NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 985 การคาดเดาของหลี่ฝาง
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นเปรี้ยงๆ เมฆก็ค่อยๆ ครึ้มขึ้น ท้องฟ้าก็เป็นสีดำแล้ว ทุกอย่างบ่งบอกว่าพายุฝนกำลังใกล้เข้ามา
ส่วนหลี่ฝางกับจอร์จในตอนนี้เพิ่งจะเดินได้แค่หนึ่งในสาม อยากจะข้ามแม่น้ำไปนั้นอันตรายสุดๆ แต่ว่าย้อนกลับก็ยังทัน หลังจากกลับไปยังขอบแม่น้ำอย่างน้อยทั้งสองก็ยังสามารถเลือกทางเดินอ้อมไปได้
“กลับกันเถอะ?” หลี่ฝางลากจอร์จไว้อย่างอดไม่ได้
“ไม่ ฉันไม่อยากกลับ” จอร์จส่ายหน้าพูด “นายรู้มั้ย ฉันรู้สึกได้ว่าอันตรายจากด้านหลังมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ฉันไม่กลัวถูกน้ำซัด ซัดไปที่น้ำตก ฉันก็ไม่กลับไป”
หลี่ฝางถอนหายใจอีกครั้ง และรู้สึกได้ถึงหยาดฝนเย็นๆ กระทบลงที่หน้าเขา
“ว่ายไปเถอะ”
“ว่าย!”
จอร์จตะโกนเสียงดัง ยังไงก็มุ่งไปข้างหน้า ก็เริ่มว่ายไปข้างหน้าอย่างสุดแรง
วินาทีนั้น ฝนก็โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกแบบนี้ไม่เหมือนฝนตก และเหมือนกับพระเจ้าในใช้ปืนฉีดน้ำยักษ์แรงดันสูงยิงลงมาข้างล่าง มันเทลงมาราวกับน้ำตก
พวกหลี่ฝางทั้งสองคนไม่ได้คิดถึงปัญหาเรื่องของแรงร่างกาย คิดแค่ว่าต้องรีบว่ายไปถึงอีกฝั่งของแม่น้ำให้ได้
ไม่งั้น ตามขนาดฝนที่ตกลงมาแล้ว ไม่ต้องใช้เวลามาก ระดับน้ำของแม่น้ำทั้งสายนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำก็จะกลายเป็นปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะเป็นหลี่ฝาง ในสถานการณ์แบบนี้ก็แย่เหมือนกัน
โชคดีก็คือ ทั้งสองคนว่ายน้ำไม่ช้า กำลังร่างกายก็ไม่เลว หลังจากที่ว่ายอย่างสุดแรงมาสองนาที ทั้งสองก็ว่ายมาถึงอีกฟากของแม่น้ำ
มองไปยังกระแสน้ำวนแรงนั่น หลี่ฝางก็รู้สึกหนาว โขดหินโคนต้นไม้ไหลลงมาในน้ำขุ่นจากปลายแม่น้ำ ถ้าหากเมื่อกี้ไหลลงมากระแทกพวกเขา เกรงว่าวันนี้ในปีหน้าครอบครัวพวกเขาก็จุดธูปไหว้พวกเขาได้เลย(เป็นธรรมเนียมจีน ตอนที่ถึงวันที่ระลึกคนตาย จะไปจุดธูปไหว้เพื่อระลึกคนที่เสียชีวิต)
แม้ว่าจะเป็นนักรบ เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังของธรรมชาตินั้นดูเล็กนิดเดียวไปเลย เขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับพลังอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์หรือเผชิญกับมันได้อย่างง่ายๆ
“ไปเถอะ ไปหาที่หลบฝนก่อน” หลี่ฝางพักอยู่ครู่ แล้ววพูดกับจอร์จ
ทั้งสองคนตากฝนที่ตกหนักอยู่สักพัก ถ้าหากไม่รีบหลบฝนแล้วจุดไฟ ไม่แน่จะไม่สบายเอา
“ไปเถอะ” อารมณ์ของจอร์จดีขึ้นไม่น้อย เขารู้สึกว่าศัตรูถูกพวกเขาสลัดทิ้งแล้ว ถึงแม้จะเสี่ยง แต่เขาก็สามารถนอนหลับสนิทได้
“จอร์จ” จู่ๆ หลี่ฝางก็ลุกขึ้นยืนนิ่ง “พวกเราอันตรายแล้ว”
“อะไร?” จอร์จชะงักเล็กน้อย และพูดอย่างช็อกทันที: “เวลานี้ไม่ต้องมาล้อเล่นแล้ว!”
“ไม่ เรื่องที่ฉันจะพูด นายอย่ากลัวนะ ความจริง ตอนนี้ฉันก็ตกใจแล้ว……”
จอร์จได้ยินหลี่ฝางพูดแบบนี้ ทันใดนั้นก็ถามอย่างติดอ่าง: “สรุปแล้วมันเรื่องอะไร?”
“นายดูทางนี่สิ” หลี่ฝางชี้ไปที่ป่าด้านหน้าพวกเขา “คุ้นๆ มั้ย? พวกเราผ่านกันมาแล้วมั้ย?”
ทันใดนั้นสีหน้าของจอร์จก็เปลี่ยนเป็นซีดลง
“โชคร้ายสุดๆ ถึงแม้ไม่อยากจะพูดแบบนี้ แต่ว่าพวกเรากลับมาอีกแล้ว” หลี่ฝางพูด พลางหันหลังกลับไปมองอีกฟากของแม่น้ำ “พวกเราไม่ได้ว่ายข้ามไป”
“นี่……เป็นไปได้ยังไงกัน?” จอร์จพูดอย่างช็อกๆ
“นอกจากพวกเราจะว่ายวกกลับโดยไม่รู้สึกตัว ไม่อย่างนั้นสาเหตุก็ไม่ได้เกิดจากเรา” หลี่ฝางถอนหายใจ ในใจก็รู้สึกขนลุกกับความประหลาดกับสถานการณ์นี้
“นี่ นี่มันเป็นไปไม่ได้” จอร์จพูดพึมพำ
“ยังมีคำอธิบายอีกอย่าง” หลี่ฝางพูดด้วยสายตาจริงจัง: “ประเทศเรา มีเรื่องที่พูดกันมาตั้งแต่โบราณ นั่นก็คือผีอำ”
“ผะ……ผี…….อำ?”
จอร์จเข้าใจคำพูดนี้ได้อย่างไม่ง่ายเลย ทันใดนั้นสีหน้าก็ซีดทันที
“สถานที่หลอนนี่ สถานที่หลอนๆ แบบนี้!” จอร์จแทบจะเสียสติ และก็พึมพำกับตัวเองไม่หยุด “แย่แล้ว พวกเราแย่แล้ว พวกเราไม่มีวันออกไปได้แล้ว ป่าบริเวณนี้พูดปีศาจควบคุมไว้แล้ว!”
“นายทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด สงบสติอารมณ์แล้วหาทางอื่นดีกว่า” หลี่ฝางมองจอร์จพลางพูด “แม้ว่าฉันจะพูดว่าผีอำ แต่สิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วเป็นเรื่องหลอกเป็นผีมานานแล้ว”
“อะไรนะ? แกล้งหลอกเป็นผียังไง?” จอร์จกระโดดดึ๋ง คว้าคอเสื้อของหลี่ฝางแล้วตะคอก
เป็นแบบนี้หลายต่อหลายครั้ง เขาในตอนนี้อารมณ์เสียมาก
หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วบิดมือของจอร์จ แล้วพูดอย่างไม่หนักไม่เบา: “การอำพราง เวทมนตร์ จินตภาพ ไม่ว่านายจะเข้าใจยังไง ที่เรียกว่าผีอำ มันเป็นไปได้มากว่าสมองของเราถูกหลอกเพราะสภาพแวดล้อมนั้นๆ”
จอร์จฟังหลี่ฝางพูด ก็ค่อยๆ ใจเย็นลง
คำพูดของหลี่ฝางนั้นมีเหตุผล เมื่อเทียบกับสิ่งที่เรียกว่าคำสาปหรือปีศาจ การอำพรางแล้วเป็นไปได้มากกว่า
“นอกจากนั้น และอาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสนามแม่เหล็ก เคยได้ยินมาว่าสนามแม่เหล็กที่แรงสูงอาจจะทำให้คนประสาทหลอนได้……”
หลี่ฝางพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็ชะงักเล็กน้อย เขานึกถึงคนที่กำลังภายในแข็งแกร่งอย่างส้งหมิง ออร่าที่แข็งแกร่งก็พอที่จะทำให้ส่งผลกระทบต่อคนธรรมดา จนทำให้พวกเขาถึงขั้นเกิดภาพหลอนขึ้นมา
และเหมือนหลี่ฝางที่เป็นผู้แข็งแกร่งของแดนเต๋า ออร่าที่แผ่ออกมาทำให้คนนั้นมึนได้เลย แม้แต่ถึงขั้นที่จะบงการคนธรรมดาได้เลย
เมื่อก่อนเขาไม่เคยนึกถึงแก่นแท้ของกำลังภายในมาก่อน ตอนนี้นึกขึ้นมา ออร่าของกำลังภายใน มันก็คือคุณสมบัติส่วนนึงของสนามแม่เหล็กด้วยมั้ย?
ยิ่งคิดไปกว่านั้น ที่แห่งนี้จะ……