NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่1288 สอนไม่ดี
“เมื่อกี้พวกเธอสองคนพูดอะไรกัน? แต่งงานกับพวกเธอ? นี่หมายความว่าอะไร?” หลี่ฝางที่อึ้งไปสามนาทีเต็มๆ ถึงได้เบิกตากว้างมองไปทางฉินวี่เฟยกับหยางฉงพลางถาม
ทำพูดของทั้งสองคนนี้แทนที่จะพูดว่าเป็นเซอร์ไพรส์ เรียกว่าเป็นเรื่องช็อกดีกว่า หลี่ฝางคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่าฉินวี่เฟยกับหยางฉงจะตัดสินใจแบบนี้
เห็นแบบนั้น หยางฉงกับฉินวี่เฟยก็ต่างเดินยิ้มเข้ามายืนข้างๆ หลี่ฝาง ซ้ายคนขวาคนและควงแขนของเขาไว้
“ใช่ นายฟังไม่ผิด แต่งงานกับพวกเรา”
“พี่หลี่ฝาง พี่ยินดีจะแต่งกันพวกเรามั้ย?”
หลี่ฝางหยิกขาตัวเองอย่างแรงไปหนึ่งที ดูว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป ทำไมนี่มันไม่ค่อยเหมือนที่เขาคิดเอาไว้เลยล่ะ?
“วี่เฟย เสี่ยวฉง พวกเธอสองคนอย่าล้อเล่นนะ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เอามาไว้เล่นนะ” หลี่ฝางดึงแขนออกมาจากอ้อมอกของพวกเธอ และขมวดคิ้วจนเกิดรอยย่น
กัดฟัน และพูดพลางมองฉินวี่เฟย “วี่เฟย ฉันชอบเธอมากจริงๆ ที่ฉันขอเธอแต่งงานนั้นจริงใจนะ เธอไม่จำเป็นต้องมาใช้วิธีนี้ลองใจฉันหรอก”
พูดประโยคนี้จบ ก็หันหน้าไปมองหยางฉง “เสี่ยวฉง เธอวางใจนะ ถึงแม้ฉันจะเลือกอยู่กับฉินวี่เฟย แต่ฉันจะทำหน้าที่ที่พ่อคนนึงควรทำ ยังไงฉันก็จะไม่ให้ผิงอันกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อ”
ถึงแม้ฉินวี่เฟยกับหยางฉงทั้งสองดูเหมือนไม่ได้ล้อเล่น แต่หลี่ฝางก็รู้สึกว่าพวกเธอกำลังลองใจตน
พอเห็นท่าทีจริงจังของหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยกับหยางฉงทั้งสองคนก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
“พวกเราไม่ได้ล้อเล่นนะ พวกเราได้ผ่านการคิดมาอย่างจริงจังแล้วถึงได้ตัดสินใจ นายก็รู้ตัวเอง ไม่ว่านายจะเลือกใครสักคนในระหว่างพวกเรา นายกับอีกคนก็ไม่มีทางที่จะตัดความสัมพันธ์ได้หมดหรอก แทนที่จะให้ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนผัวพันกันไปตลอดชีวิต สู้ไม่เอาตรงๆ ให้ชัดๆ ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ พวกเราทั้งสามคนใช้ชีวิตด้วยกัน”
ฉินวี่เฟยมองตาหลี่ฝางและพูดอย่างจริงจัง หยางฉงที่อยู่ข้างๆ ก็พยักหน้าอย่างแรง หลังจากการยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดหลี่ฝางก็เชื่อว่าพวกเธอไม่ได้ล้อเล่น อ้าปากเหวอ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรอยู่ครู่นึง
“วิธีนี้ใครเป็นคนสอนพวกเธอกัน?” ตอนแรกคิดว่าหลี่ฝางจะพูดความในใจ แต่คิดไม่ถึงว่ารอไปครึ่งวันหลี่ฝางจะพูดประโยคนี้
ผ่านไปไม่กี่วินาที ฉินวี่เฟยกับหยางฉงก็พูดขึ้นพร้อมกัน แต่ว่าเนื้อหาไม่เหมือนกัน
“ฉันคิดเอง”
“ไท่ซาง”
เมื่อได้ยินหยางฉงบอกว่าวิธีนี้มาจากไท่ซาง หน้าของหลี่ฝางก็ดำเลย ไท่ซางไอ้เด็กเปรต สอนอะไรแต่ละอย่างมั่วซั่วทั้งนั้น!
“ไอ้หมอนี่ ไม่โดนดีสักวันแล้วจะตายจริงๆ คอยดูว่าฉันจะจัดการมันยังไง!” หลี่ฝางกัดฟันและทิ้งคำนี้ไว้ จากนั้นก็หันหลังเดินออกจากห้องพักผู้ป่วย และเดินไปทางไท่ซางที่นั่งอยู่ตรงระเบียงด้วยสีหน้าเข้ม
“ลูกพี่ พวกพี่สะใภ้ทำลูกพี่ไม่พอใจเหรอ? ทำไมถึงได้หน้าดำค่ำเครียดแบบนี้?” ไท่ซางที่ยังไม่รู้ว่างานใหญ่กำลังจะเข้าก็มองไปที่หลี่ฝางที่พุ่งเข้ามา แล้วถามอย่างสงสัย
“เปล่า” หลี่ฝางเค้นคำออกมาทั้งที่กัดฟัน หมัดสองข้างกำแน่นจนได้ยินเสียงดังกร๊อบแกร๊บ
“ถ้าไม่ได้ทำให้ไม่พอใจงั้นทำไมต้องทำหน้าบูดด้วยล่ะ ทำอย่างกับฉันติดหนี้ลูกพี่เลย” ไท่ซางได้ยินคำพูดของหลี่ฝางก็มองบน พูดจบก็ก้มหน้าและเตรียมเริ่มเล่นโทรศัพท์ต่อ
หลี่ฝางมองดูเขาท่าทีโง่เง่ายิ่งทำให้รู้สึกโมโห และเข้าไปล็อกคอเขาไว้
“ไอ้เด็กเวร นายไปสอนอะไรหยางฉงกันห้ะ!แถมยังให้พวกเธอใช้สามีคนเดียวกันอีก!นายเป็นคนเจ้าชู้คนเดียวก็ช่างเถอะ แต่นี่ยังคิดจะลากฉันลงไปด้วย!”
แขนของหลี่ฝางล็อกคอไท่ซางไว้แน่น พลางด่าพลางตบหัวเขาอย่างแรงหลายที
ไท่ซางที่จู่ๆ ก็โดนจู่โจมแบบนี้ก็งง คว้าแขนของหลี่ฝางพลางดิ้นรนพลางอธิบาย “ลูกพี่ ลูกพี่ปรักปรำฉันแล้ว!ฉันจะไปกล้าสอนอะไรแบบนี้ให้พี่สะใภ้ได้ยังไง!เมื่อกี้พี่สะใภ้ถามฉันตอนที่อยู่ข้างล่างตึกชัดๆ !ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันสักนิด!”
“ฉันเชื่อแกก็บ้าแล้ว!เสี่ยวฉงเป็นผู้หญิงใสซื่อ ถ้านายไม่สอนเธอ เธอจะไปรู้จักเรื่องนี้ได้ไง? เห็นที่เวลาที่ฉันไม่อยู่นายคงคันอีกแล้วใช่มั้ย ฉันคงจำเป็นต้องจัดการให้นายสักหน่อยแล้วมั้ง”
สำหรับประโยคสุดท้ายที่เขาพูด หลี่ฝางไม่เชื่อเลยสักคำเดียว พลางพูดพลางเพิ่มแรงขึ้น
ไท่ซางรู้สึกว่าตัวเองแทบจะขาดอากาศหายใจแล้ว เขาใช้มือตบแขนขอร้องหลี่ฝางอย่างแรง “ลูกพี่ นี่ฉันไม่ได้สอนจริงๆ นะ!ลูกพี่ไม่เชื่อก็ไปถามพี่สะใภ้ดู!”
ขณะที่ไท่ซางคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย ฉินวี่เฟยกับหยางฉงก็ออกมาจากห้องพักผู้ป่วย เขาเห็นเงาของหยางฉงก็ราวกับได้เห็นดวงดาวมาช่วยชีวิตเขา พลางรีบขอร้องหยางฉง
“พี่สะใภ้!ทำไมถึงได้บอกว่าเรื่องพวกนั้นฉันเป็นคนสอนกัน!เมื่อกี้ที่ใต้ตึกเธอเป็นคนถามฉันเองแท้ๆ !เธอรีบอธิบายกับลูกพี่เร็วเข้า!”
หยางฉงมองไปทางทั้งสองที่สู้กันกลมก็อดหัวเราะไม่ได้ มองไท่ซางที่หายใจไม่ออกจนหน้าแดง เธอก็กลั้นขำและพูดกับหลี่ฝาง
“พี่หลี่ฝาง เรื่องนี้จะโทษไท่ซางก็ไม่ได้ เรื่องนี้ก็จริงที่ฉันเป็นคนเริ่มพูดขึ้นมา ไม่ได้นับว่าเป็นความรับผิดชอบของเขาคนเดียว”
“ลูกพี่ลูกพี่!ได้ยินที่พี่สะใภ้พูดแล้วใช่มั้ยว่าไม่ใช้ความรับผิดชอบของฉัน!ลูกพี่รีบปล่อยฉันเถอะ!” เมื่อได้ยินหยางฉงพูดขอร้องให้ตน ไท่ซางก็ดีใจ และรีบใช้โอกาสดีๆ พูดให้หลี่ฝางปล่อยตนไป
“ผู้หญิงเธออย่างเธอรู้อะไร ถามเธอก็ต้องตอบเหรอ? ปากเธอนี้พูดได้ดีจริงๆ เห็นที่ฉันคงต้องเอาเข็มมาเย็บสักหน่อยแล้ว!”
ที่ทำให้ไท่ซางคิดไม่ถึงก็คือ ถึงแม้จะมีคำขอของหยางฉง หลี่ฝางก็ยังเอาความผิดยัดใส่ตัวเขา
ไท่ซางรู้สึกว่าตัวเองน่าสงสารจริงๆ และร้องอย่างหมดหนทาง “ลูกพี่ อย่าทำแบบนี้สิ!ฉันไม่เชื่อว่าลูกพี่จะไม่ชอบความรู้สึกที่ได้กอดซ้ายคนขวาคนแบบนี้!คนอย่างลูกพี่นี่ได้ของดีแล้วยังมาบ่นอีก หลังจากนี้ฉันจะไม่ช่วยนายแล้ว!”
ที่จริงหลี่ฝางก็เกือบจะหายโกรธแล้ว แต่หลังจากได้ยินประโยคนี้ของไท่ซาง ความโกรธในใจก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
และเขาก็คว้าแขนของไท่ซาง และบิดมันไปด้านหลัง “เรื่องนี้นายยังมีเหตุผลอีกเหรอ!คอยดูถ้าวันนี้ฉันไม่จัดการนายสักทีเห็นทีจะไม่ได้แล้ว!”