NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 820 ลู่หลุ่ยอยู่ในอันตราย
ระหว่างทางจากอำเภอหลินไปเมืองเอก รถสปอร์ตก็ขับด้วยความเร็วสูง
เมื่อตัดสินใจไปเจอลู่หลุ่ย หลี่ฝางก็ไม่รอช้าสักนิด ขับรถสปอร์ตด้วยความเร็วสูงสุดมาถึงเมืองเอก ระหว่างทางไม่ได้หยุดเลย เหยียบคันเร่งจนมิดจนเกิดเสียงบรื้นของรถสปอร์ต ขับผ่านรถแต่ละคันไปเร็วราวกับสายฟ้า
เมื่อเขาเร่งรีบมาจนถึงเมืองเอก ฟ้าก็เพิ่งจะมืดสนิท ก่อนหน้านี้เหมิงเหมิงโทรหาเขาบอกว่าปาร์ตี้จัดขึ้นตอนกลางคืน ตอนนี้ดูเวลาคงใกล้จะเริ่มแล้ว หลี่ฝางก็ไม่มีเวลาขวางลู่หลุ่ยไว้แล้วค่อยๆ พูดกับเธอดีๆ ดังนั้นเขาจึงรีบขับรถไปตามที่อยู่ที่เหมิงเหมิงส่งมาให้
โลเคชั่นที่เหมิงเหมิงให้มาคือหาดทรายที่มีชื่อว่าหาดทรายบี้ไห่ ในเมืองเอกมีหาดทรายเพื่อความบันเทิงอยู่หลายแห่ง ในนั้น หาดทรายบี้ไห่เป็นสถานที่ที่หรูหราที่สุด
ที่นี่ เป็นหาดทรายของเอกชน ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบ กิจกรรมที่ควรมีก็มีทุกอย่าง ทุกวันมีกลุ่มคนจำนวนมากมาเที่ยวที่นี่
แม้แต่ตอนกลางคืน ที่นี่ก็ยังมีกลุ่มคนพลุกพล่านทั้งตั้งแคมป์ ย่างบาร์บีคิว ที่นี่จึงครึกครื้นมาก
แต่วันนี้ ทั้งหาดทรายบี้ไห่กลับไม่มีความครึกครื้นเหมือนที่ผ่านมา ทั้งหาดทราย ไม่เห็นแม้แต่เงาคนสักคน มีคนอยากเข้ามาเที่ยวเป็นระยะ ก็ถูกกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเครื่องแบบขวางเอาไว้
เมื่อพวกเขาถามอย่างชัดเจนว่าทำไมถึงเข้าไปเล่นไม่ได้ ถึงได้รู้ว่าที่นี่ถูกลูกเศรษฐีคนนึงเหมาสถานที่ไว้ เพื่อจัดปาร์ตี้ ตลอดทั้งคืน ที่นี่ปล่อยให้เข้าได้แค่ผู้ถูกรับเชิญ
ถูกคนอยากรู้อยากเห็นเมื่อได้รู้ความจริง นอกจากส่ายหัวแล้วหันหลังกลับ ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว
ถึงยังไงที่นี่เป็นที่ของเอกชน ถูกคนเหมาสถานที่ไว้ก็ถือว่ามีเหตุผล
แต่นี้ยิ่งทำให้พวกเขายิ่งสะอื้น คร่ำครวญถึงความสุขที่คนรวยหาได้ที่คนจนนึกภาพไม่ออกจริงๆ คนอื่นมาเที่ยวที่นี่ล้วนต้องเที่ยวอย่างเบียดเสียดกับคนอื่นๆ คนรวยมาก็เหมาไปทั้งหาดเที่ยวอยู่คนเดียว สนุกน่าดูเลย
ตรงทางเข้าของหาดทรายทั้งหาด มีผู้หญิงสวมชุดหน้าร้อนดูสบายๆ ยืนอยู่ตรงที่ไม่เป็นจุดสังเกต มองไปตรงทางเข้าออกเป็นระยะๆ สีหน้าดูรีบร้อน ราวกับกำลังหาคนอยู่
ผู้หญิงคนนั้นก็คือเหมิงเหมิง ถึงแม้ตอนที่โทรหาหลี่ฝางหล่อนจะโมโหมากๆ จนแม้แต่โทรศัพท์ของหลี่ฝางหล่อนก็ไม่อยากจะรับ แต่เมื่อหลังจากได้ยินว่าหลี่ฝางจะรีบมา เธอก็ยังคงอยู่ตรงนี้รอหลี่ฝาง
ปาร์ตี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว เหมิงเหมิงกลัวว่าหลี่ฝางไม่มีการ์ดเชิญ จะถูกรปภ.ขวางเอาไว้ จึงทำได้แค่รอเขาอยู่ตรงนี้ ส่วนลู่หลุ่ย เธอได้ฝากให้เพื่อนสาวอีกคนดูแลหล่อนแล้ว
ถึงแม้จะไม่ค่อยวางใจ แต่เธอก็คิดว่าแค่แป๊บเดียว คงไม่เกิดเรื่องอะไรหรอกมั้ง ขอแค่หลี่ฝางมาถึง ไม่แน่บางทีลู่หลุ่ยอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้
“ทำไมยังไม่มาอีก ไอ้บ้านั่น นี่มันจะทุ่มนึงแล้วนะ”
เหมิงเหมิงลนลานอยู่ในมุมมืด จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงบรื้นของรถสปอร์ต เงยหน้าขึ้นมอง ห่างออกไปมีรถปอร์เช่918สีแดงราวกับเปลวไฟที่แผดเผาคันนึง ในชั่วพริบตาก็พุ่งเข้าไปที่หน้าประตู
หลี่ฝางเดินลงจากรถ ไม่สนใจว่าจอดรถไว้ตรงนี้จะมีปัญหาอะไรมั้ย แล้วเดินตรงไปทางเข้าออกที่มีอยู่ที่เดียว
“คุณผู้ชาย ขอโทษครับ ที่นี่โดนจองเหมาไว้แล้วครับ กรุณาแสดงบัตรเชิญเพื่อเข้าไปข้างในด้วยครับ”
เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าว รปภ.ที่จริงจังก็หยุดหลี่ฝางเอาไว้
“ต้องใช้บัตรเชิญ?”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถ้าหากปกติก็ช่างเถอะ แต่ว่าตอนนี้อารมณ์ไม่ได้ พอได้ยินคำพูดของรปภ. ถึงจะรู้ว่าเป็นหน้าที่ของเขา แต่ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธในใจ แทบจะทนไม่ไหวจะลงไม้ลงมือแล้ว
ในตอนนั้นเหมิงเหมิงก็เดินเข้ามาพอดี เห็นสีหน้าของหลี่ฝางไม่ปกติ จึงรีบพูดขึ้นเสียงดัง: “เขามากับฉัน แค่มาช้านิดหน่อยเท่านั้น ให้เขาเข้ามา”
ประโยคนี้ พูดกับรปภ.สองคนนั้น
รปภ.สองคนนั้นที่จริงก็เห็นหลี่ฝางขับรถสปอร์ตที่โดดเด่นแบบนั้นก็รู้แล้วว่าหลี่ฝางไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อกี้ตอนที่ขวางไว้ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ตอนนี้ได้ยินที่เหมิงเหมิงพูด ในใจก็รู้สึกโล่งขึ้นมา แล้วรีบหลีกทางให้
“โทษที มาสายแล้ว ระยะทางมันไกลนิดนึง ลู่หลุ่ยอยู่ไหน?”
เมื่อเข้าไป หลี่ฝางก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ถามถึงสถานการณ์ของลู่หลุ่ยทันที
“อยู่ด้านใน ฉันไม่กล้าบอกนางเรื่องที่นายกลับมา กลัวนางจะสติแตก อารมณ์นางไม่ดีเอามากๆ ฉันกังวลว่านางจะเกิดเรื่อง จึงหาเพื่อนช่วยดูนางไว้อยู่ นายรีบไปดูเถอะ”
เหมิงเหมิงพูดอย่างรีบร้อน พลางยื่นมือลากหลี่ฝางเดินเข้าไปด้านใน
บนเรือสำราญที่มีความยาวกว่าสองร้อยเมตร มีดาดฟ้าใหญ่ที่สามารถจุคนได้หลายร้อย กลุ่มคนที่มาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ส่วนใหญ่ขึ้นมารวมตัวกันอยู่บนดาดฟ้านี้
บนดาดฟ้าที่ครึกครื้น มีคนร้องเพลงเต้นรำ มีคนทานอาหารอย่าเอร็ดอร่อย มีเสียงหัวเราะร่าเริง ดูมีชีวิตชีวามาก
กลุ่มคนที่มุมนึง ชายกลุ่มนึงกำลังล้อมวงกัน ไม่รู้ว่าล้อมใครไว้ด้านใน มีเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ ปนกับเสียงร้องของผู้หญิง
เหมิงเหมิงพาหลี่ฝางเดินเข้าไปจากที่ไกลๆ เมื่อเห็นภาพตรงนี้ สีหน้าก็ถอดสีทันที แล้วพูดอย่างตกใจ: “เกิดอะไรขึ้น พวกเขากำลังทำอะไร?”
“ลู่หลุ่ยอยู่ด้านใน?” น้ำเสียงเย็นยะเยือกของหลี่ฝางดังขึ้น
“อืม ก่อนหน้านี้ฉันให้ลู่หลุ่ยอยู่ตรงนี้ ทำไม……” เหมิงเหมิงร้องขึ้นอย่างลนลาน ไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นชาและความอาฆาตในน้ำเสียงของหลี่ฝางเลย
เมื่อเสียงหยุดลง ก็มีเงาแวบผ่านหน้าของเหมิงเหมิง ต่อมา ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้าง
เพราะว่าเธอเห็นว่าวินาทีที่แล้วหลี่ฝางยังอยู่ข้างกายเธอตอนนี้ได้ปรากฏตัวอยู่ตรงมุมนั้นแล้ว สองมือคว้าแน่น ทีละคนละคน เหวี่ยงผู้ชายที่ล้อมวงตรงนั้นทิ้งออกไปอย่างไม่เกรงใจ
ท่าทางที่ดูสบายๆ ราวกับที่เขาโยนทิ้งไปไม่ใช่ชีวิตคนทั้งคน แต่เป็นถุงขยะแบบนี้
สิ่งนี้ทำให้เหมิงเหมิงประหลาดใจ ที่จำได้ในความคิดเธอหลี่ฝางไม่น่าจะมีแรงเยอะขนาดนี้
แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดถึงเรื่องนี้ ผู้ชายพวกนั้นถูกหลี่ฝางเหวี่ยงทิ้งออกไป ตอนนี้คนที่ถูกล้อมไว้ก็ปรากฏต่อหน้าเหมิงเหมิง
นั่นก็คือผู้หญิงหน้าตาดีคนนึง เสื้อผ้าดูไม่เป็นระเบียบ หล่อนถูกคนมอมเหล้าไปเยอะมากๆ ถึงขนาดเมาไม่ได้สติ บนตัวเป็นเพราะถูกรดด้วยเหล้ามากมายจึงถึงให้เนื้อตัวเปียกปอน
เหมิงเหมิงในตอนนั้นก็นึกขึ้นมาได้ ผู้หญิงคนนี้คือเพื่อนที่ก่อนหน้านี้เธอฝากให้ดูแลลู่หลุ่ย ตอนนี้เธอถูกผู้ชายกลุ่มนี้มอมเหล้าจนสภาพเป็นแบบนี้ ดูก็รู้ว่าจงใจ งั้นลู่หลุ่ยไปไหนแล้วล่ะ?
หลี่ฝางลากคอลูกเศรษฐีคนนึงขึ้นมาจากพื้น ใช้มือข้างเดียวบีบคอเขาขึ้นมา เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินมาถึงขอบดาดฟ้าเรือ ทำให้ตัวเขาทั้งตัวหันไปทางนอกทะเล
“ลู่หลุ่ยไปไหนแล้ว?” น้ำเสียงของหลี่ฝางยิ่งร้ายกาจ และบ้าคลั่งขึ้นกว่าเก่า ตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนมาก หลังจากเหมิงเหมิงปล่อยลู่หลุ่ยอยู่ตรงนี้ ลูกคนรวยที่เหมิงเหมิงเคยพูดถึงส่งคนมาขวางล้อมผู้หญิงคนที่ถูกมอมเหล้าคนนั้น จากนั้นก็พาลู่หลุ่ยไป
หลี่ฝางที่เป็นห่วงความปลอดภัยของลู่หลุ่ย ก็แทบจะบ้าคลั่ง แม้แต่ในเวลานี้ เขาก็ไม่สนใจแล้วว่าจะต้องใช้วิธีสุดโต่งบางอย่าง