NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 877 ตื่นตะลึง
ซุนเฟยชะงักเล็กน้อย รีบมองไปที่ทะเล ทว่าเห็นเรือสปีดโบ๊ทลำหนึ่งขับไกลออกไปอย่างรวดเร็ว คนที่ยืนอยู่บนเรือคือหลี่ฝางและส้าวส้วย
ถึงขั้นที่ว่าไม่มีใครรู้ว่าเรือสปีดโบ๊ทลำนี้ปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่มีใครรู้ว่าส้าวส้วยเอาเรือสปีดโบ๊ทลำนี้มาจากที่ไหน แล้วหลี่ฝางขึ้นไปอยู่บนเรือสปีดโบ๊ทในชั่วพริบตาได้ยังไง
……
บนเรือสปีดโบ๊ท มองดูท่าเรือที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งใกล้เข้ามา ส้าวส้วยพูดขึ้น:“รอไปถึงบนฝั่งแล้วเจอคนๆนั้น ฉันก็จะไป ถึงเวลานั้นนายต้องทำทั้งหมดด้วยตนเอง”
หลี่ฝางพยักหน้า ลังเลครู่หนึ่งแล้วถามขึ้น:“เมื่อไหร่พ่อของฉันถึงจะกลับมา?”
ส้าวส้วยยิ้ม:“ถ้าทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย จะกลับมาได้ภายในครึ่งเดือน ดังนั้นสิ่งที่ฉันจะทำต่อจากนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่สามารถอยู่รอนายที่นี่ได้”
“วางใจเถอะ ฉันทำคนเดียวได้” หลี่ฝางกำหมัด อยากจะบอกกับคำว่า ‘ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว พวกนายไม่จำเป็นต้องคอยดูแลตลอดเวลาแล้ว’ แต่ก็รู้สึกว่าพูดแบบนี้มันตอแหลเกินไป ดังนั้นจึงพูดแค่สั้นๆ
ส้าวส้วยพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร
อย่างรวดเร็ว เรือสปีดโบ๊ทจอดที่ท่าเรือ
เห็นรถหรูจอดอยู่ไกลจากท่าเรือ มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลายืนพิงบนรถ กำลังมองมายังท่าเรือที่มีคนเดินไปเดินมา
ตอนที่ส้าวส้วยและหลี่ฝางเดินออกมาจากท่าเรือ ชายหนุ่มรีบมาต้อนรับทันที
“พระเจ้า ในที่สุดนายก้มาแล้ว!” ซูโน่อ้าแขนกว้างแล้วกอดส้าวส้วยเอาไว้ “นายเกือบจะลืมฉันไปแล้วใช่ไหม?”
“ฮ่าๆๆ เป็นไปได้ยังไง เป็นเพราะไม่มีเวลาต่างหาก” ส้าวส้วยหัวเราะ
“ฉันจะไม่รู้จักนายอีกเหรอ?” ซูโน่มองส้าวส้วยด้วยความเย้ยหยัน จากนั้นมองไปที่หลี่ฝาง “คนนี้คือ?”
“หลี่ฝาง” ไม่รอให้ส้าวส้วยแนะนำตัว หลี่ฝางพูดขึ้นก่อน “ส้าวส้วยเป็นพี่ใหญ่ของฉัน”
“ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่เราสนิทกันมาก” ส้าวส้วยยิ้มแล้วพูดเสริม
“น้องชาย ในเมื่อนายเป็นน้องชายของส้าวส้วย ถ้าอย่างนั้นก็เป็นน้องชายของฉัน” ซูโน่ยิ้มแล้วตบหัวไหล่หลี่ฝาง “อย่ายืนอยู่ที่นี่เลย ไป ขึ้นรถกันเถอะ ให้เจ้าถิ่นคนนี้ทำหน้าที่สุดความสามารถ!”
ทั้งสามขึ้นไปบนรถ ไปจากท่าเรืออย่างรวดเร็ว
มาถึงโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง ซูโน่พาทั้งสองเข้าไปยังห้องที่จองเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
พนักงานยกอาหารมาเสริฟอย่างรวดเร็ว ซูโน่สั่งให้พวกเขาออกไปให้หมด แล้วตรวจดูภายในห้อง จากนั้นจึงพยักหน้าให้ส้าวส้วย
“ปลอดภัย ไม่มีเครื่องดักฟัง”
เขาถอนหายใจ:“รบกวนนายแล้ว”
“ไม่ต้องพูดแบบนี้” ส้าวส้วยตอบ:“เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
ซูโน่เงียบไปพักหนึ่ง ยิ้มเศร้า:“พูดตามตรงจนถึงตอนนี้ฉันยังไม่รู้ว่าใครที่หมายตาตระกูลของฉัน แต่ฉันเดาว่าอีกฝ่ายคงอยากจะใช้ฉันและน้องสาวมาข่มขู่พ่อ แต่ไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคือะไร
ตอนแรกฉันคิดจะใช้ไพ่ตายของตนออกมาสู้ ตอนนี้นายมาแล้ว ฉันเองก็วางใจ”
หลี่ฝางฟังครู่หนึ่ง พอจะเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ
ที่แท้ก็มีขั้วอำนาจนิรนามหมายตาตระกูลซู ทั้งยังปฏิบัติการลอบสังหาร ก่อนหน้านี้ไม่รุนแรงเท่าไหร่ล้วนถูกขวางเอาไว้แล้ว แต่ตระกูลซูอาศัยสายสืบของตนทำให้รู้ว่า หลังจากนี้เกรงว่าจะมีการลอบฆ่าที่รุนแรงกว่าเดิม
“ท่าทีของอีกฝ่ายเหิมเกริมมาก แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือซูโน่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่หมายตาพวกเขาคือขั้วอำนาจไหน
“ทำไมนายไม่บอกคนในตระกูลให้เข้าใจ?” ส้าวส้วยถาม
ซูโน่ถอนหายใจเศร้าๆ ใบหน้าแสดงความลำบากใจ
“เฮ้อ ตอนนี้ในสายตาคนในตระกูลฉันยังคงเป็นแค่คุณชายที่รักสนุก ถึงแม้จะพูดออกไปตรงๆ คิดว่าคงไม่มีผลอะไร สู้ลอบจัดการเรื่องนี้ลับๆ ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดผลก็ได้”
“ฮ่าๆๆ ฉันเข้าใจแล้ว” ส้าวส้วยยิ้ม “นายไม่กลัวว่าฉันจะหลอกนานยเหรอ?”
ซูโน่ยิ้มเศร้าแล้วพูด:“นายไม่มีความจำเป็นในการหลอกฉัน พวกเราทำงานด้วยกันหลายครั้ง ฉันก็ไม่ได้ไม่รู้จักอะไรพวกนายสักหน่อย รวมถึงลูกพี่ใหญ่ผู้ลึกลับของนายด้วย……”
เห็นซูโน่อยากจะพูดแต่ก็หยุดพูด ส้าวส้วยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“พูดตามจริง ฉันมาในครั้งนี้ไม่ได้เพื่อนายเท่านั้น แต่เพื่อพาเขามา ให้พวกนายสองคนรู้จักกัน ส่วนฉันไม่อยู่ที่นี่”
“เขา?” ซูโน่มองหลี่ฝางด้วยความตกตะลึง
ส้าวส้วยพยักหน้า:“ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกนิดหน่อย ความสามารถของเขาไม่น้อยไปกว่าฉัน วางใจเถอะ”
ซูโน่อดไม่ได้ที่จะมองหลี่ฝางอย่างพิจารณา ส้าวส้วยส่งสายตามาให้ หลี่ฝางให้ความร่วมมือยื่นนิ้วออกมาแล้วกดบนโต๊ะ เสียงดังขึ้นเบาๆ โต๊ะไม้ที่แข็งแกร่งแบ่งเป็นสองท่อนด้วยนิ้วมือของเขาอย่างง่ายดาย คล้ายกับว่ากำลังหักเต้าหู้นุ่มๆ
ตอนที่หลี่ฝางเอานิ้วออกมา ใบหน้าของซูโน่เหลือเพียงความตกตะลึง
“นี่นาย หรือว่านายจะเป็นกำลังภายในที่อยู่ในตำนาน?” ซูโน่รู้สึกดีใจขึ้นมา
หลี่ฝางพยักหน้าแสร้งทำเป็นล้ำลึก โอกาสในการตอแหลแบบนี้เขาไม่มีวันพลาดแน่นอน
“ได้! น้องชาย มีนายฉันก็วางใจแล้ว” ซูโน่ร้องตะโกน หัวเราะเสียงดังแล้วพูด:“มา ฉันดื่มให้นายก่อนแก้วหนึ่ง!”
ซูโน่ยกแก้วเหล้าขึ้นมา สีหน้าเคร่งขรึมหายไป เขาดูผ่อนคลายลงมาก
……
หลังจากแนะนำหลี่ฝางให้ซูโน่รู้จักแล้วนั้น ส้าวส้วยก็รีบออกไป ไม่ได้บอกหลี่ฝางว่าเขาจะไปไหน หลังจากกินข้าวเสร็จ ซูโน่ขับรถพาหลี่ฝางไปอยู่ในคฤหาสน์ของเขา
คฤหาสน์ตระกูลซูสร้างติดกับริมทะเลสาบ ตัวอาคารนั้นหรูหรา สิ่งปลูกสร้างแสดงถึงฐานะของเจ้าของอย่างชัดเจน