NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 730 ส่งโลงศพไปให้ก็แล้วกัน
ผู้จัดการล็อบบี้คนนั้น สีหน้าอึดอัดทันที
เขาจะไปดูแลจัดการแทนหลี่ฝางได้ยังไงล่ะ?
เขาเป็นคนของท่านจวน
ผู้จัดการล็อบบี้ยิ้มอย่างอึดอัด ก่อนจะพูดขึ้น“คุณชายหลี่ คุณอย่าล้อเป็นเล่นสิครับ ผมติดสัญญากับคุณชายจวนอยู่นะครับ ถ้าผมหนีไป จะต้องชดใช้เงินค่าผิดสัญญาก้อนใหญ่เลยนะครับ”
หลี่ฝางพยักหน้า พูดขึ้น“ฉันรู้ แต่แกไม่ต้องกลัว เงินค่าผิดสัญญา ฉันจะชดใช้ให้เอง”
เงินแค่นี้ ถือว่าจิ๊บจ๊อยมากสำหรับหลี่ฝาง
แต่ผู้จัดการล็อบบี้จะกล้ารับปากเหรอ?
ถ้าเขาคิดจะเปลี่ยนงาน ท่านจวนไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆแน่นอน
“คุณชายหลี่ คุณรอสักครู่นะครับ”ผู้จัดการล็อบบี้เช็ดเหงื่อที่ใบหน้า ก่อนจะไปเรียกไอ้เด็กซน
ไอ้เด็กซน คือลูกชายที่ท่านจวนเลี้ยงดูจนโต
เขาเป็นคนแคระ แม้ว่ารูปร่างจะเล็กแกรน แต่ว่าเขาก็อยู่ข้างกายของท่านจวนมานานหลายปี แถมมีความสามารถไม่น้อย
ท่านจวนไม่อยู่ สถานที่ผับบาร์ต่างๆพวกนี้ไอ้เด็กซนถือว่ามีอำนาจสูงสุด
ผ่านไปสิบนาที
ก็มีคนที่ดูคล้ายเด็กคนหนึ่งเดินออกมาจากข้างในร้าน
“คุณชาย คุณมาแล้ว ในบาร์มีแขกที่รับมือยากอยู่สองคน พวกเขาทำให้แขกของพวกเราพากันหนีออกไปหมด”มีพนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามา พูดฟ้องทันที
“เอาล่ะ เตรียมห้องไพรเวทหนึ่งห้อง จากนั้นก็พาแขกวีไอพีสองคนนี้เข้าไปในห้องนั้น”
ไอ้เด็กซนพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ
ไอ้เด็กซนไม่กินทุเรียน แล้วก็ไม่กินเต้าหู้เหม็นด้วย ดังนั้นจึงบีบจมูกเอาไว้ พลางเดินไปรอที่ห้องไพรเวท
ในเวลานี้เอง ผู้จัดการล็อบบี้ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของหลี่ฝาง“คุณชายหลี่ คุณชายของพวกเรา เรียกให้คุณไปหาครับ เขาอยากจะคุยกับคุณสักหน่อย”
หลี่ฝางสบถเหอะ ใช้มือโอบเอวสาวสวยสองคนที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับพูดยิ้มๆ“นี่แกมาวุ่นวายอะไรกับฉันด้วย? ที่ฉันมาที่บาร์ ก็เพื่อมาพูดคุยกับสาวๆ ไม่ใช่มาหาคุณชายอะไรนั่นของพวกแกซะหน่อย”
“ตอนนี้ในบาร์ของฉันไม่มีพวกสาวๆแล้ว ก็เลยมาเที่ยวที่บาร์ของพวกแก พวกแกอย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้จะมาหาเรื่อง ฉันสาบานได้”หลี่ฝางพูดขึ้น“ถ้าฉันไม่ได้มาหาเรื่องจริงๆ ออกไปขอให้แกโดนรถชนตาย”
ผู้จัดการล็อบบี้หน้าบึ้งตึงทันที ไม่รู้ว่าคำพูดของหลี่ฝาง เป็นแค่การล้อเล่น หรือว่าข่มขู่กันแน่?
ถึงยังไงจากสถานภาพของหลี่ฝางแล้ว การจะฆ่าเขาให้ตาย มันง่ายนิดเดียว
ผู้จัดการล็อบบี้พูดขึ้นด้วยสีหน้าอมทุกข์“แต่คุณชายของพวกเรารออยู่ในห้องไพรเวทเรียบร้อยแล้วนะครับ คุณชายหลี่ เอางี้ไหม เดี๋ยวผมเรียกให้พวกสาวๆไปด้วยกันกับคุณก็แล้วกัน?”
“นั่นก็พอได้อยู่”
หลี่ฝางพยักหน้า ลุกขึ้นยืน“ใช่แล้ว เอาเต้าหู้เหม็นพวกนี้ไปด้วย ฉันเสียดายของ”
หลี่ฝางมาหยุดอยู่ตรงหน้าของโหจื่อ ก่อนจะพูดขึ้น“ไปกันเถอะ มีเรื่องต้องให้ทำแล้ว”
โหจื่อตามไปด้วย ยกไหล่ๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องไพรเวท
“คุณชายที่นี่ มีประวัติภูมิหลังอะไรบ้าง?”ตอนอยู่ระหว่างทาง หลี่ฝางถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
เกี่ยวกับคนแคระคนนี้ หลี่ฝางเคยเจอแค่ครั้งเดียว
ก็คือตอนที่อยู่ที่สถานตากอากาศ ในครั้งนั้น เขาส่งข้อมูลเกี่ยวกับหมาทิเบตันมาให้กับตระกูลหลี่
ตอนที่เจอกันครั้งที่แล้วก็ยังเป็นมิตรสหายกันอยู่ แต่เจอกันตอนนี้ แทบจะกลายเป็นศัตรูกันแล้ว
การเปลี่ยนแปลงรอบๆตัวนี้ ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ
“เขาน่ะ ปีนี้ก็ใกล้จะอายุสามสิบปีแล้ว แต่ดูแล้วเหมือนกับเด็ก เขาสำเร็จวิชามาจากวัดเส้าหลิน เคยฝึกฝนวิชาหัวเหล็กมา แล้วก็วิชากระดูกแข็งอีกมากมาย แต่ว่าวางใจได้ ต่อให้ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็กันกระสุนไม่ได้อยู่ดี”โหจื่อพูดดูถูกขึ้น
“พวกเรากับท่านจวน ไม่ได้มีความโกรธแค้นกันขนาดนั้น ไม่ถึงกับต้องใช้กระสุนหรอก”หลี่ฝางพูดกำชับโหจื่อไปหนึ่งประโยค
โหจื่อแค่หัวเราะเหอะๆ ไม่ได้พูดอะไร
ชั่วพริบตา ทั้งสองคนก็มาถึงยังห้องไพรเวทของไอ้เด็กซน
จากนั้น ผู้หญิงกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง ที่ในมือถือทุเรียนกับเต้าหู้เหม็น ก็มาถึงที่นี่เช่นกัน
ไม่นาน ไอ้เด็กซนก็ทำท่าสูดๆจมูก ท่าทางทนไม่ได้
หลี่ฝางเห็นแบบนี้ ก็รีบยื่นเต้าหู้เหม็นหนึ่งกล่องไปให้กับไอ้เด็กซนทันที“มาสิครับ พี่ๆ ลองชิมดู เต้าหู้เหม็นแท้ๆจากเมืองฉางซาเลยนะครับ ถึงกลิ่นจะเหม็น แต่รสชาติอร่อยมาก”
ไอ้เด็กซนส่ายหัว พูดขึ้นอย่างเย็นชา“ผมไม่กินของสิ่งนี้”
“บอกให้พวกสาวๆไปพักผ่อนก่อน แล้วพวกเรามาคุยธุระจริงจังกันเถอะ”ไอ้เด็กซนพูดขึ้น
หลี่ฝางสบถเหอะ ก่อนพูดตอบ“ไม่ได้สิครับ จะให้พวกสาวๆไปได้ยังไง? สำหรับพวกเราแล้ว นี่มันก็เป็นเรื่องที่จริงจังนะครับ”
หลี่ฝางโอบสาวสวยเอาไว้ ไม่ปล่อยให้พวกเธอจากไป
ส่วนไอ้เด็กซนก็ขมวดคิ้ว เขารู้ความหมายของหลี่ฝางดี
ความหมายก็คือเขาไม่อยากพูดคุยเจรจานั่นเอง
ไอ้เด็กซนมองหลี่ฝาง ก่อนจะพูดขึ้น“ดูเหมือนคุณชายหลี่คงจะชอบเที่ยวเล่นจริงๆนะครับ? ให้ผมทำบัตรสมาชิกให้เอาไหมครับ ให้ฟรีๆเลย?”
“ใจดีจริงๆนะครับ แต่ว่าคุณต้องทำหลายๆใบหน่อยนะ ผมกับพรรคพวกพี่น้อง มาเที่ยวที่บาร์ของพวกคุณทุกวัน”หลี่ฝางหัวเราะๆพร้อมกับพูดขึ้น
“แต่ว่าพี่น้องของผมก็เหมือนกับผม ชอบกินเต้าหู้เหม็นเหมือนกัน บาร์ของพวกคุณก็ไม่มีกฎห้ามว่าไม่ให้พาอาหารเข้ามาใช่ไหมล่ะ?”หลี่ฝากถามขึ้นอย่างยิ้มๆ
ไอ้เด็กซนตะโกนเรียกให้ผู้จัดการล็อบบี้เข้ามา พูดสั่งขึ้นต่อหน้าหลี่ฝาง“ออกไปติดป้ายหน้าร้านว่าห้ามไม่ให้แขกนำอาหารเข้ามาเดี๋ยวนี้”
หลี่ฝางได้ฟังแบบนั้นสีหน้าก็นิ่งขรึม ยืนอยู่ตรงข้ามกับไอ้เด็กซนพร้อมกับพูดขึ้น“นี่พี่ชาย หมายความว่ายังไง ไม่อยากให้ผมกับพวกพี่น้องของผมมาเที่ยวอย่างนั้นสินะ?”
“คุณชายหลี่ คุณมาเที่ยวเล่นหรือมาสร้างปัญหา?”ไอ้เด็กซนก็ไม่อ่อนข้อให้หลี่ฝางอีกต่อไป พูดฉีกกระชากหน้าไปตรงๆทันที
หลี่ฝางพูด“เหอะๆ แล้วทำไมผมต้องมาสร้างปัญหาด้วยล่ะ? คุณรู้ไหม?”
“พวกหญิงบริการในบาร์ของพวกเรา ถูกพวกคุณดึงตัวไปจนหมดแล้ว”หลี่ฝางพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
“พวกเธอสมยอมเอง ผมไม่ได้ดึงตัวพวกเธอมาเลยแม้แต่นิดเดียว” ไอ้เด็กซนส่ายหัวพูดขึ้น
“เหรอ? ถึงคุณจะไม่ได้เปิดปากพูดออกไปเองว่าดึงตัวพวกเธอมา แต่คุณกลับเพิ่มส่วนแบ่งให้กับสาวๆบริการในร้านของตัวเองตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับพวกเรา มิหนำซ้ำยังจัดหาอาหารที่พักพร้อมกับตบรางวัลให้อีก ที่คุณทำนี่คือทำให้ใครดูอย่างนั้นเหรอ? ไม่ใช่ทำให้คนอื่นดูหรอกหรือไง?”
“คุณพูดยอกย้อนอ้อมค้อมเพื่อที่จะบอกกับทุกคน ว่าที่นี่ของคุณยินดีต้อนรับพวกเธอทุกคนอย่างนั้นสินะ”
หลี่ฝางชี้ไปยังพวกผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังพร้อมกับพูดขึ้น“พวกผู้หญิงที่อยู่ข้างในนี้ สิบคนมีห้าคนที่เคยทำงานในบาร์ขอมผม”
“ความสัมพันธ์ของพ่อของผมและท่านจวนก็ดีมาก ถือว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันเลย ดังนั้น ผมคิดมาตลอดว่าพวกเราคือเพื่อนกัน ไม่ใช่ศัตรู แต่พวกคุณ กลับได้ทีขี่แพะไล่ เปิดประตูรับคนของผมไปเป็นของตัวเอง ทำให้กิจการผับบาร์ของผมตกต่ำลง สรุปแล้วคุณคิดอะไรอยู่กันแน่?”
หลี่ฝางถามขึ้นอย่างเย็นชา
ไอ้เด็กซนเงยหน้าขึ้นมามองหลี่ฝาง สบถหึก่อนพูดขึ้น“ทรัพย์สินของตระกูลหลี่มีมากมายมหาศาลพอๆกับของรัฐ ที่แท้กลับให้ความสำคัญกับธุรกิจเล็กๆน้อยๆพวกนี้ด้วยอย่างนั้นสินะ ผมยังนึกว่าพวกคุณจะไม่ใส่ใจมันซะอีก”
หลี่ฝางหรี่ตาพูดยิ้มๆ“ต่อให้ไม่ใส่ใจ ต่อให้พวกเราไม่สนเงินเล็กๆน้อยๆพวกนี้ แต่ว่า คุณก็ไม่ควรจะอาศัยตอนที่พวกเรากำลังล้มมาซ้ำเติมกันแบบนี้”
“เงินเลี้ยงดูลูกน้องผม ก็มาจากผู้หญิงพวกนี้ทั้งนั้น”หลี่ฝางพูดขึ้น
“คุณชายหลี่หมายความว่า ลูกน้องของคุณ เกาะผู้หญิงกินอย่างนั้นเหรอ?”ไอ้เด็กซนหัวเราะเยาะเย้ย
หลี่ฝางขมวดคิ้ว
ตอนแรกหลี่ฝางนึกว่าพอตัวเองระเบิดโมโหออกมาแล้วไอ้เด็กซนจะยอมคืนสาวๆพวกนี้ให้กับตนเองแต่โดยดี แต่คิดไม่ถึงว่า อีกฝั่งกลับแทบจะไม่เห็นตนเองอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
ส่วนโหจื่อที่อยู่ข้างๆ พอเห็นหลี่ฝางเริ่มท่าไม่ดีแล้ว จึงออกมาอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป
“ไอ้เด็กซนคุณยังห่วงหน้าตาอยู่ไหม ตอนเด็กคุณก็กินนมจนเติบโตมาไม่ใช่หรือไง ทุกคนต่างก็ล้วนต้องพึ่งพาผู้หญิงจนเติบใหญ่กันทั้งนั้น ไม่มีใครหัวเราะเยาะใครได้หรอก ผมจะบอกคุณตรงๆเลยแล้วกัน ที่พวกเรามาในวันนี้ก็เพื่อขอความเป็นธรรมกับคุณ ถ้าพวกคุณยังคงคิดถึงมิตรภาพอันเก่าแก่ของพวกเราล่ะก็ ช่วยคืนสาวๆพวกนี้กลับมาให้พวกเราด้วย”
“คำพูดของคุณ แทนหลอซ่าได้ไหม? ”ไอ้เด็กซนมองโหจื่อ ยิ้มๆอย่างดูถูกดูแคลน
สถานะของโหจื่อในตระกูลหลี่ อยู่ต่ำกว่าตำแหน่งของไอ้เด็กซนที่อยู่ฝั่งท่านจวนเยอะมาก
หลี่ฝางรีบพูดขึ้นทันที“แทนได้แน่นอนอยู่แล้ว”
“จริงๆ เสแสร้งแกล้งทำไปก็ไม่มีความหมายอะไร ท่านจวนพอเกิดเรื่องขึ้นก็ป่วยขึ้นมา พอเกิดเรื่องอีกก็ป่วยอีก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พรุ่งนี้ผมจะสั่งโลงศพชั้นหนึ่งอย่างดีส่งไปให้เขาถึงบนเขาเลย พอวันที่เขาตาย ก็จะได้ไม่ต้องวิ่งเต้นไปจองให้วุ่นวายกัน”
โหจื่อพูดขึ้นอย่างเย็นชา
คำพูดนี้ของโหจื่อไปกระตุกหนวดเสือของไอ้เด็กซนเข้า ไอ้เด็กซนลุกขึ้นมาทันที โหจื่อกลับหยิบปืนออกมาเล็งไปที่หัวของเขาก่อน“เตี้ยแบบนี้ ตอนนั่งกับตอนยืนมันต่างกันตรงไหน?