NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 986 ติดอยู่ในน้ำวน
“กู่เทียน กู่เทียน” จอร์จเห็นหลี่ฝางสติหลุด จึงรีบเรียก “นายไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“ไม่เป็นไร” หลี่ฝางดึงสติกลับมา ส่ายหน้าแล้วพูดต่อ “ช่างมันเถอะ แทนที่จะคิดเรื่องเรื่อยเปื่อยไร้สาระ ไปคิดว่าหลังจากนี้ควรจะทำยังไงดี”
ในตอนนี้จอร์จก็นิ่งลงไม่น้อย คิดอยู่ครู่จึงพูดขึ้น: “ไปหาที่หลบฝนก่อนเถอะ”
“ความคิดนี้ไม่เลว” หลี่ฝางพยักหน้า ทั้งสองลุกขึ้นทันที และเริ่มหาที่หลบฝน
เมื่อฝนตกทัศนวิสัยจึงต่ำ เลยทำให้เดินลำบากจริงๆ ทั้งสองย่างเท้าหนักบ้างเบาบ้าง ในที่สุดก็เจอถ้ำที่ค่อนข้างแคบแห่งนึง ถึงแม้ว่าจะหดตัวก็ไม่สามารถยืนขึ้นมาได้ ไม่สะดวกมากๆ แต่ก็ดีกว่าไปตากฝนอยู่ด้านนอกเยอะ
ที่แย่ที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่ตัวที่เปียกและหนาว หรือความเมื่อยล้าทางกาย แต่เป็นแรงกดดันทางจิตใจอย่างหนัก
ที่ประหลาดๆ แบบนี้ ทำให้ช็อกแล้วช็อกอีก ในขณะที่ตระหนกตกใจกลัวก็วิ่งหนีอย่างไม่หยุดหย่อน แต่กลับไม่สำเร็จและกลับมาที่เดิม แม้แต่เหตุผลยังหาไม่เจอเลย
ความตื่นตระหนกที่ไม่มีรูปร่างแบบนี้ช่างน่ากลัว
ในที่สุด ทั้งสองก็เงียบไม่พูดรออยู่สักพัก ฝนหนักก็ค่อยๆ ผ่านไป ท้องฟ้าใส บริเวณรอบๆ ก็กลับมาสว่างขึ้น
“ไปกัน พวกเราไปดูที่ริมแม่น้ำอีกที” หลี่ฝางพูด
ถึงแม้ว่าจอร์จจะยังกลัวเล็กน้อย แต่สุดท้ายทั้งหมดนี้ก็เพื่อหนีรอดออกไป จึงตามหลี่ฝางอยู่ด้านหลังมายังริมแม่น้ำ
“ครั้งนี้พวกเราทำแพแล้วข้ามไปกันเถอะ ถ้าหากมีคนใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไร พวกเราอยู่บนแพก็ยังสังเกตได้” ในตอนนั้นจู่ๆ จอร์จก็เสนอความเห็น
หลี่ฝางยินดีเห็นด้วย ถึงแม้ทำแพจะเสียเวลาเล็กน้อย แต่กลับสามารถประหยัดแรงกายไปได้เยอะเลย และก็จริงเมื่อเทียบกับการว่ายในน้ำนั้นสามารถมองเห็นความผิดปกติของรอบข้างได้ดีกว่า
บอกทำก็ทำ ความสามารถและฝีมือของทั้งสองห่างจากคนธรรมดาทั่วไป ไม่นานขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลับลงภูเขาไปก็สร้างแพเสร็จสิ้น
เอาแพนั้นลากลงน้ำ ทั้งสองล้วนกลัวที่จะขึ้นไป แพลอยโครงเคลงได้บนผิวน้ำ ทั้งสองจึงโล่งใจ และเริ่มพายเรือไปฝั่งตรงข้ามด้วยไม้พายที่ทำขึ้นมาเอง
เมื่อวางแพลงในน้ำ แล้วไม่จม และทั้งสองลงไปนั่ง ก็ยังไม่จม งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
ทั้งสองลอยอยู่บนแม่น้ำ มองไปทางริมฝั่งแม่น้ำที่ค่อยๆ ห่างออกไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ความรู้สึกอันตรายในใจของทั้งสองก็ยังคงไม่จางหายไป แต่กลับยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ
……
ในเวลาเดียวกัน
เครื่องบินร้องพลางลงจอด ส้าวส้วยเดินลงมาจากเครื่องบินด้วยสีหน้านิ่งเฉย
ที่นี่เป็นที่ปิดไว้ทั้งหมด ฐานลับนี้ถูกป้องกันอย่างแน่นหนา สร้างขึ้นตรงเชิงเขา
เมื่อส้าวส้วยลงจากเครื่องบิน ก็เห็นกู่ยี่เทียนเดินมาทางเขา
ที่อีกฝั่งของสนามบิน มีรถยนต์คันนึงกำลังรอพวกเขาอยู่
“ขึ้นรถเถอะ!จากตรงนี้ถึงทางเข้าระยะทางยังอีกไกล”
ส้าวส้วยมองกู่ยี่เทียน และขึ้นรถไป รถเคลื่อนที่ ไม่นานก็ขับไปทางทางเข้า ขับอย่างรวดเร็วไปตามทางใต้ดินที่ทั้งกว้างและเรียบ
ทางใต้ดินทั้งสองฝั่งมีไฟถนน ดังนั้นจึงทำให้ดูสว่าง การระบายอากาศก็ไม่เลว ไม่ได้รู้สึกอึดอัด
ส้าวส้วยความรู้สึกไวรู้สึกได้ว่าถนนเส้นนี้มีความลาดชันเล็กน้อย ลาดชันลงไปเล็กน้อย นี่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาขับรถลงไปลึกลงไปใต้ดินเรื่อยๆ
รถขับไปสิบกว่านาที และจอดลงตรงที่ราบแห่งนึง หลังส้าวส้วยลงจากรถ ก็ถูกวิวเบื้องหน้าทำให้ช็อกไปเลย
พื้นที่ตรงนี้กว้างอย่างแปลกประหลาด ความสูงหลายสิบเมตร รวมถึงเพดานกับพื้น ทั้งห้าด้านถูกปกคลุมด้วยโลหะสีเงิน กำแพงสร้างด้วยโลหะทั้งแผ่น มีแค่สุดปลายนั้นเห็นหินจากภูเขาสูงๆ เท่านั้น บนนั้นมีประตูโลหะใหญ่สูงสามเมตรสองบานติดอยู่ บนนั้นยังมีสัญลักษณ์ระวังอันตรายจากรังสีอยู่ด้วย
ในห้องโถงกว้างขวางนี้มีพนักงานไม่น้อยที่กำลังยุ่งกับการทำงาน ด้านหน้าประตูใหญ่มีทหารติดอาวุธสองคนเฝ้าประตูอยู่ และก็ไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไร ประตูโลหะสองบานหนาๆ นั้นก็ค่อยๆ เปิดออกสองฝั่งอย่างช้าๆ
“ในเวลาสั้นๆ ก็สร้างปราการใหญ่โตแบบนี้ได้……ร้ายกาจจริงๆ ……” ส้าวส้วยพูดชื่นชม
“นี่ก็คือความแข็งแกร่งของประเทศ” กู่ยี่เทียนเดินขึ้นไปข้างหน้า และพูดอย่างนิ่งๆ : “ส้าวส้วย นายเหมือนกับหลี่ฝาง ล้วนเป็นคนมีความสามารถ จึงปล่อยไปตามยถากรรมแบบนี้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
ส้าวส้วยมองกู่ยี่เทียน ยิ้มเบาๆ แล้วพูด: “ไม่ต้องมาลองเชิงแล้ว ครั้งนี้ที่ฉันเลือกมาหานาย ทั้งหมดก็เพื่อหลี่ฝาง มีเรื่องอะไร รอเขาออกมาค่อยพูดเถอะ”
“หึ แล้วแต่นาย!ไปเถอะ!” กู่ยี่เทียนปัดมือ และเดินเข้าไปด้านในก่อน
“หลี่ฝาง อดทนไว้” ส้าวส้วยแอบพูดอีกครั้งในใจ แล้วเดินตามหลังกู่ยี่เทียนไป……
……
พวกหลี่ฝางทั้งของคนไม่นานก็พบกับอันตราย
เมื่อพวกเขามาถึงกลางแม่น้ำ จู่ๆ ก็มีน้ำวนปรากฏขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ทำให้แพเล็กๆ ของพวกเขาลอยไปตามกระแสน้ำวนอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้ไม้พายไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ทั้งสองทำได้แค่มองดูแพลอยตามลงไปอย่างหมดหนทาง ทำอะไรไม่ได้แล้ว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เหนี่ย?” จอร์จพูดพลางถอนหายใจ
“บางทีอาจจะเป็นพลังงานที่น่ากลัวบางอย่าง” หลี่ฝางพูดเบาๆ
“พระเจ้าเหรอ?” จอร์จยิ้มแหยๆ “แม้แต่น้ำยังบังคับได้”
“ฉันสงสัยว่าแม้แต่พายุฝนนั่นล้วนเป็นสิ่งจงใจให้ตกลงมา” หลี่ฝางยิ้ม แล้วพูด: “แต่เกรงว่าตอนนี้พวกเราคงไม่มีใจไปคิดเรื่องพวกนั้นแล้ว”