NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 668 ไอ้สารเลวโหจื่อ
บนรถวิบาก หนุ่มหน้ามนกระโดดลงมาจากรถ
มองไปอายุน่าจะประมาณยี่สิบห้ายี่สิบหก ใบหน้าหล่อเหล่า และก็แข็งแกร่ง
ปากของเขาเคี้ยวหมากอยู่ เมื่อลงมาจากรถ กวาดสายตามองไปที่ทางเข้ารีสอร์ต จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรหาลุงเฉียน
“ขอโทษด้วย หมายเลขที่ท่านเรียกได้ปิดเครื่องลงแล้ว กรุณาโทรใหม่อีกครั้ง” ทันใดนั้น ชายหนุ่มคนนี้สีหน้าดิ่งลงทันที
“ปิดเครื่องเหรอ?”
ถูกต้อง เขาก็คือลู่เฟย ลูกชายของท่านลู่
เขาอายุยี่สิบห้า ตอนนี้ได้กลายเป็นตัวแทนของตระกูลลู่ไปแล้ว
เขาไม่เพียงดูแลธุรกิจทั้งเล็กทั้งใหญ่ของตระกูลลู่ และยังวิ่งเต้นช่วยจัดการทุกเรื่องของตระกูลลู่ หลายปีมานี้อุปสรรคทุกอย่างที่ตระกูลลู่เจอ ล้วนเป็นเขาทั้งนั้นที่กำจัดสิ้นซาก
ลู่เฟยเมื่ออยู่ในจังหวัด เป็นคนที่โดดเด่นและมีชื่อ
เรียกได้ว่าเป็นรุ่นหนุ่มสาว ที่หาได้ยากคนหนึ่งเลย
เขาคือความภูมิใจของตระกูลลู่
และครั้งนี้ท่านลู่ถูกลักพาตัว ลู่เฟยพาคนมาถึงตัวเมืองหลวงของจังหวัด
“เจ้ารองเฉียนเหรอ?”
หันไปมองโหจื่อและไอ้หน้าหนวด ลูเฟยยักคิ้วขึ้นแล้วถามออกมาว่า: “หมายความว่ายังไง
คือฉันไม่มีคุณสมบัติพอเหรอ หรือว่าไอ้แก่คนนี้ไม่กล้ามาเจอฉัน?”
“ฉันมาถึงแล้ว ทำไมไม่มาต้อนรับฉันที่หน้าประตู?” ลู่เฟยขมวดคิ้วเข้าหากัน ถามออกมาด้วยความโกรธเล็กน้อย
โหจื่อก้าวเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว แล้วพูดขึ้นว่า: “ลุงเฉียนเมื่อคืนหลับไม่ค่อยดี กลับไปนอนพักผ่อนแล้ว เขาให้ฉันมาต้อนรับนายเอง”
“นายก็คือคนที่คุยโทรศัพท์เมื่อกี้เหรอ?”
เมื่อโหจื่อพูด ลู่เฟยก็จำเสียงนั้นได้ทันที
หลังจากนั้น โหจื่อหัวเราะเคอๆ ออกมา: “ใช่แล้ว คือฉันเอง”
ลู่เฟยเดินเข้าไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว และไปหยุดอยู่ตรงหน้าของโหจื่อ ใช้สายตาที่โหดเหี้ยมและอาฆาตจ้องมองไปที่โหจื่อ พูดเย็นชาออกมาว่า: “นายใช่ไหมที่จะตัดนิ้วมือพ่อของฉัน?”
“แม่งเอ๊ย ท่านลู่เป็นพ่อของนายเหรอ มองไม่ออกเลย ท่านลู่อายุเจ็ดแปดสิบปีละ แล้วยังมีลูกชายที่อายุเด็กอย่างนายอีกเหรอ?ถ้านายไม่พูด ฉันนึกว่านายเป็นหลานของเขาด้วยซ้ำไป ไม่ถูกสิ เป็นเหลน ห่าๆ ใช่แล้ว ขอถามนายเรื่องหนึ่งสิ แม่นายอายุเท่าไหร่แล้วเหรอ?”
“ดูท่าทางนายแล้ว น่าจะยี่สิบกว่าๆ แม่นายก็คงจะประมาณสี่สิบกว่าสิ?เคอๆ พูดอีกอย่างก็คือ แม่นายตอนอายุยี่สิบกว่า แต่งงานกับพ่อนายที่อายุหกสิบกว่าสิ เห้อ รักแท้อยู่เหนือทุกสิ่งอย่างจริงๆ ทำให้สาวแย้มแรกบาน ตกหลุมรักไอ้เฒ่าได้……”
โหจื่อหัวเราะห่าๆ ออกมา หลังจากหัวเราะไปสักพัก พูดขึ้นว่า: “เพื่อเงิน”
โหจื่อไม่ได้พูดผิด ผู้หญิงที่อายุยี่สิบกว่า แต่งงานกับไอ้เฒ่าที่มีอายุหกสิบกว่า ไม่ใช่เพื่อเงิน แล้วเพื่ออะไร?
แต่ว่า ถ้าพูดความจริงนี้ออกมา ก็เหมือนเป็นการด่าแม่ของลู่เฟย ว่าเป็นผู้หญิงหน้าเงิน?
ไม่ว่าแม่ของตัวเองจะเป็นผู้หญิงหน้าเงินหรือไม่ แต่ลู่เฟยที่เป็นลูกชาย เมื่อได้ยินการพูดประชดแบบนี้ ต้องโกรธมากแน่นอน
สีหน้าของลู่เฟย เปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมขึ้นมาทันที เขายกมือขึ้น แล้วดึงคอเสื้อของโหจื่อ ในขณะที่เตรียมเหยียดมือออกมาเพื่อทำร้ายเขานั้น มีปืนพกทองคำ จี้เข้าไปตรงท้องของลู่เฟย
“ทำไม จะลงมือเหรอ?ชั่งน้ำหนักตัวเองดูหรือยังว่าทำได้ไหม?”
โหจื่อหันไปมองลู่เฟย หัวเราะเคอๆ ออกมา: “ฉันมันคนมีปืนนะ”
“ฉันไม่เชื่อว่านายกล้ายิงหรอก” ลู่เฟยหันไปมองปืนในมือของโหจื่อ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นส่ายหัวแล้วยิ้มออกมา
โหจื่อหัวเราะเคอๆ ออกมา แล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันตรงข้ามกับนาย”
พูดจบ โหจื่อเหนี่ยวไก่ปืนลงทันที
แต่ตอนที่โหจื่อเหนี่ยวไก่ปืนนั้น ได้ขยับแขนเล็กน้อย กระสุนจากล่างไปบน ยิงออกมา
และพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ กระสุนนัดนั้น ยิงผ่านใบหน้าระหว่างลู่เฟยและโหจื่อ เฉียดผ่านไป
เวลานี้ สีหน้าของลู่เฟย เริ่มเปลี่ยนไป
“เคอๆ ถูกต้อง นายพูดถูก ฉันไม่กล้ายิงนายให้ตายหรอก นายเป็นใคร นายคือลูกชายของท่านลู่ เป็นคุณชายของตระกูลลู่ เป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดา และคนธรรมดาอย่างฉัน จะกล้ายิงนายได้ยังไง?” โหจื่อพูดประชดตัวเองออกมา
“เคอๆ ดูนายตกใจ หน้าเป็นอะไรไปเหรอ?ทำไมออกเหงื่อแล้วหล่ะ?หรือว่าอากาศร้อนเกินไป?” โหจื่อมองไปที่ลู่เฟย ยิ้มแล้วถามออกมา
ใบหน้าของลู่เฟย มีเหงื่อไหลออกมาจริง
และเขาก็ตกใจจริง กระสุนเมื่อกี้ ยิงผ่านเส้นผมของเขาไป
และในขณะที่เส้นผมของเขาร่วงลงมานั้น ทำให้เขาตัวสั่นขึ้นมาทันที
ลู่เฟยเข้าใจชัดเจน ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ กล้ายิงปืนแน่นอน!
ก็เหมือนอย่างที่โหจื่อพูด คนหนึ่งเป็นคุณชาย อีกคนเป็นคนธรรมดา
โหจื่อมีอะไรที่ต้องกลัวด้วย?
แต่ลู่เฟยไม่ใช่คนธรรมดาเขาผ่านอะไรมาเยอะ ทำให้เขาปรับสภาพคืนสู่ปรกติได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นมองไปที่โหจื่อแล้วพูดขึ้นว่า: “พ่อของฉันอยู่ไหน?”
“พ่อของนายอยู่ไหนฉันจะไปรู้ได้ยังไง ไม่แน่อาจจะอยู่ในอ้อมกอดของผู้หญิงก็เป็นได้”
โหจื่อส่ายหัว แล้วพูดขึ้นว่า: “ใช่แล้ว ฉันขอถามนายหน่อย ฉันให้นายขอโทษเพื่อนฉัน
นายขอโทษแล้วหรือยัง?”
โหจื่อมองไปที่ลู่เฟยแล้วถามออกมา: “นายคงยังไม่ลืมหรอกนะ?”
“เพื่อนของนาย?” ลู่เฟยขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ก็คือพนักงานที่ทำงานในบาร์เหล้าไง ไม่โกหกนาย ฉันก็เป็นพนักงานเสิร์ฟที่นั่นเหมือนกัน แต่ฉันคนนี้ไม่ชอบทำงาน ไม่เข้าพวกเล็กน้อย ชอบขาดงาน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเพื่อนร่วมงานนั้นลึกซึ้ง ถ้ามีใครรังแกพวกเขา ฉันโหจื่อก็จะไม่พอใจ”
“ถ้านายไม่ขอโทษพวกเขา ฉันก็คงจะโกรธ และถ้าฉันโกรธ ก็จะตีไอเฒ่านั่น เพราะว่าคนหนุ่มยังไงฉันก็สู้ไม่ไหวอยู่แล้ว”
“ฉันจะบิดแขนของไอ้เฒ่านั่นให้หัก และหักขาของเขาให้งอ”
โหจื่อหันไปมองลู่เฟย หัวเราะเหะๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันสารเลวเล็กน้อยใช่ไหม”
ลู่เฟยมองไปที่โหจื่อ กัดฟันแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เขารู้อย่างชัดเจน ไอ้เฒ่าในปากของโหจื่อนั้น หมายถึงพ่อของเขา ท่านลู่นั่นเอง
ลู่เฟยส่ายหัว แล้วพูดขึ้นว่า: “ยังเลย”
“แต่ถ้านายปล่อยพ่อฉัน ฉันจะขอโทษพวกเขา”
ลู่เฟยถอยห่างออกไปหนึ่งก้าวแล้วพูดขึ้น
เดิมที ลู่เฟยไม่เคยคิดที่จะก้มหัวหรือจำนนอ่อนข้อให้ เขาต้องการใช้วิธีแข็งกร้าวเพื่อพาพ่อเขากลับไป
แต่ว่า ลู่เฟยไม่คาดคิดมาก่อนว่าต้องเจอกับผู้ชายที่จัดการยากคนนี้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจำนนอ่อนข้อให้
โหจื่อส่ายหน้า พูดขึ้นว่า: “พ่อของนายเหรอ?ท่านลู่เหรอ?ฉันบอกแล้ว ฉันไม่รู้ว่าท่านลู่อยู่ไหน แต่ว่า ตอนนี้ฉันต้องการให้นายขอโทษเพื่อนร่วมงานฉัน ถ้าหากนายทำได้ บางทีฉันอาจช่วยนายได้ ช่วยนายหาไอเฒ่าพ่อของนาย พ่อของนายอายุมากแล้ว เดินหลงทางเป็นเรื่องปกติ นายว่าใช่หรือไม่?”
“นายดูรีสอร์ตด้านหลังของฉันสิ ดีขนาดไหน เหมาะสำหรับให้ผู้สูงอายุพักอาศัย ฉันทายนะ ท่านลู่ต้องแอบเข้าไปในรีสอร์ตแน่เลย เพื่อพักผ่อน เดี๋ยวสักครู่ ฉันช่วยนายเข้าไปตามหา เพราะว่าฉันคุ้นเคยกับข้างในนี้มาก”
โหจื่อยิ้ม แล้วพูดออกมา
ลู่เฟยเหลือบไปมองโหจื่อ รู้สึกว่าโหจื่นคนนี้หน้าด้านมาก
“ตอนนี้นายรีบขอโทษเพื่อนร่วมงานฉันเถอะ”
โหจื่อหัวเราะเหะๆ จากนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรวิดีโอคอล: “นายใช้วิธีนี้ ขอโทษเพื่อนร่วมงานฉันก็แล้วกัน”
“จำไว้นะ ต้องจริงใจ เข้าใจไหม?”
หลังจากที่โหจื่อพูดจบ อีกฝั่งรับโทรศัพท์ขึ้นมาทันที แต่ว่า คนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม นั่งอยู่กับพื้น ใบหน้าเขียวช้ำบวมไปหมด
ทำให้ โหจื่อโกรธขึ้นมาทันที: “ต้าเผิง หน้านายไปโดนอะไรมา ใครไปจูบนายเหรอ”
“พี่โหจื่อ ถูกคนต่อยมา ไม่ใช่ถูกจูบ” ต้าเผิงพูดขึ้นมาอย่างหดหู่: “คนพวกนั้นตอนนี้อยู่ด้านนอก พี่รีบกลับมาเถอะ บาร์เหล้าถูกพวกเขาทำลายเสียหายหมดแล้ว”
“แม่งเอ๊ย พวกนายไม่รู้จักแจ้งความเหรอ” โหจื่อเหลือบสายตาไปมองต้าเผิง
“แจ้งแล้ว แต่ว่า ไม่มีประโยชน์อะไร” ต้าเพิงพูดขึ้นอย่างหดหู่: “พี่โหจื่อ คนที่อยู่ข้างพี่คนนั้น ดูเหมือนจะเป็นลูกพี่ของพวกเขา……”
“อืม ใช่แล้ว ฉันจะให้เขาขอโทษนาย นายเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง?”
โหจื่อพูดจบ หันไปมองลู่เฟย แล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันว่าน้องชาย นายลงมือหนักเกินไปหรือเปล่า?ดูสินายต่อยเพื่อนฉัน จนกลายเป็นหมีแพนด้าไปแล้ว เดิมทีหน้าตาของเขาก็ไม่หล่ออยู่แล้ว นายต่อยเขากลายเป็นแบบนี้ กลับบ้านไปเจอเมียของเขา เมียของเขาต้องขอเลิกแน่เลย นายก็รู้ สมัยนี้จะหาเมียไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาใกล้จะแต่งงานกันแล้ว ถ้าเลิกกันเพราะเรื่องนี้ เท่ากับนายทำลายความสุขทั้งชีวิตของเขาเลย เข้าใจไหม?”
“ต้าเพิง ความสุขทั้งชีวิตของนายราคาเท่าไหร่?นายลองชั่งน้ำหนักดู เดี๋ยวฉันให้เขาขอโทษนาย เสร็จแล้วจะเรียกร้องค่าเสียหายให้อีกที”
โหจื่อพูดจบ มองไปที่ลู่เฟย แล้วพูดขึ้นว่า: “รู้ว่าควรทำยังไงแล้วใช่ไหม?”