NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 680 เพื่อนเก่าแก่ของหลี่ฝาง
หลี่ฝางออกแรงส่ายหัวไปมา หลังจากที่สมองตัวเองตื่นตัวดีขึ้นบ้างแล้ว ก็รับโทรศัพท์ของเฉินฝูเซิง
“โทรมาบ่อยขนาดนี้ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” หลี่ฝางรับโทรศัพท์แล้วรีบถามขึ้น
“แมงป่องมาจากอำเภอหลินแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการเดินทาง แต่ว่ากำลังจะมาถึงแล้ว อย่างช้าก็ประมาณครึ่งชั่วโมง อย่างเร็วก็ 10นาทีก็มาถึงแล้ว เจ้านาย เจ้านายอยู่ไหนล่ะ? แมงป่องมาแล้ว สงสัยจะรั้งคนไว้ไม่อยู่แล้วล่ะ”
“พ่อฉันทางนั้นออกคำสั่งเด็ดขาด สั่งฉันห้ามไปยุ่งกับแมงป่องเด็ดขาด ยังบอกให้ฉันกลับบ้านไปด้วย ฟังที่พ่อฉันพูดแล้ว แมงป่องคนนี้ รับมือได้ยากลำบากมาก แม้กระทั่งพ่อฉัน ก็ยังต้องไว้หน้าเขาเลย”
“นอกจากพ่อฉันทางนั้นแล้ว ถนนสายอินเทอร์เน็ตคาร์เฟ่ ถนนสายไนต์คลับ ก็ปรากฏมีคนแปลกหน้าจำนวนไม่น้อยเลย พวกเขาก็ไม่ได้ใช้บริการอะไร ได้แต่เดินเล่นอยู่แถวนั้น พอสืบดูแล้ว ดูเหมือนจะเป็นคนทางอำเภอหลินทางนั้น”
“น่าจะเป็นคนของแมงป่อง”
เฉินฝูเซิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หลี่ฝางพยักหน้าแล้วพูดว่า “หารถมาหลายๆคัน ไปขวางรถของแมงป่องไว้ ถ่วงเวลาให้เขามาช้าลงกว่านี้”
หลี่ฝางนวดศีรษะตัวเองเบาๆ แล้วเงยหน้าพูดกับถังหยู่ซวนว่า “ขับเร็วหน่อยสิ”
ถังหยู่ซวนตอนนี้ไม่ได้สนใจไฟเขียวไฟแดงแล้ว ได้แต่เหยียบคันเร่ง ให้ได้ความเร็วสูงที่สุด ด้วยความเร็วขนาดนั้นทำให้หลี่ฝางสร่างเมาทันที
“ก็ไม่ต้องเร็วขนาดนั้นก็ได้” หลี่ฝางเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคน ก็เลยพูดกับถังหยู่ซวน แต่ว่าถังหยู่ซวนดูเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย ได้แต่เดินหน้าขับไปตามความเร็วเดิมต่อไป
ประมาณ 20 นาที หลี่ฝางก็มาถึงเขตคุ้มครองของเฉินฝูเซิง
เดินผ่านซอยเล็กๆ แล้วเข้าไปถึงตรงหน้าบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง
หรุ่ยเหวินเจ๋กอดหญิงสาวคนหนึ่งไว้ในอ้อมอก ปากก็คาบบุหรี่ไว้มวนหนึ่ง หลังก็พิงกำแพงอยู่ เมื่อเห็นหลี่ฝางแล้ว ก็รีบยืนตัวตรงขึ้น ทักทายด้วยความนอบน้อมว่า “สวัสดีครับเจ้านาย”
ส่วนหญิงสาวในอ้อมกอดเขานั้น รูปร่างเซ็กซี่ หน้าตาสะสวย แต่ว่า ค่อนข้างเย้ายวนไปหน่อย
หลี่ฝางมองเธอเพียงแวบเดียว ก็ละสายตาไปที่อื่น
ส่วนเธอนั้นกลับมองสำรวจหลี่ฝางอย่างถี่ถ้วน พูดด้วยท่าทางที่แตกตื่น “หลี่ฝางเหรอ?”
“คุณคือ?” หลี่ฝางหันหน้ากลับไปมองอีกครั้ง มองดูหญิงสาวคนนี้ แล้วหัวเราะขึ้นมาว่า “คุณรู้จักฉันด้วยเหรอ?”
“พูดเหลวไหล จะไม่รู้จักได้ยังไงล่ะ เราสองคนยังนั่งเรียนโต๊ะเดียวกันเลย ไอ้เวรเอ๊ย อะไรกันเนี่ย ทำไมกลายเป็นเจ้านายแล้วล่ะ ฉันจำได้ว่าบ้านแกอยากจนมากไม่ใช่เหรอ”
“ถงถง?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองดูหญิงสาวคนนี้ นึกอยู่นานก็นึกไม่ออกว่าเธอเป็นใครกันแน่
“เราสองคนเรียนประถม1 ถึงประถม3 นั่งเรียนโต๊ะเดียวกันมาตลอดเลย แกยังจำได้ไหม ตอนเด็กๆเรายังนอนห่มผ้าผืนเดียวกันด้วย” ถงถงหัวเราะ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว สีหน้าลู่หลุ่ยก็บูดบึ้งทันที เธอใช้มือหยิกเอวของหลี่ฝางแล้วพูดว่า “เออดีนะ เจ้าชู้ตั้งแต่เด็กเลย”
หลี่ฝางทำตาเหลือกใส่ถงถง แล้วพูดว่า “ฉันไม่เคยรู้จักกับคุณเลยนะ คุณจำคนผิดหรือเปล่า?”
“ไอ้เวรตะไล หลี่ฝาง แกนี้ร่ำรวยแล้วใช่ไหม? เชื่อไหมว่าฉันจะแฉเรื่องที่แกฉี่รดที่นอนตอนเด็กๆเอามั๊ยล่ะ? ยังมีอีกนะ เมื่อตอนเด็กๆแกชอบเซี่ยลู่ไม่ใช่เหรอ? แกยังเขียนจดหมายรักถึงเซี่ยลู่เลยตอนนั้นแกเกี่ยงว่าลายมือตัวเองเขียนไม่สวย ยังให้ฉันช่วยเขียนให้อีกด้วย แต่ว่าจดหมายรักนั้นตอนหลังถูกไอ้อ้วนนักเลงในโรงเรียนแย่งไป แล้วเอาของแกไปอ่านต่อหน้าทุกคน………”
“ตอนนั้นไอ้อ้วนนั้นก็ชอบเซี่ยลู่เหมือนกัน เพราะอย่างนี้เอง ฉันก็เลยถูกไอ้อ้วนกระทืบพร้อมกับแกด้วย”
สมองของหลี่ฝาง รู้สึกขาดออกซีเจนขึ้นมาทันที
คนที่ถงถงพูดถึงพวกนั้น ถ้าเป็นคนอื่นก็จะไม่มีใครรู้เรื่องเลย ส่วนหลี่ฝางก็ค่อยๆรำลึกขึ้นมาว่า ตอนนั้นตัวเองก็มีเพื่อนร่วมเรียนโต๊ะเดียวกันจริงอยู่ ก็ชื่อว่าถงถงเหมือนกัน แต่ว่าเขาเป็นเด็กผู้ชายนะ
“เพื่อนที่นั่งเรียนโต๊ะเดียวกันตั้งแต่อยู่ประถม1ถึงประถม3 ถงถง? ถงที่แปลว่าเด็กใช่มั๊ย?” หลี่ฝางมองหน้าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ถงถงหัวเราะ “ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ชื่อถงถงเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ใช่ถงที่แปลว่าเด็กแล้ว”
“แม้งเอ๊ย แกไม่ใช่ผู้ชายเหรอวะ? แล้วทำไมตอนนี้……”
หลี่ฝางไม่ทันจะพูดจบ ถงถงก็รีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่นานแล้ว หกปีที่แล้วก็ไม่ใช่แล้ว แกยังไม่รู้อีกเหรอ พูดขึ้นมาแล้ว ฉันก็คิดถึงแกมากเลยนะ ตอนนั้นกลับมาที่ตงไห่ ฉันก็ตามหาแกแต่ว่าก็ไม่มีข่าวคราวของแกเลย……..”
“นึกไม่ถึงเลยว่าบังเอิญอย่างนี้ ได้มาพบกับแกที่นี่…..” สายตาที่ถงถงมองหลี่ฝางนั้น แสดงความรู้สึกกรุ้มกริ่มอย่างชัดเจน
หลี่ฝางรู้สึกสะดุ้งขึ้นมาทันที มองดูถงถงแล้วพูดว่า “ฉันจะเป็นลม นับถือแกจริงๆเลย”
หรุ่ยเหวินเจ๋ที่กอดถงถงอยู่ ก็ผลักถงถงออกไปทันที มองดูถงถงด้วยสายตาที่รังเกียจแล้วพูดว่า “โคตรแม้ง แม้งแกเป็นผู้ชายหรือวะ?”
“ไอ้เวรตะไล ถุยๆๆ!”
หรุ่ยเหวินเจ๋ก็รีบเช็ดปากตัวเอง จากนั้นก็ยกขาขึ้น ถีบไปยังถงถงจนตกลงไปกับพื้น
“แม้ง แกแม้งเป็นผู้ชาย แล้วแกมายั่วฉันทำไม? แกป่วยหรือเปล่าเนี่ย!” หรุ่ยเหวินเจ๋รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกินขี้แมลงวันเข้าไป ท้องไส้ปั่นป่วนอย่างรุนแรง
อย่างน้อย ตอนที่หลี่ฝางยังมาไม่ถึงนั้น หรุ่ยเหวินเจ๋ก็ได้จูบไปทั้งครึ่งค่อนวันแล้ว
ยังโชคดีที่รู้ตัวเสียก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าพาถงถงกลับไปบ้าน แล้วมีอะไรกัน นั้นมันก็คง….
หรุ่ยเหวินเจ๋ไม่กล้าที่คิดต่อไป ความจริงเช่นนี้ เขาก็ยากที่จะทำใจยอมรับได้
หรุ่ยเหวินเจ๋ยิ่งคิดยิ่งโมโห เข้าไปทั้งต่อยทั้งเตะถงถง หลี่ฝางก็รีบลากหรุ่ยเหวินเจ๋ไว้ “ทำอะไรเนี่ย นี่มันเพื่อนฉันนะ!”
“เพื่อนซี้ตอนเด็กๆ”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว “แกขืนทำร้ายเธออีกที เชื่อไหมว่าฉันจะสับมือแกทิ้งเลย!”
ตอนสมัยเด็กนั้น ถงถงคนนี้ เคยปกป้องหลี่ฝางมาโดยตลอด
กว่าจะได้พบหน้ากันก็แสนยากลำบาก ไม่ว่าถงถงจะเปลี่ยนเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม หลี่ฝางก็ไม่อยากเห็นเธอถูกรังแก
หลี่ฝางดึงตัวถงถงขึ้นมา ใบหน้าของถงถงก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเครื่องสำอาง หันหน้ากลับไปด่าหรุ่ยเหวินเจ๋ว่าผู้ชายเฮงซวย แต่ก็ไม่ได้ถือสาหาความอะไร
“หลี่ฝาง แกเป็นเจ้านายของเขาจริงเหรอ?” ถงถงถามอย่างไม่ค่อยเชื่อใจ
ตอนที่ถงถงจากไปนั้น หลี่ฝางยังเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งอยู่เลย แล้วคนธรรมดาคนนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่อายุเพียงแค่20กว่าก็เป็นลูกพี่ใหญ่แล้ว?
มันก็แน่นอนที่ถงถงย่อมต้องสงสัยเป็นธรรมดา
หลี่ฝางหัวเราะแล้วพูดว่า “ใช่สิ แล้วแกตอนนี้ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ ยังแปลงเพศอีกด้วยเหรอ?”
“ชีวิตความเป็นอยู่มันบีบคั้น ชีวิตความเป็นอยู่มันบีบคั้น อย่าไปพูดถึงมันเลย” ถงถงเม้มปากแล้วพูดว่า “แกก็รู้ไม่ใช่เหรอ ตอนเด็ก ฉันก็ท่าทางตุ้งติ้งอยู่แล้ว ตอนนั้นที่ฉันยอมเล่นเป็นเพื่อนแก ก็เพราะว่าฉันชอบแกไง……”
“แกอยากได้มีความคิดอย่างนี้เชียวนะ มันอันตรายมาก รู้ไหม? อย่าว่าแต่ฉันมีแฟนสาวเลย ต่อให้ไม่มี แกก็รีบหยุดคิดเลย ไม่อย่างนั้นละก็ หรุ่ยเหวินเจ๋ไม่อัดแก ฉันก็จะตีแกให้ตายเลย รู้หรือเปล่า?” หลี่ฝางพูดพลางทำตาถลนใส่
“พวกแกผู้ชายแต่ละคน ไม่มีจิตใจเมตตาเอาเลย”
ระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เฉินฝูเซิงก็เดินออกมาจากบ้าน เขามองหลี่ฝางแล้วพูดว่า “เจ้านาย รีบเข้าไปเถอะ แมงป่องอีก 10 นาทีก็จะถึงแล้ว”
“เร็วอย่างนี้เหรอ?” ฉันก็ให้แกหาคนไปขวางเขาไว้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
หลี่ฝางขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
“ไม่สำเร็จ ฉันส่งคนไปหลายคน ตอนนี้ก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าคนที่ลงมือทำร้ายไม่ใช่แมงป่อง แต่เป็นลูกน้องของแมงป่องอีกที ถึงแม้รถของแมงป่องจะถูกชน แต่ก็หารถใหม่มาเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว”
เฉินฝูเซิงพูดกับหลี่ฝาง
“ดูเหมือนว่า หวางซีกางไอ้หมอนี่ มีความสำคัญต่อแมงป่องมากเลยนะ” เฉินฝูเซิงพูด
หลี่ฝางพยักหน้าแล้วพูดว่า “หวางซีกางเคยช่วยชีวิตแมงป่องเอาไว้”
“มิน่าล่ะ หวางซีกางคนนี้ ก็เป็นแค่เศษสวะ…..ฉันว่าแล้วทำไมเขาถึงได้เป็นพี่น้องกับคนแบบแมงป่องอย่างนี้ได้” เฉินฝูเซิงยิ้มแล้วก็พูดว่า “เจ้านายเข้าไปถามด้วยตัวเองดีกว่านะ”
“เขาถูกพวกเราจัดการไม่เบาเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือว่าเป็นพวกพี่น้องเขาทั้งหมด ต่างก็ถูกอัดจนอาเจียนออกมา เพียงแต่ว่า ฉันยังไม่ได้ถามอะไรเลย”
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วเดินเข้าไป ส่วนลู่หลุ่ยและถงถง ก็เดินตามหลังเข้าไป
ถงถงมองหน้าลู่หลุ่ย แล้วทำตาค้อนใส่ ยืดตัวตรงขึ้น ดูเหมือนว่าภูมิใจกับรูปร่างของตัวเองเหลือเกิน
จะว่าไปแล้ว การผ่าตัดแปลงเพศของถงถงนั้น ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ถ้าไม่ใช่เพราะว่าถงถงเล่าเรื่องในสมัยตอนเด็กแล้ว ยังไงหลี่ฝางก็จำไม่ได้ว่าเธอก็คือเพื่อนสนิทที่เล่นมาด้วยกันตอนสมัยเด็กนั่นอง
หลี่ฝางเดินมาตรงหน้าหวางซีกาง หวางซีกางตอนนี้ มือทั้งสองข้างถูกมัดเอาไว้ แล้วถูกแขวนห้อยลงมา ร่างกายถูกแส้หวดไปไม่น้อยเลย หลังจากหลี่ฝางเดินเข้าไปแล้ว ส่งสัญญาณมือให้วางเขาลงมา จากนั้นก็ดึงถุงเท้าที่อุดปากไว้ออกไป หลี่ฝางก็ถามอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “ฉันถามแกหน่อย หยิ่นเหล่ยเป็นคนที่ส่งแกมาใช่ไหม?”
หวางซีกางพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกต้อง ก็คือคุณชายหยิ่นนั่นเอง”