NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 726 จิตใจที่แน่วแน่ของเสี่ยวถิง
“ฉันก็แค่เดาเท่านั้น”
หลี่ฝางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
หลี่งฝางแค่คาดเดาเท่านั้นจริงๆ แต่กลับไม่คิดว่า จะเดาถูก
เรื่องความลับของห้องทำงานหยิ่นเจิ้ง ลุงเฉียนเป็นคนบอกเขา แต่ลุงเฉียนก็บอกหลี่ฝางเช่นเดียวกัน ความลับนี้มีแค่เสี่ยวถิงคนเดียวเท่านั้นที่รู้
หรือมีนัยยะนอกเหนือจากนี้ก็คือ ถ้าหลี่ฝางพูดความลับนี้ออกไป นั่นก็เท่ากับว่าเสี่ยวถิงไม่ซื่อสัตย์
“เขาเป็นยังไงบ้าง?”หลี่ฝางถามขึ้นมาหนึ่งประโยค
ทางด้านของไอ้หน้าหนวดก็ยิ้มเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้น“ยืนจ้องมองบ้านของตัวเองอยู่นานสองนานราวกับคนเสียสติ พูดกับเขาเขาก็ไม่ตอบ ไม่รู้ว่าหูหนวกหรือว่าตาบอดกันแน่?”
“พาเขามาอยู่ใกล้ๆฉันดีกว่า”หลี่ฝางพยักหน้าพูดขึ้น รู้ว่าเสี่ยวถิงแค่รับแรงกระตุ้นนี้ไม่ไหวเท่านั้น ไม่ได้เสียสติไปจริงๆ
เขาก็ถือว่าเป็นคนที่ผ่านอุปสรรคความทุกข์ยากลำบากมากับหยิ่นเจิ้ง หลี่ฝางเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีทางทำให้เขาพังทลายลงแน่นอน แต่ในช่วงนี้ ปมในจิตใจของเขา คงจะยากที่จะคลายออก
ไม่ว่ายังไง หยิ่นเจิ้งก็เป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของเขา
ฝ่าฟันความยากลำบากมาจนถึงทุกวันนี้ ใครจะไปเชื่อว่าพี่น้องที่ผ่านชีวิตมาด้วยกัน จะลงมือฆ่าตัวเองแบบนี้ล่ะ?
มีรถคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าของหลี่งฝาง เสี่ยวถิงลงมาจากรถ ก่อนจะพูดขึ้น“คุณชายหลี่ ขอบคุณที่คุณช่วยชีวิตผมนะครับ”
“แต่แค่ผมไม่เข้าใจ ว่าทำไมคุณถึงช่วยชีวิตผม?”
เสี่ยวถิงมองหลี่ฝาง พร้อมกับถามขึ้น“อีกอย่างคุณรู้ได้ยังไงว่าหยิ่นเจิ้งจะฆ่าผม?”
“คนที่ส่งข้อความนั่นไปให้แมงป่อง จริงๆแล้วเป็นผมเอง”หลี่ฝางยิ้มๆ พูดขึ้น“ดังนั้นการที่หยิ่นเจิ้งฆ่าคุณ สาเหตุครึ่งหนึ่งก็เป็นเพราะว่าผม”
“แล้วอีกครึ่งล่ะครับ?”เสี่ยวถิงถามต่อ
“มาจากส่วนลึกในใจของเขา คิดที่จะกำจัดคุณ เพื่อจะได้ไม่เป็นอันตรายภายหลัง”หลี่ฝางพูดขึ้นอย่างนิ่งเรียบ
เสี่ยวถิงส่ายหัว พูดขึ้น“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้ หยิ่นเจิ้งจะฆ่าผมได้ยังไง? เขาจะต้องเข้าใจผมผิดแน่ๆ”
หลี่ฝางหัวเราะ พูดขึ้น“พวกคนที่ฆ่าคุณพวกนั้น คุณน่าจะรู้จักใช่ไหม?”
“พวกเขาเป็นพวกอันธพาลที่ยอมทำเรื่องเสี่ยงตายที่หยิ่นเจิ้งเลี้ยงเอาไว้ ผมเป็นคนให้เงินกับพวกเขาเอง แถมวันนี้ผมก็เป็นคนที่พาพวกเขามายังอำเภอหลินด้วย แต่แค่คิดไม่ถึงว่า ภารกิจแรกที่พวกเขามาที่นี่ ก็คือกำจัดผม”
เสี่ยวถิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดต่อ“ผมอยากจะโทรศัพท์ไปหาหยิ่นเจิ้งมากจริงๆ ถามเขา ว่าทำไมถึงต้องทำขนาดนี้!”
“คุณรู้ทุกสิ่งทุกอย่างของหยิ่นเจิ้ง จนถึงตอนนี้ เขาใกล้จะประสบความสำเร็จได้กลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของอำเภอหลินแล้ว ถึงตอนนั้น เขาไม่อยากให้ใครหน้าไหนที่อาจจะกลายเป็นภัยคุกคามเขาได้ในอนาคตมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แม้ว่าจะเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของเขาก็ตาม”
หลี่งฝางพูดขึ้น“คุณถือว่าเป็นคนที่กุมหัวใจของหยิ่นเจิ้งเอาไว้เลย ถ้าวันหนึ่งคุณเกิดทรยศหักหลังเขาขึ้นมา เขาต้องตายแน่ๆ”
เสี่ยวถิงส่ายหัวพูดขึ้นอย่างสุดชีวิต“ต่อให้ตาย ผมก็จะไม่ทรยศหักหลังหยิ่นเจิ้งแน่นอน”
“ถ้าแมงป่องจับตัวภรรยาของคุณแล้วก็ลูกของคุณไปล่ะ?”หลี่ฝางมองเสี่ยวถิงพร้อมกับถามขึ้น“ตอนที่แมงป่องใช้ภรรยาและลูกของคุณมาข่มขู่คุณ คุณจะเลือกอะไร?”
ตอนนี้ เสี่ยวถิงก็เป็นใบ้ขึ้นมาทันที
เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ฝั่งหนึ่งก็เป็นพรรคพวกพี่น้องของตัวเอง อีกฝั่งก็เป็นคนในครอบครัว
หลี่ฝางหัวเราะ ก่อนพูดขึ้น“เห็นแล้วยังล่ะ คุณก็เริ่มลังเลแล้วเหมือนกัน ดังนั้น ถ้าพูดกันตามสภาพแล้ว หยิ่นเจิ้งกำจัดคุณ ก็ถือว่าถูกแล้ว”
เสี่ยวถิงไม่ได้พูดอะไร แต่หันไปมองภรรยาและลูกของตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้น“ในตอนแรก ตอนที่ผมกับหยิ่นเจิ้งไม่มีเงิน ก็อาศัยพึ่งพาภรรยาของผม เธอคอยช่วยเหลือพวกเราทางด้านการเงิน ในตอนแรกเขาเคยพูดเอาไว้ ว่าถ้าวันไหนประสบความสำเร็จแล้ว จะไม่ลืมความดีของผมและภรรยาของผมแน่นอน น่าเสียดาย ตอนนี้แม้แต่ภรรยาของผมเขาก็ไม่ยอมปล่อยไป”
“ภรรยาของผม ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น เขากำจัดผมแค่คนเดียวก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องกำจัดภรรยาและลูกของผมด้วย?”
น้ำเสียงของเสี่ยวถิง เปลี่ยนเป็นโมโหเกรี้ยวกราดขึ้นมา
“เรื่องนี้ต้องโทษผม ตอนที่ส่งข้อความไปให้กับแมงป่อง คุณมีหลักฐานเพียงพอที่บอกว่าไม่ใช่ฝีมือของคุณ แต่ความลับนี้ นอกจากคุณแล้ว ยังมีใครรู้อีก? หยิ่นเจิ้งเดาไม่ออก แต่ผู้ที่ต้องสงสัยที่สุดก็คือภรรยาของคุณ”หลี่ฝางพูดขึ้น
“แล้วลูกของผมล่ะ? ทำไมต้องฆ่าพวกเขาด้วย”เสี่ยวถิงพยายามกลั้นความโกรธเอาไว้
หลี่งฝางยิ้มๆพูดขึ้น“ถ้าคิดจะถอนหญ้าก็ต้องถอนทั้งรากถอนทั้งโคนถ้าปล่อยเอาไว้จะเป็นปัญหาภายหลังได้ หลักเหตุผลนี้คุณคงจะเข้าใจนะ เขากลัวลูกๆของคุณจะไปแก้แค้นให้กับคุณยังไงล่ะ”
เสี่ยวถิงนิ่งขรึมลงอีกครั้ง ไม่ได้พูดอะไรอยู่นานสองนาน
หลี่ฝางก็ไม่ได้ถามอะไรเสี่ยวถิงต่ออีกอย่างเข้าใจสถานการณ์ แต่ตบๆลงที่ไหล่ของเขา
ผ่านไปประมาณห้านาที ไอ้หน้าหนวดก็หยิบตั๋วเครื่องบินออกมาสองสามใบ หลี่งฝางยื่นตั๋วเครื่องบินให้กับเสี่ยวถิง พร้อมกับพูดขึ้น“นี่เป็นตั๋วเครื่องบินระดับเฟิร์สคลาสที่บินไปนอร์เวย์จำนวนสี่ใบ อีกสองชั่วโมง เครื่องบินจะบินแล้ว”
เสี่ยวถิงมองตั๋วเครื่องบินในมือของหลี่งฝางอย่างเหม่อลอย จากนั้นก็ยิ้มๆ“คุณช่วยชีวิตผม แล้วก็ปล่อยให้ผมไป?”
“ไม่ทำแบบนี้ แล้วจะให้ทำแบบไหนล่ะ?”หลี่ฝางถามขึ้น
“ผมนึกว่า คุณช่วยชีวิตผมแล้ว ก็จะให้ผมช่วยคุณจัดการกับหยิ่นเจิ้งซะอีก”เสี่ยวถิงพูดยิ้มๆ
หลี่ฝางส่ายหัว พูดเขึ้น“หยิ่นเจิ้งเป็นเพื่อนร่วมงานของผม หลังจากที่ผมกับเขาร่วมมือกันกำจัดแมงป่องทิ้งแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีก ทำไมผมต้องไปต่อกรกับเขาด้วย? ศัตรูของผมก็มากพออยู่แล้ว ไม่อยากจะเพิ่มปัญหาให้กับตัวเองอีก”
“เหอะๆ คุณคิดว่าเขาจะปล่อยคุณไปเหรอ? คุณเล่นงานซะลูกของเขาสภาพเป็นแบบนั้นแล้ว หรือคุณคิดว่าหยิ่นเจิ้งจะยอมปล่อยไปทั้งอย่างนี้หรือไง ถ้าพ่อของคุณหลอซ่ากลับมาไม่ได้ เขาจะมาแก้แค้นคุณเป็นคนแรกแน่นอน เชื่อไหมล่ะ?”เสี่ยวถิงพูดขึ้น
“หลายวันก่อนหน้านี้ หยิ่นเจิ้งก็พาพวกอันธพาลที่ทำเรื่องเสี่ยงอันตรายให้กับเขามาถึงยังอำเภอหลิน ผมเป็นคนต้อนรับเอง แล้วเนื้อหาที่หยิ่นเจิ้งเจรจาพูดคุยกับพวกเขา ก็คือหาโอกาสในการกำจัดคุณ แต่ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไร จู่ๆเขาก็ล้มเลิกแผนการนี้ไป”
เสี่ยวถิงพูดขึ้นเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม“แต่ที่ผมรู้ก็คือ พวกคุณตระกูลหลี่ ส่งคนไปเจรจาความร่วมมือกับตระกูลหยิ่น แทนที่จะบอกว่าเป็นการร่วมมือกัน สู้บอกว่าเป็นการชดเชยให้น่าจะเหมาะกว่านะ”
“แต่คุณเคยคิดบ้างไหม คนแบบหยิ่นเจิ้ง เขายังขาดแคลนเงินอีกเหรอ? เขามีทรัพย์มูลค่าตั้งหลายพันล้านแล้ว ชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมด ถ้าเขาจะยอมละทิ้งการแก้แค้น ก็จะมีแค่เขารู้สึกกลัวเท่านั้น เขากลัวที่พ่อของคุณคือหลอซ่า แล้วก็ยิ่งกลัวพลังอำนาจของตระกูลหลี่ของพวกคุณด้วย”
เสี่ยวถิงพูดขึ้น
สีหน้าของหลี่ฝางเปลี่ยนไป
หลี่ฝางมองเสี่ยวถิง พร้อมกับถามขึ้น“คุณอยากจะอยู่ช่วยผมต่อ?”
“ไม่ใช่”เสี่ยวถิงส่ายหน้า
“ถ้าอย่างนั้นคุณบอกเรื่องพวกนี้กับผมหมายความว่าไง? อย่านะบอกว่าคุณจะจุดประเด็นสงครามระหว่างผมกับหยิ่นเจิ้ง จากนั้นก็จะเข้ามาช่วยผมอย่างนั้นเหรอ?”หลี่ฝางขมวดคิ้วถามขึ้น
เสี่ยวถิงพยักหน้า พูดขึ้น“ผมไม่ได้จะช่วยคุณ แต่ผมช่วยตัวเองแก้แค้นต่างหากล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้หน้าหนวด ภรรยากับลูกของผม ก็คงตายไปนานแล้ว”
เสี่ยวถิงรับตั๋วเครื่องบินมาจากมือของหลี่ฝางพร้อมกับพูดขึ้น“คุณคิดจะให้ผมนั่งเครื่องบินหนีไป เหอะๆ ขอเถอะคุณชายหลี่ คุณคิดว่าผมเต็มใจไหม? ผมทำงานหนักเพื่อหยิ่นเจิ้งมาทั้งชีวิต สละให้เขาไปทั้งชีวิต แต่สุดท้าย กลับมีจุดจบแบบนี้เนี่ยนะ คุณว่าผมจะยอมหนีไปเฉยๆไหม?”
“ถ้าเป็นคุณ คุณจะไปไหม?”เสี่ยวถิงมองหลี่ฝาง พร้อมกับถามกลับไป
หลี่ฝางส่ายหัวพูดขึ้น“ถ้าเป็นผมล่ะก็ ผมจะให้หยิ่นเจิ้งชดใช้ในสิ่งที่เขาทำลงไป”
เสี่ยวถิงพยักหน้า ก่อนจะพูดขึ้น“ดังนั้น ผมไม่เพียงแต่จะไม่หนีไปแล้ว ยังจะอยู่ต่อเพื่อจัดการกับหยิ่นเจิ้งด้วย ผมอยากถามคุณชายหลี่หน่อย ว่าคุณจะต่อกรกับหยิ่นเจิ้งไหม? ถ้าสู้ล่ะก็ ผมจะอยู่ฝ่ายเดียวกับคุณ”
“ถ้าคำตอบของผมคือไม่ คุณก็จะไปพึ่งพาแมงป่องแทนใช่ไหม?”หลี่ฝางมองเสี่ยวถิง เดาความคิดความอ่านของเขาออก
“ใช่ ตอนนี้ ศัตรูของผมก็คือหยิ่นเจิ้ง ใครเป็นศัตรูกับหยิ่นเจิ้ง คนนั้นก็คือมิตรสหายของผม”
เสี่ยวถิงมองหลี่ฝางพร้อมกับพูดขึ้น“แต่ว่า ผมไม่อยากไปร่วมมือกับแมงป่อง ผมอยากอยู่ช่วยคุณ ถึงยังไง คุณก็เป็นคนช่วยชีวิตผม”
“ผมไม่เพียงแต่จะแก้แค้น แต่จะตอบแทนบุญคุณด้วยเช่นกัน”เสี่ยวถิงพูดขึ้น“ทรัพย์สินของหยิ่นเจิ้งมูลค่าประมาณสองพันกว่าล้าน ถ้าแมงป่องพ่ายแพ้ล่ะก็ มูลค่าทรัพย์สินของเขาก็น่าจะสองเท่าตัว ขอแค่คุณยอมร่วมมือกับผม ผมมีวิธี ที่จะทำให้ทรัพย์สินของหยิ่นเจิ้งกลายเป็นของคุณทั้งหมด”
“เรื่องเงินผมไม่เอาสักแดงเดียว ขอแค่เศษเงิน ให้ลูกๆของผมได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายก็พอแล้ว”เสี่ยวถิงพูดขึ้น
หลี่ฝางมองเสี่ยวถิง หลังจากมองอยู่นานสองนานแล้ว จึงพูดขึ้น“ผมค่อยให้คำตอบคุณพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
“แต่ว่า ต่อให้ผมไม่รับปากคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปช่วยแมงป่องนะ”หลี่ฝางพูดขึ้น
ล้อเป็นเล่น
ถ้าเสี่ยวถิงไปพึ่งพาแมงป่องในตอนนี้ หยิ่นเจิ้งก็จบเห่ทันที ถ้าหยิ่นเจิ้งจบเห่ นั่นก็เท่ากับว่าหมากล้อมเกมนี้ หลี่ฝางก็จะแพ้ไปด้วยนั่นเอง