NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 745 นายเหลือแค่ฉันแล้ว
ลุงเฉียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วพูด: “หลังจากนี้สามวัน ถ้าหากไม่ได้ข่าวคราวจากลูกพี่ใหญ่ หรือว่ายังหาตัวลูกพี่ใหญ่ไม่เจอ งั้นทางเรา จะต้องถอยตัว”
“กลับไปทางเก่า พวกเราจะตามคุณท่านหลี่ ออกไปจากเมืองเอก” ลุงเฉียนพูด
หลี่ฝางยืนโง่อยู่ครู่ ในใจรู้รู้สึกหนักมากๆ : “งั้นเปอร์เซ็นต์ที่พ่อผมจะกลับมาคือ……”
“ในใจของฉัน เปอร์เซ็นต์ที่ลูกพี่ใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ หรือร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดไป” ลุงเฉียนพูด
“ใช่แล้ว ยัยฉินวี่เฟยนั่น อยู่ที่บ้านพักตากอากาศใช่มั้ย นายไปอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ” เห็นได้ชัดว่าลุงเฉียนไม่อยากให้บทสนทนานี้ดำเนินไปต่อ จึงปัดมือ
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วเดินออกไป
พูดมากไปตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์
เวลาสามวัน รออย่างเงียบๆ ก็พอแล้ว
ออกมาจากลุงเฉียน หลี่ฝางก็มาหาฉินวี่เฟย
ฉินวี่เฟยในตอนนั้น กำลังนั่งอยู่บนศาลาในสวน ในมือถือหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม พลางอ่านอย่างเงียบๆ
หลี่ฝางมอง พลางยิ้มทักทาย: “ไม่ได้รบกวนเธอใช่มั้ย?”
ฉินวี่เฟยเงยหน้า พลางหลี่ฝางที่กลับมา และยิ้มขึ้นอย่างดีใจ: “นายกลับมาแล้วเหรอ?”
หลี่ฝางมองฉินวี่เฟย ในมือของฉินวี่เฟย กำลังถือหนังสือเศรษฐกิจอยู่เล่มนึง ฉินวี่เฟยยิ้มอย่างเลิ่กลั่ก แล้วพูด: “นี่เป็นหนังสือที่พ่อฉันแนะนำมา พ่อให้ฉันอ่านเยอะๆ จะได้มีความรู้ไว้หน่อย”
“ใช่แล้ว ฉันยกบริษัทให้พ่อฉันดูแลแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีความสามารถพอที่จะดูแลบริษัทใหญ่ขนาดนั้น แล้วก็ฉันผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง สู้กับคนมากมายทั้งบริษัทไม่ไหวหรอก”
“สู้ยกอำนาจจัดการบริษัทนั้น ให้กับพ่อฉันดีกว่า ถึงยังไงก็เป็นคนกันเอง ฉันวางใจ แล้วก็ เมื่อก่อนที่คุณปู่ฉันยังอยู่ พ่อฉันก็เป็นคนดูแลบริษัท แถมเขายังทำได้ดีมากอีกด้วย”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ก็ดีนะ แต่ว่า อ่านหนังสือแบบนี้ ฉันคิดว่าไม่มีประโยชน์หรอก ฉันว่าไปตามดูพ่อของเธอ แล้วเรียนรู้จากเขายังดีกว่า”
“ช่างมันเถอะ ที่จริงแล้วฉันก็อ่านเล่นๆ ไปงั้น นายคิดอยากให้ฉันเป็นประธานกรรมการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจริงๆ เหรอ ฉันไม่อยากเป็นหรอก เมื่อก่อน ฉันถูกบีบให้เป็นเท่านั้นเอง ตอนนี้ พี่ฉันก็ได้สติแล้ว และก็กลับไปช่วยงานที่บริษัทแล้วด้วย เขามีความสามารถในการจัดการบริษัทมากกว่าฉัน เพราะงั้น ฉันไม่คิดจะกลับไปที่บริษัทแล้ว” ฉินวี่เฟยพูด
หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่ มองฉินวี่เฟย พลางถาม: “งั้นเธอคิดจะกลับไปที่ไหน? กลับมหาลัยเหรอ?”
ฉินวี่เฟยส่ายหน้า แล้วพูด: “ไม่อ่ะ ฉันเรียนจนเอียนแล้ว ถึงยังไงตอนนี้ฉันก็ยื่นเรื่องพักการเรียนไปแล้ว ก็ขี้เกียจกลับไปแล้ว แล้วก็ เพื่อนร่วมชั้นก็รู้ถึงฐานะของฉันแล้ว ประธานกรรมการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ฉันกลับไปตอนนี้ คงจะถูกคนเขานินทากันแน่ๆ เลย ไม่ใช่แค่โดนเพื่อนร่วมชั้นนินทา แม้แต่คนในสังคม ก็จะจับตาฉันด้วย”
“นั่นมันก็จริง งั้นหลังจากนี้เธอวางแผนจะทำอะไร?” หลี่ฝางหัวเราะ พลางถาม
“ที่จริงแล้วฉันชอบวาดรูปน่ะ ฉันอยากจะวาดการ์ตูนสักเรื่อง นี่ถือได้ว่าเป็นความฝันของฉันเลย ถึงแม้สายทางนักวาดการ์ตูนในประเทศ จะลำบากมากๆ และพรสวรรค์ของฉันไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ฉันอยาก ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ คงจะเป็นเรื่องที่มีความสุขมากๆ แน่” ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง ด้วยนัยน์ตามีความหวัง: “นายจะสนับสนุนฉันมั้ย?”
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “แน่นอนสิ”
“ใช่แล้ว เมื่อกี้ฉันได้ยินมา นายเลิกกับลู่หลุ่ยแล้วเหรอ?” จู่ๆ สีหน้าของฉินวี่เฟยก็เปลี่ยนไป เป็นซับซ้อนพลางมองหลี่ฝาง
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “เธอเข้าใจผิดว่าฉันกับเหยนเสี่ยวน่า มีอะไรกัน……”
“แน่นอน เหตุผลหลักๆ ที่เลิกกัน ก็เพราะว่าเธอรู้สึกไม่มั่นคง รู้สึกว่าฉันไม่ค่อยแคร์เธอเท่าไหร่ พูดตามตรง เหตุผลที่พวกเราสองคนเลิกกัน มันอยู่ที่ฉันเอง ฉันไม่ได้ใส่ใจเธอมานานมาก ไม่ได้ทำหน้าที่ที่แฟนที่ดีควรจะทำ”
ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว: “ทำไมนายไม่อธิบายกับเธอดีๆ นายกับเหยนเสี่ยวน่า……เป็นไปได้ไงกัน?”
“ช่างเถอะ ฉันรู้สึกว่าสภาพฉันในตอนนี้แย่มาก ถึงแม้ฉันจะอธิบายไป แล้วลู่หลุ่ยให้อภัย ไม่นาน พวกเราก็ต้องเลิกกันอยู่ดี ฉันคิดดีแล้ว ฉันก็ลู่หลุ่ย เราเข้ากันไม่ได้” หลี่ฝางถอนหายใจ พลางพูด
“ชีวิตของฉัน ไม่ได้ธรรมดาเหมือนคนทั่วไป ส่วนลู่หลุ่ย ก็ไม่มีทางเข้าใจฉันได้ ส่วนฉันถ้ายุ่งขึ้นมา ก็ดูแลฝั่งลู่หลุ่ยไม่ได้”
หลี่ฝางยิ้มอย่างทำใจไม่ได้ แล้วพูด: “การคบกันครั้งนี้ ให้มันสิ้นสุดที่ตรงนี้เถอะ”
“แล้วหลินชิงชิงล่ะ? ที่จริงฉันรู้สึกมาตลอด ว่านายก็ชอบหลินชิงชิง” ฉินวี่เฟยพูด: “เรื่องก็พวกนายสองคน ฉันก็พอได้ยินมาบ้าง”
“ตอนแรกที่ฉันชอบนาย ฉันแอบส่งคนไปสืบมา นายไม่ว่าอะไรใช่มั้ย?” ฉินวี่เฟยแลบลิ้น
หลี่ฝางยิ้มอย่างไม่แคร์: “เอาเลย เรื่องนั้นยังไงก็ได้ ฉันก็ไม่ได้คิดที่จะปิดบังอะไร”
ในตอนนี้ หลี่ฝางคิดว่า ผู้หญิงที่มีเงินมีอำนาจคนนึง ยากที่จะหลอกได้ อย่างลู่หลุ่ย เธอรู้เรื่องของตนน้อยมาก ถึงแม้อยากจะรู้ ก็ไม่มีช่องทาง
แต่ฉินวี่เฟยไม่เหมือนกัน ฉินวี่เฟยคนนี้มีเงิน แค่ใช้เงินไปสืบ ก็สามารถรู้เรื่องหลี่ฝางได้อย่างละเอียด ตรวจสอบมาได้อย่างชัดเจน
“เห็นทีข่าวของเธอ คงจะไม่ได้แม่นขนาดนั้น เธอรู้แค่ว่าฉันกับลู่หลุ่ยเลิกกันแล้ว เห็นทีจะยังไม่รู้ว่า ฉันกับพี่ชิงชิงก็แตกหักกันไปแล้วสินะ?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด
“แตกหักกัน?” ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว แล้วพูด: “ความสัมพันธ์ของพวกนายดีซะขนาดนั้น ทำไมถึงได้แตกหักกันล่ะ ฉันได้ยินมาว่า ตั้งแต่ตงไห่จนมาถึงเมืองเอกนายกับหลินชิงชิง ไม่เคยทะเลาะกันเลย แล้วก็ เหตุผลที่หลินชิงชิงไม่แต่งงานกับมู่เสี่ยวไป๋ ก็เพราะว่านายคั่นอยู่ตรงกลาง”
“ที่นายกับมู่เสี่ยวไป๋เป็นศัตรูกัน ก็เพราะหลินชิงชิง” ฉินวี่เฟยถามอย่างไม่เข้าใจ: “นายกันหลินชิงชิง ทำไมถึงได้แตกหักกันได้ล่ะ?”
หลี่ฝางเม้มปากยิ้ม แล้วพูด: “ฉันทำร้ายพ่อของเธอจนตาย ลูกพี่หลิน บัญชีนี้ของหลินชิงชิง มาลงอยู่ที่ฉัน ดังนั้น ตอนนี้เธอจึงเกลียดฉันเข้าไส้ ตอนนี้เธอออกจากเมืองเอกไปแล้ว แล้วก็เป็นไปได้มากว่าจะไม่กลับมาเจอฉันอีกแล้ว”
ฉินวี่เฟยไม่ได้พูดอะไร พลางวางหนังสือในมือลง และเดินเข้าไปหาหลี่ฝาง
ฉินวี่เฟยกอดหลี่ฝางไว้ แล้วพูดกับหลี่ฝางเสียงเบา: “แบบนี้ ข้างกายนาย ก็เหลือแค่ฉันแล้วใช่มั้ย?”
หลี่ฝางชะงัก ร่างกายสะดุ้งอยู่ครู่
ฉินวี่เฟยยิ้มอย่างซับซ้อน: “พูดตามตรง ความจริงแล้วตอนนี้ฉันดีใจนะ ฉันรู้แบบนี้เหมือนกันกำลังมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น แต่ว่า ฉันก็รู้ ในใจของนาย ไม่ว่าจะเป็นลู่หลุ่ยหรือหลินชิงชิง พื้นที่ของพวกเธอในใจของนาย ล้วนมากกว่าฉัน ฉันคิดมาตลอด ฉันคงเป็นได้แค่กิ๊กของนาย คงไม่มีโอกาสขึ้นไปเป็นแฟนของนายได้ แต่วันนี้ ฉันคงไม่ใช่ไม่มีโอกาสแล้ว”
“พูดได้ว่า โอกาสของฉันมาถึงแล้ว” ฉินวี่เฟยกอดหลี่ฝางแน่น ไม่ยอมปล่อย
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ ในใจกลับไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี
ไม่นาน หลี่ฝางก็อุ้มฉินวี่เฟยไปที่คฤหาสน์ของตน และไม่ออกมา จนวันถัดมา……
ในค่ำคืนนึง เลือดก็ได้อาบไปทั่วฟ้าของเมืองเอก
เจ้าของผับบาร์สิบกว่าแห่ง พวกคนใต้ดินในเมืองเอก ทั้งหมดถูกฆ่าตาย ฝั่งหูเฟยก็หาหลักฐานอะไรไม่พบเลย
แต่ว่า หูเฟยที่ไวต่อความรู้สึก ก็คิดได้ว่ามันคงเกี่ยวข้องกับหลี่ฝาง
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา หูเฟยโทรหาหลี่ฝาง
เช้าตรู่ หลี่ฝางเพิ่งจะสะลึมสะลือตื่นขึ้น ด้านข้างก็มีฉินวี่เฟยที่กำลังหลับอย่างสบาย เขาเห็นสายที่ไม่ได้รับ พลางขมวดคิ้ว
หลี่ฝางโทรหาหูเฟย เมื่อสายติด หลี่ฝางก็ยิ้มอย่างกวนๆ : “พี่หูทำไมถึงได้ว่างขนาดนี้ โทรมาหากันตั้งแต่เช้าตรู่ เตรียมตัวเลี้ยงข้าวเช้าฉัน หรือว่าจะนัดฉันออกไปวิ่งออกกำลังตอนเช้ากันเหนี่ย?”
“ถ้าหากคุณชายหลี่มีเวลาว่าง ผมอยากจะเลี้ยงอาหารเช้าคุณชายสักมื้อ” หูเฟยพูด
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วถาม: “มีเรื่องเหรอ?”
“ใช่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” หูเฟยพูด: “ถ้าหากคุณชายหลี่ไม่ว่าง ผมไปหาคุณชายที่บ้านพักตากอากาศก็ได้ พวกเราต้องคุยกัน”
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “งั้นนายมาหาฉันที่บ้านพักตากอากาศเถอะ”
พูดจบ ก็กดวางสายไป ส่วนฉินวี่เฟยที่อยู่ด้านข้าง ก็ถูกหลี่ฝางปลุกให้ตื่น ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางด้วยสีหน้ามีความสุข แล้วพูด: “นายรู้มั้ย? ที่จริงแล้วความหวังที่สูงสุดของฉันก็คือตอนนี้ ทุกวันที่ตื่นมา สิ่งแรกที่ฉันเห็น ก็คือนาย”