NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 703 ผู้พิทักษ์ของหลี่ฝาง
“อันหนึ่งคือเป็นสุนัขรับใช้ของคนอื่น อีกอันคือเป็นเถ้าแก่เอง แกเลือกเองแล้วก็นะ” แมงป่องยิ้มอย่างมั่นใจ
ในมือของแมงป่อง มี KTV และไนต์คลับอยู่หลายแห่ง แต่ที่ใหญ่ที่สุด นั่นก็คือหมิงซื่อ”
และไนต์คลับหมิงซื่อ ก็เป็นไนต์คลับที่ใหญ่ที่สุด และหรูหราที่สุดในอำเภอหลิน
และที่สำคัญยังได้รับผลประโยชน์มากที่สุด
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ไม่เพียงแค่สวีเจ๋ที่มีแววความอิจฉาขึ้นมาบนใบหน้า แม้แต่ฉ่างจือคนนั้น ในสายตาก็มีแววริษยาอยู่เล็กน้อย
ในฐานะที่เขาเป็นลูกบุญธรรมของแมงป่อง เขาคอยปรนนิบัติรับใช้แมงป่อง แต่ในวันนี้ ก็ยังคงเป็นคนขับรถและบอดี้การ์ดของแมงป่องอยู่เหมือนเดิม
สำหรับไนต์คลับหมิงซื่อ จริง ๆ แล้วฉ่างจืออยากไปที่นั่นตั้งนานแล้ว
แต่ก็ไม่มีทางเลือกนี่ แมงป่องไม่พูดมาตลอด ฉ่างจือก็ไม่กล้าเป็นคนเอ่ยขึ้นมาเอง
แต่ในวันนี้ ขอเพียงถังหยู่ซวนพยักหน้าเบา ๆ เช่นนั้นไนต์คลับหมิงซื่อ ก็จะถูกยกให้เขาดูแล
บอกว่าไม่อิจฉา นั่นจะต้องเป็นคำโกหกอย่างแน่นอน
ถังหยู่ซวนมีดีอะไร เคยทำอะไรให้แมงป่องบ้าง ฉ่างจือที่เป็นลูกบุญธรรม เป็นธรรมดาที่ภายในใจจะไม่ยินดี
“ทำไม มันเลือกยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
แมงป่องบีบเข้าที่คางของถังหยู่ซวน แล้วเอ่ยถามพลางยิ้มตาหยี
ถังหยู่ซวนยิ้มเล็กน้อย เขาพยักหน้าให้กับแมงป่อง: “คุณขยับเข้ามาหน่อย ผมจะบอกคำตอบกับคุณ”
เสียงของถังหยู่ซวนเบามาก แต่หลังจากที่แมงป่องได้ยินชัดแล้ว เขาก็ก้มหน้าเข้าไปทันที
และถังหยู่ซวนในตอนนี้ ทันใดนั้นเอง เขาก็กัดเข้าที่หูของแมงป่องเต็ม ๆ
แมงป่องนึกว่าถังหยู่ชวนจะรับปากตัวเอง แต่ใครล่ะจะคิด ว่าถังหยู่ซวนจะกัดเขาราวกับสุนัข ชั่วขณะนั้น แมงป่องเจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน
ถังหยู่ซวน ไม่ได้ใช้แรงเหมือนเวลากินนมสักหน่อย
“แม่งเอ๊ย รนหาที่ตาย!”
ฉ่างจือก็คิดว่าถังหยู่ซวนจะตกลง ก็เลยไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร ใครจะไปคิดล่ะว่า จู่ ๆ ถังอยู่ซวนจะเล่นไม้นี้
นี่มันเท่ากับว่ารนหาที่ตายจริง ๆ
ฉ่างจือจับผมของถังหยู่ชวนดึงขึ้นมา จากนั้นก็ตบเข้าไปที่หัวของเขา เต็ม ๆ หนึ่งครั้ง
แมงป่องถูกปล่อย เลือดไหลเต็มไปทั่วหู ถังหยู่ซวนล้มลงไปกองบนพื้น ปากก็ยังหัวแหะ ๆ
“ฆ่ามัน!”
แววตาของแมงป่อง ก็พลันเปลี่ยนเป็นอำมหิตขึ้นมา
และที่นี่นับว่าเป็นสถานที่ที่ห่างไกลผู้คนที่หนี่ง ต่อให้ถังหยู่ซวนถูกฆ่าตาย ก็จะไม่มีใครพบเห็น
หรือต่อให้มีคนพบเห็น ใครกล้าเอาไปพูดมั่วซั่ว?
ขอเพียงไม่ใช่ในตัวเมืองหรือย่านการค้าที่ผู้คนคึกคัก แมงป่องก็ไม่กลัวเลยสักนิด
“ทำยังไงกับไอ้หมอนี่ครับ?” สวีเจ๋ชี้ไปที่หลี่ฝาง
แมงป่องหัวเราะเหอะหนึ่งครั้ง: “เอาตัวมันไปก่อน ส่วนจะจัดการยังไงนั้น รอให้พ่อลูกตระกูลหยิ่นเป็นคนตัดสิน
สวีเจ๋ยิ้มอ่อน ๆ แล้วเดินตรงเข้ามาหาหลี่ฝาง
เมื่อกี้หลี่ฝางได้ทำให้สวีเจ๋ลำบากใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้สวีเจ๋โมโหจนแทบบ้า ดังนั้น สวีเจ๋เตรียมที่จะทรมานเขาสักหน่อย ในระหว่างทางที่พาเขาไปขึ้นร
แต่ใครจะรู้ล่ะว่า หลี่ฝางจะยืนอยู่ตรงนั้น อย่างสงบนิ่งสุดขีด
“ฉันขอเตือนแกทางที่ดีอย่าแตะต้องเขา”
ในขณะที่หลี่ฝางเห็นฉ่างจือกำลังจะลงมือฆ่าถังหยู่ซวน เขาก็ยิ้มอย่างเย็นชาพลางกล่าว
เผชิญหน้ากับคำข่มขู่ของหลี่ฝาง ฉ่างจือก็ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
ถึงยังไงในสายตาของทุกคน หลี่ฝางในตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด แล้วจะปกป้องคนอื่นได้ยังไง
ในเวลาแบบนี้ ยังสนใจคนอื่น?
เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะค่อยว่า
“ยังไม่มาอีกเหรอ?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว
ในตอนที่สวีเจ๋เดินเข้ามากำลังใกล้จะถึงตัวเองนั่นเอง ทันใดนั้น คนคนหนึ่ง ก็พุ่งตัวออกมาราวกับดวงวิญญาณ มาถึงด้านหน้าของหลี่ฝาง และจู่โจมสวีเจ๋สองสามครั้งจนล้มลงไปกองกับพื้น
หลี่ใจนั้น ยังไม่ทันจะรู้สึกตัวด้วยซ้ำ ก็ถูกโจมตีจนสลบลงไปบนพื้น
ชายสวมผ้าปิดหน้าคนหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของหลี่ฝาง และปกป้องเขาเอาไว้
ฉ่างจือมองดูชายสวมผ้าปิดหน้า ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
ฉ่างจือรู้ว่า ฝีมือของชายสวมผ้าปิดหน้า เกรงว่าสูงกว่าเขาอีก
หลี่ฝางกล่าวอย่างตำหนิเล็กน้อย: “ทำไมถึงพึ่งมาล่ะ?”
ชายสวมผ้าปิดหน้าราวกับเป็นใบ้ เขาไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแค่ยืนบังอยู่ด้านหน้าของหลี่ฝาง ไม่ให้ใครเข้าใกล้
แมงป่องที่เดิมทีกำลังเตรียมจะขึ้นรถ หลังจากที่เห็นชายสวมผ้าปิดหน้า ทันใดนั้นเขาก็หันหน้ากลับมา
“เหอะ ๆ ที่แท้ก็ยังมีบอดี้การ์ดอยู่นี่เอง”
แมงป่องไม่ได้ใส่ใจชายสวมผ้าปิดหน้าเลยสักนิด เขาเพียงแค่หัวเราะเหอะ ๆ พลางกล่าว: “ฉันว่าแล้วไง ข้างกายของคุณชายหลี่ จะมีบอดี้การ์ดแค่คนเดียวได้ยังไง”
“อีกทั้งยังอ่อนหัดแบบนั้น”
หลังจากที่แมงป่องกล่าวจบ เขาก็ตะโกนขึ้นมาหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นเอง ภายในรถสองสามคันก็ปรากฏผู้คนขึ้นมาราวสิบกว่าคน: “จัดการมันซะ”
แมงป่องกล่าวอย่างเย้ยหยัน: “คุณชายหลี่ นายน่าจะพาบอดี้การ์ดมาเยอะกว่านี้นะ คนสองคน คุ้มครองนายไม่ได้หรอก”
กล่าวไป กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังของแมงป่อง ก็พุ่งเข้าใส่พร้อมกัน
และชายสวมผ้าปิดหน้าที่อยู่ด้านหน้าของหลี่ฝาง ก็ยังคงไม่ขยับ หน้าที่ของเขา ก็คือปกป้องหลี่ฝางให้ดีเท่านั้น เรื่องอื่น ไม่จำเป็นต้องให้เขาใส่ใจ
ภายในตึกร้างสองตึก มีชายสวมผ้าปิดหน้ากระโดดลงมาจากชั้นสองสองคน
ชายสวมผ้าปิดหน้าสองคนนี้ ฝีมือยอดเยี่ยม ลงมือโหดเหี้ยม เหมือนกับว่าหนึ่งหมัดก็สามารถล้มคู่ต่อสู้ได้หนึ่งคน
คนสิบกว่าคน เวลาไม่ถึงสามนาที ก็ล้มลงไปกองอยู่บนพื้นทั้งหมด ไม่มีใครสามารถลุกขึ้นมาได้อีกเลย
ฉ่างจือกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ พลังการต่อสู้เช่นนี้ เขามองดูแล้วก็ทำได้แค่เพียงหวาดเกรงเท่านั้น
เพียงชั่วพริบตาก็มีชายสวมผ้าปิดหน้าปรากฏออกมาพร้อมกันสามคน และคนที่แมงป่องพามา ก็ถูกจัดการจนลงไปนอนกองอยู่บนพื้นทั้งหมด
แมงป่องในเวลานี้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาวขึ้นมา
ตอนนี้ทางฝั่งเขา เหลือเพียงแค่ฉ่างจือและเขาแล้ว
แต่ว่า มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?
พวกเขาสองพ่อลูกร่วมมือกัน เกรงว่าคงสู้ไม่ได้แม้แต่ชายสวมผ้าปิดหน้าเพียงคนเดียวหรอกมั้ง?
นี่คือซือปาจี้ที่พ่อของหลี่ฝางเลี้ยงดูฝึกฝนขึ้นมา มีทั้งหมดสิบแปดคน ทั้งสิบแปดคนนี้ ก็ได้มีการดัดแปลงพันธุกรรม เพียงแต่ว่า การดัดแปลงล้มเหลว
พวกเขาไม่เหมือนกับส้าวส้วย ถึงแม้จะมีการฉีดยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นกับร่างกาย
อย่างส้าวส้วยนั้นเป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ แต่ทั้งสิบแปดคนนี้ ได้สูญเสียความรู้สึกในการรับความเจ็บปวดไป ในขณะเดียวกันก็ได้สูญเสียความสามารถในการฟังและการพูดไปด้วย
แต่ก็ยังดี ที่พวกเขายังสามารถคิดพิจารณา นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังมีพลังการโจมตีที่แข็งแกร่ง
ซือปาจี้ เป็นหนึ่งในไพ่ใบสำคัญของหลอซ่า
และหลี่ฝางมาที่อำเภอหลินในครั้งนี้ ลุงเฉียนได้ส่งสามคนนี้ให้มาด้วยเป็น เพื่อปกป้องความปลอดภัยของหลี่ฝาง
ชายสวมผ้าปิดหน้าทั้งสามคนนี้ จะคอยปกป้องหลี่ฝางอย่างลับ ๆ ไม่มีเวลาไหนที่จะไม่อยู่ข้างกายหลี่ฝาง เพียงแต่ว่า พวกเขานั้นถนัดในการซ่อนตัวมาก
บนร่างกายของหลี่ฝาง อุปกรณ์บอกตำแหน่งอยู่ ไม่ว่าหลี่ฝางจะอยู่ที่ไหน ชายสวมผ้าปิดหน้าทั้งสามคนนี้ ก็สามารถติดตามมาได้อย่างรวดเร็ว
ตามคำสั่งของลุงเฉียน มีเพียงแค่เวลาที่หลี่ฝางเผชิญหน้ากับอันตราย พวกเขาถึงจะปรากฏตัว
นอกเหนือจากนี้แล้ว พวกเขาก็จะซ่อนตัวอยู่ที่เบื้องหลังของหลี่ฝางอยู่ตลอด
ดังนั้น เมื่อกี้ถังหยู่ซวนเกือบจะโดนฆ่าตาย คนพวกนี้ กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
ฉ่างจือเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ก็รีบหนีไปทันที และแมงป่องก็เช่นเดียวกัน หลี่ฝางชี้ไปที่แมงป่อง สั่งให้ชายสวมผ้าปิดหน้าไปจับเขามา แต่ชายสวมผ้าปิดหน้าพวก กลับเป็นเหมือนคนโง่งั่ง และไม่ขยับเลยสักนิด
หลี่ฝางแอบด่าอยู่ในใจ ทำได้เพียงอุ้มถังหยู่ซวนขึ้นไปบนรถ และพาไปโรงพยาบาล
หลังจากที่ถึงโรงพยาบาล หลี่ฝางก็ติดต่อหาหวางเหมียว ให้หวางเหมียวรีบช่วยรักษาถังหยู่ซวน
ผ่านไปราวประมาณสามสิบนาที หวางเหมียวก็วิ่งเข้ามา แล้วพูดกับหลี่ฝาง: “สบายใจได้ เพื่อนของนายไม่ได้เป็นอะไรมาก สมงสมอง ก็ได้ทำ CT เรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร”
“งั้นก็ดี”
“แต่ว่าจะว่าก็ว่านะน้องชาย นายทำงานอะไรกันแน่ คนที่เมื่อคืนเกือบจะโดนฆ่าตายคนนั้น นายยังจ่ายให้ฉันหนึ่งล้านเพื่อให้ฉันออกใบรับรองการตายให้ นี่ผ่านไปยังไม่ถึงวันเลย ก็ส่งมาอีกคนแล้ว
นี่ก็ตายครึ่งไม่ตายครึ่ง นายคงจะไม่ให้ฉันออกใบรับรองการตายให้เพื่อนของนายอีกหรอกนะ? ฉันจะบอกนายให้นะ เรื่องนี่น่ะ ต่อให้นายจ่ายให้ฉันเท่าไหร่ ฉันก็ช่วยนายไม่ได้แล้ว”
หวางเหมียวกล่าวอย่างเป็นกังวล ในขณะเดียวกัน เขาก็เกิดสงสัยฐานะของหลี่ฝางขึ้นมา
หลี่ฝางมองหวางเหมียวอย่างเอือมระอา: “พอเถอะน่า จัดการดูแลเพื่อนของผมให้ดี ผมไม่ให้คุณออกใบรับรองการตายอะไรนั่นหรอก”
ถึงตอนนี้หวางเหมียวถึงได้วางใจขึ้นมา: “โอเค”
หวางเหมียวกลัวจริง ๆ ว่าหลี่ฝางจะบอกให้เขาออกใบรับรองการตาย ถ้าเขาปฏิเสธไป ยังไงหลี่ฝางก็เคยช่วยเหลือปัญหาใหญ่ของเขา ถ้าจะรับปาก ออกสองใบในวันเดียว จะไม่ให้ถูกพบเห็นได้ยังไง?
หลี่ฝางขับรถไปกดเงินสี่แสน แล้วกลับมาที่โรงพยาบาล จากนั้นก็ยื่นให้หวางเหมียว
มองดูเงินที่อยู่ในถุง หวางเหมียวตะลึงงัน: “น้องชายนี่คืออะไรเหรอ?”
“เมื่อคืนที่ผมรับปากคุณ คืนนี้จะเอาส่วนที่เหลืออีกสามแสนห้ามาให้คุณ นี่คือเงินสี่แสน ที่เกินมาห้าหมื่นนั่น ถือเป็นค่ายาของเพื่อนผมแล้วกัน” หลี่ฝางกล่าวอย่างเรียบ ๆ
“ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก นายช่วยฉันเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ฉันจะเอาเงินกับนายมากขนาดนั้นได้ยังไง พูดตามจริงนะ นายไปให้คนอื่นออกใบรับรองการตาย อย่างมากสองแสนก็จัดการได้แล้ว” หวางเหมียวกล่าวอย่างเปิดอกเปิดใจ
“ให้คุณคุณก็รับเอาไว้เถอะน่า ทำไมต้องเกรงใจขนาดนี้ด้วย? ผมมีเงิน แต่คุณขาดเงิน เงินที่คุณค้างสหายและเพื่อนร่วมงาน หรือว่าไม่ต้องคืนหรือไง?”
“เอาเงินพวกนี้ รีบไปใช้หนี้ให้หมดซะ จากนั้นก็ไปกับภรรยา และลูกสาวของคุณกลับมา” หลี่ฝางกล่าวกับหวางเหมียว
หวางเหมียวลังเลอยู่ชั่วขณะ: “น้องชาย งานมูลค่าสองแสน นายให้ฉันหนึ่งล้าน ฉันไม่ค่อยกล้ารับไว้สักเท่าไหร่”
“ทำไม กลัวผมจะทำร้ายคุณเหรอ?” หลี่ฝางเอ่ยถามอย่างหมดคำจะพูด
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” หวางเหมียวยิ้มส่ายหัว สุดท้ายก็รับบเงินมาจากหลี่ฝาง
เมื่อส่งหวางเหมียวจากไป หลี่ฝางก็เข้าไปในห้องคนไข้ของถังหยู่ซวน เขามองไปที่ถังหยู่ซวน แล้วยิ้ม พลางกล่าว: “เอาล่ะ มีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว เมื่อกี้ตอนที่อยู่บนถนน ทำฉันตกใจแทบตายแน่ะ”
“ครั้งหน้าถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีก ไม่ต้องวิ่งออกมาข้างหน้าฉันเลยนะ นายรีบหนีไปก่อนเลย” หลี่ฝางกล่าว: “ฉันมีคนคอยปกป้องดูแล”
ถังหยู่ซวนยิ้มแห้ง: “เหมือนเพื่อนนายคนนั้นน่ะเหรอ?”
หลี่ฝางรู้ว่าที่ถังหยู่ซวนพูดถึง คือหลี่ซ่วยซ่วย และความหมายที่เขาพูด เป็นที่ประจักษ์ว่ากำลังประชดประชันที่หลี่ซ่วยซ่วยไม่ใจนักเลงพอ หลี่ฝางส่ายหัว: “เขามีความลำบากใจ เขาไม่เหมือนกันกับพวกเรา บ้านของเขาอยู่ที่นี่ จะมีเรื่องกับแมงป่องไม่ได้”
ถังหยู่ซวนส่ายหัวกล่าว: “เขาเป็นเพื่อนของนาย นายพิจารณาเอาเองแล้วกัน ยังไงซะ ฉันก็ไม่เหมือนกันกับเขาหรอก”
“ขอโทษนะ” หลี่ฝางจ้องมองถังหยู่ซวน สีหน้าเคร่งขรึม
“เมื่อกี้เกือบทำให้นายต้องตาย” หลี่ฝางกล่าว
“ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ พวกเราเป็นเพื่อนกัน ไม่จะเป็นต้องพูดอะไรที่มันดัดจริตแบบนี้หรอก ฉันเข้าใจนาย นายก็เข้าใจฉัน ฉันรู้ว่านายรู้สึกโทษตัวเองมาก แต่มันไม่จำเป็น นากจากนี้ ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก”
“เมื่อกี้ฉันได้โทรหาลุงเฉียน ชายสวมผ้าปิดหน้านั่น ได้สูญเสียความสามารถในการฟัง และความสามารถในการพูดไป” หลี่ฝางขมวดคิ้วกล่าว: “พวกเขาเป็นพวกสมองตาย ขอเพียงแค่ไม่มีคนทำร้ายฉัน พวกเขาก็จะไม่ลงมือ”
“ทำไมต้องอธิบายเรื่องพวกนี้กับฉันล่ะ ระหว่างพวกเรา ยังจำเป็นต้องอธิบายอีกเหรอ?” ถังหยู่ซวนกล่าวต่อ: “หลี่ฝาง ฉันไม่เรียกนายว่าเจ้านาย หรือนายน้อยมาโดยตลอด ฉันคิดว่าระหว่างพวกเรา รักษาความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่บริสุทธิ์เอาไว้ดีที่สุด สำหรับเรื่องที่ว่าทำไมฉันถึงบุกเข้าไปก่อนนาย ไม่ใช่เพราะว่าฉันเป็นบอดี้การ์ดของนายแล้วควรทำ แต่เป็นเพราะฝีมือฉันสูงกว่านาย”
“ฉันเชื่อว่า ถ้าหากนายฝีมือดีกว่าฉันล่ะก็ นายก็จะทำแบบฉันเหมือนกัน ยืนอยู่ข้างหน้า แล้วปกป้องฉันใช่ไหม?”
หลังจากที่ถังหยู่ซวนพูดจบ หลี่ฝางก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากขึ้นมา และไม่ได้พูดมากอะไรอีก
ตอนนี้สิ่งที่หลี่ฝางเป็นกังวลกว่า มีอยู่สองเรื่อง หนึ่งคือเรื่องความปลอดภัยของคุณพ่อของตัวเอง และอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือเรื่องทางฝั่งลู่หลุ่ย
แต่ว่า ทั้งสองเรื่องนี้ หลี่ฝางกังวลมากไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ ก็คือดึงคนที่อยู่เบื้องหลังของแมงป่องออกมาให้ได้
นอกจากตระกูลหยิ่นแล้ว ยังมีใครอีกกันแน่ ที่คอยร่วมมือกับแมงป่องอย่างลับ ๆ
แมงป่องเป็นคนอำเภอหลิน ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันกับคนเมืองเอกแม้แต่น้อย เมื่อก่อนยิ่งไม่เคยมีความแค้นอะไรกับหลอซ่า แล้วทำไมเขาถึงต้องมาจัดการตัวเอง และทำไมถึงได้รู้ว่าหลอซ่ากลับมาไม่ได้แล้ว?
ณ ตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้น หลี่ฝางก้มหน้ามองดู สายตาของเขาถูกดึงเพราะคนที่โทรมา