่วยจริงๆ งั้นเขาต้องส่งโหจื่อมา
ส่วนถ้าหากลุงเฉียนไม่อยากช่วย งั้นก็หมายความว่าเรื่องนี้มันหนักหนา ถ้าหลี่ฝางยังดึงดัน อาจจะนำปัญหามาสู่ตระกูลหลี่
ฉินหยีหรันไม่ใช่ฉินวี่เฟยสักหน่อย อย่างน้อยหลี่ฝางก็ไม่ให้ตระกูลหลี่ ต้องมาเจออันตรายเพราะเธอหรอก
ดังนั้น หลี่ฝางแค่พยายามทำเท่าที่ทำได้ก็พอ
หลังจากนั้นสิบนาที รถก็ขับมาถึงหน้าสโมสรเจียงหนาน
ที่หน้าประตูสโมสรเจียงหนาน มีเย่อหยิ่ง.สองคนยืนอยู่ รปภ.เห็นฉินเสี่ยวหู่ ก็ทักทายคุณฉิน จากนั้นก็ปล่อยให้เข้าไปอย่างง่ายดาย
เห็นแบบนี้ หลี่ฝางก็หัวเราะเหอะๆ อย่างไม่รู้ตัว: “เห็นที่ หน้าตาของนายจะมีค่ากว่าของฉันอีกนะ”
“เมื่อกี้ที่หน้าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ก็ถูกรปภ.โยนโทรศัพท์ทิ้ง ตอนนี้มาถึงสโมสรเจียงหนาน ก็ใช้หน้านายเป็นบัตรผ่าน ถึงจะเข้าไปได้” หลี่ฝางพูดประชด
ฉินเสี่ยวหู่เหงื่อตกแล้วพูด: “เป็นคุณชายหลี่ที่ถ่อมตัวไปแล้ว ถ้าหากคุณชายหลี่ถือตัวหน่อย ทั้งเมือกเอกนี้ ใครจะกล้าเมินคุณกัน”
ฉินเสี่ยวหู่พูดจบ โทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น เป็นมู่หรงฉางเฟิงที่โทรมา
หลังจากฉินเสี่ยวหู่กดรับสาย ก็ได้ยินเสียงบ่นเย็นชาดังผ่านสายมา
“ไอ้ไร้ประโยชน์ นายพาหลี่ฝางมาทำไมห้ะ” หลังจากมู่หรงฉางเฟิงด่า สีหน้าของฉินเสี่ยวหู่ ก็ซีดเผือดทันที
“ช่างเถอะ พามาก็ดี ฉันอยากจะคุยกับมันอยู่พอดี” มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะฮี่ๆ
สีหน้าของมู่หรงฉางเฟิง ดูชั่วร้ายมากจริงๆ
“ฉินเสี่ยวหู่ นายยังจำได้มั้ยฉันพูดอะไรกับนายในโทรศัพท์? หลังจากที่เข้ามาในสโมสรเจียงหนาน ให้คลานเข้ามาหาฉัน”
“ถ้าหากนายไม่ทำตามนั้น งั้นอีกแป๊บ ฉันจะหักขานายทิ้งทั้งสองข้าง แล้วเอาไปโยนทะเลให้ปลากิน”
มู่หรงฉางเฟิงพูดอย่างเย็นชา: “ถ้าไม่ใช่เพราะว่านายยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ฉันคงฆ่านายไม่นานแล้ว รู้มั้ย?”
ฉินเสี่ยวหู่ตกใจจนขาสั่น แล้วลงไปคุกเข่าที่พื้นทันที
ถึงยังไงที่สโมสรเจียงหนาน กลางวันก็คนไม่ค่อยเยอะ นอกจากพวกพนักงานแล้ว ห้องโถงยาวเป็นพันเมตรนี้ ก็ไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว
ดังนั้น ฉินเสี่ยวหู่ก็ขี้เกียจถือหน้าตาแล้ว
“นายจะคลานไปเจอเขาจริงๆ เหรอ?” หลี่ฝางมองฉินเสี่ยวหู่ แล้วส่ายหน้าอย่างไม่รู้ตัว
เห็นที หนึ่งชีวิตตรงหน้านี้ เรื่องศักดิ์ศรี คงไม่มีค่าพอให้พูดถึงจริงๆ
แม้จะเย่อหยิ่งทะนงตน แต่ฉินเสี่ยวหู่ ก็ยังคงอยู่ยงคงกระพัน
ฉินเสี่ยวหู่พยักหน้า แล้วพูด: “ก็ยังดีกว่าตาย ผมทำความผิด ก็ควรจะได้รับการลงโทษ บทลงโทษนี้ ถือได้ว่าดีแล้ว ก็แค่ขายหน้าเท่านั้น ถ้าหากว่าลงโทษอย่างอื่น เห้อ เกรงว่าร่างกายของผม เนื้อจะหลุดไปอีกกี่ชิ้น”
ฉินเสี่ยวหู่ยังราวกับพอใจสุดๆ หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “งั้นฉันนำไปก่อนนะ”
ฉินเสี่ยวหู่ไม่ได้พูดอะไร เวลาของหลี่ นั้นเร่งรีบกว่า
เพราะว่าหลี่ฝางเชื่อว่า ถ้าหากตนสามารถพูดให้มู่หรงฉางเฟิงยอมได้ บางทีฝั่งลุงเฉียนอาจจะไม่ต้องลงมือ ฉินหยีหรันนั่น ก็ช่วยได้แล้ว
หลี่ฝางขึ้นไปข้างบน และก็เจอใบหน้าที่คุ้นเคย
“คุณชายหลี่ เชิญทางนี้ คุณชายของพวกเรากับคุณชายมู่หรง รอคุณอยู่ที่ห้องส่วนตัวแล้ว”
คนที่มาต้อนรับ ก็คือคนที่เมื่อก่อนคอยติดตามเป็นเงาของซือถูเฟย
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วถามถังหยู่ซวน: “คนนี้เป็นไง? ฝีมือดีมั้ย?”
“มองไม่ออก”
ถังหยู่ซวนพูด: “มองดูแล้วเป็นคนธรรมดา แต่ก็ยังต้องระวังไว้”
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วตามคนๆ นั้น มายังหน้าประตูห้องส่วนตัว
เมื่อเปิดประตู ด้านในห้องก็เต็มไปด้วยผู้หญิง และผู้ชายสองคน หนึ่งคือซือถูเฟย อีกคนคือมู่หรงฉางเฟิง
หลังจากหลี่ฝางเข้าไป ก็บอกซือถูเฟย: “คิดไม่ถึงคุณชายซือถู ก็เป็นคนหื่นกามด้วย”
“ผู้ชายไง มีใครไม่ชอบบ้าง?” ซือถูเฟยเม้มปาก
“คุณชายหลี่ชอบมั้ย? ถ้าชอบ ก็เลือกไปสักสองคน อีกครู่ก็พากลับไปได้ อยากคืนกลับมาก็คืน ไม่อยากคืน พวกหล่อนก็จะอยู่กับคุณไปทั้งชีวิต”
“ผู้หญิงพวกนี้ ถูกผมซื้อชีวิตมาหมดแล้ว” ซือถูเฟยหงายมือพูด
หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “ฉันไม่สนใจผู้หญิงง่ายๆ แบบนี้หรอก ที่ฉันมา ก็เพื่อจะมาหาผู้หญิงอีกคน”
หลี่ฝางพูด พลางมองไปที่มู่หรงฉางเฟิง
มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะหึ: “หลี่ฝาง นายกล้าดีนี่ พาคนมาแค่คนเดียว ก็กล้ามาเจอพวกเรา? ไม่กลัวพวกเราขังนายไว้ที่นี่ ไม่ให้ออกไปหรือไง?”
มู่หรงฉางเฟิงมองถังหยู่ซวน แล้วหัวเราะอย่างดูถูก: “ไอ้เด็กนี่ก็ไม่ใช่ส้าวส้วย ไม่มีเรี่ยวแรงปกป้องนายได้”
“ใช่แล้ว เขาไม่ได้เก่งเท่าส้าวส้วย แต่ว่า ขังฉันไว้ ไม่ให้ออกไป? พวกนายมีความกล้าขนาดนั้นเหรอ?”
หลี่ฝางหัวเราะอย่างดูถูก: “บางทีเมื่อก่อนพวกนายกล้า แต่ตอนนี้……”
“ซือถูเฟย มู่หรงฉางเฟิงฉันอยากจะอยู่ที่นี่ นายยินดีมั้ย?” หลี่ฝางถามซือถูเฟย
ซือถูเฟยทำหน้าเข้มอยู่ครู่: “ตอนนี้ใครไม่รู้บ้างว่าตระกูลหลี่ร้ายกาจ ไม่กี่นาทีก่อน ก็สามารถกวาดล้างกองทัพตระกูลมู่ได้ ทำให้มู่เสี่ยวไป๋ตกใจหนีป่าราบไปเลย”
“แล้วก็ ตอนที่พ่อนายไปก็พูดไว้ว่า ถ้านายผมร่วงแม้เส้นเดียวในพื้นที่ของใคร ถ้างั้น เขาก็จะให้ตระกูลคนนั้นถูกฝังไปพร้อมกัน ถ้าหากคุณชายหลี่ยินดี ก็สามารถอยู่เล่นที่นี่ได้หลายๆ วันเลย แต่ว่าถ้าหากเป็นการบังคับ งั้นผมไม่กล้า ผมยอมรับว่ากลัว”
ซือถูเฟยยิ้มแห้งๆ พลางพูด: “มู่หรงฉางเฟิง ถ้าหากนายจะลงมือ งั้นเชิญออกจากสโมสรเจียงหนานก่อน ค่อยลงมือนะ”
“ทำไม ถ้าฉันลงมือตอนนี้ นายยังจะปกป้องไอ้หมอนี่?” มู่หรงฉางเฟิงพูดน้ำเสียงเย็นชา
“ฉันไม่อยากปกป้องเขา แต่แค่ ฉันไม่อยากลากตระกูลซือถูมาเกี่ยวด้วย หลอซ่ากลับมาครั้งนี้ เหมือนกันเปลี่ยนไปเป็นคนละคน พวกเขา ยากแท้หยั่งถึง ตระกูลจูเก่อก็แย่ไปแล้ว ฉันไม่อยากให้ตระกูลซือถู เดินซ้ำรอยตระกูลจูเก่อ”
ซือถูเฟยพูด
มู่หรงฉางเฟิงพูด: “เหอะๆ ซือถูเฟย ฟังนายพูดแบบนี้ นายอยากจะเป็นเพื่อนกับหลี่ฝางงั้นสิ?”
“ถ้าหากคุณชายหลี่ยินดี ผมซือถูเฟยยินดีที่จะละทิ้งอคติก่อนหน้านี้” ซือถูเฟยพูด
หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วพูด: “เอาล่ะ พวกนายสองคนไม่ต้องแสดงแล้ว ฉันรู้ว่าพวกนายสี่ตระกูลใหญ่ปรองดองกันเป็นหนึ่ง ร่วมกันต้านคนอื่น”
“พวกนายสองคนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น” หลี่ฝางมองบน แล้วพูด: “อย่าคิดว่าฉันโง่”
“จุดประสงค์ที่ฉันมา มีแค่อย่างเดียว”
หลี่ฝางมองมู่หรงฉางเฟิง แล้วพูด: “ส่งตัวฉินหยีหรันมาให้ฉัน”