NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 988 สุดท้ายข้อเท็จจริงย่อมปรากฏออกมา
“ประตูบานนั้นเปิดไม่ออกแล้ว!” จอร์จหันกลับไปดันประตูบานที่พวกเขาเพิ่งจะเปิดมัน แต่กลับพบกว่ากำแพงนั้นไม่ขยับเลย
“นี่อาจจะเป็นกลไกอะไรบางอย่างที่ทำให้เปิดได้จากทางด้านเดียวเท่านั้น” หลี่ฝางลูบผนัง และหันตัวไป
“ฉันเดาว่านี่อาจจะความลับที่หลังจากเราจมลงไปในน้ำแล้วทำไมถึงได้เคลื่อนย้ายมาที่นี่” เขาพูดพลางสังเกตรอบๆ และเดินไปยังผนังอีกด้านทันที
“ดู บนผนังนี่ก็มีประตูอีกบาน หือ? บนนี้มีรอยมือ!”
หลี่ฝางมองอย่างละเอียด และชะงักเล็กน้อย “เหมือนว่าจะเป็นรอยมือของเด็ก……”
“อะไรนะ?” จอร์จพูดอย่างประหลาดใจ: “นั่น เจ้าสิ่งสีดำประหลาดนั่น……”
“อาจจะใช่แล้ว” หลี่ฝางพยักหน้า “นายดูที่รอยมือนี้สิ สำหรับเด็กแล้วถือว่าพอดีมาก สำหรับพวกเราแล้วจะเตี้ยไปหน่อย”
“เหอะๆ …..” จอร์จเริ่มช็อกแล้ว
หลี่ฝางยิ้มแหยๆ : “ฉันเดาว่า……บางทีชาวแอซเท็กอาจจะไม่ได้ตายกันหมด และไม่รู้ว่าพบเจอกับเรื่องอะไร จึงพัฒนากลายมาเป็นอารยธรรมใต้ดิน และพัฒนาเทคโนโลยีที่แตกต่างจากเราโดยสิ้นเชิง เจ้าสิ่งสีดำที่เห็นก่อนหน้านี้ ไม่แน่อาจจะเป็นชาวแอซเท็ก……”
จอร์จมองบน: “ถ้าหากนายเขียนหนังสือคงทำเงินได้มากกว่าฉัน”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “ฉันก็แค่เดาไปมั่วๆ แต่ว่าตอนนี้ฉันคิดว่า เครื่องมือที่นายนำมานั้นใช้การไม่ได้ แล้วก็……เครื่องบินตก อาจจะเป็นไปได้มากว่าซากโบราณแห่งนี้นำทำให้เกิดขึ้น”
จอร์จถอนหายใจ และพูดอย่างหดหู่: “ตอนนี้คาดเดาไปจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา? ออกไปไม่ได้ พวกเราสองคนไม่ช้าก็เร็วก็จะตายอยู่ในนี้”
“งั้นก็ไปดูห้องถัดไปกัน” หลี่ฝางพูด พลางดันเปิดประตูบนกำแพงออก
“พื้นที่ใต้ดินนี้ไม่มีทางไม่มีที่สิ้นสุดหรอก พวกเราลองสำรวจสักรอบ ไม่แน่ว่าอาจจะเจออะไรที่เป็นประโยชน์ก็ได้”
คราวนี้เป็นห้องที่ซิกแซก เหมือนทางเดินที่คดเคี้ยว หลี่ฝางและจอร์จมาอยู่ตรงกลาง พวกเขาก็สำรวจกันไปรอบนึง ในห้องก็ยังคงไม่มีอะไรเหมือนเดิม นอกจากภาพจิตรกรรมฝาผนังและตัวอักษร จนพวกเขาค้นพบประตูที่สามารถเปิดออกได้เก้าบาน
“ฉันว่า……พวกเราอย่าแยกกันดีที่สุด” ต่อหน้าประตูเก้าบานนี้ จอร์จก็ทำสีหน้าลนลานพลางมองหลี่ฝาง
“แน่นอน ไปต่อ” หลี่ฝางสูดหายใจเข้าลึก และเปิดประตูบานที่ใกล้พวกเขาสองคนมากที่สุด
เวลาค่อยๆ ผ่านไป หลี่ฝางก็ค่อยๆ เริ่มวิตกกังวลในใจ เขากับจอร์จอ่านตัวหนังสือพวกนี้ไม่ออก ใต้ดินก็ไม่มีความรู้สึกเรื่องทิศทาง ไม่รู้ว่าตนนั้นได้เดินวนไปวนมาในห้องหลายๆ ห้องนี้หรือเปล่า
ถ้าหากในนี้มีห้องอยู่เป็นพันเป็นหมื่นห้อง แถมลักษณะห้องยังซ้ำๆ กัน งั้นเกรงว่าพวกเขาคงไม่มีทางออกไปจากที่นี่ได้ตลอดกาล
ทั้งสองเข้าสู่ความเงียบ คิดวิธีดีๆ มารับมือไม่ได้สักที ที่จริงพวกเขาก็รู้ ทำแบบนี้มันเสียเวลาเปล่า บางทีสุดท้ายแล้วพวกเขาก็อาจจะขาดน้ำตาย หรือหิวตาย อยู่ในใต้ดินที่ไม่มีคนตายไปอย่างเงียบๆ
ขณะที่หลี่ฝางคิดจะหยุดแล้วคิดหาวิธี จอร์จที่เดินอยู่ด้านหน้าก็ดันประตูที่กำแพง และพูดเรียกอย่างร้อนรน: “มีความเปลี่ยนแปลงแล้ว!เป็นทางเดินเส้นนึง!”
หลี่ฝางรีบก้าวข้ามกำแพงไป ก็พบกับทางเดินตรงๆ เส้นนึง และก็ไม่รู้ว่ามันจะพาไปที่ไหน ยังไงหลี่ฝางก็มองไม่เห็นสุดปลายทาง ภาพจิตรกรรมฝาผนังกับตัวหนังสือเป็นเพียงเส้นยาวๆ สองเส้นที่ลากออกไปตรงๆ
จอร์จพูดอย่างตื่นเต้น: “ทางออก!นี่ต้องเป็นทางออกแน่ๆ !”
“เดินไปดูก่อนเถอะ” หลี่ฝางไม่ได้ตื่นเต้นเท่าจอร์จ
ทั้งสองเดินตรงไปตามทางมาเป็นเวลานาน ส่วนผนังรอบข้างก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งสองไม่รู้ว่าเดินมานานขนาดไหน
ความกังวลในใจหลี่ฝางยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เขามักจะรู้สึกว่าเขามองข้ามอะไรไปบางอย่าง และสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องสำคัญสุดๆ และความรู้สึกบ้าๆ นี่มันก็ทำให้เขาหดหู่สุดๆ
และในตอนนั้น ในที่สุดพวกเขาก็เดินมาถึงปลายทาง
“มาถึงสุดทางแล้ว” จอร์จหันกลับมาพูด
หลี่ฝางพยักหน้า: “เปิดประตูบานนั้นเถอะ”
ทั้งสองยื่นมือออกไปพร้อมกัน และดันประตูเพียงบานเดียวนั้นให้เปิดออกเบาๆ
หลังประตูบานนี้เป็นที่โล่งมากๆ ใหญ่พอๆ กับสนามฟุตบอล เพดานก็สูงมากๆ
ด้านในที่นี้เป็นโครงสร้างแบบกลมๆ บนพื้นเป็นภูเขาและแม่น้ำของภูมิประเทศต่างๆ ส่วนด้านบนคือดวงดาวกับตัวหนังสือ ตรงกลางยังมีรูปดวงอาทิตย์ใหญ่ๆ กับพระจันทร์สองดวงนี้ด้วย
ในใจกลางของพื้นที่แห่งนี้ ก็มีรูปปั้นหัวมนุษย์ที่สูงกว่าห้าเมตรตั้งตระหง่านอยู่
ทั้งสองเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าปากของรูปปั้นนี้เปิดอยู่ ด้านในปากมีวัตถุเรืองแสงวางอยู่
“ดูแล้วไม่เหมือนคริสตัลนะ?” จอร์จหยิบของชิ้นนั้นขึ้นมาแล้วพูด: “แต่ว่า ดูท่าจะมีราคามากๆ”
“งั้นเหรอ?” หลี่ฝางหรี่ตา และพูดขึ้น: “ต่อไปก็คงจะเตรียมตัวกำจัดฉันแล้วใช่มั้ย?”
“อะไรกัน?” จอร์จชะงักอยู่ครู่ “นายหมายความว่าไง?”
“ทำไม หรือว่านายเตรียมจะพาฉันเดินวนอีกสักกี่รอบแล้วค่อยลงมือ?” หลี่ฝางยิ้มอย่างเย็นชา “ช่างมันเถอะ วิธีการของนาย ถูกฉันมองออกนานแล้ว”
สีหน้าของจอร์จก็เปลี่ยนตาม ใบหน้ามีรอยยิ้มเย็นชาลอยขึ้นมา: “นายรู้ได้ยังไง?”
“เหอะๆ” หลี่ฝางไม่ได้ตอบ เพียงแค่ยิ้มอย่างดูถูก แล้วชี้ไปที่หัวของตัวเอง
“หึ……” จอร์จหึออกมาอย่างไม่พอใจ นัยน์ตาก็เปลี่ยนเป็นมืดมนขึ้นมาทันที: “สมแล้วที่เป็นถึงปรมาจารย์แดนเต๋า”