NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 748 งานเลี้ยงที่มีเลศนัยแอบแฝงของท่านจวน
พวกที่อยู่ข้างนอก บนมือล้วนถือม้วนหนังสือพิมพ์อยู่ และหลังจากที่เห็นหลี่ฝาง ข้างในหนังสือพิมพ์ ก็ปรากฏของแวววับขึ้นมา
นั่นก็คือมีด
วินาทีที่เห็นมีด หลี่ฝางกุมมือของฉินวี่เฟย แล้ววิ่งหนีทันที หลี่ฝางพูดออกมาว่า “วิ่ง!”
และพวกที่อยู่ข้างนอก ก็วิ่งตรงเข้ามา หาหลี่ฝางและฉินวี่เฟย พุ่งตรงเข้ามา พวกเขามีจำนวนเยอะมาก จนกลายเป็นวงกลมล้อมรอบเอาไว้
หลี่ฝางเอาชาไข่มุกที่อยู่บนมือฉินวี่เฟยขึ้นมา แล้วเขวี้ยงออกไปทั้งหมด แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผล
เพียงพริบตา หลี่ฝางก็ถูกล้อมรอบเอาไว้
ส่วนทางด้านนึง ก็มีคนสองคนเดินออกมาอยู่ตรงหน้า หนึ่งในนั้น จับผมของลู่หลุ่ยเอาไว้ และดึงมาอยู่ตรงหน้าของหลี่ฝาง
“คุณชายหลี่ นี่เป็นแฟนของคุณไม่ใช่รึไง?” คนๆนั้นหัวเราะอย่างเย็นชา “หน้าตาสะสวยซะจริง น่าอิจฉาคุณจริงๆ คุณชายหลี่ บุญเรื่องผู้หญิง ของคุณนี้ช่างดีซะจริงๆ”
หลี่ฝางมองหน้าคนๆนี้ แล้วพูดว่า “ปล่อยเธอไป แกเป็นบ้าไปแล้วรึไง ฟ้าสว่างขนาดนี้ แกคิดจะทำอะไร แกไม่กลัวว่าฉันจะโทรแจ้งตำรวจรึไง?”
“ฮ่าๆ แกอยากแจ้งก็แจ้งไปเลย รู้เบอร์มือถือไหม? ถ้าเกิดไม่รู้ล่ะก็ ฉันสามารถบอกแกได้ อีกอย่าง ฉันชื่อว่าหวางซวง บอกให้พวกเขาตรวจสอบดูก็ได้ ฉันเป็นแขกประจำของพวกเขา ฉันไม่ว่าอะไรหรอก อยากจับฉันก็จับเลย ยังไงซะ ข้างในคุกสำหรับฉันแล้ว ก็เหมือนเป็นบ้านตัวเอง”
หวางซวงหัวเราะ แล้วพูดว่า “แต่ว่าฉันโดนจับก็ไม่เป็นไร แต่ว่าผู้หญิงที่อยู่ในมือของฉัน ก็คงจะต้องรับกรรมไปด้วย”
“ถ้าเกิดแกไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ได้รับบาดเจ็บล่ะก็ งั้นก็ให้ความร่วมมือกับฉัน แล้วไปขึ้นรถกับฉันซะ” หวางซวงพูดข่มขู่ด้วยเสียงที่เย็นชา
ข้างหลังของเขา มีรถตู้คันนึงปรากฏออกมา
และคนที่ขับรถคันนั้น กลับเป็นฉินเสี่ยวหู่ หลี่ฝางพอเห็นฉินเสี่ยวหู่ ภายในใจก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อย
ฉินเสี่ยวหู่คนนี้ เป็นพวกเดียวกัน แน่นอนว่า เขาก็ยังไม่ถูกเอารายชื่อออกจากคนทรยศ
หลี่ฝางกุมมือของฉินวี่เฟย แล้วพูดว่า “ฉันคงจะต้องทำให้เธอลำบากไปด้วยแล้ว””
“ไม่เป็นไร ไม่ว่าคุณจะเจอกับความลำบากอะไร ฉันก็จะอยู่เคียงข้างคุณ ฉันเตรียมใจมาตั้งแต่แรกแล้ว ไปกันเถอะ” ฉินวี่เฟยเป็นคนที่รู้งานมาก เธอเป็นคนเริ่มกุมมือของหลี่ฝาง แล้วเดินขึ้นไปบนรถด้วยกัน
วินาทีที่เข้าไปข้างในรถ ฉินวี่เฟยก็หันไปพูดกับหวางซวงว่า “พวกเราขึ้นรถมาแล้ว คงต้องของให้แกรักษาสัญญา ปล่อยผู้หญิงที่อยู่บนมือแกซะ เธอกับคุณชายหลี่ ตอนนี้เลิกกันแล้ว ตอนนี้ ฉันต่างหากที่เป็นแฟนตัวจริงของคุณชายหลี่”
“ฮ่าๆ งั้นก็ได้”
หวางซวงปล่อยผมของลู่หลุ่ย แล้วผลักลงไปกองกับพื้นอย่างแรก ข้างในสายตาที่ลู่หลุ่ยมองหลี่ฝางกับฉินวี่เฟย ไม่มีความซาบซึ้งแม้แต่น้อย
แถม ยังมีความเกลียดชังอยู่เล็กน้อย
บางที ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะหลี่ฝางล่ะก็ เธอก็คงไม่ต้องถูกคนชั่วจับไป
หลี่ฝางมองลู่หลุ่ยแวบนึง เหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป เวลาแบบนี้ถ้าเกิดพูดขอโทษกับลู่หลุ่ย หรือพูดอะไรออกมาล่ะก็ มันก็เหมือนกับเป็นการทำร้ายเธอ
หลี่ฝางหันหน้าหนี แล้วหันไปพูดกับฉินเสี่ยวหู่ด้วยเสียงหัวเราะว่า “ดูเหมือนว่าคนที่ต้องการจะจับตัวฉัน จะเป็นมู่หรงฉางเฟิงสินะ”
ฉินเสี่ยวหู่ส่ายหัว แล้วหันไปพูดกับหลี่ฝางว่า “คุณชายหลี่ คุณคงยังไม่รู้สินะ คุณชายมู่หรง คุณชายซือถู และยังมีคุณชายมู่ ตอนนี้ได้ตกลงร่วมมือกันแล้ว เพราะงั้น หนึ่งในพวกเขาสามาคน ล้วนสามารถสั่งการผมได้ทั้งนั้น”
หลี่ฝางหัวเราะ พูดอย่างสนใจว่า “นี่เรียกได้ว่าเป็นการแบ่งบันธุรกิจรึเปล่า?”
ฉินเสี่ยวหู่ไม่พูดอะไรมาก เวลานี้หวางซวงก็ได้เข้ามาข้างในรถแล้ว หวางซวงมองหลี่ฝางแวบนึง แล้วพูดว่า “คุณชายหลี่ ดูเหมือนคุณจะจำผมไม่ได้แล้วสินะ”
หลี่ฝางมองหน้าหวางซวงแวบนึง นึกไม่ออกแม้แต่น้อย “ฉันเคยเจอแกด้วยเหรอ?”
“คุณชายหลี่ช่างเป็นคนรวยที่ขี้ลืมจริงๆ ฉันเป็นคนรับใช้ของคุณชายซือถู และก็เป็นDJของสโมสรเจียงหนาน ตอนนั้นคุณใจป๋ามาก ตอนที่เลี้ยงเหล้าแขกทั้งหมด ฉันคือคนที่ช่วยคุณประกาศออกไปไง”
“แขกทั้งหมดกินฟรี ให้คุณชายหลี่เป็นคนจ่ายเอง ตอนนั้นคุณ ช่างดูมีหน้ามีตามาก” หวางซวงมองหน้าหลี่ฝาง ยิ้มแบบขี้เล่นแล้วพูดว่า “คุณชายหลี่ คุณมีเงินมากขนาดนี้ เคยคิดไหมว่าตัวเองจะตายยังไง?”
หลี่ฝางมองหวางซวง ยิ้มอย่างชิวๆ “ทำไม แกฆ่าฉันรึไง?”
“มีอะไรไม่กล้าล่ะ ฉันหวางซวงคนนี้ไม่มีความสามารถอะไรมากมาย ความสามารถที่เด็นที่สุด ก็คือเป็นคนใจกล้า แกไม่ใช่เทพซะหน่อย ฆ่าแก แล้วมันยังไง อย่างมากก็แค่เป็นศัตรูกับบ้านตระกูลหลี่ของพวกแก แล้วโดนตามล้างแค้นก็เท่านั้นเอง? ถึงเวลานั้นฉันหนีก็พอแล้ว โลกนี้กว้างใหญ่ขนาดนี้ จะบอกว่าเป็นถิ่นของตระกูลหลี่ของพวกแกทั้งหมดเลยรึไง?” หวางซวงพูดอย่างชิวๆ
“แต่ว่าก่อนที่จะฆ่าแก คุณชายของพวกเรา อยากจะเจอแกซะหน่อย” หวางซวงพูด
“พูดแบบนี้ แสดงว่าคนที่ส่งมาจับฉํน ก็คือซือถูเฟยสินะ” หลี่ฝางพูดอย่างสบายๆ
“ไม่เพียงแค่คุณชายซือถือ คนอื่นๆ ก็เริ่มลงมือแล้วเช่นกัน ตะกูลหลี่ของพวกแกแค่คืนเดียวก็ฆ่าคนไปเยอะขนาดนั้น คุณยังกล้ามาเดินเล่นอีก ไม่รู้จริงๆว่าความกล้าของคุณชายหลี่ มีมากขนาดไหนกัน ฉันน่าถือคุณจริงๆ” หวางซวงยกนิ้วโป้งให้กับหลี่ฝาง
และฉินวี่เฟยในตอนนี้ พอได้ยินแบบนี้ ภายในใจก็เกิดความรู้สึกเสียใจ และรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
เพราะว่าการออกมาเดินเล่นในครั้งนี้ เป็นเธอเองที่ลากหลี่ฝางออกมา ฉินวี่เฟยกอดแขนของหลี่ฝาง ด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย เธออยากจะถามหลี่ฝางว่า ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่ามันอันตรายขนาดไหน ทำไมยังออกมาอีกล่ะ?”
แต่ว่า ฉินวี่เฟยไม่ได้เปิดปากถาม เธอเดาคำตอบออกแล้ว เธอรู้ดี ที่หลี่ฝางไม่ปฏิเสธเธอ ก็เพราะไม่อยากให้เธอเสียใจก็เท่านั้นเอง
ฉินเสี่ยวหู่สตาร์ทรถออกไป เพียงไม่นาน รถก็ขับมาจนถึงหน้าทางเข้าสโมสรเจียงหนาน
และหลี่ฝางที่เพิ่งออกมาจากรถ ก็มีชายชุดดำหลายคน ปรากฏออกมาอยู่ต่อหน้า
หวางซวงโดนชายชุดดำเตะปลิวในทันที และฉินเสี่ยวหู่ที่เห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงรีบสตาร์ทรถขับหนีออกไป
ชายชุดดำหลายคน เดินมาล้อมรอบหลี่ฝางเอาไว้ และซือถูเฟยก็เดินออกมาจากสโมสรเจียงหนาน “ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าคุณชายหลี่ได้เลี้ยงกลุ่มนักรบปีศาจเอาไว้ วันนี้พอได้เห็น ก็เป็นอย่างที่ลือกันจริงๆ”
“ฝีมือของนักรบปีศาจพวกนี้ เกรงว่าคงจะไม่แพ้โหจื่อกับส้าวส้วยถูกไหม” ซือถูเฟยวิเคราะห์อย่างใจเย็น
หลี่ฝางเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว จ้องมองไปยังซือถูเฟย “เรียกฉํนมา อยากจะพูดอะไรกันแน่? หรือจะบอกว่า แกกล้าฆ่าฉันจริงๆ?”
“เมื่อคืน คนของฉันตายไปสามคน ฉันอยากจะบอกว่า สามคนนี้ คงจะเป็นฝีมือตระกูลหลี่ของพวกแกถูกไหม?” ซือถูเฟยถามด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด
หลี่ฝางพยักหน้า ไม่ได้ยอมรับตรงๆ “ถ้าใช่แล้วจะทำไม?”
ใบหน้าของซือถูเฟยดูสงบนิ่ง ไม่มีท่าทีที่จะหาเรื่อง และก็ไม่ได้ขอให้ชดใช้ “ความจริง ฉันอยากจะขอบคุณแกด้วยตัวเอง สามคนนี้ ต่อให้แกไม่จัดการพวกเขา ฉันเองก็จะหาโอกาสจัดการพวกเขาซะ ในเมื่อลูกพี่หลินตายแล้ว ฉันจะเก็บพวกเขาไว้ทำไม
ในเมื่อสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว เก็บพวกเขาไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร พวกเขาไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ต้องขอบคุณคุณชายหลี่ที่ช่วยฉันจัดการขยะพวกนี้”
หลี่ฝางมองไปยังซือถูเฟย แล้วถามต่อไปว่า “งั้นที่แกเรียกฉันมา มันหมายความอะไรกันแน่?”
“ฉันอยากจะขอเจรจาสงบศึกกับแก” ซือถูเฟยพูดต่อว่า “ตอนนี้ พ่อแกก็เหมือนนกที่อยู่ในกรง มีโอกาสแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะไม่รอด ฉันอยากจะแนะนำทางสว่างให้กับแก รีบพาคนของตระกูลหลี่ ออกไปจากเมืองเอก ดีสุดก็หนีไปต่างประเทศ ตอนนั้น พ่อแกสามารถมีชีวิตอยู่ที่เมืองนอกได้ตั้งสามปี พวกแกเองก็ทำได้ เชื่อเถอะ ที่ดูไบจะกลายเป็นที่พักพิงของพวกแก”
“อย่ารอจนให้คนพวกนั้นเจอศพพ่อของแกก่อน ถึงเวลานั้น รอจนพวกเขากลับมา ต่อให้พวกแกอยากจะหนี ก็หนีไม่ทันแล้ว” ซือถูเฟยพูด
“แกใจดีขนาดนี้เลยเหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันคิดว่าแกหวังให้ฉันตายเร็วๆซะอีก?”
“ถูกแล้ว จริงอยู่ที่ฉันอยากให้แกตายๆไปซะ แต่ว่า พอลองคิดดูดีๆ การตายของแกสำหรับฉันแล้ว ความจริงมันก็ไม่มีผลประโยชน์อะไร ความแค้นของพ่อแกกับตระกูลซือถู มีมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย แต่ว่า ฉันอยากจะขออะไรแกสักอย่าง ฉันหวังว่าก่อนที่แกจะไป จะสามารถช่วยฉันปลอบโก่เอ๋อสักหน่อย ให้เธอกลับมาอยู่กับฉัน”
ซือถูเฟยพูดต่อว่า “เพื่อเป็นการตอบแทน ฉันสามารถช่วยเหลือแกได้หนึ่งอย่าง”
“ช่วยอะไร?” หลี่ฝางทำหน้าเครียด
“แกมาทางนี้สักแป๊บ” ซือถูเฟยกวักมือเรียกหลี่ฝาง
หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูดว่า “ทำไมแกไม่เข้ามาเองล่ะ? ให้ฉันเดินไปหาทำไม?”
ซือถูเฟยและหลี่ฝาง ต่างคนต่างก็ไม่เชื่อใจใคร ซือถูเฟยคิดไปคิดมา หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา กดปุ่มไปสักพัก จากนั้นก็โยนไปหาหลี่ฝาง หลี่ฝางมองมือถือแวบนึง ข้างในมือถือ เป็นข้อความเป็นตัวหนังสือขนาดใหญ่ที่ซือถูเฟยเขียนเอาไว้
คืนนี้ อย่าไปวิลล่าจูเซียน
หลี่ฝางมองซือถูเฟยด้วยสีหน้าที่แปลกใจเล็กน้อย คิดในใจว่า เขารู้ได้ยังไงว่าคืนนี้ตัวเขามีนับกับท่านจวน หลี่ฝางเอามือถือคืนให้กับซือถูเฟย แล้วถามว่า “หมายความว่ายังไง?”
“ฟังฉันก็พอแล้ว” พอซือถูเฟยพูดจบ ก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในสโมสรเจียงหนาน
ส่วนหลี่ฝางก็ยืนมองแผ่นหลังของซือถูเฟย จู่ๆก็อึ้งไปสักพัก รึว่า ครั้งนี้ที่ท่านจวนเชิญตัวเองไปที่วิลล่าจูเซียน ต้องการจะทำร้ายตัวเองจริงๆ?
แต่ว่า ลุงเฉียนเคยบอกไว้ว่า ท่านจวนคงไม่มีความกล้าแบบนั้นหรอก
หลี่ฝางเรียกรถมาคัน แล้วเข้าไปข้างใน
ระหว่างทาง ฉินวี่เฟยกอดแขนของหลี่ฝางอย่างแน่นหนา พูดเบาๆออกมาว่า “ต่อไปนี้ฉันจะไม่ขอให้คุณมาเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันแล้ว”
ฉินวี่เฟยในเวลานี้ ราวกับเด็กที่อะไรผิดสักอย่าง
ส่วนหลี่ฝางกลับหัวเราะออกมา แล้วพูดว่า “วางใจได้ นี่มันก็แค่ช่วงคราวเท่านั้นเอง รอให้ช่วงนี้ผ่านไป ก็ไม่มีอะไรแล้ว”
หลี่ฝางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นึกถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ที่เจอกับลู่หลุ่ย หลี่ฝางคิดในใจ มันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดมาก
ถึงแม้ว่าลู่หลุ่ยจะไม่เหมาะสมกับตัวเอง เธอไม่เหมือนกับฉินวี่เฟยที่เข้าใจตัวเอง เข้าใจคนอื่น แต่ความรู้สึกของทั้งสองคน เป็นของจริง
และตอนนี้ เพิ่งจะเลิกกันได้แค่หนึ่งวัน หลี่ฝางก็เริ่มมีคนรักคนใหม่สักแล้ว แถมยังเจอกับลู่หลุ่ยอีก เรื่องนี้สำหรับลู่หลุ่ยแล้ว คงจะทำร้ายจิตใจเป็นอย่างมาก
แต่แค่ชั่วเวลานึง หลี่ฝางเองก็ไม่รู้ว่าจะชดใช้ให้กับลู่หลุ่ยยังไงดี
พอนั่งรถจนกลับมาถึงสถานตากอากาศ หลังจากที่หลี่ฝางจ่ายเงินเรียบร้อย ก็เดินไปหาลุงเฉียนทันที
ลุงเฉียนที่กำลังนั่งชงชาอยู่ ก็รินชาให้กับหลี่ฝางหนึ่งแก้ว “วันนี้แกไม่ควรจะออกไปข้างนอก”
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูดว่า “ผมเองก็รู้ดี แต่ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจของฉินวี่เฟย”
“เด็กคนนั้นเป็นคนที่รู้งาน แกแค่อธิบายกับเธอสักหน่อย เธอก็คงไม่โกรธแกหรอก สองสามวันนี้ อยู่เฉยๆสักพักเถอะ” ลุงเฉียนพูด
“ใครกันที่ลงมือกับแก? รู้รึเปล่า?” ลุงเฉียนมองหลี่ฝางแวบนึง แล้วถามขึ้นมา
“ซือถูเฟย” หลี่ฝางตอบกลับไป
ลุงเฉียนพอได้ยินคำตอบนี้ ดูเหมือนจะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขายิ้มออกมา แล้วพูดว่า “ทำไมถึงเป็นเขาไปได้ล่ะ? ในหมู่คนพวกนี้ มีเพียงเขาที่ลงมือ ได้น้อยที่สุด นึกไม่ถึงว่า เขากลับเป็นคนแรกที่ทนไม่ไหว”
หลี่ฝางพูดว่า “แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ต้องการทำอะไรผม ที่เขาจับผมไป ก็เพื่อเรื่องๆนึง”
“เรื่องอะไร?” ลุงเฉียนถาม
หลี่ฝางพูดว่า “ซือถูเฟยอยากจะให้โก่เอ๋อกลับมา เขาอยากให้ผมเป็นคนกลาง น่าเสียดาย ที่ผมไม่ได้ตอบตกลง”
“แต่ว่า เขาบอกผมมาเรื่องนึง บอกว่าคืนนี้ผมอย่าไปร่วมงานเลี้ยงที่ท่านจวนเชิญมา” หลี่ฝางมองไปยังลุงเฉียน แล้วถามว่า “ลุงเฉียน คุณสามารถเดาออกไหมว่าซือถูเฟยวางแผนอะไรไว้กันแน่?”
ลุงเฉียนทำหน้าเครียด ครุ่นคิดสักพัก แล้วก็ส่ายหัว “คนอย่างซือถูเฟยเชื่อถือไม่ได้ สิ่งที่เขาพูดเอง ก็จะปักใจเชื่อง่ายๆไม่ได้”
“แกลองโทรไปหาท่านจวน ลองถามเขาว่า งานเลี้ยงในคืนนี้ เขาเชิญใครมาบ้าง?” ลุงเฉียนพูดอย่างเย็นชา “เขาคงไม่เรียกผู้เสียหายมาทั้งหมด จากนั้นก็เตรียมที่จะต่อกรกับแกหรอกน่ะ?”
หลี่ฝางหยิบมือถือขึ้นมา แล้วโทรไปหาลูกบุญธรรมของท่านจวน บนตัวของท่านจวน ไม่ได้ใช้มือถือ เพราะงั้นถ้าเกิดมีข่าวคราวอะไร จึงต้องโทรผ่านทางแคระเท่านั้น
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ หลี่รฝางก็หันไปพูดกับลุงเฉียน “ทางด้านท่านจวนบอกกับผมว่า คืนนี้ มีเพียงแค่พวกเราสองคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงเท่านั้น ไม่ได้เชิญคนอื่นมา”
“แกได้ลองถามไปรึยังว่า ได้เอาข่าวเรื่องงานเลี้ยงในคืนนี้ ไปบอกกับคนอื่นรึเปล่า?” ลุงเฉียนยักคิ้วขึ้นมา
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูดว่า “ถามแล้ว ท่านจวนบอกว่าไม่มี เป็นไปได้ไหมที่คนของวิลล่าจูเซียน จะแอบส่งข่าวไปหาซือถูเฟย?”
“วิลล่าจูเซียน เป็นถิ่นของท่านจวน คนที่อยู่ข้างใน ล้วนเป็นคนที่ท่านจวนเชื่อใจ