NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 987 ซาก
ทั้งสองคนเห็นแค่ตรงหน้าจู่ๆ ก็มีน้ำวนปรากฏขึ้น แถมน้ำวนนั้นยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แรงดูดก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น อยู่ในระดับที่ไม่นานก็สามารถพัดแพเล็กๆ ของพวกเขาเข้าไปในน้ำวนได้แล้ว
“ทำไงดี?” จอร์จมองน้ำวนนั่น และหันไปมองหลี่ฝางอย่างหมดหนทางพลางยิ้มแหยๆ
“ไม่มีหนทาง” หลี่ฝางก็ยิ้มแหยๆ เช่นกัน “ตอนนี้พวกเราจะทำอะไรก็สายไปแล้ว ปล่อยไปตามเวรตามกรรมเถอะ”
“เหอๆ จู่ๆ ก็มีน้ำวนโผล่มาแบบนี้ มันจะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ที่ไหนกัน……” จอร์จถอนหายใจเฮือกใหญ่ “คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพวกเราจะโดนโชคชะตาเล่นตลกแบบนี้”
ทั้งสองคนต่างมองออก ทั้งหมดนี้เป็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นแบบนี้หลายต่อหลายครั้ง ทั้งสองก็เริ่มยอมแพ้ที่จะดิ้นรนแล้ว
เสียงดัง “พรึบ” น้ำวนทำให้แพคว่ำ น้ำวนนั้นเปลี่ยนกลายเป็นใหญ่ขึ้นในชั่วขณะ หลังจากที่กลืนน้ำเข้าไปหลายอึก น้ำวนก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่นั้นเพียงไม่กี่วินาทีต่อมาก็หายไปแล้ว
และบนผิวน้ำที่กว้างใหญ่ ทั้งหลี่ฝางและจอร์จก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
……
หลี่ฝางตกใจสะดุ้งตื่นขึ้นมา และลุกขึ้นนั่งทันที เมื่อเห็นจอร์จกำลังนั่งอยู่ข้างกายเขา ทั้งตัวก็รู้สึกมึนๆ ราวกับยังไม่ได้สติ
ด้วยสัญชาตญาณหลี่ฝางจึงรอบไปรอบๆ และก็ต้องตกตะลึงในทันที
ตนกับจอร์จมาอยู่ในห้องที่ทั้งสี่ด้านเป็นหิน แสดงให้เห็นสีดำทึบ บนผนังถูกสลักภาพจิตรกรรมและตัวหนังสือที่แปลกประหลาดเต็มไปหมด
“ที่นี่……” เขากลืนน้ำลาย และพูดอย่างเหลือเชื่อ: “ไม่ได้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นใช่มั้ย?”
จอร์จที่อยู่ด้านข้างก็ขยี้ตา จู่ๆ ก็กระโดดลุกขึ้นเข้าไปใกล้กำแพง ดวงตาเบิกกว้างพลางพูด: “นี่มันเหมือนอักษรโบราณเลย สัญลักษณ์คล้ายผีพวกนี้เหมือนของพวกคนยุคหิน”
“หรือว่าที่นี่จะเป็นโบราณสถานใต้ดิน?” หลี่ฝางพูดอย่างสงสัย
“อาจจะใช่ ซากโบราณของคนในอดีต” ตาสองข้างของจอร์จเป็นประกาย “คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะมาค้นพบที่นี่!”
หลี่ฝางกลับไม่ได้พูดตอบ และพูดพึมพำกับตัวเอง: “ไม่ใช่สิ พวกเราพูดน้ำวนดูดเข้าไปนะ ที่นี่น้ำสักนิดก็ไม่มี ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของสิ่งอื่นที่โดนพัดเข้ามาด้วย”
หลี่ฝางก็เงยหน้าขึ้นมองเพดานห้อง สีหน้าก็ยิ่งประหลาดใจหนักกว่าเดิม: “ห้องนี้ก็ไม่ได้มีรู ไม่มีทางที่จะถูกพัดเข้ามาที่นี่ หรือว่า……พวกเราถูกย้ายมาที่นี่อย่างจงใจ?”
สีหน้าของจอร์จราวกับ “นายล้อฉันเล่นหรือไง” พลางพูด: “ใคร? มนุษย์ต่างดาวหรือว่านางเงือก?”
“เหอๆ ……” หลี่ฝางยิ้มแห้งๆ : “ไม่แน่นายอาจจะทายถูกก็ได้นะ”
จอร์จถอนหายใจอย่างเอือมๆ และหันกลับไปค้นคว้ารูปแกะสลักพวกนั้นต่อ
หลี่ฝางเดินเข้าไปถาม: “ค้นพบอะไรมั้ย?”
ที่จริงคิดว่าจอร์จจะพูดอะไรไร้สาระ คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ กลับทำสีหน้าจริงจังพลางพูด: “ฉันรู้จักตัวหนังสือพวกนี้แล้ว ตัวหนังสือพวกนี้ เป็นอารยธรรมของชาวแอซเท็ก”
หลี่ฝางทำหน้าเซอร์ไพรส์: “นายดูสัญลักษณ์ประหลาดพวกนี้ออกจริงๆ เหรอ?”
จอร์จยิ้มอย่างเลิ่กลั่ก: “อืม พูดตามตรง ที่จริงแล้วพวกเราไม่ใช่คณะนักสำรวจที่มาเดินเล่นป่าเล่นน้ำ ถ่ายรูปอะไรพวกนั้น แต่ที่ทำจะเป็นการขุดค้นโบราณวัตถุและวัฒนธรรมโบราณให้มากยิ่งขึ้น……”
หลี่ฝางเม้มปากพลางพูด: “นายก็บอกว่าขุดสุสานโบราณก็ได้แล้ว?”
“ในครั้งนี้พวกนายมุ่งมาเพราะสาเหตุอะไรกัน?” หลี่ฝางถาม
จอร์จส่ายหน้า และพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ: “ไม่ ไม่ใช่ อารยธรรมชาวแอซเท็กน่าจะอยู่ในอเมริกากลาง ได้มาพบเจอตัวอักษรแบบนี้ที่นี่ฉันประหลาดใจมาก แต่เท่าที่ฉันรู้ อารยธรรมของชาวแอซเท็กนั้นดำรงอยู่มานานกว่าพันปี น่าจะเป็นอารยธรรมของชาวยุคหิน เป็นไปไม่ได้ที่จะมาปรากฏอยู่บนกำแพงห้องที่ทำจากหินทั้งห้องแบบนี้ ดังนั้น ห้องที่เราอยู่ตอนนี้……”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “นายอย่าบอกนะว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นคนทำ……”
จอร์จคิดว่าความคิดของตนโคตรไม่น่าเชื่อถือ จึงยิ้มอย่างเลิ่กลั่ก: “เหอะๆ ฉันก็แค่สมมุติ”
หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะพูดล้อเล่น: “ถ้านายสามารถเอาหลักฐานมายันกับสมมุติฐานของนายได้ นายก็รวยแล้ว แค่เอาวัฒนธรรมชาวมายาหรือการอพยพครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตอะไรนั่นมารวมๆ กัน แล้วเขียนเรื่องราวให้น่าสนใจ ฉันว่านายคงขายหนังสือขายลิขสิทธิ์ได้จนรวยเลย ถ้าเก่งหน่อย ไม่แน่อาจจะได้รางวัลโนเบลเลยนะ”
เขาพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็ชะงักเล็กน้อย ต่อมาก็ร้องเรียก: “เชี่ย……”
จอร์จไม่เข้าใจที่หลี่ฝางพูดว่า “เชี่ย” นั้นแปลว่าอะไร เขาจึงรีบถาม: “ทำไมเหรอ?”
หลี่ฝางขยับตัวออกและชี้ไปที่กำแพง ระหว่างผนังเรียบนั้นมีร่องรอยที่ชัดเจนปรากฏขึ้น
บนผนังนี้มีประตูลับอยู่
“Shit!” จอร์จก็ร้องออกมาอย่างอดไม่ได้
ทั้งสองคนรีบไปผลักประตูบานนั้น คิดไม่ถึงประตูหินที่คาดว่าน่าจะหนักสุดๆ กลับถูกผลักเปิดออกอย่างเบาๆ
ราวกับว่ามีกลไกเคลื่อนที่อยู่ด้านใน เปิดออกร้อยแปดสิบองศา ทำเอาทั้งสองพุ่งเข้าไป
จากนั้นประตูหินก็ปิดสนิทอีกครั้ง ผนังสะอาดเรียบ ราวกับตรงนั้นไม่เคยมีประตูมาก่อน
หลี่ฝางกับจอร์จก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า สภาพแวดล้อมรอบข้างพวกเขาเปลี่ยนไป
ยังคงเป็นห้องเล็กๆ ห้องนึง เป็นผนังเรียบ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังและตัวหนังสือประหลาดๆ เต็มไปหมด ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือรูปทรงของห้อง จากห้องทรงสี่เหลี่ยมกลายเป็นทรงกระบอก