NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 727 ทางฝั่งของเมืองเอกเกิดเรื่องแล้ว
ตอนนี้หลี่ฝางกับหยิ่นเจิ้งลงเรือลำเดียวกันแล้ว ดังนั้น หลี่ฝางไม่มีทางยอมให้หยิ่นเจิ้งพ่ายแพ้ให้กับแมงป่องแน่นอน
เสี่ยวถิงพูดขึ้น“คุณชายหลี่ ตั้งพันกว่าล้าน หรือว่าคุณไม่รู้สึกใจเต้นบ้างเลยหรือไง?”
หลี่ฝางพูดขึ้น“มันก็รู้สึกอยู่หรอก แต่คุณมั่นใจได้แค่ไหนกันเชียว?”
“ร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมกับหยิ่นเจิ้งเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เขาเข้าใจผม ผมก็เข้าใจเขา ผมรู้จุดอ่อนของเขาทั้งหมด ตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าผมยังมีชีวิตอยู่ ถ้าผมปิดบังตัวตนไปสู้กับเขา เขาจะต้องพ่ายแพ้ไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”
“บริษัทของเขามีช่องโหว่มากเท่าไร ทำเรื่องผิดกฎหมายไปเท่าไร เรื่องๆนี้ ผมนั้นรู้ดีกว่าใคร แล้วก็ผมยังมีรายชื่อของคณะกรรมการผู้ถือหุ้นทั้งหมดด้วย”
เสี่ยวถิงยิ้มๆด้วยสีหน้าชั่วร้าย“หยิ่นเจิ้ง แอบร้ายอยู่ไม่น้อย เขาแอบทำการสำรวจอย่างลับๆอยู่เยอะแยะมากมาย สำรวจชีวิตส่วนตัวของคนเหล่านี้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง เช่นเรื่องที่หวังซั่วแอบไปคบชู้ข้างนอกบ้าน และอีกมากมาย”
“ต่อให้จะมีบางคนที่ใบหน้าดูใสสะอาด ชีวิตส่วนตัวไร้ที่ติ หยิ่นเจิ้งก็จะหาวิธีทำให้เขาแปดเปื้อนให้ได้ ดังนั้นการแอบเก็บหลักฐานไปเรื่อยๆแบบนี้ ก็เพื่อเป็นการป้องกันพวกเขามาทรยศ”
เสี่ยวถิงพูดขึ้น“เรื่องนี้ ผมควบคุมไว้ทั้งหมดแล้ว”
หลี่ฝางรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย หันไปมองเสี่ยวถิง พร้อมกับพูดขึ้น“คุณก็ไม่ใช่ว่าจะใสสะอาดอะไรเท่าไรเลยเหมือนกัน”
“ใช่ เรื่องชั่วๆทั้งหมดของหยิ่นเจิ้ง ผ่านมือผมมาหมดแล้วทั้งนั้น ดังนั้นถ้าผมตายล่ะก็ หยิ่นเจิ้ง เขาก็จะกลายเป็นคนบริสุทธทันที ต่อให้หลังจากนี้ไปจะตรวจสอบเจออะไรก็ตาม เขาก็จะโยนมันมาให้เป็นความผิดของผมทั้งหมด จริงๆแล้ว ผมก็เคยกังวลนะว่าเขาจะฆ่าปิดปากผมไหม”เสี่ยวถิงส่ายหัว พูดขึ้น“แต่แค่คิดไม่ถึงว่า จะมาเร็วขนาดนี้”
“ให้ภรรยากับลูกๆของผมหนีไปเถอะ”
เสี่ยวถิงถือตั๋วเครื่องบิน เดินไปหยุดตรงหน้าของภรรยา“อะจวน พาลูกของเราหนีไปจากที่นี่ก่อนนะ”
“ที่คุณทำแบบนี้ หรือว่าคุณจะสู้กับหยิ่นเจิ้งต่อจริงๆอย่างนั้นเหรอ?”ภรรยาของเสี่ยวถิงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้เสี่ยวถิงทำแบบนี้
“เดี๋ยวเวรกรรมก็ตามทันเอง ในเมื่อพี่หยิ่นเจิ้งคิดว่าพวกเราตายแล้ว แล้วทำไมพวกเราถึงไม่หนีไปเลยล่ะ?”ภรรยาของเสี่ยวถิงถามขึ้น
“ถ้าผมหนีไปทั้งแบบนี้ ผมก็คงจะต้องอัดอั้นตันใจไปจนตายแน่นอน”เสี่ยวถิงส่ายหัว พูดขึ้น
จากนั้น เสี่ยวถิงก็หันไปพูดกับไอ้หหน้าหนวด“ไอ้หน้าหนวด รบกวนนายด้วยนะ ช่วยไปส่งภรรยากับลูกของฉันที่สนามบินหน่อย”
“ได้ครับ”ไอ้หน้าหนวดพยักหน้า ก่อนจะพาภรรยาของเสี่ยวถิงขึ้นรถไป
หลี่ฝางหันมองเสี่ยวถิง แล้วก็รถที่แล่นจากไป ก่อนจะพูดขึ้น“ลูกๆของคุณนี่ช่างเชื่อฟังและรู้เรื่องรู้ราวจริงๆนะ ไม่คิดว่าพวกเขาจะไม่ร้องออกมาเลยสักนิด”
“พวกเขาตกใจจนรับไม่ไหวต่างหากล่ะ”เสี่ยวถิงพูดขึ้น“แม้ว่าแรงกระตุ้นที่ผมได้รับจะมากกว่าพวกเขา แต่ถึงยังไงผมก็พอจะรับไหวอยู่ ตอนที่พวกเขารู้ว่าหยิ่นเจิ้งจะฆ่าพวกเขา พวกเขาสองคนก็ไม่พูดอะไรเลย”
“ตั้งแต่เด็กจนโต หยิ่นเจิ้งทำเหมือนพวกเขาเป็นลูกของตัวเองมาโดยตลอด ถ้าวันไหนซื้อของให้หยิ่นเหล่ย หยิ่นเจิ้งก็จะซื้อสองชิ้น ส่งมาให้ที่บ้านของผม เพื่อให้กับลูกของผม รวมถึงหุ้นของบริษัทด้วย ตอนที่จัดพิธีก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ให้กับหยิ่นเหล่ย หยิ่นเจิ้งให้หุ้นของตัวเองกับหยิ่นเหล่ย ในขณะเดียวกันก็ให้กับลูกของผมด้วยเช่นกัน มีมูลค่าตั้งสิบล้าน”
เสี่ยวถิงถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะพูดขึ้น“บ้างครั้ง ผมก็รู้สึกว่าผมกับหยิ่นเจิ้งเป็นพี่น้องแท้ๆกันจริงๆ”
“จนกระทั่งตอนนี้ คุณบอกผมว่าหยิ่นเจิ้งกำลังจะฆ่าผม ผมรู้สึกว่าคุณกำลังพูดไร้สาระกับผมอยู่ แม้ว่าจะเห็นด้วยตาตัวเอง เจอกับตัวเองแล้วก็ยังไม่ยอมเชื่ออยู่ดี”
เสี่ยวถิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด“ผมหวังว่าพวกคนที่มาฆ่าผมเหล่านั้น จะเป็นคนที่แมงป่องส่งมา ไม่ใช่หยิ่นเจิ้ง”
“เมื่อตะกี้หยิ่นเจิ้งมาแล้วสินะ?”เสี่ยวถิงหันไปถามหลี่ฝาง
หลี่ฝางพยักหน้า
“ขั้นตอนกระบวนการของเขา ผมเป็นคนจัดการวางแผนให้เอง น่าเสียดายที่จากนี้ไปคงจะไม่แล้ว” เสี่ยวถิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าซับซ้อน
หลี่ฝางหันมองเสี่ยวถิง พร้อมกับพูดขึ้น“คุณกลับไปนอนสักหน่อยเถอะ พรุ่งนี้เช้า ผมจะให้คนไปส่งคุณที่เมืองเอก”
“ผมอยู่ต่อไม่ได้เหรอ?”เสี่ยวถิงขมวดคิ้ว พูดขึ้น“ผมอยากอยู่ช่วยคุณ หยิ่นเจิ้งโหดร้ายมากกว่าที่คุณคิดไว้เยอะ เขามาร่วมมือกับคุณ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีความคิดชั่วร้ายนะ”
“เขาไม่ได้โง่ขนาดนั้น ตอนนี้ เขากับแมงป่องเปิดสงครามกันแล้ว ถ้าผมไม่ช่วยเขา เขาจะต้องตายอยู่ในเงื้อมมือของแมงป่องแน่ๆ ถ้าเขาคิดจะมาทำอะไรผมในสถานการณ์แบบนี้ ก็เท่ากับว่าเขารนหาที่ตายไม่ใช่หรือไง?”หลี่ฝางพูดยิ้มๆ
“ใครบอกคุณว่าไม่มีความช่วยเหลือจากคุณแล้ว หยิ่นเจิ้งจะพ่ายแพ้ให้กับแมงป่อง?”
จู่ๆเสี่ยวถิงก็สบถหึออกมา พูดขึ้นอย่างเย็นชา“เพื่อที่จะต่อกรกับแมงป่อง หยิ่นเจิ้งวางแผนมานานสามปีเต็มๆ ต่อให้ไม่มีคุณ เขาก็มั่นใจได้เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะกำจัดแมงป่องได้อยู่แล้ว”
“หลายปีมานี้ หยิ่นเจิ้งเอาแต่ถอยมาตลอด ทำให้แมงป่องยิ่งดูถูกความสามารถของเขาขึ้นไปอีก แต่ในความจริงแล้ว หยิ่นเจิ้งยอมถอยเพื่อให้ได้เข้าใกล้มากขึ้นมาตลอดเวลา ทำให้แมงป่องไม่ทันได้เตรียมตั้งหลักยังไงล่ะ”
“ยังมีอีก แมงป่องจะเดินทัพทางธุรกิจแล้ว ก็เป็นหยิ่นเจิ้งที่ฉุดเขาเอาไว้ พวกคนที่ร่วมมือกับแมงป่องเหล่านั้น ก็แอบมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหยิ่นเจิ้งอย่างลับๆ แต่ต่อหน้า พวกเขากลับทำเหมือนคนแปลกหน้า ดูแล้วไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกันเท่าไร”
“ในความจริงแล้ว หยิ่นเจิ้งกำลังวางแผนลวงแมงป่อง แผนในครั้งนี้ จะทำให้แมงป่องต้องชดใช้เงินจำนวนมหาศาล”
“แมงป่องไม่รู้เรื่องธุรกิจ ไม่รู้จักความน่ากลัวของสงครามทางธุรกิจ”
“จากแผนการของหยิ่นเจิ้ง แมงป่องจะใช้เงินของตัวเองลงทุนให้กับธุรกิจของหยิ่นเจิ้งทั้งหมด แล้วพอถึงตอนนั้น ตอนที่หยิ่นเจิ้งติดกับเข้าแล้ว”
“แมงป่องก็จะล้มละลาย สถานที่ของเขา ก็จะถูกธนาคารยึด”
เสี่ยวถิงยิ้มอย่างชั่วร้าย“แค่ทั้งหมดนี้ แมงป่องยังไม่รู้เท่านั้นเอง”
หลี่ฝางพูดขึ้น“ถ้าคุณอยู่ต่อจะไม่ปลอดภัย ช่วงหลายวันนี้ หยิ่นเจิ้งมักจะมาหาผมบ่อยๆ ถ้าคุณถูกเจอตัวเข้า ไม่เพียงแต่ผมจะรู้สึกอึดอัดแล้ว คุณเอง ก็จะตกอยู่ในอันตรายอีกครั้งแน่นอน”
“ที่ที่อยู่ติดทะเลจะบอกว่าเล็กก็เล็กนะ แต่จะบอกว่าใหญ่มันก็ใหญ่ จะต้องทีสักที่ ที่หยิ่นเจิ้งหาไม่เจอ ผมมีที่ของตัวเองที่พอจะพักอาศัยได้ คุณชายหลี่ต้องการผมเมื่อไร สามารถโทรมาหาผมได้เลย”เสี่ยวถิงยื่นนามบัตรให้กับหลี่ฝาง
“โรงฆ่าสัตว์?”หลี่ฝางอึ้งตะลึงไป
“ใช่ เถ้าแก่ของโรงฆ่าสัตว์แห่งนั้น เป็นเพื่อนเก่าของผม ถ้าผมมีปัญหาอะไร เขาก็จะช่วยเหลือผมแน่นอน ที่นั่นปลอดภัยมากสำหรับผม”เสี่ยวถิงพูดขึ้น
“จะรับประกันได้ยังไงว่าคุณจะไม่ไปหาแมงป่อง?”หลี่ฝางขมวดคิ้วพูดขึ้น
“แมงป่อง ก็ไม่ได้ดีไปหว่าหยิ่งเจิ้ง ขนาดหยิ่นเจิงยังจะฆ่าผมแล้วเลย ถ้าผมช่วยแมงป่องทำสำเร็จแล้ว มีเหรอที่แมงป่องจะยอมปล่อยผมไป? เหอะๆ แม้ว่าผมจะไม่ได้ใส่ใจชีวิตของตัวเองมากนัก แต่ผมจะปล่อยภรรยากับลูกๆของผมไว้ไม่ได้ ผมอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ได้เห็นพวกเขาแต่งงาน แล้วก็อยากอุ้มหลานด้วย”
เสี่ยวถิงพูดยิ้มๆ“อีกอย่าง ภรรยาและลูกของผม คุณก็เป็นคนส่งตัวพวกเขาไปเอง คุณรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นั่น ถ้าผมกล้าไปพึ่งพิงแมงป่อง คุณก็จะไม่มีทางปล่อยพวกเธอไปแน่ๆใช่ไหมล่ะ?”
หลี่ฝางพยักหน้า พูดขึ้น“ก่อนที่แมงป่องจะถูกกำจัดทิ้ง คุณเป็นศัตรูกับหยิ่นเจิ้ง ก็เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับผม”
เสี่ยวถิงก้าวขาเดินจากไป
หลี่ฝางหันมามอง โรงฆ่าสัตว์แห่งนี้อยู่ห่างจากที่นี่อย่างน้อยก็สิบกว่ากิโลเมตร แต่แถบนี้เป็นหมู่บ้านชนบท แถมยังเป็นกลางดึกอีก จะต้องโบกรถไม่ได้แน่ๆ
หรือว่าเขา จะเดินไปอย่างนั้นเหรอ?
หลี่ฝางส่ายหัว ไม่ได้สนใจอะไรเขา
ค่ำคืนนี้ เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ตรงประตูทางเข้าของบริษัทหยิ่นเจิ้ง ถูกสาดขี้ จนทำให้วันต่อมาไม่สามารถเปิดทำการได้ตามปกติ
หยิ่นเจิ้งกำลังหมดหนทาง ทำได้แค่ประกาศหยุดสามวัน แถมยังต้องจ่ายเงินค่าลาหยุดให้อีก
หลี่ฝางใช้เบอร์ที่ไม่เหมือนกัน ผลัดกันโทรไปหาลู่หลุ่ยหลายสาย แต่อีกฝั่งเพิ่งจะรับสาย ก็วางสายลงทันที เห็นได้ชัดว่าในครั้งนี้ ลู่หลุ่ยตัดสินแน่วแน่แล้วว่าจะเลิกกับตัวเอง แม้ว่านี่จะเป็นการเข้าใจผิด ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด
พวกของเหมิงเหมิง ก็กลับไปกันหมดแล้ว
พวกเขาอยู่ที่นี่ หลี่ฝางไม่ไว้วางใจ
ส่วนเฉินเสี้ยว ก็คือคนที่ถูกมีดกรีดจนเป็นแผลที่หน้าทำให้เสียโฉม หลี่ฝางได้เตรียมโรงพยาบาลศัลยกรรมที่ดีที่สุดให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว ช่วยเขาฟื้นฟูใบหน้ากลับมาอีกครั้ง
วันนี้ ถังหยู่ซวนออกจากโรงพยาบาลแล้ว
แม้ว่าบาดแผลที่ตัวของถังหยู่ซวน จะยังไม่หายสนิทดี แต่หลี่ฝางก็ไปรับเขาออกมาจากโรงพยาบาลอยู่ดี
ตอนนี้ ข้างกายของหลี่ฝาง ปลอดภัยกว่าโรงพยาบาลนั้นมาก
ถังหยู่ซวนมองหลี่ฝางพร้อมกับพูดยิ้มๆ“อำเภอหลินในตอนนี้ช่างวุ่นวายจริงๆ มีแต่เรื่องเต็มไปหมด”
“ก็ใช่น่ะสิ ขนาดห้างสรรพสินค้าก็ยังเกิดเรื่องขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน…..เห้อ สงครามระหว่างแมงป่องกับหยิ่นเจิ้งไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อไปนานขนาดไหน แล้วก็ไม้รู้ว่า ยังมีอีกกี่คนที่ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย”หลี่ฝางถอนหายใจออกมา
ผ่านไปสองวัน ทางหลี่ฝางก็มีข่าวคราวส่งมาแล้ว หยิ่นเหล่ยถูกจับตัวแล้ว คนที่ถูกจับไปพร้อมกัน ก็มีจ้าวกัง ซึ่งก็คือลูกชายของจ้าวโหย่วฉาย
เรื่องที่จ้าวกังถูกจับตัว ก็อยู่ในการคาดการณ์ของหลี่ฝางเช่นกัน
สองวันนี้ จ้าวโหย่วฉายอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับหยิ่นเจิ้งโจมตีแมงป่องมาตลอด ทำให้แมงป่องรู้สึกโกรธอัดอั้นตันใจ
แมงป่องไม่ระเบิดโมโหออกมาก็แปลกแล้ว
เพราะว่าเงินรางวัลร้อยล้านนั่น ทำให้ช่วงสองวันนี้ แมงป่องไม่กล้าโผล่หัวออกมา กลัวว่าไม่ทันได้ระวังตัวจะถูกคนแปลกหน้าจัดการไป
ในตอนนี้เอง ตัวของหลิ่นเหล่ยเองก็ออกมาพูดความจริง ว่าเงินหนึ่งรางวัลหนึ่งร้อยล้านนั่น เป็นโมฆะตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่วันนี้ ทุกคนก็คิดซะว่าเป็นเรื่องล้อเล่นก็แล้วกัน
หลี่ฝางยิ้มๆ พูดขึ้น“หยิ่นเหล่ย ไอ้เด็กนี่ ขี้ขลาดจริงๆ ไม่คิดว่าจะยอมประนีประนอมไวขนาดนี้”
ถังหยู่ซวนพูดขึ้น“แล้วต่อไปแมงป่องจะตอบโต้กลับมาทุกทางแล้วสินะ?”
“ตอนนี้จ้าวกังถูกกุมอยู่ในกำมือของแมงป่องแล้ว ทางฝั่งของจ้าวโหย่วฉาย ก็เกรงว่าจะไม่กล้าผลีผลามลงมือไปโดยไม่คิดไตร่ตรองก่อนแน่นอน ส่วนทางด้านของหยิ่นเจิ้งก็คงจะรู้สึกกลัวและเป็นกังวลอยู่เหมือนกัน”ถังหยู่ซวนพูดขึ้นอย่างวิเคราะห์
ถึงยังไง เด็กทั้งสองคนก็ถูกแมงป่องจับตัวไว้แล้ว คนที่เป็นพ่อสองคนนี้ ยังกล้าจะไปตะโกนโห่ร้องกับเขาอีกเหรอ?
หลี่ฝางส่ายหัว พูดขึ้น“ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันจะรักษาท่าทีการกระทำไว้เหมือนเดิม แต่หยิ่นเจิ้งเคยบอกกับฉันว่าเขาเดาได้ตั้งนานแล้วว้า แมงป่องจะจับตัวเด็กทั้งสองคนนี้ไป ดังนั้นจึงบอกได้ว่าหยิ่นเจิ้งน่าจะไม่ยอมถอยไปแน่นอน”
ช่วงพลบค่ำ จู่ๆเฉินเจียโล่ก็กลับมา
หลี่งฝางมองเฉินเจียโล่ พร้อมกับถามขึ้น“นายวิ่งมาซะรีบร้อนขนาดนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”
“คุณชายครับ คุณรู้จักจ้าวกังไหม?”เฉินเจียโล่ถามขึ้น
“ลูกชายของจ้าวโหย่วฉาย ตอนนี้ตกอยู่ในกำมือของแมงป่องแล้ว ทำไมฉันจะไม่รู้?”หลี่ฝางยิ้มๆ พูดขึ้น
เฉินเจียโล่สีหน้านิ่งขรึม“แล้วคุณรู้ไหม ว่าจ้าวกังตายแล้ว”
“ว่าไงนะ!”
หลี่ฝางตอนนี้กำลังกินข้าวอยู่ พอได้ยินแบบนี้ ตะเกียบก็ร่วงหล่นลงที่พื้นทันที
จ้าวกังตายแล้ว?
หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดขึ้น“แมงป่องบ้าไปแล้วเหรอ?”
“เรื่องนี้มันแปลกๆน่าสงสัย แมงป่องไม่ใช่คนโง่ ถ้าจ้าวกังมีชีวิตอยู่ก็จับไว้เป็นตัวประกันได้ แมงป่องได้ตัวเขามา ก็เท่ากับว่าเป็นยันต์ช่วยชีวิตได้เลย แต่ตายแล้วไม่เพียงแต่ยันต์ช่วยชีวิตของจ้าวกังจะไม่มีแล้ว แต่ยังทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมายด้วย”
เฉินเจียโล่พูดขึ้น“แมงป่องไม่ใช่คนโง่ จะลงมือฆ่าจ้าวกังได้ยังไง ใช่ไหมล่ะครับ?”
“ใช่ แต่ว่า ในตอนนี้ จ้าวโหย่วฉายจะคิดเรื่องพวกนี้ได้ยังไง? ลูกชายของเขาตายไปแบบนี้ ในเวลานี้ เขาก็คงจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไปตั้งนานแล้ว”
หลี่ฝางมองเฉินเจียโล่ พร้อมกับถามขึ้น“นายรู้ได้ยังไง ว่าจ้าวกังตายแล้ว? เขาตายได้ยังไง ตายที่ไหน?”
“หยิ่นเหล่ยเด็กน้อยนั่นเป็นคนบอกมา เขาวิ่งกลับมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้กำลังอยู่ที่ไอซียู ประโยคแรกที่พูดขึ้นตอนที่เขาวิ่งมา ก็คือจ้าวกังตายแล้ว ดูเหมือนว่าจะรับไม่ได้กับการกดขี่ข่มเหงของแมงป่อง ก็เลยฆ่าตัวตาย”
เฉินเจียโล่พูดขึ้น“ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆอยู่ไม่น้อย ไอ้เจ้าเด็กหยิ่นเหล่ยนั่นอ่อนหัดขนาดนั้น แถมยังต่อสู้ไม่เป็น แล้วจะหนีรอดออกมาจากเงื้อมมือของแมงป่องได้ยังไง?”
“คุณว่าเรื่องนี้มันน่าสงสัยไหม?”
หลี่ฝางพยักหน้า พูดขึ้น“ในมือของแมงป่องมีคนของหยิ่นเจิ้งอยู่ด้วย ดังนั้นการที่หยิ่นเหล่ยหนีออกมาได้ ไม่แปลกเลยสักนิด แต่จ้าวกังตายได้ยังไง เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียด”
“ฉันสงสัยว่า เรื่องนี้เป็นฝีมือของหยิ่นเจิ้ง”
เฉินเจียโล่พูดขึ้น“ผมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่ามันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา”
“คุณชาย ผมกลับไปเมืองเอกมาแล้ว ทางฝั่งของเมืองเอกเกิดเรื่องขึ้นแล้วรับ”