NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่1010 อย่ายั่วยุอารมณ์เขา
หลี่ฝางหมายความว่าอะไรนี้ พวกเขาไม่กี่คนก็เข้าใจทันที มองชิวหรูที่สีหน้าค่อยๆซีดขาว พวกเกาจื่อหมิงก็ปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา
หลี่ฝางบอกว่าให้เขาไสหัวกลิ้งกลับไป นั่นก็คือให้เขากลิ้งออกไปจากที่นี่จริงๆ!
ความอัปยศแบบนี้ น่าอายซะยิ่งกว่าถูกตบฟรีๆเสียอีก ถ้าชิวหรูทำจริงๆ กลัวว่าต่อไปคงโงหัวไม่ขึ้นต่อหน้าคนพวกนี้อีกนาน
แต่ชิวหรูในตอนนี้กลัวเป็นอย่างมาก ในใจคิดแต่อยากไปให้พ้นหลี่ฝาง ถึงแม้จะไสหัวออกไปแล้วจริงๆก็ตาม
ถึงหน้าตาสำคัญแค่ไหน จะสำคัญกว่าชีวิตได้ไงล่ะ?
คิดถึงตรงนี้ ในที่สุดชิวหรูก็ไม่ลังเลอีก พลิกตัวล้มลง“ฟุบฟุบ”แล้วก็เริ่มกลิ้งออกไปทางหน้าประตู
เกาจื่อหมิงเห็นชิวหรูไสหัวกลิ้งออกไปจริงๆ ในขณะที่ภายในใจชื่นชมไปด้วยนั้น ก็ยังไม่ลืมที่จะพูดเสริมว่า:“พี่หลี่ งั้นผมกลับไปจัดการเขาอีกทีให้พี่เอาไหม?”
เกาจื่อหมิงก็ไม่รู้ว่าหลี่ฝางเป็นอะไรไป แต่นี่ไม่ได้กระทบต่อความคิดที่เขาจะเอาคืนชิวหรู
“คุณดูเอาเองละกัน”หลี่ฝางพูดอย่างไม่แคร์
ได้ยินหลี่ฝางพูดแบบนี้ เกาจื่อหมิงก็หัวเราะหึหึทันที
ชิวหรูที่ยังกลิ้งอย่างยากลำบากอยู่นั้นยังไม่รู้ว่า ตัวเองไม่ใช่แค่ถูกดูหมิ่นจากที่นี้ จากนี้ไปยังต้องเผชิญหน้ากับการเอาคืนของเกาจื่อหมิง
แน่นอนว่า นี่คือคำพูดจากนี้ ฝางเจิงเจิงในตอนนี้ มองชิวหรูก็ยังทนไม่ไหวเล็กน้อย“ไม่ต้องสนเขาแล้ว ถ้าเขายังแสดงความหยิ่งทะนงออกมาอีก ก็คงไม่เป็นแบบนี้ หาเรื่องใส่ตัวเอง”
น้ำเสียงหลี่ฝางราบเรียบ พูดจบก็ไม่มองร่างที่กลิ้งออกไปหน้าประตูอีก ให้เกาจื่อหมิงและคนอื่นๆแยกย้ายกันไป ตัวเองก็กลับไปข้างโต๊ะอาหาร
ด้านหลัง ฝางเจิงเจิงก็ตามเข้ามา
“กินอีกเหรอ?”หลี่ฝางหยิบของหวานชิ้นหนึ่งขึ้นมาส่งสัญญาณ
ฝางเจิงเจิงส่ายหน้า:“ฉัน ฉันไม่มีที่ไปแล้วตอนนี้ ได้แต่ตามคุณไปก่อน……”
ในห้องโถงมีคนสภาพดีๆกลิ้งออกไป แน่นอนว่าดึงดูดความสนใจผู้คนจำนวนไม่น้อย แต่คนส่วนมากก็ทำเป็นมองเห็นเรื่องสนุก,
ผู้รับผิดชอบในโรงแรมกลับทำเป็นเรื่องตลกขบขันไม่ได้ แต่รีบเอาเรื่องนี้บอกเกาฉง
“มีคนถูกไล่ออกไป?เกิดอะไรขึ้น?”
เกาฉงได้ยินข่าวนี้ อดไม่ได้ที่จะตะลึงเล็กน้อย ขมวดคิ้วมองไปที่คนรับผิดชอบ
คนรับผิดชอบคนนั้นรีบเช็ดเหงื่อ เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบให้ฟัง จากนั้นจึงอธิบาย:“ตอนนั้นคุณชายเจิ้ง คุณชายเกาต่างอยู่ที่นั่น ส่วนผม ……”
ได้ยินคนรับผิดชอบพูดแบบนี้ เกาฉงก็เข้าใจ
คุณชายที่อยู่ในที่เกิดเหตุตอนนั้นไม่น้อย พวกคุณชายพวกนี้ ทุกคนล้วนแต่มีตัวตนสูงส่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจิ้งจิ้นเผิง แม้แต่เขาก็ยังไม่กล้าขัดใจ แล้วนับประสาอะไรกับคนรับผิดชอบ
แต่ที่ให้เกาฉงช็อกที่สุด ก็คือชื่ออีกชื่อที่ฟังดูแล้วธรรมดา
“หลี่ฝาง?”ได้ยินชื่อนี้ เกาฉงก็ตะลึงไปหมด สีหน้าดูจริงจังขึ้นมา
“ใช่ ไม่ผิด ชื่อว่าหลี่ฝาง”คนรับผิดชอบมองเกาฉงอย่างงุนงง ไม่รู้ว่าชื่อนี้มีอะไรเป็นพิเศษ ถึงทำให้เจ้านายคนนี้ตอบสนองใหญ่โตถึงขนาดนี้
เกาฉงคิดด้วยสีหน้าจริงจัง ในที่สุดก็ตัดสินใจออกมา
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องสน ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็พอ แค่พวกเขาไม่ได้ทำเรื่องวุ่นวายใหญ่โต ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น อย่าไปยั่วยุอารมณ์พวกเขาก็พอ”
“เข้าใจแล้วครับ”คนรับผิดชอบตอบกลับอย่างสุขใจ พูดในใจว่าถึงให้ผมไปยั่วยุอารมณ์ ผมก็ไม่กล้าหรอก
……
ตอนนี้ สักแห่งหึ่งในห้องโถง มีชายหนุ่มสองคนนั่งหน้าโต๊ะกลม ผู้คนรอบๆต่างไม่กล้าเข้าใกล้
สองคนนี้ ก็คือลู่เผิงเฟยแห่งตระกูลลู่ และเจิ้งเหวินซิงแห่งตระกูลเจิ้ง
ตัวตนและตำแหน่งของพวกเขาสองคน เพียงพอที่จะให้คนอื่นๆถอยไป ไม่กล้าเข้าไปรบกวนการพูดคุยของพวกเขา
“คุณกำลังมองอะไร?”ลู่เผิงเฟยมองคุณชายตระกูลเจิ้งที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง จู่ๆก็ถาม
“ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองเจ๋ง”เจิ้งเหวินซิงหันไปพูดว่า“คนๆหนึ่งถูกคนอีกคนบังคับให้กลิ้งออกไป”
“เกาฉงไม่ได้หาเรื่องคนๆนี้ใช่ไหม?”
ลู่เผิงเฟยมองไปทางนั้นแวบหนึ่ง กลับเห็นแค่ร่างที่คลุมเครือ กำลังพูดคุยกับคนที่อยู่รอบข้าง
“ดูเหมือนตัวตนของคนๆนี้จะไม่ธรรมดา”ลู่เผิงเฟยพูดอย่างแปลกใจเล็กน้อย
“สนเขาทำไมล่ะ ก็แค่เรื่องตลกเท่านั้น”เจิ้งเหวินซิงหัวเราะ ชูแก้วไวน์ขึ้นแสดงท่าทางออกมาอย่างไม่สนใจ
ท่าทีที่เจิ้งเหวินซิงปฏิบัติต่อลู่เผิงเฟย แน่นอนว่าไม่อาจปฏิบัติเหมือนคนอื่นได้
เช่นพวกหยางเหวินต้องก่อนหน้านี้ เจิ้งเหวินซิงไม่เคยสนใจเลย กระทั่งว่าแม้แต่เข้ามาทักทายก็ยังขี้เกียจตอบรับ
เพราะว่าสุดท้ายแล้วเจิ้งเหวินซิงก็เป็นคนที่เย่อหยิ่งผยองจองหองแบบนี้ แต่ไหนแต่ไรมาเอาแต่ดูคนพูด ปฏิบัติต่อผู้คนที่ต่ำต้อยมากกว่าตัวเอง ดูหมิ่นมาตลอด
“เหอะเหอะ พี่เจิ้งกลับลุ่มหลงในความรัก ตั้งใจมาเมืองตงหนานเพื่อร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหนูเกาโดยเฉพาะ”ลู่เผิงเฟยหัวเราะ
ปฏิบัติต่อเจิ้งเหวินซิง ลู่เผิงเฟยก็ให้ความสำคัญมาก อีกฝ่ายเป็นคุณชายตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเมืองตง ถ้าเป็นศัตรู ก็ต้องเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง
“พี่ลู่คงไม่รู้ว่า ผมมาครั้งนี้ นอกจากเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้แล้ว ยังมีอีกเรื่อง”
“อ้อ?ไม่รู้สิเรื่องอะไรเหรอ?”
ลู่เผิงเฟยก็สนใจขึ้นมา