NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 924 เจอหยูฉาย
หยูหลิงฮุ่ยที่อยู่อีกด้านเห็นท่าทีดีใจของชิวทิงหยุน ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
เธอรู้ถ้าเป็นตน หลี่ฝางไม่มีทางออกหน้าให้เธอแน่นอน เพราะท่าทีเย็นชาของหลี่ฝางนั้น ไม่อาจบดบังได้เลย
หลังจากเจ้าสำนักเจิ้งออกไป ผู้คนที่มามุ่งดูก็แยกย้ายกันไป รอบตัวหลี่ฝางกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ไม่นานนัก ในที่สุดหยูฉายพ่อของหยูหลิงฮุ่ยก็เดินมาตรงนี้
หลังจากหยูฉายเดินมา ถามขึ้นทันที“ทำไมไม่เห็นคุณชายชิวเฉิงฝูล่ะ?”
“เจ้าไร้ประโยชน์นั่นยังโดนขังอยู่เลย”หยูหลิงฮุ่ยยกปากพูดอย่างไม่ยี่หระ
“อยู่ในตระกูลชิวพูดระวังๆหน่อย ถ้ามีคนได้ยินเข้าจะซวยเอา”หยูฉายได้ยินเช่นนั้นก็พูดขึ้นอย่างระมัดระวังทันที
เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแม้แต่น้อย และยังไม่รู้ว่าหยูหลิงฮุ่ยติดตามไท่ซางแล้ว
“จริงสิ!เมื่อวานจู่ๆพ่อบ้านของตระกูลชิวก็เปลี่ยนห้องที่ดีกว่าให้ ลูกรู้ไหมว่าทำไม”หยูฉายนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ รีบถามทันที
ขณะพูดหยูฉายก็มีสีหน้าลำพองใจออกมา
“คุณชายชิวนี่ไม่เลวจริงๆ หลิงฮุ่ย ลูกต้องแสดงความขอบคุณเขานะ”หยูฉายพูดอย่างปลอบใจตนเล็กน้อย
เขาไม่ใช่คนโง่ ทำไมจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนที่หยูหลิงฮุ่ยไม่กลับห้องนั้นไปทำอะไรมา?เขาแค่ห้ามเรื่องแบบนี้ไม่ได้ แต่ก็กลับดีใจอยู่บ้างในใจขัดแย้งกันสุดๆ
หยูหลิงฮุ่ยขยับปากไปมา พูดถึงคำพูดของพ่ออย่างไม่ชอบใจ:“เจ้าชิวเฉิงฝูไร้ประโยชน์นั่น ทำแบบนั้นได้ซะที่ไหน?”
“เขาไม่ได้เป็นคนเปลี่ยนห้องให้งั้นเหรอ?”หยูฉายได้ยินก็อึ้งๆ“แล้วใครเปลี่ยนให้?”
เพราะพวกเขาก็ไม่ได้รู้จักคนอื่น นอกจากชิวเฉิงฝูแล้วยังเป็นใครได้อีก
หยูหลิงฮุ่ยกำลังจะพูดว่าเป็นไท่ซาง แต่กลับครุ่นคิดในใจเล็กน้อย แล้วกระซิบพูด:“คุณกู่เป็นคนจัดการค่ะ”
“คุณกู่?”
หยูฉายไม่มีปฏิกิริยาอะไร ไม่รู้ว่าหยูหลิงฮุ่ยพูดถึงคุณกู่ไหน
พอมองตามสายตาของหยูหลิงฮุ่ย ในที่สุดหยูฉายก็เห็นหลี่ฝางสักที แล้วพูดอย่างประหลาดใจขึ้นมาทันที:“เจ้ากู่ นายเองเหรอ”
หลี่ฝางพยักหน้าพลางพูดยิ้มๆ:“ผมเองครับพี่”เขาเห็นหยูฉายไม่ได้ยิ้มปลอมๆ จึงทำให้เขามีท่าทีที่ดีไม่น้อย
ปฏิกิริยาแรกที่หยูฉายเห็นหลี่ฝางคือประหลาดใจ จากนั้นก็พูดอย่างนู้สึกไม่ค่อยดี::“เจ้ากู่ ขอโทษด้วย เมื่อวานไม่มีทางอื่นจริงๆ พวกเราก็ไม่รู้จักคนอื่น จึงต้องลำบากนาย”
“พี่หยู ไม่เป็นไรครับ เมื่อวานพวกเราก็พักผ่อนที่ตระกูลชิวเหมือนกัน!”หลี่ฝางพูดยิ้มๆ
“พวกนายก็พักที่ตระกูลชิว?นายไม่รู้จักคนตระกูลชิวไม่ใช่เหรอ?”หยูฉายอึ้ง พูดด้วยความสงสัย
เห็นเช่นนั้น หยูหลิงฮุ่ยก็รีบดึงหยูฉายมาอธิบายให้ฟังยกใหญ่ ทำให้หยูฉายเข้าใจในทันที
แค่ได้ยินคำตอบของลูกสาวตน หยูฉายกลับยิ่งประหลาดใจเข้าไปอีก
“ลูกบอกว่าคนที่สกุลไท่คนนั้น เป็นปรมาจารย์งั้นเหรอ?”
ทันใดนั้นหยูฉายก็รู้สึกใจลอยเหมือนยังไม่ตื่น พอรู้ว่าหยิกตัวเองไปทีหนึ่ง เขาถึงได้สติว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ตื่นเต้นขึ้นมาทันใด
“ฉัน คิดไม่ถึงว่าเมื่อวานฉันคุยกับปรมาจารย์ไปเยอะขนาดนั้น และยังเรียกปรมาจารย์ว่าสหาย?”หยูฉายสีหน้าตื่นเต้นสุดๆ ปากพึมพำไม่หยุด
หลี่ฝางเห็นท่าทีหยูฉาย ก็ยิ้มออกมาอย่างเก้ๆกังๆ ถ้าเขารู้ว่าตนเป็นปรมาจารย์กำลังภายใน จะทำให้เขาตื่นเต้นขนาดไหน?
อีก2คนก็ปิดปากเงียบไม่พูดอะไร ไม่พูดให้หยูฉายตื่นเต้นอีก
ตอนนี้หยูหลิงฮุ่ยกำลังคิดในใจ ว่าเธอสิ่งที่คาดเดาเกี่ยวกับหลี่ฝางก็เป็นแค่การคาดเดา ถ้าบอกหยูฉายไปแบบสะเพร่าๆ ถ้าเกิดเดาผิดขึ้นมาก็ไม่เท่ากับขุดหลุมให้ตัวเองเหรอ?
ดังนั้นเอจึงเลือกที่จะไม่พูด แต่ในใจก็คิดว่าหลี่ฝางต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่เก่งกว่าไท่ซางแน่นอน เพียงแต่ปกปิดตัวตนเพราะเหตุผลบางอย่างก็เท่านั้น
เมื่อหลี่ฝางเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา ต้องทำให้ผู้คนตกตะลึงเป็นอย่างมากแน่นอน
ไม่ใช่แค่หยูหลิงฮุ่ยที่คิดแบบนี้ ชิวทิงหยุนก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
แต่หลี่ฝางไม่สนใจความคิดของคนเหล่านี้แม้แต่น้อย ยังไงหลังจากศึกชิงจ้าวยุทธภพจบลง เขาอาจไม่ปลดคนเหล่านี้อีก
อนาคตจะได้เจอกันอีกไหมค่อยว่ากัน
แน่นอน ต้องจัดการชิวทิงหยุนก่อน เพราะเธอเป็นลูกศิษย์ที่ตนเพิ่งรับมา ยังไงก็ต้องสนใจหน่อย
แต่เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องในอนาคต ที่ต้องสนใจคือตระกูลชิวใช้ศึกชิงจ้าวยุทธภพครั้งนี้เพื่อทำการอะไรกันแน่
ขณะนี้ ความเป็นไปได้ที่หลี่ฝางนึกออกคือ ตระกูลชิวอยากสร้างพันธมิตรอะไรสักอย่างเพื่อต่อต้านต้าเซี่ยหลงเช่ว และอาศัยโอกาสนี้เสริมอำนาจของตน เพื่อตนจะได้เป็นผู้มีอิทธิพลอันดับหนึ่ง
แต่ตระกูลชิวพูดโน้มน้าวให้ปรมาจารย์พวกนั้นร่วมมือกับตน และจับคนที่มาจำนวนมากไปบนรถรบของตนได้ยังไง เป็นปัญหาที่หลี่ฝางยังคิดไม่ออก
แม้คนตระกูลชิวผู้นั้นฝ่าทะลวงเป็นปรมาจารย์กำลังภายในได้จริง แต่พลังยังด้อยอยู่ ถึงแม้หลายปีมานี้ปรมาจารย์แต่ละสาขาพัฒนาไม่ค่อยราบรื่น แต่ยอดฝีมือก็พอมีอยู่บ้าง ปรมาจารย์กำลังภายในก็ใช่ว่าจะไม่มี ทำไมต้องโยกย้ายเพราะคำพูดของตระกูลชิวด้วย?